Wednesday, July 4, 2012
7-Eleven unperturbed by AIA share sale, say executives
Thursday, June 7, 2012
108ช็อปปรับใหญ่700สาขา ผุดโฉมใหม่-ปิดร้านขาดทุน
Monday, April 25, 2011
7ELEVEN ชิงภาพผู้นำค้าปลีกทุกมิติ ดึงพาร์ตเนอร์ซันโย-พานาฯเปิดสาขา"อีโคสโตร์
Thursday, March 31, 2011
ปตท. จับมือ ซีพี ออลล์ ต่อสัญญาร้าน 7-Eleven ในปั๊มอีก 10 ปี
Friday, February 18, 2011
ค้าปลีกไซซ์เล็กคึก ! TESCO TOPS ลูบคม 7ELEVEN
ถึงเวลานี้ดูเหมือนว่าการเปิด สาขาไซซ์เล็กขนาด 2-3 คูหา ของค้าปลีกรายใหญ่จะมีความเข้มข้นและร้อนระอุมากขึ้นอีกระดับหนึ่ง
Monday, January 17, 2011
7ELEVEN ผุดรง.อาหารป้อน7พันสาขา
Photo Source : http://www.jobpub.com |
ยักษ์ค้าปลีกปูพรมผุด"ไซซ์เล็ก" 7ELEVEN ขยายพื้นที่เป็น3คูหา นำร่อง30จุด
Saturday, December 4, 2010
CARREFOUR REVEALS TWO NEW CONVENIENCE STORE CONCEPT IN FRANCE
![]() |
Photo Source: http://focarrefourvenette.over-blog.com/ |
Thursday, October 28, 2010
PTTRM ส่ง JIFFY ลุยตลาดนอกปั้ม เพิ่มรายได้เสริม50%ทดแทนมาร์จิ้นน้ำมันต่ำติดดิน
![]() |
ดร. กฤษณะพล โกมลบุณย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก |
Thursday, October 14, 2010
Nielsen ชี้ไทยช็อปติดอันดับ6ในเอเชีย Hypermarket ครองใจ-โปรโมชั่นมีอิทธิพลสูง
FAMILY MART เจาะลึกรายพื้นที่ เพิ่มพันธมิตร'อาหาร'ดันยอด
Thursday, September 30, 2010
7ELEVEN ปรับตัวรับตลาดเปลี่ยน เข้มอาหารสุขภาพ-ลดโลกร้อน
Wednesday, September 15, 2010
TESCO PLANS CONVENIENCE STORE CHAIN OVERSEAS
Tuesday, August 24, 2010
JIFFY ปูพรมโมเดลใหม่ ปั้นแบรนด์"SUPERMARKET-ร้านอาหาร"บุกค้าปลีก

ปตท.ขยับตัวครั้งใหญ่ เปิดตัวธุรกิจค้าปลีกโมเดลใหม่ ส่ง "จิฟฟี่ มาร์เก็ต" ลุยซูเปอร์มาร์เก็ต พร้อมเปิด "จิฟฟี่ บิสโตร" บริการอาหารจานร้อน เปิดร้านคอนเซ็ปต์สแตนด์อะโลน-ไม่ยึดติดปั๊ม ล่าสุดทดลอง เปิดคอนวีเนี่ยนสโตร์แบรนด์ใหม่ "จอย" ในปั๊มแก๊ส "พงษ์เพชร-เอกชัย" พร้อมเผยเตรียมประมูลเปิดคีออสก์ขายสินค้าบนสถานีแอร์พอร์ตลิงก์
หลังจาก ปตท. ซื้อร้านสะดวกซื้อ "จิฟฟี่" ที่มีอยู่ 146 สาขาทั่วประเทศ พร้อมทั้งได้ทยอยรีโนเวตสาขาต่าง ๆ พร้อมกับมีการปรับระบบการดำเนินงานและระบบไอที พร้อมมองหาร้านค้าปลีกโมเดลใหม่มาเสริม เพื่อสร้างให้ธุรกิจค้าปลีกเป็นอีกขาหนึ่ง ที่ช่วยทำรายได้ให้กับบริษัท ล่าสุด ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก บริษัทในเครือ ปตท. ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ เตรียมจะเปิดตัว 2 ธุรกิจใหม่ "จิฟฟี่ มาร์เก็ต-จิฟฟี่ บิสโตร" ในรูปแบบสะแตนด์อะโลนที่อาคารเอ็นเนอร์จี้ คอมเพล็กซ์ ตึกเอ ที่บริเวณชั้น 1 ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ ปตท. จากก่อนหน้านี้ที่มีกระแสข่าวว่า ปตท.กำลังศึกษาเพื่อจะซื้อกิจการของคาร์ฟูร์
แหล่งข่าวจากบริษัท ปตท. บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด บริษัทในเครือ ปตท. เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สำหรับคอนเซ็ปต์ของจิฟฟี่ มาร์เก็ต และ จิฟฟี่ บิสโตร จะเป็นร้านค้าที่ไม่ยึดติดกับการเปิดในปั๊มน้ำมันของ ปตท.เสมอไป และมีความยืดหยุ่นที่จะสามารถเปิดได้ในหลากหลายพื้นที่ตามความเหมาะสม
โดยในส่วนของจิฟฟี่ มาร์เก็ต เบื้องต้นจะเป็นร้านค้าปลีกคล้าย ๆ กับร้านสะดวกซื้อทั่ว ๆ ไป แต่จะมีอาหารสด เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ ฯลฯ เข้ามาจำหน่ายร่วมด้วย มีพื้นที่ประมาณ 400 ตารางเมตร ขณะที่จิฟฟี่ บิสโตร เป็นร้านอาหารที่เน้นการซื้อกลับ (take away) พร้อมบริการส่งในอาคาร ปตท. และมีที่นั่งให้รับประทาน14 ที่นั่ง ด้วยเมนูอาหารนานาชาติหลากสไตล์ทั้งสไตล์ตะวันออก เช่น อาหารไทย ผัดไทยกุ้งสด อาหารญี่ปุ่น ยากิโซบะหมู และสไตล์ตะวันตก เช่น ชุดอาหารเช้าสไตล์อเมริกัน ทูน่าสลัด ฯลฯ ที่ปรุงและเสิร์ฟตาม ออร์เดอร์
ส่งแบรนด์ "จอย" เจาะปั๊มก๊าซ
