Tuesday, August 2, 2011
BIG C CHALLENGING MAKRO
Monday, January 3, 2011
Reliance Retail Ltd, Tesco Plc, Metro AG and Bharti Walmart Pvt. Ltd
|
Friday, September 17, 2010
"เบอร์ลี่-ปตท."เต็มสูบแย่งซื้อ"คาร์ฟูร์" สินค้าระทึกยักษ์ค้าปลีกผูกขาดตลาด
Wednesday, August 11, 2010
กลยุทธ์ ร้านขวัญเรือน ท่ายาง กรณีศึกษาค้าส่งภูธร

ขวัญเรือน สุขนิรัญ เจ้าของร้าน “ขวัญเรือน”
***ลูกแม่ค้า แจ้งเกิดตลาดสด*** ขวัญเรือน สุขนิรัญ เจ้าของร้าน “ขวัญเรือน” วัย 40 ปี เล่าว่า ครอบครัวทำมาหากินค้าขายอยู่ในตลาดสด อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ชีวิตจึงคลุกคลีอยู่ในตลาดสดตั้งแต่จำความได้ และด้วยข้อจำกัดของฐานะทางบ้าน โอกาสการศึกษาต้องหยุดแค่ ป.6 หลังจากนั้น ออกมาช่วยค้าขายอยู่ในตลาดเรื่อยมา ด้วยความเป็นคนขยันและทุ่มเท เธอสามารถตั้งตัวเปิดร้านโชวห่วย ขนาด 1 คูหาของตัวเองได้ในวัยเพียง 26 ปี แต่เวลานั้น ยังอ่อนประสบการณ์ ประกอบกับมีปัญหาชีวิตคู่ กิจการในช่วงแรกๆ จึงประสบปัญหาอย่างมาก ถึงขั้นเป็นหนี้สะสางกว่า 2 ล้านบาท
ลงทุนกว่า 1.5 ลบ. นำระบบไอทีมาตรวจนับสต๊อกสินค้า
“ตอนนั้น ดิฉันพยายามทิ้งปัญหาเก่าๆ กลับมาตั้งต้นใหม่ โดยเจรจาขอผ่อนใช้หนี้กับบริษัทซับพรายเออร์ต่างๆ เน้นรักษาวินัยชำระคืนให้ตรงต่อเวลา แล้วค่อยๆเคลียร์หนี้ทีละราย จนผ่านไปกว่า 2 ปีสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ และมีกำไรมาหมุนเวียนกิจการ นอกจากนั้น ได้รับความช่วยเหลือจากเอสเอ็มอีแบงก์ (ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย) รีไฟแนนท์จากธนาคารเดิมช่วยแบ่งเบาอัตราดอกเบี้ยต่ำลง ทำให้มีสภาพคล่องมากขึ้น” ขวัญเรือน เล่าย้อน ***ชูกลยุทธ์ราคาถูกและหลากหลาย*** ร้าน “ขวัญเรือน” มีทั้งส่วนค้าส่ง หรือที่เรียกแบบบ้านๆ ว่า “ยี่ปั้ว” กับส่วนค้าปลีก สำหรับส่วนค้าส่ง ได้ขยายกิจการ ย้ายมาตั้งร้านที่ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี บนพื้นที่กว่า 300 ตารางวา เมื่อราว 7 ปีที่แล้ว มีจุดแข็ง คือ ราคาสินค้าโดยเฉลี่ยจะถูกกว่าในห้างโมเดิร์นเทรด เนื่องจากยอมที่จะได้กำไรส่วนต่างน้อยกว่า อีกทั้ง มีสินค้าหลากหลาย กว่า 5 พันรายการ โดยเฉพาะสินค้าบางประเภท ซึ่งไม่สามารถหาได้ในห้างดัง แต่คนท้องถิ่นมีความจำเป็นต้องใช้ จะสามารถมาหาได้ที่ร้านขวัญเรือน
จัดเก็บเงินด้วยระบบคอมพิวเตอร์
“เนื่องจากดิฉันเป็นคนท้องถิ่น อยู่ในตลาดตั้งแต่เกิด ทำให้รู้ว่า ความต้องการที่แท้จริงของผู้บริโภค สินค้าบางอย่างห้างอาจมองข้าม หรือเป็นสินค้าชุมชน ซึ่งมาตรฐานยังไม่สามารถเข้าห้างได้ แต่ชาวบ้านต้องการใช้ เราก็จะนำสินค้าเหล่านี้มาขายด้วย” เจ้าของร้าน เผยและอธิบายต่อว่า “สำหรับเคล็ดลับสำคัญ คือ เมื่อซื้อสินค้ามาแล้ว ต้องปล่อยออกให้เร็วที่สุด โดยพยายามซื้อสินค้าจากบริษัทผู้ผลิตโดยตรง ตัดขั้นตอนผ่านตัวแทนตรงกลาง ซึ่งจะทำให้ได้สินค้าต้นทุนต่ำ สามารถมาขายต่อได้ในราคาที่ถูกกว่าสินค้าในห้าง