Pages

Showing posts with label Makro. Show all posts
Showing posts with label Makro. Show all posts

Wednesday, June 13, 2012

Makro tasked with Took Jai deliveries


The Commerce Ministry will ask Makro to help distribute products to Took Jai shops nationwide if Thailand Post cannot solve its delivery problems, says the Internal Trade Department.

Some 3,000 Took Jai shops including 500 in Bangkok sell low-priced goods to consumers nationwide.

The department is maintaining its target of 10,000 shops total in operation by the end of this month.

Santichai Santawanpas, the department's deputy director-general, said project delays stem from slow budget approval and Thailand Post's inability to deliver products to retailers.

Outsourcing firms have been hired to help speed up deliveries.

Retailers place their orders twice a month with an average order value of 7,000 to 8,000 baht.

Monday, October 24, 2011

ค้าปลีก "ระดมทุน" ครั้งใหม่ "BIG C" เร่งผุดสาขาเบียด "TESCO"


บิ๊กซี สาขามหาชัย

สถานการณ์น้ำท่วมที่กินพื้นที่ในหลายจังหวัดและส่งผลกระทบกับทุกธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกที่ต้องเผชิญปัญหาด้านโลจิสติกส์และกำลังซื้อที่หายไปในบางพื้นที่

ทว่าในระยะยาว ค้าปลีกไม่สามารถหยุดการขยายตัวซึ่งเป็นหัวใจในการดำเนินธุรกิจ ยิ่งในภาวะการแข่งขันที่จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นหลังจากนี้ และเทรนด์ที่เกิดขึ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมไฮเปอร์มาร์เก็ตขณะนี้ ทั้ง เทสโก้ โลตัส และ บิ๊กซี ต่างพยายามหาแหล่งเงินทุนใหม่ในการขยายสาขา แทนการพึ่งพาเงินจากเพียงบริษัทแม่ในต่างประเทศ

Wednesday, August 24, 2011

BIG C ผุดโมเดลค้าส่งประกบ MAKRO

เปิดศึกชิงลูกค้ากลุ่มโฮเรก้า   "บิ๊กซี" แจ้งเกิดโมเดลขายส่ง 2 รูปแบบรวด ประเดิม "บิ๊กซี จัมโบ้ สเตชั่น" พัทยาใต้ส.ค. นี้ ตามติดด้วยบิ๊กซี จัมโบ้ สำโรงในปลายปี
ขณะที่ "แม็คโคร"  ชูซีอาร์เอ็ม สร้างลอยัลตี มั่นใจรักษาฐานลูกค้าเหนียวแน่น เผยเตรียมผุดอีก 3 สาขารับตลาดโต
ดร. สรินทิพย์ สถิตย์เสถียร  รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)  ผู้บริหารบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า  จากแนวคิดที่ต้องการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหารและจัดเลี้ยง หรือโฮเรก้า (Hotel ,Restaurant ,Catering : HORECA) ทำให้บริษัทพัฒนาค้าปลีกรูปแบบใหม่ที่เน้นการขายส่งขึ้น ใน 2 รูปแบบ ได้แก่ "บิ๊กซี จัมโบ้ สเตชั่น"  และ "บิ๊กซี จัมโบ้"   เพื่อนำเสนอสินค้าในราคาขายส่งให้กับผู้ประกอบการ โดยบิ๊กซี จัมโบ้ สเตชั่น สาขาแรกจะเกิดขึ้นที่พัทยาใต้  ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว และมีผู้ประกอบการกลุ่มโฮเรก้า จำนวนมาก

Tuesday, August 23, 2011

MAKRO AIMS B100bn SALES IN 2012


CEO Suchada Ithijarukul displays some of the consumer products distributed by Siam Makro, which specialises in serving small retailers, hotels, restaurants and related businesses.

Siam Makro Plc, the country's largest operator of cash-and-carry stores, expects its sales to hit 100 billion baht next year driven by higher domestic consumption stimulated by government spending and higher wages.
"The economic problems in the United States and Europe may affect Thailand's exports and tourism, but we will not feel that impact because we offer consumer necessities," said CEO Suchada Ithijarukul.

Tuesday, August 2, 2011

BIG C CHALLENGING MAKRO

Big C Supercenter Plc is expanding into the cash-and-carry store business, challenging the dominance of Siam Makro.

The first Big C Jumbo, formerly Carrefour Samrong, had its soft opening near the Pu Chao Saming Phrai intersection in Samut Prakan last week.