แหล่งข่าวรายนี้ยังกล่าวด้วยว่า นอกจากการเปิดร้านค้าปลีกและร้านอาหารโมเดลใหม่ดังกล่าว ที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก โดยใช้แบรนด์ใหม่คือ "จอย" (Joy) ในปั๊มแก๊สของ ปตท. ซึ่งเบื้องต้นเพิ่งเปิดไป 2 แห่ง โดยแห่งแรกอยู่ที่สี่แยกพงษ์เพชร ส่วนอีกแห่งเปิดที่ย่านเอกชัย
สินค้าที่จำหน่ายเน้นสินค้าที่เป็นเครื่องดื่ม กาแฟสด หนังสือพิมพ์ ขนมขบเคี้ยว อาหารว่าง ฯลฯ ที่เป็นการย่อส่วนมาจากร้านสะดวกซื้อ และเน้นจับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นกลุ่มคนขับแท็กซี่ หรือผู้ที่เข้ามาใช้บริการในปั๊มก๊าซ
"เหตุผลที่ต้องตั้งแบรนด์ใหม่ขึ้นมา เนื่องจากไม่ต้องการจะทำให้กระทบกับแบรนด์จิฟฟี่"
ขณะที่แหล่งข่าวจาก ปตท.ฯ อีก รายหนึ่งให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมาบริษัทยังได้ร่วมมือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย ด้วยการใช้แบรนด์จิฟฟี่ เปิดเป็นคีออสก์บนสถานีรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ เน้นขายเครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว ฯลฯ และได้รับการตอบรับที่น่าพอใจ แต่เนื่องจากคีออสก์ที่เปิดบนสถานีรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ (พญาไท) ซึ่งมีเพียงแห่งเดียว เป็นการเปิดให้บริการชั่วคราว หากมีการเปิดประมูลพื้นที่อย่างเป็นทางการ บริษัทก็สนใจจะเข้าร่วมประมูลด้วย
ขณะที่จิฟฟี่ภายใต้การบริหารของ ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก จะอยู่ระหว่างการปลุกปั้นร้านสะดวกซื้อ รวมทั้งการมีโมเดลใหม่มาเสริม ในส่วนของร้านเซเว่น อีเวฟเว่น ที่เวลานี้มีสาขาประมาณ 5,500 แห่งทั่วประเทศ หรือแฟมิลีมาร์ท ที่มีจำนวนสาขาประมาณ 500 แห่ง ได้มีการปรับเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ด้วยการให้ความสำคัญกับสินค้าในกลุ่มอาหารมากขึ้น
เปิดสาขามี พท.เช่า สร้างรายได้
แหล่งข่าวจาก ปตท.ฯกล่าวว่า ควบคู่กับแนวทางดังกล่าว ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีกยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาสาขาที่มีพื้นที่ใหญ่ให้เป็นพื้นที่เช่า สำหรับสาขาที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ด้วยการเปิดสาขาในรูปแบบที่เรียกว่า Platinum Gas Station ที่มีลักษณะเป็นวันสต็อปเซอร์วิส ที่นอกจากจะมีปั๊มน้ำมันและร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่แล้ว ภายในพื้นที่สาขาดังกล่าวยังมีร้านค้าที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งร้านอาหารและบริการทางการเงินเปิดให้บริการด้วย
ตอนนี้เปิดไปแล้ว 6-7 แห่ง สาขาล่าสุดคือ สมุทรสาคร-พระราม 2 ก.ม.35 จากก่อนหน้านี้ที่ทยอยเปิดไปแล้วตั้งแต่ปี 2552 เช่น รามอินทรา 1 รามอินทรา 2 นครปฐม ก.ม.26 สุพรรณบุรี ก.ม.28 สระบุรี-แก่งคอย 1อยุธยา-วังน้อย และขณะนี้บริษัทยังมองที่จะหาพื้นที่เพื่อเปิดสาขาในลักษณะนี้เพิ่มอย่างต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตว่า การเปิดสาขาในรูปแบบนี้น่าจะเป็นยุทธศาสตร์ที่ ปตท.ให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นรูปแบบที่สามารถทำรายได้และมีมาร์จิ้นที่ดี โดยเฉพาะการเปิดพื้นที่ให้พันธมิตรหรือผู้สนใจเข้ามาเช่า
Tuesday, December 22, 2009
108 SHOP ปรับตัวพร้อมรบ เฟ้นทำเลทอง-เพิ่มสัดส่วนกลุ่มอาหาร

การแข่งขันของตลาดค้าปลีกใกล้บ้านหรือร้านค้าชุมชนในปีหน้าจะดุเดือดขึ้น เมื่อมีหลายค่ายกระโดดเข้ามามากขึ้น และ "108 ช็อป" ถือเป็นผู้เล่นที่ต้องจับตามอง นอกจากเป็นธุรกิจในเครือสหพัฒน์ซึ่งมีความพร้อมในเรื่องเงินลงทุนแล้ว ยังมีพันธมิตรที่เป็นโชห่วยทั่วประเทศซึ่งเป็นจุดยืนของแบรนด์นี้ ก็ยิ่งทำให้ร้านสะดวกซื้อ 108 ช็อป แตกต่างจากคู่แข่งอื่น ๆ ในตลาดทั้งปวง
"เวทิต โชควัฒนา" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซันร้อยแปด จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้าน 108 ช็อป กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับ แบรนด์ในปีหน้าว่า หลังจากปีนี้บริษัทได้รีวิวสาขาที่ไม่สร้างยอดขาย โดยปิดไปเกือบ 100 สาขา ทั้งที่ลงทุนเองและเป็นแฟรนไชส์ ซึ่งขณะนี้นับว่าลงตัวแล้วและทำให้ตั้งแต่ปีหน้าสาขาของ 108 ช็อป จะไปในทิศทางขาขึ้นแบบก้าวกระโดด