เมื่อลูกค้ามาซื้อสินค้าได้ในราคาถูก ทำให้เกิดกระแสบอกต่อว่า ไม่จำเป็นต้องไปซื้อที่ห้างก็ได้ เพราะร้านขวัญเรือน มีสินค้าที่เขาต้องการครบถ้วน ราคาถูกกว่า และอยู่ในท้องถิ่นใกล้บ้าน” เจ้าของกิจการ เผย ***ยกระดับโชวห่วยชนห้างยักษ์ *** ร้านแห่งนี้ ยังให้ความสำคัญด้านพัฒนาความสามารถตัวเอง โดยเฉพาะการบริหารสต๊อก ลงทุนกว่า 1.5 ล้านบาท นำระบบไอทีมาใช้ตรวจนับสินค้าและคุ้มบัญชีการเงิน อีกทั้ง จัดอบรมพนักงานในสังกัดกว่า 26 คน ในด้านวิธีจัดสต๊อกสินค้าแบบมืออาชีพ ทั้งจัดเรียง และวางตำแหน่งสินค้า เป็นต้น
ภายใต้โกดังเก็บสินค้า
นอกจากนั้น ยังมีบริการเสริมแบบที่ห้างยักษ์ใหญ่ทำให้ไม่ได้ เช่น มีรถซาเล้งบริการวิ่งส่งสินค้าภายในชุมชน จัดโปรโมชั่นพิเศษในรูปแบบเฉพาะตัว และเนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนรู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี การบริการจึงเป็นไปอย่างอะลุ่มอล่วยมีความยืดหยุ่นสูง ช่วยให้เกิดความผูกพันใกล้ชิดระหว่างผู้ซื้อและลูกค้า ขวัญเรือน ระบุว่า ตั้งแต่เปิดร้านขายส่งมากว่า 7 ปี ไม่เคยหยุดแม้แต่วันเดียว โดยเปิดบริการตั้งแต่ 4.00-23.00 น.ทุกวัน ส่งผลให้ปัจจุบัน ร้านแห่งนี้ถือเป็นยี่ปั๊วรายใหญ่ประจำท้องถิ่น มีเงินหมุนเวียน ประมาณ 10-11 ล้านบาทต่อเดือน ลูกค้าหลักคือ ร้านโชวห่วยขนาดย่อยๆ ในท้องถิ่น อ.ท่ายาง และใกล้เคียง ทั้งใน จ.เพชรบุรี เรื่อยไปถึง จ.ประจวบคิรีขันธ์
ในส่วนขายปลีก เธอ เผยว่า ได้ปรับปรุงร้านในตลาดสดให้กลายเป็นมินิมาร์ทสมัยใหม่ครบวงจร ขนาด 3 คูหา ใช้ชื่อร้านว่า “ขวัญเรือน” เช่นกัน ภายนอกตกแต่งร้านสวยงาม เป็นห้องกระจก ติดเครื่องปรับอากาศ พนักงานสวมใส่ยูนิฟอร์ม และมีรูปแบบบริการแบบมืออาชีพ ขณะเดียวกัน เน้นจุดแข็งเช่นเดียวกับร้านขายส่ง คือ ราคาสินค้าถูกกว่าร้านสะดวกซื้อเจ้าดัง และมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย ช่วยให้กิจการเป็นไปได้ด้วยดี มียอดซื้อกว่า 600 บิลต่อวัน
“ดิฉันพยายามพัฒนาให้แข่งขันกับรายใหญ่ได้ เพราะส่วนตัว ไม่ชอบอยู่ภายใต้ชื่อใคร ของเราก็ดีเหมือนกัน ไม่ต้องพึ่งแบรนด์ต่างชาติเท่านั้น"
“ดิฉันพยายามพัฒนาให้แข่งขันกับรายใหญ่ได้ เพราะส่วนตัว ไม่ชอบอยู่ภายใต้ชื่อใคร ของเราก็ดีเหมือนกัน ไม่ต้องพึ่งแบรนด์ต่างชาติเท่านั้น อยากให้ลองมาสัมผัส จะรู้ว่าโชวห่วยฝีมือคนไทยก็สร้างความประทับใจได้ไม่แพ้กัน” ขวัญเรือน ย้ำอย่างมั่นใจ
Monday, February 15, 2010
Makro puts grocery stores on wheels

Siam Makro Plc, the operator of Makro cash-and-carry stores, has joined with DFM Mini Truck (Thailand) Co, to roll out mobile grocery stores to attract small retailers.
Under the scheme, DFM and Makro will co-design the mini trucks and approach grocery-store owners to buy them to transport their goods or use them as mobile grocery stores, restaurants, bakery and coffee shops, said Pitaya Tanadamrongsak, managing director of DFM, the importer of DFM multi-purpose trucks from China.
