Pages

Showing posts with label SWENSEN'S. Show all posts
Showing posts with label SWENSEN'S. Show all posts

Monday, August 29, 2011

MINOR FOOD GROUP (เดอะ พิซซ่า) ทุ่ม 5พันล้านเทคฯ"เอส แอนด์ พี" ตระกูล"ศิลาอ่อน-ไรวา"ลั่นไม่ขาย


เมื่อวันที่ 26สิงหาคม 2554 บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT) บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจด้านด้านอาหาร โดยมีแบรนด์ชั้นนำ อาทิเช่น เดอะ พิซซ่า คอมปะนี, สเวนเซนส์, ซิซซ์เล่อร์, แดรี่ ควีน, เบอร์เกอร์ คิง และเดอะ คอฟฟี่ คลับ แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่าที่ประชุมคณะกรรมการของ บริษัทไมเนอร์ฯเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2554 ได้มีมติอนุมัติให้ MINTทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัทโดยความสมัครใจ (Voluntary Tender Offer) จากผู้ถือหุ้นของ S&P ทุกราย รวมจำนวน 72,302,773 หุ้น โดยไม่รวมหุ้นซื้อคืน (Treasury Stock)  ของบริษัท และหุ้นของบริษัทที่ MINTถืออยู่ ในราคาหุ้นละ 70 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 5,061.19 ล้านบาท โดย MINTคาดว่าจะยื่นแบบประกาศเจตนาในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ (แบบ 247 - 3)และคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (แบบ 247 - 4) ภายในวันที่ 30 สิงหาคม 2554 และวันที่ 8 กันยายน 2554 ตามลำดับ


Thursday, April 8, 2010

SWENSEN'S TO FOCUS EXISTING BRANCHES -เดินหน้ารีโนเวตเฟ้นยอดร้านเดิม



สเวนเซ่นส์ปรับยุทธศาสตร์ไม่เร่งเปิดสาขาใหม่ หันโฟกัสสาขาเดิม เฟ้นการเติบโตทุกร้าน ลุยรีโนเวต 20 แห่งปีนี้ ชูคอนเซ็ปต์ใหม่ คลาสสิก มีสไตล์ ลดสีสันจัดจ้าน ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม เปิดตัว เมนูมะม่วงช่วงซัมเมอร์ หวังโต 8% คาดทั้งปีโต 7%






มร. ปีเตอร์ คิง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สเวนเซ่นส์ ไทย จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า กลยุทธ์หลักของสเวนเซ่นส์ในปีนี้จะกลับมาโฟกัสที่สาขาเดิม เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แต่ละสาขาและสร้างการเติบโตด้านยอดขายของ same store ไม่เพียงเป็นการเติบโตจากการเปิดสาขาใหม่ ๆ จากช่วง 5 ปีที่ผ่านมาสเวนเซ่นส์มีการเปิดสาขาอย่างรวดเร็วมาก โดยปีนี้ตั้งเป้าขยายสาขาประมาณ 10 สาขา น้อยกว่าปีที่แล้วที่มีการขยาย 15 สาขา ขณะที่ปีก่อนหน้านี้จะเน้นขยายสาขาปีละ 30 สาขา




ทั้งนี้ จะเป็นการอัพเกรดสาขาที่มีอยู่ให้ทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการลูกค้ามากขึ้น โดยปัจจุบัน สเวนเซ่นส์มีสาขาถึง 220 แห่ง คาดว่าจะรีโนเวตสาขาปีนี้รวม 20 สาขา โดยจะเป็นดีไซน์ใหม่ คือจะเน้นอัพเกรดดีไซน์ให้มีความตื่นเต้นมากยิ่งขึ้นในสไตล์ที่เรียกว่า "Urban eco chic" ที่เน้นความมีสไตล์และคลาสสิกมากขึ้น ลดสีสันที่จัดจ้านลงเพื่อตอบโจทย์คนทุกเพศทุกวัย ปัจจุบันมีสาขาที่รีโนเวตแล้ว 5 สาขา อาทิ เซ็นทรัล พระราม 3, เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน, ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต ฯลฯ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยสามารถเพิ่มฐานลูกค้าและมียอดขายเพิ่มขึ้น 10%