Monday, January 17, 2011

ยักษ์ค้าปลีกปูพรมผุด"ไซซ์เล็ก" 7ELEVEN ขยายพื้นที่เป็น3คูหา นำร่อง30จุด

เปิดแผนยักษ์ค้าปลีก ปูพรมสาขารับกำลังซื้อปี′54 ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.ค้าปลีกค้าส่งไปไม่ถึงไหน ค้างอยู่ที่กฤษฎีกา เผยไซซ์เล็กผุดเป็นดอกเห็ด เทสโก้ โลตัส ควัก 7 พันล้าน เปิดสาขาครบทุกขนาด ตั้งแต่เล็กสุดยันใหญ่สุด "บิ๊กซี" ตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ 4 แห่งรวด ส่วนเซเว่นฯตั้งเป้าทั้งปี 500 แห่ง พร้อมเปิดแนวรบใหม่ เพิ่มพื้นที่สาขาเดิมจาก 2 คูหา เป็น 3 คูหา นำร่อง 30 จุด

 ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง พ.ศ. ...อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยที่รัฐใช้ประกาศผังเมืองควบคุมการขยายสาขา อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่ต่างยังคงเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสาขาขนาดเล็ก ซึ่งผังเมืองเปิดช่องให้การขยายสาขาที่มีพื้นที่ต่ำกว่า 300 ตารางเมตร 
 จากข้อจำกัดในการขยายสาขาที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ประกอบการเร่งขยายสาขา ตั้งแต่ช่วงปี 2550-2551 เป็นต้นมา โดยอาศัยช่องว่างทางกฎหมายที่ยังเปิดช่องให้ในหลาย ๆ กรณี 

สอดคล้องกับข้อมูลการเปิดสาขาของผู้ประกอบการค้าปลีกสมัยใหม่ของสำนักงานส่งเสริมการแข่งขันทางการค้า กระทรวงพาณิชย์ (พิจารณาตารางประกอบ) เช่น เทสโก้ โลตัส ที่เปิดสาขาเอ็กซ์เพรสอย่างก้าวกระโดด จาก 200 แห่งในปี 2549 เพิ่มเป็น 460 แห่งในปี 2552 หรือตลาดโลตัส ที่ปี 2550 มี 27 แห่ง ก็เพิ่มเป็น 65 แห่งในปี 2552 และค่ายนี้ยังเร่งเปิดสาขาขนาดใหญ่ (ไฮเปอร์มาร์เก็ต) เพิ่มถึง 20 แห่ง จากปี 2550 ที่มี 59 สาขา เพิ่มเป็น 79 สาขาในปี 2551

Monday, January 10, 2011

ตรวจแนวรบค้าปลีกเชียงใหม่ ปูพรมขยายสาขารับกำลังซื้ออนาคต

Central Chiangrai

เปิดศักราชปีเถาะ น่าจะเป็นอีกปีหนึ่งที่แวดวงโมเดิร์นเทรด หรือค้าปลีก-ค้าส่งของเมืองเชียงใหม่ จะทวีดีกรีการแข่งขันที่รุนแรงและดุเดือดอีกระลอกจากการรุกเข้ามาของกลุ่มทุนค้าปลีก-ค้าส่งข้ามชาติอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะนี้มีห้างโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่ 8 แห่ง ขนาดกลาง 5 แห่ง ร้านสะดวกซื้อ 7-11 และโลตัส เอ็กซ์เพรส มากกว่า 200 แห่ง



ขณะที่ "กลุ่มบิ๊กซี" กลายเป็นตัวแปรสำคัญ หลังจากเทกโอเวอร์คาร์ฟูร์ในเมืองไทย หมายความว่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ บิ๊กซีจะมีสาขามากที่สุดถึง 4 แห่ง

บิ๊กซีครองพื้นที่มากสุด 4 สาขา

สมรภูมิค้าปลีก-ค้าส่งเชียงใหม่จึงแบ่งเวทีการแข่งขัน หรือเซ็กเมนต์ ออกเป็น 3 ระดับ ที่รายล้อมโอบเมืองเชียงใหม่ กวาดกำลังซื้อของผู้บริโภคเชียงใหม่และใกล้เคียงอย่างไม่หยุดยั้ง

