Pages

Monday, October 18, 2010

INDEX LIVING MALL TO LAUNCH SMALL SIZE TARGETING UPCOUNTRY

"อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์" กางแผนธุรกิจ ประเมินศักยภาพตลาดในประเทศรองรับการขยายลิฟวิ่งมอลล์ได้สูงสุดไม่เกิน 25 สาขา จากปัจจุบัน 17 สาขา ซุ่มศึกษาโมเดลใหม่ผุดสาขาไซซ์เล็กในจังหวัดขนาดกลาง-เล็ก ตั้งเป้ารักษาอัตราเติบโตเฉลี่ย 10% มั่นใจอีก 3 ปีสร้างยอดขายแตะ 10,000 ล้านบาท ประกาศไม่หวั่น "อิเกีย" บิ๊กแบรนด์เฟอร์นิเจอร์สวีเดน มั่นใจดีไซน์สินค้าแตกต่างกัน

นายพิศิษฐ์ ปัทมสัตยาสนธิ ประธานกรรมการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง "อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์" เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากที่บริษัทได้ตัดสินใจปรับเปลี่ยนรูปแบบช่องทางจำหน่ายใหม่จากการเช่าพื้นที่ภายในศูนย์การค้าเปิดเป็นโชว์รูมอินเด็กซ์ เฟอร์นิเจอร์เซ็นเตอร์ พื้นที่ไม่เกิน 1,000 ตารางเมตร มาลงทุนเปิดตัว "อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์" ซึ่งเป็นศูนย์ขนาดใหญ่แบบสแตนด์อะโลนพื้นที่เฉลี่ย 10,000 ตารางเมตร โดยเปิดตัวอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์สาขาแรกที่รังสิตเมื่อเดือนธันวาคม 2545 หรือเมื่อ 8 ปีก่อน ถึงปัจจุบันได้ขยายสาขาทั่วประเทศแล้ว 17 สาขา แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 8 สาขา และต่างจังหวัด 9 สาขา เบ็ดเสร็จใช้งบฯลงทุนขยายสาขาไปแล้ว 7,000-8,000 ล้านบาท



ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมาถือว่า อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ศูนย์จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่มีสินค้าครบครันที่สุด มีสินค้ารวมกว่า 10,000 รายการ และด้วยความเป็นศูนย์ขนาดใหญ่แม้ว่าจำนวนลูกค้าอาจไม่มากเท่ากับโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ตามศูนย์การค้า แต่สามารถสร้างยอดขายต่อคนได้สูงกว่าโชว์รูมถึง 10 เท่า จากสถิติพบว่าลูกค้าที่มาอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์มีการซื้อสินค้าคิดเป็นมูลค่าเฉลี่ยกว่า 10,000 บาท/คน/ครั้ง

ทั้งนี้ บริษัทวางแผนจะขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้นทุกปี เฉลี่ยปีละ 1-2 แห่ง สำหรับปีหน้าจะเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้นอีก 2 แห่ง ที่สรุปแล้วคือทำเลราชพฤกษ์ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 12 ไร่ ใกล้กับโฮมโปรและโฮมเวิร์ค ตัวศูนย์พื้นที่แสดงสินค้าประมาณ 12,000 ตารางเมตร และมีส่วนพื้นที่คอมมิวนิตี้มอลล์สำหรับร้านค้าเช่าและซูเปอร์มาร์เก็ตอีก 4,000-5,000 ตารางเมตร ส่วนอีกสาขายังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ สำหรับราชพฤกษ์ถือเป็นทำเลที่มีอนาคต แม้ปัจจุบันยังมีจำนวนประชากรต่อพื้นที่ไม่สูงมากนักหากเทียบกับทำเลอื่น ๆ แต่จำนวนประชากรขยายตัวต่อเนื่อง

"ประเมินจากศักยภาพจังหวัดที่คุ้มค่าการลงทุน เราคงมีสาขาอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ที่เป็นศูนย์ขนาดใหญ่ในเมืองไทยได้ไม่เกิน 25 สาขา จากนั้นคงต้องใช้โมเดลการขยายสาขารูปแบบอื่น ๆ โดยย่อขนาดร้านให้เล็กลงเพื่อเปิดสาขาในจังหวัดขนาดกลางและเล็ก อาจมีขนาดพื้นที่ศูนย์ลดลง เหลือ 5,000-6,000 ตารางเมตร ตอนนี้กำลังศึกษารายละเอียด"