"เราต้องการทำให้แน่ใจว่าแต่ละร้านยังคงดึงดูดลูกค้าได้ ร้านยังทันสมัย และมีบรรยากาศที่ดี ลูกค้าแฮปปี้เมื่อเข้ามาใช้บริการ ปัจจุบันบางสาขาเก่ามากจำเป็นต้องปรับปรุง ขณะเดียวกันเมื่อมีการเปิดสาขาอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา ทำให้แต่ละร้านอยู่ในทำเลที่ใกล้เคียงกัน เราจึงต้องกลับมาพิจารณาในเรื่องนี้ และทำให้ทุกสาขาเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง"



มร.คิง กล่าวว่า ปัจจุบันโอกาสการขยายสาขายังมีอีกมาก โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ขณะที่ในกรุงเทพฯบริษัทก็มองว่ายังมีโอกาสเช่นเดียวกัน ขณะนี้มีห้าง ศูนย์การค้า และทำเลต่าง ๆ ในกรุงเทพฯที่บริษัทมองว่ามีศักยภาพในการเปิดสาขา 6-7 สาขา อย่างไรก็ตาม แนวทางจากนี้จะไม่ได้เน้นขยายรวดเร็วเหมือนสมัยก่อน แต่จะมีความรอบคอบและระมัดระวังมากขึ้น



"เราจะเซ็กเมนต์ลูกค้าตามโลเกชั่นที่สาขานั้น ๆ ตั้งอยู่ ที่เห็นชัดคือฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิตซึ่งมีการรีโนเวตดีไซน์ใหมโดยเน้นจับกลุ่มครอบครัวและกลุ่มคนเริ่มทำงาน ขณะที่ชั้น 3 ซึ่งใกล้โรงหนังก็จะเน้นกลุ่มวัยรุ่น"



ปัจจุบันตลาดไอศกรีมพรีเมี่ยมมีมูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท สเวนเซ่นส์มีส่วนแบ่งถึง 80% แต่ก็ไม่ได้ประมาทกับบรรดาคู่แข่งใหม่ ๆ ที่เข้ามาในตลาด แต่เน้นพัฒนาเรื่องต่าง ๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น ปัจจุบันสเวนเซ่นส์ถือเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในตลาดร้านอาหารประเภทไลต์ฟู้ด หรือร้านในกลุ่มเบเกอรี่, กาแฟ ฯลฯ ในแง่ของความแข็งแกร่งของแบรนด์



ล่าสุดในช่วงซัมเมอร์นี้ได้เปิดตัว โปรโมชั่นมะม่วงในปีนี้แตกต่างจากปีก่อน ซึ่งได้มีการเพิ่มวาไรตี้ทั้งรสชาติมะม่วง นอกจากไอศกรีมซันเดย์ ซัมเมอร์ บรีซ แมงโก้ ยังเพิ่มทาโร แมงโก้ ไอศกรีมมะม่วงเสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวม่วง เผือกกรอบ โรยด้วยซอสเผือก แตกต่างจากทุกปี ตั้งเป้าเติบโตในช่วงมีนาคม-เมษายน อยู่ที่ 8%



นอกจากนี้ ยังมี 2 ไซซ์ในราคา 59 บาท และ 79 บาท ตอบโจทย์กำลังซื้อที่แตกต่างกัน จากปีก่อนที่บริษัทใช้กลยุทธ์ราคาที่ 49 บาท จากเศรษฐกิจที่ซบเซาส่วนปีนี้เชื่อว่ากำลังซื้อจะดีขึ้น โดยเน้นเรื่องความคุ้มค่า คุ้มราคามากกว่าลดราคาสินค้าอย่างเดียว



มร. คิงกล่าวทิ้งท้ายว่า สถานการณ์ปีที่แล้วในช่วงครึ่งปีแรกไม่ดีนักจากสถานการณ์ปิดสนามบินและเศรษฐกิจที่ตกต่ำ แต่กลับมากระเตื้องขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2552 โดยปีที่แล้วสเวนเซ่นส์มีฐานลูกค้าที่เข้ามารับประทานไอศกรีมถึง 34 ล้านคน และมียอดขายภาพรวมเติบโตขึ้น 9-10% ขณะที่ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 7% เพราะไม่เน้นการขยายเชิงรุก โดย 2 เดือนแรกที่ผ่านมามีการเติบโตที่ดีมาก ต่อเนื่องมาถึงสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคมที่เติบโตถึง 20% แต่เริ่มลดลงเมื่อมีปัจจัยลบต่าง ๆ โดยเฉพาะการชุมนุมของเสื้อแดงที่เกิดขึ้นตลอดช่วงเดือนมีนาคม



Reblog this post [with Zemanta]

LinkWithin

Related Posts with Thumbnails