"ปีนี้เราปิดเป็น 100 สาขา และก็เปิดกว่า 200 สาขา ซึ่งจะทำให้ตั้งแต่ปีหน้า 108 ช็อปสามารถเปิดสาขาใหม่ ๆ ได้อย่างเต็มที่ ปัจจุบันการเลือกทำเลเราแม่นขึ้นเยอะ เดือนแรกก็ทำกำไรได้เลย"
ปัจจุบัน 108 ช็อปมี 700 สาขา เป็นร้านที่บริษัทลงทุนเองเกือบ 500 สาขา ปีหน้าตั้งเป้าไว้ไม่ต่ำกว่า 400 สาขา เป็นลงทุนเอง 200 สาขา และแฟรนไชส์อีก 200 สาขา ปีหน้าจะมีสาขาทะลุ 1,000 สาขาแน่นอน เป้าหมายดังกล่าวยังไม่รวมกรณีการเข้าไปเปิดให้บริการแทนร้านสะดวกซื้อ "สตาร์มาร์ท" ในปั๊มคาลเท็กซ์ ซึ่งบริษัทแม่เชฟรอนที่จะเลิกธุรกิจดังกล่าว
"ที่ผ่านมาเราส่งสินค้าบางรายการให้ร้านสตาร์มาร์ทอยู่แล้ว เมื่อเขาเลิกทำ และแนวโน้มขณะนี้ส่วนใหญ่ก็จะเปลี่ยนมาเป็น 108 ช็อป ดังนั้นปีหน้าเราจะสามารถเพิ่มสาขาได้อีกกว่า 200 สาขา"
นอกจากความลงตัวเรื่องทิศทางขยายสาขาจากการลองผิดลองถูกกับไซซ์ต่าง ๆ มาพอสมควร "เวทิต" ชี้ว่า ตั้งแต่ปีหน้าขนาดที่จะมุ่งเปิดจะเน้นที่ 56 ตร.ม. ซึ่งเป็นขนาดที่พอเหมาะและลงตัวกับความเป็น 108 ช็อป จากเดิมจะเน้นขนาดน้อยกว่า 30 ตร.ม. ที่เล็กเกินไป เช่นเดียวกับทำเลที่ตั้งของร้านก็มาสรุปลงตัวว่า จะมุ่งไปที่ทำเลที่เป็นชุมชนขนาดใหญ่มากขึ้น
ปัจจุบันร้าน 108 ช็อปที่บริษัทลงทุนเองนั้นจะอยู่ในทำเล B- ถึง A แต่หากเป็นแฟรนไชส์จะเน้นเปิดในทำเล C ถึง C+ เมื่อมองในภาพรวม 108 ช็อปมีสาขาที่อยู่ในทำเล A เพียง 70 สาขาเท่านั้น
ดังนั้นตั้งแต่ปีหน้า "เวทิต" ตั้งเป้าว่า จะเน้นขยายสาขาไปที่ทำเลตั้งแต่ B ถึง A นอกจากการขยายตัวของชุมชนในแต่ละแห่งที่มากขึ้นแล้ว ยังเพื่อตอบโจทย์การรุกตลาดกลุ่มอาหารของร้าน 108 ช็อปอีกด้วย
"ทำเลหลัก ๆ เหล่านี้จะช่วยขยายสัดส่วนกลุ่มอาหารให้มากขึ้น โดยเฉพาะอาหารพร้อมทาน หรือเรดดี้ ทู อีต เพราะสินค้ามีอายุจำกัด และต้องมีการหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา"
ปัจจุบันสัดส่วนกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม ของ 108 ช็อปคิดเป็น 65% ของยอดขาย แต่คิดเป็นกลุ่มเรดดี้ ทู อีตเพียง 5%
"สัดส่วนเรดดี้ ทู อีตเราน้อยมาก แต่ในที่สุดเราต้องเดินตามนั้น ตอนนี้ต้องบอกว่า กลุ่มอาหารอยู่ในขั้นกำลังพัฒนา ซึ่งต้องมีระบบ chilled logistic รองรับ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดลองในบางจังหวัด โจทย์ คือ ทำอย่างไรให้ครบทั้งประเทศ โดย ตั้งเป้าว่า สิ้นปี 2553 จะเห็นความแตกต่างในเรื่องนี้อย่างชัดเจน"
แม้จะมีเป้าหมายรุกตลาดอย่างเต็มที่ ตั้งแต่ปีหน้า แต่ "เวทิต" ยืนยันว่า ถึงวันนี้ร้าน 108 ช็อป ไม่ได้มีเป้าหมายแข่งกับบรรดาร้านไฮเปอร์มาร์ตที่ลงมาเล่นในตลาดนี้ หรือกับยักษ์ใหญ่ เซเว่นอีเลฟเว่น เพราะหากเทียบกันแล้วยอดขายของ 108 ช็อป น้อยกว่าถึง 3 เท่า
แต่เป้าหมายของร้านซึ่งเครือสหพัฒน์ยืนยันมาตั้งแต่ต้นที่เปิดให้บริการ คือ การเป็นทางออกของบรรดาโชห่วยเพื่อแข่งขันกับร้านค้าปลีกสมัยใหม่ โดย 108 ช็อปจะทำหน้าที่เป็นเหมือนตัวช่วย ที่ชัดเจน คือ การมีระบบ auto reorder ที่แตกต่างจากร้านสะดวกซื้อรายอื่น ๆ โดยเป็นระบบเติมเต็มสินค้าโดยอัตโนมัติ ที่เมื่อสินค้าหมดก็จะมีการส่งสินค้าในทันที ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคนทั่วไป หรืออากง อาม่าก็สามารถจะดำเนินธุรกิจนี้ได้เช่นกัน
"จุดยืน คือ ต้องการเป็นทางออกของโชห่วย จริง ๆ ธุรกิจซื้อมาขายไปควรจะเป็นอาชีพสำหรับคนในท้องถิ่นเป็นเบสิกที่ใคร ๆ ก็ทำได้ สามารถแข่งขันได้ ธุรกิจนี้สำหรับสหพัฒน์ไม่ใช่ธุรกิจทำกำไร แต่เราต้องการตอบแทนบรรดาร้านโชห่วยที่เคยช่วยเครือสหพัฒน์จนมีทุกวันนี้ เราต้องการปูทางให้พวกเขาสามารถเป็นมวยรุ่นเดียวกับร้านค้าปลีก สมัยใหม่นั่นเอง"
ปีนี้ในภาพรวมบริษัทโตถึง 64% เพราะมีการเปิดสาขาจำนวนมาก แต่หากเทียบยอดขายของร้านเดิมปีต่อปีโตขึ้นที่ 5% ซึ่งมาจากที่ความถี่ในการใช้บริการเพิ่มขึ้นจากที่ชุมชนขยายตัว ขณะที่การซื้อต่อบิลอยู่ในระดับเดิม
Tuesday, November 10, 2009
พันธกิจ...รวมตัวค้าปลีกไทย จุดยืน "เชนสโตร์-โชห่วย" ผลประโยชน์ใคร ?