DFM will organise roadshows at all 45 Makro outlets to introduce the mini-trucks to prospective investors. The trucks will be available in two formats. The counter format allows shoppers to buy products around the truck and the walk-in format allows customers to choose products inside.
DFM charges 400,000 baht for a truck and another 100,000 baht for product inventory. Makro will have seven product groups for shop owners to buy and sell at their mobile stores.
"We expect to sell 100 trucks to shop owners and investors after ending our truck roadshows," Mr Pitaya said.
Shop owners can pay DFM for the trucks in installment at an affordable minimum rate of 160 baht a day. Based on the projected sales, the shop owners can break even within one year.
Mr Pitaya said the company had 27 dealers to provide maintenance in 22 provinces with Makro operations. It plans to open another 13 dealers this year. In the longer term, the company also plans to form a joint venture with Dongfeng Motor Corporation in China to set up a commercial truck plant in Thailand in the near future.
Prantip Akarimachayanon, associate director for marketing at Siam Makro, said the co-operation with DFM is part of its Makro Retailers' Alliance (Mit Tae Chow Huay) project launched in 2007 to help small retailers survive intense competition and the downturn.
To date, more than 2,000 grocery owners have joined the MRA project. About 600 grocery stores have already modified their store planning and product displays. After the modifications, their sales increased by at least 35% and some even saw a 250% jump to 7,000 baht per day from 2,000 baht.
"Mobile grocery stores will be a new alternative for grocery store owners who want to extend their business in remote areas not served other retailers," Ms Prantip said, adding that the grocery store owners can buy DFM mini trucks without any conditions.
Currently, Makro has more than 500,000 retailer members. Thailand has 680,000 registered grocery shops, according to Commerce Ministry data. About 60% are grocery store operators, 16% are hotels and restaurants and 24% are institutional operators.
===========================================
should read about Ansoff Matrix
The Ansoff Matrix was first published in the Harvard Business Review in 1957, and has given generations of marketers and small business leaders a quick and simple way to develop a strategic approach to growth.