สำหรับการเข้ามาลงทุนของ "อิเกีย" ศูนย์จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งรายใหญ่ของโลกจากประเทศสวีเดน บริษัทเชื่อว่าจะสามารถแข่งขันได้ เพราะสินค้าของ "อินเด็กซ์" และ "อิเกีย" แตกต่างกันในแง่สไตล์และดีไซน์ ขณะที่คอนเซปต์ร้านและการจัดแสดงสินค้าก็ไม่เหมือนกัน โดยอินเด็กซ์จะให้ลูกค้าเดินช็อปปิ้งได้อย่างอิสระ ต่างจากอิเกียที่มีทางเดินแบบวันเวย์ ต้องเข้า-ออก และเดินตามทางที่กำหนดไว้เท่านั้น

ตั้งเป้า 3 ปียอดขายแตะหมื่นล้านบาท

นายพิศิษฐ์กล่าวว่า จากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าว่าภายในปี 2556 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า บริษัทจะมียอดขายแตะ 10,000 ล้านบาทได้ โดยจะรักษาอัตราเติบโตต่อให้ได้ปีละ 10% จากประมาณการยอดขายปีนี้ 7,700 ล้านบาท

นอกจากช่องทางการขายในประเทศ สำหรับตลาดต่างประเทศ ปีที่ผ่านมาบริษัทได้สาขาอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ในเมืองดูไบ ประเทศยูเออี เป็นครั้งแรก บนพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร ในรูปแบบการขายแฟรนไชส์ ส่วนการขยายสาขาแฟรนไชส์ในอนาคตคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เนื่องจากภายหลังเปิดบริการได้เกิดปัญหาเศรษฐกิจในดูไบและยุโรป ซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนของแฟรนไชส์ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับนักลงทุนต่างชาติที่สนใจซื้อแฟรนไชส์อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์อยู่หลายราย

ลงทุนศูนย์เทรนนิ่ง "อินเด็กซ์ อะคาเดมี่"

นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด กล่าวเสริมว่า จากนโยบายขยายการลงทุนอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์เฉลี่ยปีละ 1-2 สาขา ซึ่งต้องใช้คนเป็นจำนวนมากกว่า 80-100 คนสาขา ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีบุคลากรเป็นจำนวนมาก เฉพาะส่วน อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ประมาณ 2,500 คน และส่วนโรงงานอีก 3,500 คน รวมทั้งหมด 6,000 คน จึงตัดสินใจลงทุนตั้งศูนย์เทรนนิ่งเซ็นเตอร์ด้านการพัฒนาบุคลากร "อินเด็กซ์" อะคาเดมี่? ขึ้นภายในบริเวณสำนักงานใหญ่ย่านพระรามที่ 2 เพื่อรองรับการพัฒนาบุคลากร โดยเริ่มการเทรนนิ่งตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา

เพราะปัจจุบันการรับบุคลากรฝ่ายขายเข้ามาประจำที่อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ไม่สามารถเริ่มงานได้ทันที และจากสถิติต้องใช้เวลาในการเรียนรู้งานนาน 3-4 ปี กว่าจะปฏิบัติงานได้อย่างคล่องแคล่ว ประกอบกับธุรกิจรีเทลหรือค้าปลีกในภาพรวมมีอัตราเทิร์นโอเวอร์ (เข้าออก) เฉลี่ย 25% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทุกธุรกิจซึ่งอยู่ที่ 5% จึงต้องให้ความสำคัญกับเทรนนิ่งบุคลากรเป็นพิเศษ

โดยภายในอินเด็กซ์ อะคาเดมี่จะประกอบด้วยห้องจำลองการฝึกอบรมในรูปแบบต่าง ๆ 7-8 ห้อง อาทิ ห้องฝึกอบรมแคชเชียร์ ห้องฝึกอบรมตกแต่งดิสเพลย์สินค้า ห้องฝึกอบรมการแนะนำสินค้าใหม่ ๆ ฯลฯ กรณีเป็นพนักงานใหม่จะต้องใช้เวลาในการฝึกอบรมเฉลี่ย 7-10 วัน จากนั้นจะลงพื้นที่สาขาในลักษณะออนเดอะจ็อบเทรนนิ่ง โดยมีพี่เลี้ยงคอยประกอบให้คำแนะนำ เป็นระยะเวลา 4 เดือน จึงสามารถปฏิบัติงานได้ด้วยตัวเอง ส่วนพนักงานที่ปฏิบัติงานแล้วก็จะต้องมาเข้ารับการเทรนความรู้ ใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอ กรณีเป็นพนักงานฝ่ายปฏิบัติการกำหนดไว้ปีละ 48 ชั่วโมง และฝ่ายบริหารกำหนดไว้ปีละ 96 ชั่วโมง

"วิทยากรที่ฝึกอบรมมีทั้งอาจารย์จากสถาบันต่าง ๆ และบุคลากรจากภายใน เพราะเมื่อทำอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์แล้วเรารู้ว่าบุคลากรเป็นเรื่องใหญ่ จำเป็นต้องพัฒนาคนให้ทันกับการขยายงาน เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต" นางสาวกฤษชนกกล่าว

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts with Thumbnails