Image via Wikipedia
และแล้ว "CP 7ELEVEN" ได้กลายเป็นตัวแปรใหม่ที่สร้างความสงสัยอย่างกว้างขวางให้เกิดขึ้นกับแวดวงค้าปลีกไทย
พลันที่ "ซี.พี.ออลล์" นำทีมผู้ประกอบการค้าปลีกไทย อาทิ ตั้งฮั่วเส็ง-HOMEPRO-VILLA MARKET-ช้อยส์ มินิสโตร์ (กลุ่มตันตราภัณฑ์เชียงใหม่ ผู้ดำเนินธุรกิจเซเว่น อีเลฟเว่นในเชียงใหม่ ลำพูน และแม่ฮ่องสอน รวม 160 สาขา) และอื่น ๆ รวม 20 ราย ตั้งโต๊ะแถลงข่าวตั้ง "สมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทย" (The Development of Thai Capital Retailers Association หรือ DTRA) ขึ้นมา ในช่วงบ่ายของวันพุธที่ 4 พฤศจิกายนนี้ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
เป็นการแยกวงจากที่เคยสังกัดอยู่ในสมาคมผู้ค้าปลีกไทย
เช้าวันเดียวกับที่มีแถลงข่าวเปิดตัวนั้น สมาคมผู้ค้าปลีกไทยที่ปัจจุบัน "ธนภณ ตังคณานันท์" ผู้บริหารจากเครือเซ็นทรัล สวมหมวกเป็นประธานต่อเนื่องสมัยที่ 2 ได้เรียกประชุมสมาชิก แม้จะออกตัวว่ายังไม่ทราบแน่ชัดเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของสมาชิกที่แตกตัวออกไปตั้งสมาคมใหม่
"ธนภณ" สงวนท่าทีกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ ทั้งยังมองว่าการรวมกลุ่มกันเป็นเรื่องที่ดีแต่ทุกอย่างย่อมขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และจุดมุ่งหมายของการทำงาน
ขณะที่ "สุวิทย์ กิ่งแก้ว" รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) นายกสมาคม DTRA สด ๆ ร้อน ๆ ระบุว่า ยังคงเป็นสมาชิกของสมาคมผู้ค้าปลีกอยู่ แต่อาจต้องลดบทบาทและการทำงานลงเพื่อมาดูแลสมาคมใหม่นี้อย่างเต็มตัวและเต็มเวลา
สุวิทย์แจกแจงว่า การทำงานหลัก ๆ สมาคมจะเข้ามาดูแลให้ความช่วยเหลือ อบรมความรู้และเทคนิคการบริหารร้านรูปแบบต่าง ๆ แก่สมาชิกกลุ่มค้าปลีก สายพันธุ์ไทยด้วยกันเอง โดยเฉพาะค้าปลีกรายย่อย (โชห่วย) กว่า 4 แสนรายทั่วประเทศที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อต่อสู้และรับมือการแข่งขัน
ทั้งยังให้เหตุผลว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการรวมกลุ่มระหว่างผู้ประกอบการค้าปลีกที่เป็น "ทุนของคนไทย" อย่างชัดเจน ขณะที่ผู้ประกอบการเองก็ต้องการให้มีสมาคมที่เป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือด้านการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการค้าปลีกทุนไทยโดยเฉพาะ และได้กำหนดคุณสมบัติของสมาชิกว่าจะต้องเป็นผู้ประกอบการค้าปลีกที่มีคนไทยเป็น "ผู้ถือหุ้นใหญ่" เท่านั้น
เทียบกับสมาคมผู้ค้าปลีกไทยที่ไม่ได้มีข้อกำหนดนี้
จะเป็นทุนไทย หรือร่วมทุนไทย-เทศ หรือทุนต่างประเทศล้วน ๆ สามารถเป็นสมาชิกสมาคมผู้ค้าปลีกได้ทั้งสิ้น
เมื่อมีข้อกำหนดว่าต้องเป็น "ทุนไทย" อย่างชัดแจ้ง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดที่ย่อมมีคำถามตามมาว่า การก่อตั้งสมาคมใหม่นี้เกี่ยวข้องกับกระแส "ต่อต้านค้าปลีกต่างชาติ" ใช่หรือไม่
คำถามนี้แจ่มชัดขึ้นอีกระดับหนึ่ง เมื่อ "สุวิทย์ กิ่งแก้ว" ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า ภารกิจแรกของ DTRA คือจะเข้าร่วมนำร่องประชาพิจารณ์ที่จังหวัดสงขลา ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากวันแถงข่าวเปิดตัวแค่วันเดียว เพื่อแสดงบทบาทและสะท้อนความต้องการที่เป็นกลุ่มก้อนในฐานะค้าปลีกไทย
หัวขบวนใหม่ผู้นี้ยังมองว่า ร่าง พ.ร.บ. ค้าปลีกฯดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนในหลาย ๆ ประเด็น และเนื้อหาส่วนใหญ่ให้น้ำหนักไปที่กลุ่มโมเดิร์นเทรด แต่ไม่มีมาตรการที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการค้าปลีกรายเล็กที่เป็นรูปธรรมแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ด้านหนึ่งต้องยอมรับว่า ร่าง พ.ร.บ.ค้าปลีกฯที่กำลังแก้ไขกันอยู่นี้ ไม่ได้มีการแยกระหว่าง "ทุนไทย" และ "ทุนต่างประเทศ"
หากแยกระหว่าง "ค้าปลีกสมัยใหม่-โมเดิร์นเทรด" กับ "ค้าปลีกดั้งเดิม-โชห่วย" เป็นประเด็นหลัก
เมื่อดูจากร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ย่อมทำให้ "7ELEVEN" ถูกเหมารวมอยู่ในซีก คอนวีเนี่ยนสโตร์ เฉกเช่นเดียวกับ "TESCO LOTUS EXPRESS"
เป็นยักษ์ใหญ่ที่รุมรังแกโชห่วย
ขณะที่ซูเปอร์มาร์เก็ตสัญชาติไทยอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นFOODLAND GET-IT SUPERMARKETของตั้งฮั่วเส็ง หรือVILLA MARKET ย่อมไม่ต่างอะไรจาก "ตลาดโลตัส"