Sometimes called the Product/Market Expansion Grid, it shows four growth options for business formed by matching up existing and new products and services with existing and new markets.
Tuesday, December 22, 2009
Makro to open three stores

Siam Makro Plc, the operator of Makro cash-and-carry stores, will spend 2.6 billion baht to open new outlets and renovate its existing stores next year.
President Suchada Ithijarukul said the company planned to open three new outlets next year in Kamphaeng Phet, Kanchanaburi and Lop Buri, bringing the total to 47 next year.
"We believe there is still demand for food products. No matter how bad the economy is, people have to eat. The economy next year will not be worse than this year," she said.
All new developments of Makro next year will come under "Eco Plus", a new store concept that the company introduced in Pattaya this week. The 600-million-baht Pattaya branch has retail space of 7,000 square metres. More than 80% of the total area is dedicated to 10,000 items of fresh and dry foods, seasonings and beverages.
The displays of the Eco Plus-concept store will differ from those at other branches. Fresh and dry food and seasonings are put in the most accessible area to help shoppers save time as they regularly visit the store 3-4 times a month.
The Pattaya branch would serve the needs of hotels, restaurants, catering businesses and small retailers in Pattaya and nearby provinces in the Eastern Seaboard.
Currently, Makro has 40 stores under the original 10,000-square-metre format, three Eco-format stores with half the retail space in Phuket, Krabi and Koh Samui and one Eco-Plus format in Pattaya with 7,000 sq m.
Mrs Suchada said there was bright business potential for its Pattaya branch as the economy is recovering and large department stores and real estate projects are stepping up their investments. Moreover, the company has 30,000 registered members, mostly hotels, restaurants, catering businesses and small retailers.
Sales of Makro in the first nine months of this year grew by 3.5%, better than the industry's growth rate. The company expects sales this year to reach 75 billion baht, up from 70 million baht last year.
Shares of Makro closed yesterday on the Stock Exchange of Thailand at 84 baht, up 25 satang, in trade worth 47 million baht.
Monday, August 10, 2009
MAKRO แก้ปมเปิดสาขาน้อย ผนึกคู่ค้าโหมแคมเปญเพิ่มยอด

"แม็คโคร" ไม่หวั่นเปิดสาขาใหม่น้อย พลิกเกมมุ่งเพิ่มรายได้ เดินหน้าจับมือซัพพลายเออร์ โหมจัดกิจกรรมตอกย้ำภาพศูนย์ค้าส่ง ล่าสุดร่วมกับหัวม้าลายฉลองเบิร์ธเดย์ 20 ปี หวังปั๊มยอดขายหม้อก๋วยเตี๋ยว-ขยายฐาน
เป็นการปรับตัวที่น่าสนใจไม่น้อย สำหรับธุรกิจค้าส่ง "สยามแม็คโคร" ที่นอกจากจะต้องเร่งปรับตัวตามสถานการณ์เศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคแล้ว ยังต้องพลิกกลยุทธ์เพื่อเพิ่มยอดขายในสาขาเดิมให้มากขึ้น เนื่องจากการเปิดสาขาใหม่ถูกจำกัดด้วยใบอนุญาตประกอบการ
