Pages

Showing posts with label S and P. Show all posts
Showing posts with label S and P. Show all posts

Wednesday, June 13, 2012

ยุทธศาสตร์บุกร้านอาหารญี่ปุ่น ภายใต้เจนฯ 2 "เอส แอนด์ พี"


หาก จะพูดถึงอาหารที่ฮิตที่สุดในยุคนี้ ไม่มีใครปฏิเสธความร้อนแรงของ "อาหารญี่ปุ่น" ที่ปัจจุบันยึดครองห้างและศูนย์การค้าทุกแห่ง ด้วยปริมาณพื้นที่ที่มากที่สุดหากเทียบกับร้านอาหารทุกประเภทกับจำนวนแบรนด์ ที่หลากหลาย ครอบคลุมไปยังอาหารญี่ปุ่นทุกประเภท ด้วยอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% ทุกปี

ไม่แปลกที่ตลาดนี้กลายเป็น ตลาดที่หอมหวนที่ใคร ๆ ก็อยากกระโดดลงมาด้วยกันทั้งสิ้น รวมถึงยักษ์ร้านอาหารไทย "เอส แอนด์ พี" ที่อยู่ในวงการร้านอาหารมานานกว่า 30 ปี กับปีนี้ถือเป็นการ "บิ๊กมูฟ" กับการเปิดธุรกิจใหม่กับ "ร้านอาหารญี่ปุ่น" อย่างจริงจัง โดยมอบหมายให้ "ธีรกรณ์ ไรวา" ผู้จัดการส่วนพัฒนาธุรกิจ บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง

"ธีรกรณ์" หรือ "เจม" ทายาทตระกูลไรวา ผู้ก่อตั้งอาณาจักรร้านอาหารเอส แอนด์ พี ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 2 ที่เข้ามาช่วยธุรกิจครอบครัว หลังจากมีประสบการณ์ทำงานเป็น "เอ็นจิเนียร์ โปรแกรมเมอร์" อยู่ในญี่ปุ่นถึง 5 ปี ทำให้เขาสั่งสมประสบการณ์ ซึมซับวัฒนธรรมและรสชาติอาหารญี่ปุ่น ก่อเกิดเป็นแรงบันดาลใจที่อยากทำธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น เข้ามาเสริมและต่อยอดธุรกิจของครอบครัว

Sunday, September 4, 2011

MINOR S&P...สยบข่าว "ไม่ซื้อ-ไม่ขาย" แต่แนบแน่นกว่าเดิม


ธุรกิจร้านอาหารขณะนี้ถือว่ามีความเคลื่อนไหวให้น่าจับตามองอยู่เป็นระยะ ๆ ที่ฮือฮาที่สุดในช่วงปลายสัปดาห์ ที่ผ่านมาเห็นจะเป็นกรณีของ "ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล" หรือ MINT ประกาศทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์หุ้นของ "เอส แอนด์ พี" กลุ่มธุรกิจร้านอาหารของตระกูลศิลาอ่อน และไรวา หรือพูดง่าย ๆ ก็ทำประกาศเทกโอเวอร์นั่นเอง

แต่เอาเข้าจริงแล้วกลับกลายเป็น เรื่องทางเทคนิคและกฎระเบียบของ ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ทางไมเนอร์ฯต้องทำตามกฎเมื่อถือหุ้นข้ามเส้น 25% ทำให้ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด หรือเทกโอเวอร์นั่นเอง ที่มาที่ไปก็เกิดจากเอส แอนด์ พีทำโครงการซื้อหุ้นคืนตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของไมเนอร์ฯปรับมาอยู่ที่ 26.28%

Monday, August 29, 2011

MINOR FOOD GROUP (เดอะ พิซซ่า) ทุ่ม 5พันล้านเทคฯ"เอส แอนด์ พี" ตระกูล"ศิลาอ่อน-ไรวา"ลั่นไม่ขาย


เมื่อวันที่ 26สิงหาคม 2554 บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (MINT) บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำในธุรกิจด้านด้านอาหาร โดยมีแบรนด์ชั้นนำ อาทิเช่น เดอะ พิซซ่า คอมปะนี, สเวนเซนส์, ซิซซ์เล่อร์, แดรี่ ควีน, เบอร์เกอร์ คิง และเดอะ คอฟฟี่ คลับ แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่าที่ประชุมคณะกรรมการของ บริษัทไมเนอร์ฯเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2554 ได้มีมติอนุมัติให้ MINTทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัทโดยความสมัครใจ (Voluntary Tender Offer) จากผู้ถือหุ้นของ S&P ทุกราย รวมจำนวน 72,302,773 หุ้น โดยไม่รวมหุ้นซื้อคืน (Treasury Stock)  ของบริษัท และหุ้นของบริษัทที่ MINTถืออยู่ ในราคาหุ้นละ 70 บาท คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 5,061.19 ล้านบาท โดย MINTคาดว่าจะยื่นแบบประกาศเจตนาในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ (แบบ 247 - 3)และคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (แบบ 247 - 4) ภายในวันที่ 30 สิงหาคม 2554 และวันที่ 8 กันยายน 2554 ตามลำดับ