ย้อนกลับไปที่ประเด็น "ทุนไทย" "ทุนต่างประเทศ" ยังเป็นข้อสังเกตว่า ในกรณีตั้งฮั่วเส็ง-โฮมโปร-วิลล่า มาร์เก็ท คงไม่น่ามีปัญหาสำหรับการนิยามตัวเองว่าเป็นค้าปลีกสายพันธุ์ไทย แต่สำหรับสถานภาพ ของคอนวีเนี่ยนสโตร์ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ที่ยังคงต้องเสียค่าไลเซนส์ให้กับต่างชาติ อยู่นั้นจะอยู่ในนิยามจุดยืนสายพันธุ์ไทยหรือไม่
ขณะเดียวกันถ้าจะเปรียบ "CP ALL" กับ "BIG C" ก็ไม่น่าจะแตกต่างกัน เพราะอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯทั้งคู่ มีผู้ถือหุ้นทั้งไทย-เทศ ผสมปนเปกัน
ประกอบกับเมื่อไล่ย้อนดูบทบาทของ "ซี.พี.ออลล์" เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้มีการส่งตัวแทนไปนั่งเป็นประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทยมาแล้ว ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทุกสายตาย่อมเพ่งมองไปที่การเล่นบท "หัวหอก" ของ ซี.พี.ออลล์ ด้วยแววตาที่สงสัยยิ่ง
กระนั้นก็ตาม หาก "CP ALL" สามารถพิสูจน์ตัวเองว่า ทำเพื่อโชห่วย จริง ๆ ย่อมเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง
ผลจากการกระทำย่อมเป็นตัวชี้เจตนาเป็นอื่นไปไม่ได้
Monday, November 2, 2009
ร้านอิ่มสะดวก 7 ELEVEN...ย้ำ "เราไม่เป็นศัตรูกับโชห่วย"

เมื่อเอ่ยถึง "เซเว่นอีเลฟเว่น" ชื่อนี้ได้รับการการันตีในแง่ของความสะดวกสบายและมีร้านให้จับจ่ายสินค้าที่จำเป็นได้ทุกซอกทุกมุม ทุกหนแห่ง และนับวันธุรกิจก็ยิ่งจะเติบใหญ่และยากที่คู่แข่งจะตามทัน "ประชาชาติธุรกิจ" ได้สนทนากับ "ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ที่ตอนหลังได้เปลี่ยนภาพลักษณ์มาเป็น "ร้านอิ่มสะดวก"
เริ่มจากการอัพเดตมูลค่าเบื้องต้นของ เซเว่นฯ "ก่อศักดิ์" ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้ เซเว่นฯมีสาขาประมาณ 5,100 แห่ง และคาดว่า ในแง่ยอดขายปีนี้น่าจะทำได้กว่า 9 หมื่นล้านบาท อาจจะถึงแสนล้านได้ มีลูกค้าเข้าใช้บริการในร้านประมาณ 6 ล้านราย/วัน จากเมื่อช่วงต้นปีที่มีประมาณ 5 ล้านราย/วัน
ตอนที่ผมมาทำงานเมื่อประมาณปี 2532 หรือประมาณ 20 ปีก่อน ตอนเริ่มต้นตอนนั้นมีประมาณสาขา 27 แห่ง และลูกค้าไม่ถึง 1,000 คน/สาขา
อย่างไรก็ตาม วันนี้เซเว่นฯอาจจะยังถูกเพ่งเล็งว่าเป็นตัวที่ทำให้ร้านโชห่วยลำบาก แต่จริง ๆ สาขาของเซเว่นฯเมื่อไปเปิดที่ไหนแล้ว ทำให้บริเวณนั้นสว่างขึ้น ร้านค้าต่าง ๆ ขายได้ยาวขึ้น ลูกค้ามาเยอะกว่าเพราะร้านเซเว่นฯเปิดโต้รุ่ง ร้านค้า ร้านขายประเภทรถเข็นต่าง ๆ ที่เปิดใกล้ ๆ กับเซเว่นฯก็ขายดีขึ้น
พร้อมกันนี้ประธาน ซีพี ออลล์ยังย้ำด้วยว่า ร้านเซเว่นฯไม่ได้แข่งกับโชห่วย และสินค้าในร้านเราขายแพงที่สุดในประเทศ ขายแพงกว่าร้านโชห่วยทั่วไป สินค้าที่มีขายในร้านเราก็ไม่เหมือนกับ โชห่วย หรืออย่างเครื่องสำอางเราขายแต่โชห่วยไม่ได้ขาย เซเว่นฯเน้นขายอาหาร-เครื่องดื่ม แต่โชห่วยไม่มี เซเว่นฯ ไม่เป็นศัตรูกับโชห่วย
"เซเว่นฯขายความสะดวก ขายอาหาร หิวขึ้นมาจะไปไหนก็มาที่เซเว่นฯ เราเปลี่ยนมาเป็นร้านอิ่มสะดวก ไม่ใช่ร้านสะดวกซื้อ ซึ่งคำว่า สะดวกซื้อเราก็ไม่ได้ตั้งเอง มีคนอื่นตั้งให้"
วกมาถามถึงยอดขายและผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น "ก่อศักดิ์" แจงว่า ตัวเลขยอดขายยังเติบโตดี ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้าน นอกจากมาซื้ออาหาร ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นของใช้ สบู่ รวมทั้งเข้ามาซื้อของจำเป็นที่ขาดเฉพาะหน้า ฯลฯ เขายังเข้ามาจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ
อย่างที่บอกตอนนี้สินค้าในร้านจะเน้นหนักที่กลุ่มอาหาร ดังนั้นจึงมีสัดส่วนของกินถึง 70% และส่วนที่เหลือประมาณ 30% เป็นของใช้
ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ สาขาแต่ละแห่งก็จะขายสินค้าที่มีความแตกต่างกันไปตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นชุมชน โรงเรียน โรงพยาบาล
โดยในร้านจะมีสินค้าให้ลูกค้าเลือกอย่างมากมายประมาณ 5,000-10,000 รายการ และจะมีสินค้าใหม่ตลอดเวลา เพราะนอกจากซัพพลายเออร์ หรือผู้ผลิตจะมีสินค้าใหม่ ๆ ออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่องแล้ว ผู้ผลิตเขาจะมาคุยกับเราตลอดเพื่อหารือกันว่าสินค้าแบบนี้ควรโฆษณาแบบไหน ตั้งราคาอย่างไร