ก่อนหน้านี้ผู้บริหารแม็คโครยอมรับว่า 5 เดือนแรก ตัวเลขการเติบโตโดยรวมมีเพียง 2-3% ตามภาวะเศรษฐกิจ และเมื่อเทียบเฉพาะสาขาเดิมที่เปิดให้บริการ พบว่ามีการเติบโตลดลงราว 1-2% ต่อสาขา
"แม็คโคร"แก้ปมเปิดสาขาน้อย ผนึกคู่ค้าโหมแคมเปญเพิ่มยอด
ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตว่า ระยะหลังมานี้ กลยุทธ์หนึ่งที่แม็คโครให้ความสำคัญมากขึ้น ได้แก่การร่วมมือกับพันธมิตร จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือเปิดบริการเสริมให้ลูกค้า นอกเหนือจากการจัดโปรโมชั่นเพียงอย่างเดียว
อาทิ เดือนมิถุนายน แม็คโครจับมือ กับบริษัทประกันภัยเอซ อินชัวรันซ์ นำเสนอบริการและสิทธิพิเศษด้านการประกันภัยประกันอุบัติเหตุให้แก่สมาชิก ถัดมาเป็น การจัดโปรโมชั่นฉลองครบรอบ 20 ปี "แจกรถเป็นล้าน" (29 กรกฎาคม-25 สิงหาคม 2552)
ล่าสุดแม็คโครได้ร่วมกับเครื่องครัว สเตนเลสสตีล ตราหัวม้าลาย จัดงานเปิดตัวหม้อก๋วยเตี๋ยวสเตนเลสสตีลใหม่ และจัดโครงการมอบหม้อก๋วยเตี๋ยว 20 ใบให้แก่ศูนย์ฝึกอาชีพและสถานพยาบาล 20 แห่ง รวมถึงการจัดงานเปิดตัวแนะนำผลิตภัณฑ์กับกลุ่มผู้ประกอบการ
นางสุพรศรี นาคธนสุกาญจน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายจัดซื้อสินค้าอุปโภค บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ในลักษณะ ดังกล่าว เป็นการตอบสนองเรื่องกิจกรรมให้แก่ลูกค้าแม็คโคร เพื่อให้ลูกค้าได้สินค้าที่มีคุณภาพในราคาประหยัด การร่วมมือกับหัวม้าลาย จะช่วยตอบสนองลูกค้าในกลุ่ม โฮเรก้า ซึ่งเป็นกลุ่มที่แม็คโครมีความชำนาญ มีลูกค้าอยู่มากกว่า 300,000 ราย การร่วมมือเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ครั้งนี้จะช่วยสร้างยอดขายได้ถึง 20 ล้านบาท และช่วยขยายฐานลูกค้ากลุ่มเครื่องครัวที่ไม่ได้มีแค่กลุ่มร้านอาหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่ที่นิยมทำอาหารรับประทานที่บ้านด้วย
ก่อนหน้านี้ นางสุชาดา อิทธิจารุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้แม็คโครมีสาขาใหม่ 2 แห่ง ได้แก่รามอินทราและชุมพร จากเดิมมี 41 สาขา ขณะที่ปี 2550 มีการเปิดสาขาใหม่ถึง 12 สาขา ส่วนปี 2551 ไม่มีการเปิดสาขาใหม่เลย เนื่องจากไม่มีใบอนุญาต ทั้งที่บริษัทมีความพร้อมทั้งเงินลงทุน หรือสถานะการกู้ รวมถึงความต้องการของผู้บริโภคในพื้นที่ต่างๆ
ด้านความเคลื่อนไหวของค้าปลีกรายใหญ่ค่ายอื่นๆ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้จะมีความระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่ก็ยังเดินหน้าเปิดสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเทสโก้ โลตัสที่ปีนี้มีแผนเปิดสาขาขนาดใหญ่ 5-6 สาขา, เอ็กซ์เพรส 40 สาขา
หรือบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ที่เปิดสาขาล่าสุดที่ศรีสะเกษ และจะเปิดเพิ่มอีก 1 สาขา ภายในต้นปีหน้า พร้อมทั้งมีแผนจะเปิดโมเดลร้านสะดวกซื้อมินิบิ๊กซีเพิ่มด้วย ขณะที่คาร์ฟูร์ครึ่งปีหลังมีแผนเปิดสาขาอีก 4 สาขา
เมื่อเทียบกับห้างอื่นๆ จะเห็นว่าแม็คโครเปิดสาขาใหม่ไม่มากนัก และแม้จะมีโพซิชันนิ่งชัดเจนในเรื่องการเป็นศูนย์ค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคระบบสมาชิกสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการจัดโปรโมชั่นค้าปลีกรายใหญ่มีผลต่อการตัดสินใจต่อผู้ค้าปลีกรายย่อยเช่นกัน