Thursday, October 21, 2010

S & P AIMS TO REBRANDING

นายวิทูร ศิลาอ่อน รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธุรกิจอาหารในประเทศ
บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน)

เอสแอนด์พีเดินหน้ารีแบรนดิ้งครั้งใหญ่ในรอบ 15 ปี เริ่มเฟสแรกปรับโลโก้ดีไซน์ สาขา-แพ็กเกจจิ้งสินค้า มุ่งสู่ความทันสมัย พร้อมรีโพซิชันนิ่งลบภาพอาหารไทย ปั้นอิมเมจ อินเตอร์เนชั่นนอลคาเฟ่Ž เผยแผนต้นปีหน้าเตรียมเปิดตัวร้านอาหารญี่ปุ่นหวังขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ พร้อมเล็งลุยอาหารจานด่วน มั่นใจสิ้นปีโตตามเป้า 13%

เอสแอนด์พีแบรนด์เก่าแก่ของไทยที่วันนี้มีทีมงานเจเนอเรชั่นใหม่ ๆ เข้ามาสานต่อธุรกิจ พร้อมกับภารกิจปรับภาพลักษณ์    แบรนด์ให้ทันสมัย ก้าวสู่ความเป็นอินเตอร์แบรนด์มากขึ้น รวมถึงพัฒนาคอนเซ็ปต์ร้านใหม่ ๆ แบรนด์ใหม่ เพื่อขยายฐานลูกค้าโดยไม่จำกัดอยู่แค่เพียง เอสแอนด์พีกับฐานลูกค้าที่เคยมีอยู่เท่านั้น

รีแบรนด์ใหญ่ในรอบ 15 ปี
นายวิทูร ศิลาอ่อน รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธุรกิจอาหารในประเทศ บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เปิดเผย ประชาชาติธุรกิจว่า ปีนี้เป็นปีที่มีการลงทุนด้านการตลาดมากขึ้น เพื่อสร้างแบรนด์โดยใช้งบฯหลายสิบล้านบาทเพื่อ    รีแบรนดิ้ง เปลี่ยนโลโก้ ดีไซน์ใหม่ เพื่อทำให้แบรนด์เอสแอนด์พีมีความทันสมัยและมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นในมุมมองของผู้บริโภค โดยเริ่มใช้โลโก้ดีไซน์ใหม่ในสื่อโฆษณาต่าง ๆ ไปตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ส่วนป้ายร้านตามสาขาต่าง ๆ จะทยอยปรับ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นใน 2 ปี

ทั้งนี้ ถือเป็นการปรับครั้งใหญ่ในรอบ 15 ปี ปัจจุบันเอสแอนด์พีมีอายุครบ 37 ปี เป็นการปรับ total experience ของผู้บริโภคที่มีต่อเอสแอนด์พี ทั้งบรรยากาศร้าน การจัดวางสินค้า ดีไซน์ แพ็กเกจจิ้ง ต้องไปในทิศทางเดียวกัน หลังจากนี้บริษัทจะมีไกด์หรือทิศทางบิวต์แบรนด์ชัดเจน รวมถึงการบริการที่จากนี้ไปจะเน้นลงทุนเรื่องเทรนนิ่งมากขึ้น

"ขณะนี้การปรับยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น   เริ่มจากโลโก้ไปจนถึงแพ็กเกจจิ้ง ตอนนี้จะเห็นในควิกมีล อาหารพร้อมทานของเอสแอนด์พีที่เป็นแพ็กเกจจิ้งใหม่ หลังจากนี้ก็จะทยอยปรับไปทุกตัวสินค้าภายใต้แบรนด์เอสแอนด์พี โดยเฉพาะสินค้าที่วางจำหน่ายในค้าปลีกต่าง ๆ ซึ่งมีการแข่งขันสูงมาก ที่ผ่านมาการดีไซน์ค่อนข้างสะเปะสะปะ อาหารแบบหนึ่ง คุกกี้แบบหนึ่ง ไส้กรอกอีกแบบ ไม่กลมเกลียวกัน ทำให้ผู้บริโภคหาสินค้าเอสแอนด์พียาก แต่หลังจากนี้เห็นปุ๊บจะรู้เลย คาดว่ากลางปีหน้าจะสามารถเปลี่ยนได้ครบทุกสินค้า"

LinkWithin

Related Posts with Thumbnails