นอกจากนี้ ก็ยังมีซัพพลายเออร์จำนวนไม่น้อยที่ต้องการใช้เซเว่นฯเป็นเวทีแข่งขัน หรือบางรายก็จะใช้เซเว่นฯที่มีสาขามากและครอบคลุมเป็นตัววิจัย ถ้าเซเว่นฯขายได้ก็ย่อมขายได้หมด มีการมาเทสต์ตลาดกับเรา อีกอย่างหนึ่งก็คือ สินค้าในเซเว่นฯเป็นของเครือซีพีไม่ถึง 10%
นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับสินค้าโอท็อปด้วย อย่างอาหารที่เป็นของทานเล่นก็มีวางขายในร้านเซเว่นฯจังหวัด นั้น ๆ เช่น กล้วยตากอบน้ำผึ้ง หรือขนมเค้กฝอยทอง จังหวัดเพชรบุรี สินค้าที่อร่อย ๆ จริง ๆ ขายน้อยแห่งก็เยอะแล้ว หรือมะม่วงดองวราพร ตัวนี้ก็พัฒนาจากกลุ่มแม่บ้าน ตอนนี้ขยับไปสู่การส่งออกซึ่งบริษัทเข้าไปช่วยเขาพัฒนาสินค้า
หรือผลไม้อบแห้ง หรือเถ้าแก่น้อย ส่วนไข่เค็มพันธศักดิ์ ไข่เค็มไชยา ตัวนี้ขายดีทั่วประเทศ เขารวบรวมจากหลายโรงงานทั้งจังหวัด เติบโตดี ขายไม่ทัน
เมื่อถามถึงแคมเปญโปรโมชั่นเกี่ยวกับอาหารที่มีออกมาอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ แม่ทัพใหญ่เซเว่นฯยกเป็นความดีความชอบให้กับทีมงาน พร้อมกับให้ข้อคิดถึงแนวทางการบริหารงานว่า
"...ลูกน้องทำทั้งหมด ที่นี่ฉลาดที่จะให้ลูกน้องทำงาน เรามีลูกน้องเก่ง ๆ ส่วน คนแก่ก็คอยเตือนว่า อย่าไปยุ่งกับลูกน้อง เราคอยให้กำลังใจ เราต้องไม่รวบอำนาจ ถ้ารวบอำนาจเราเป็นเต่าล้านปี ไม่งั้นทำงานไม่ทัน ความทันสมัยเราสู้เด็กไม่ได้ เราจะต้องคอยเปิดหูเปิดตาตลอด ไปต่างประเทศเห็นไอเดียอะไรดี ๆ ก็นำมาทดลองทำ"
นี่เป็นเพียงความเคลื่อนไหวและแนวคิดการบริหารงานของก่อศักดิ์และเซเว่นอีเลฟเว่น
Thursday, October 29, 2009
7 ELEVEN INVESTS 500 MB FRESH DC
"เซเว่นฯ" ยิ้ม อิ่มสะดวก ดันยอดลูกค้าเพิ่ม เตรียมควักอีก 500 ล้านสร้างศูนย์กระจายอาหารสดแถบตะวันออก หวังกระจายตระกูลอาหารกล่องย้ำภาพลักษณ์ใหม่ คาด 5 ปีโมเดลอิ่มสะดวกครอบคลุมทั่วประเทศ
คาดว่า 5 ปีข้างหน้าบริษัทจะมีศูนย์ที่สามารถกระจายอาหารสดได้ทั่วประเทศ เบื้องต้นเน้นกระจายอาหารกล่องพร้อม รับประทานไปที่หัวเมืองใหญ่ ๆ ที่มีศักยภาพก่อน ขณะที่กลุ่มเบเกอรี่จะเจาะกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด ทั้งนี้เพื่อให้ร้านเซเว่นฯทุกสาขาปรับภาพลักษณ์เป็นร้าน อิ่มสะดวกอย่างสมบูรณ์
นายสุวิทย์กล่าวต่อไปว่า สินค้าที่จำหน่ายในร้านอิ่มสะดวกไม่จำเป็นต้องมีสินค้าครบทุกไลน์ แต่ต้องดูที่ความต้องการของผู้บริโภคและความพร้อมของแต่ละพื้นที่เป็นหลัก
ปัจจุบันเซเว่นฯมีอาหารกล่อง 2 ชนิด ได้แก่ อาหารแช่แข็งอีซี่โก ซึ่งสามารถเก็บได้นาน วางจำหน่ายได้ทุกสาขากับอาหารแช่เย็นหรือชิลฟู้ด แบรนด์อีซี่ช้อยส์และ อีซี่เวย์ ซึ่งมีอายุ 3 วัน จำหน่ายในสาขากรุงเทพฯและจังหวัดใกล้เคียง 300 สาขา และสำหรับช่วงเทศกาลอาหารเจที่ผ่านมาก็ได้มีการเพิ่มเมนูเจราคา 35 บาท อีก 4 เมนู ได้แก่ ข้าวกะเพราทรงเครื่องเจ ผัดหมี่ฮ่องกงเจ ข้าวกล่องแกงเขียวหวาน และแกงเผ็ดเป็ดย่างเจ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ครอบครัวรุ่นใหม่ที่มีเวลาเข้าครัวน้อย
"หลังประกาศปรับภาพลักษณ์เป็นร้านอิ่มสะดวกเมื่อต้นปี ควบคู่การใช้หนังโฆษณาภายใต้คอนเซ็ปต์ หิวเมื่อไร ก็แวะมา จำนวน 5 ชุด ตลอดทั้งปีพบว่าลูกค้าเริ่มคุ้นเคยมากขึ้น ประกอบกับผลจากการที่ ลูกค้ากังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทาง จึงหันมาซื้อสินค้าที่ร้านใกล้บ้าน ส่งผลให้ เซเว่นฯมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น"
นายสุวิทย์ยังกล่าวอีกว่า ด้านการพัฒนาธุรกิจไปยังต่างประเทศ บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาตลาดที่เวียดนาม ซึ่งหากต้องไปทำตลาดจริง ๆ จะต้องขอไลเซนส์จากบริษัทแม่อีกครั้ง ส่วนตัวมองว่าหลังเริ่มเปิดเขตการค้าเสรีอาฟต้าน่าจะยิ่งส่งผลดีในแง่ภาษีที่ลดลง และทำให้สินค้าจากประเทศไทยที่จำหน่ายในเซเว่นฯมีโอกาสขยายตลาดมากขึ้น แต่แผนดังกล่าวไม่น่าจะเสร็จทันปีหน้า และต้องใช้เวลาศึกษา อีกสักระยะ อย่างไรก็ตามการเปิดร้าน เซเว่นฯในเวียดนามอาจไม่อยู่ในรูปแบบร้านอิ่มสะดวกเหมือนในเมืองไทยและญี่ปุ่น เพราะกว่าจะพัฒนาโมเดลนี้ต้องใช้ระยะเวลานานนับ 10 ปี
Monday, October 26, 2009
ค้าปลีกเฟ้นโมเดลใหม่หนีกฎเหล็ก ปูพรมไซซ์เล็กเจาะชุมชน-แก้ปมผุดสาขาใหญ่ยาก

ค่ายค้าปลีกออกแรงดิ้นหนีกฎเหล็ก ทยอยเปิดฟอร์แมตใหม่ แก้ปมขอใบอนุญาตยาก-อำนวยความสะดวกลูกค้าปรับพฤติ กรรมชอบซื้อของใกล้บ้าน คาร์ฟูร์สุ่มชิมลางส่งโมเดล "ซิตี้" ทดลองตลาด ขณะที่ "เทสโก้ โลตัส" ประกาศปูพรมสาขาเอ็กซ์เพรส ส่วน "ท็อปส์" ไม่น้อยหน้า ลั่นเปิด ซูเปอร์ไซซ์เล็ก "เดลี่" อีก 40 แห่งทั่วประเทศ
คาร์ฟูร์เทสต์โมเดลใหม่ "ซิตี้"
แหล่งข่าวจากบริษัท เซ็นคาร์ จำกัด ผู้บริหารห้างคาร์ฟูร์ ให้ข้อมูลว่า เป็นการปรับตัวตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมซื้อสินค้าในร้านใกล้บ้าน สินค้าส่วนใหญ่เน้นกลุ่มอาหารโกรเซอรี่ สินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อตอบโจทย์กำลังซื้อลูกค้ากลุ่มระดับกลางและกลาง-บน เป็นโมเดลลอนช์ครั้งแรกที่ฝรั่งเศส เมื่อช่วงต้นปี ประสบความสำเร็จมาก เพราะฝรั่งเศสไม่มีกฎหมายจำกัดเหมือนในประเทศไทย สำหรับในเมืองไทยถือเป็นสาขานำร่องที่อยู่ระหว่างการทดลอง ส่วนการเปิดเพิ่มในอนาคต คงต้องรอดูผลตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายก่อน
จากการสำรวจคาร์ฟูร์ซิตี้ ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม พบว่าจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคคล้ายๆ ซูเปอร์มาร์เก็ต ทั่ว ๆ ไป สินค้าส่วนใหญ่เป็นแบรนด์หลัก ในตลาดและเฮาส์แบรนด์ คาร์ฟูร์ และไส้กรอก ขนมจีบ ซาลาเปา เบอร์เกอร์ มีมุมจำหน่ายซีดีเพลงและภาพยนตร์ รวมถึงมุมกาแฟให้ลูกค้านั่งพัก รวมทั้งมีบริการรับชำระค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากการเปิดโมเดลใหม่ดังกล่าว ที่ผ่านมาคาร์ฟูร์ได้ทยอยเปิดสาขาเพิ่ม เช่น สาขาเดอะมาร์เก็ต ที่บางโพ ที่มีขนาด 2,000 ตร.ม. และเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเปิดสาขา เต็มรูปแบบที่รังสิต คลอง 4 เร็ว ๆ นี้จะเปิดเพิ่มอีกที่ชุมพร และยังมีกระแสข่าวว่าอยู่ระหว่างการหาพื้นที่จังหวัดตรังด้วย
เทสโก้ฯเร่งปูพรม "เอ็กซ์เพรส"
ดร.ดามพ์ สุคนธทรัพย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้บริหารห้างเทสโก้ โลตัส ให้ข้อมูล "ประชา ชาติธุรกิจ" ว่า ร้านทุกขนาดเกิดขึ้นตามความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งสอดคล้องกับการขยายตัวของชุมชน ซึ่งปัจจุบันค้าปลีกในเมืองไทยมีประมาณ 10,000 แห่ง และมีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคตจะได้เห็นภาพของมินิมาร์ตและคอนวีเนี่ยนสโตร์ที่ตอบโจทย์รายได้และวิถีชีวิตของคนในชุมชนเพิ่มจำนวนมากขึ้น ขณะเดียวกันในแง่การแข่งขันก็จะมีความรุนแรงตามศักยภาพของแต่ละพื้นที่
สำหรับเทสโก้ โลตัสก็จะยังคงเดินหน้าขยายสาขาที่เป็นโมเดลโลตัส เอ็กซ์เพรส อย่างต่อเนื่อง ปีหน้าจะเปิดอีก 50-60 สาขา ใช้พื้นที่ต่อสาขา 300 ตารางเมตร ภายใต้คอนเซ็ปต์ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็ก จำหน่ายทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคและอาหารสด
ขณะที่แหล่งข่าวจากเทสโก้ โลตัสอีกรายหนึ่งยอมรับว่า การขอใบอนุญาตการก่อสร้างสาขาขนาดใหญ่ในย่านชุมชน ประกอบกับโลเกชั่นดี ๆ หายากขึ้น ทำให้ ผู้ประกอบการทุกค่ายต่างต้องพยายามสร้างหรือโมเดลค้าปลีกรูปแบบใหม่ ๆ ขึ้นมารองรับ โดยเฉพาะไซซ์เล็กที่สามารถดำเนินการได้งานและสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภค รวมทั้งการขยายตัวของชุมชนที่มีมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมาเทสโก้ โลตัสเป็นค่ายหนึ่งที่มีโมเดลใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากสาขาในรูปแบบที่เป็นคอมมิวนิตี้มอลล์ อย่างแอทพาร์ค แอทการ์เด้นท์ และแอทโอเอซิส แล้วโมเดลที่น่าสนใจและได้รับการตอบรับจากผู้เช่าพื้นที่และลูกค้าก็คือพลัส ช็อปปิ้งมอลล์ ซึ่งเป็นการปรับสาขาเดิมที่มีอยู่แล้ว และเพิ่มพื้นที่เช่าสำหรับผู้ประกอบการรายเล็ก ปัจจุบันมี 2 สาขา ล่าสุดที่เพิ่งเปิดไปก็คือพลัส อมตะนคร และเร็วๆ นี้จะเปิดให้บริการสาขาเต็มรูปแบบที่จังหวัดสตูล ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดโลตัส เอ็กซ์เพรสไปแล้วที่อำเภอละงู
"กม." บีบค้าปลีกผุดฟอร์แมตใหม่
นายธนภณ ตังคณานันท์ นายกสมาคมค้าปลีกไทย กล่าวในเรื่องนี้ว่า ปกติผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่จะมีสาขาหลาย ๆ ฟอร์แมต ไม่ว่าจะเป็นไฮเปอร์ มาร์เก็ตซูเปอร์มาร์เก็ต คอนวีเนี่ยนสโตร์ กึ่งคอนวีเนี่ยนสโตร์ ฯลฯ การที่ค้าปลีกรายใหญ่หันมาเปิดฟอร์แมตใหม่ ๆ มากขึ้น หลักๆ เป็นผลมาจากกฎระเบียบที่เข้มงวด ทำให้ผู้ประกอบการต้องนำฟอร์แมตใหม่ๆ มาให้บริการ ส่วนอีกประเด็นหนึ่งก็คือเป็นการปรับตัวเพื่อให้เข้าถึงและอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภค
"ตอนนี้ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด การเปิดสาขาขนาดใหญ่ทำได้ยากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากเรื่องโซนนิ่ง การควบคุมอาคาร และยังมีเรื่องของ พ.ร.บ.ค้าปลีกฯ ที่กำลังจะมีออกมาอีก ซึ่งก็จะทำให้มีเงื่อนไขที่ยากมากขึ้นไปอีก"
ขณะที่นางสาวภัทรพร เพ็ญประพัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดใหญ่สายการตลาดและประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหารท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต แสดงความเห็นว่า เหตุผลที่ค้าปลีกรายใหญ่หันมาเปิดโมเดลค้าปลีกขนาดเล็กมากขึ้น นอกจากกฎหมายโซนนิ่งที่ทำให้เปิดสาขาขนาดใหญ่ยากขึ้นแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งก็คือการมุ่งตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้าเรื่องการช็อปใกล้บ้าน
นางสาวภัทรพรยังอ้างถึงผลสำรวจของเอ.ซี.นีลเส็นที่ระบุว่า ที่ผ่านมาคอนวีเนี่ยนสโตร์มีการเติบโตสูงมาก รวมถึงร้านโชห่วย ขณะที่ทั่วประเทศมีไฮเปอร์มาร์เก็ตกว่า 250 สาขา ซูเปอร์มาร์เก็ต 200 สาขา คนที่อยากได้มาร์เก็ตแชร์ก็ต้องมองหาโอกาสใหม่ ๆ
"ท็อปส์ เดลี่ ป็นโมเดลขนาดเล็กที่สุดของท็อปส์ ตอนนี้ มี 17 สาขา จะเป?ดอีก 5 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ และจะเปิดอีก 40 สาขา ในปีหน้า โมเดลนี้ลูกค้ามีความถี่ในการใช้บริการมากที่สุด เฉลี่ยอยู่ที่ 3-3.5 ครั้งต่อสัปดาห์ สิ่งที่เป็นจุดแข็งของท็อปส์ เดลี่ คือการพยายามเพิ่มสินค้ากลุ่มอาหารสด"
Wednesday, October 14, 2009
CARREFOUR LAUNCHES "CITY" ITS FIRST MINI FORMAT
French hypermarket chain Carrefour is launching a new retail format to bolster its position in the Thai market.
Thailand’s first 300-squaremetre Carrefour City convenience store is a retail anchor at Urban Square community mall near Dhurakij Pundit University.
It opened its first mini-supermarket in Bangkok's Pracha Chuen area last Saturday.
CenCar Co, the local Carrefour operator, opened the "Carrefour City" store at Urban Square, a new community mall developed by Chananin Co, located behind Dhurakij Pundit University.
The new-format 300-square-metre retail outlet is double the size of a Tesco-Lotus Express store, its direct competitor. Carrefour City opens daily from 7am-11pm.
The store provides both ready-to-eat meals and other convenience products for breakfast and lunch, as well as groceries, frozen foods, drinks and household products.
The French retail giant Carrefour Group launched the Carrefour City format in France early this year, promoting it as a new convenience store concept which capitalises on the Carrefour brand.
Carrefour has operated in Thailand for 12 years but the operator has focused exclusively on hypermarkets. Three Carrefour hypermarket formats are available in the Thai market: the standard format with 6,000 sq m of retail space; the compact format with 4,000 sq m; and the mini format with 2,000 sq m. Arch-rival Tesco Lotus operates six retail formats locally. France-based Casino offers three formats - Big C Supercenter, Mini Big C and Pure by Big C.
Launching the new store format confirms that Carrefour will continue its Thai operations despite rumours that it wanted to pull out from growth markets, especially in Asia.
Lars Olofsson, CEO of Carrefour Group, said its strategy approved by the board in March remained unchanged as the group's geographic priorities are France, other European countries and growth markets, particularly Brazil, India and China.
About the author