นั่นคือกลุ่มไฮเปอร์มาร์เก็ตเหลืออยู่เพียง 3 แบรนด์ ได้แก่ ห้างบิ๊กซี มีทั้งสิ้น 4 แห่ง ได้แก่ สาขาดอนจั่น, สาขาแม่เหียะ, สาขาเชียงใหม่ บิสซิเนส ปาร์ค และสาขาหางดง ไม่รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงอย่างลำพูนอีก 1 สาขา ส่วนเทสโก้ โลตัส และแม็คโคร มีสาขาอย่างละ 2 แห่ง ฉะนั้นในปี 2554 ต้องจับตาการขยับตัวของเทสโก้ โลตัส และแม็คโครว่าจะจัดโปรโมชั่นเพื่อชนกับ บิ๊กซีอย่างไร

Thursday, September 30, 2010

ROBINSON...เขย่าค้าปลีกเมืองตรังระอุ 'สิริบรรณฯ' ทุนท้องถิ่นปรับทัพสู้

จังหวัดตรัง แม้จะเป็นจังหวัดเล็ก ๆ จังหวัดหนึ่งในภาคใต้

ในปี 2552 มีประชากรประมาณ 615,000 คน มีรายได้ต่อคน ปีละ 97,000 บาท ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 8 จาก 14 จังหวัดภาคใต้ แต่ในด้านของกำลังซื้อถือว่าอยู่ในอันดับต้น ๆ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้กลุ่มทุนค้าปลีกข้ามชาติพาเหรดเข้ามาลงทุนในจังหวัดตรังอย่างรวดเร็ว

ทั้งเทสโก้ โลตัส และแม็คโคร ที่สร้าง ยอดขายถล่มทลาย

ผลจากการลงทุนของยักษ์ค้าปลีกดังกล่าวทำให้ธุรกิจค้าปลีกทั้งเล็กและใหญ่ในจังหวัดตรังได้รับผลกระทบไปตาม ๆ กัน ผู้ประกอบการใดสายป่านยาวก็อยู่ได้ หากสายป่านสั้นก็ต้องเลิกกิจการไป อาทิ ห้างสรรพสินค้าเดิมที่เปิดให้บริการด้วยทุนคนท้องถิ่นในจังหวัดตรัง 3 ราย คือ ห้างสรรพสินค้าไดมอนด์ดีพาร์ทเมนต์สโตร์ ห้างสรรพสินค้าสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ และห้างสรรพสินค้าตรังพลาซ่า

กลุ่มที่ต้องปิดกิจการไปในระยะเวลาอันรวดเร็ว 2 แห่ง นั่นคือไดมอนด์ฯและตรังพลาซ่า จะเหลือก็แต่สิริบรรณฯเท่านั้นที่ยังเปิดให้บริการจนถึงปัจจุบัน แต่กำลังจะเจอศึกหนักอีกระลอก เมื่อกลุ่มทุนค้าปลีกใหญ่ของประเทศ "โรบินสัน" ในเครือเซ็นทรัล เตรียมจะเปิดบริการภายในเดือนพฤศจิกายน 2553 นี้

Thursday, March 25, 2010

MAKRO โล่งเมืองท่องเที่ยวยอดพุ่งอานิสงส์คนหนีม็อบออกตจว.



"แม็คโคร" โล่งอกตัวเลขเมืองท่องเที่ยวเวิร์ก ผลพวงจากคนหนีม็อบออก ตจว. พร้อมเตรียมทุ่มงบฯรีโนเวตสาขาเมืองท่องเที่ยวรับตลาดโฮเรก้าบูม เผยแผนเปิดสาขาใหม่ เมืองกาญจน์-ลพบุรี



นางสุชาดา อิทธิจารุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-กุมภาพันธ์) แม็คโครมีการเติบโตต่อเนื่องเป็นเลข 2 หลัก แต่หลังจากมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองในเดือนมีนาคมแม็คโครก็ได้รับผลกระทบบ้าง บรรยากาศเงียบลงเล็กน้อยเนื่องจากผู้บริโภคเกิดความกังวลโดยเฉพาะสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น โทรทัศน์ขนาดใหญ่



ขณะนี้แม้ว่าหลาย ๆ ธุรกิจอาจจะได้รับผลกระทบดังกล่าวโดยเฉพาะการท่องเที่ยว ซึ่งสมาคมโรงแรมระบุว่าตัวเลขการจองห้องของโรงแรมในกรุงเทพฯลดลง แต่สำหรับแม็คโครเองโดยเฉพาะสาขาในต่างจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยว ถ้าดูจากยอดอาหารสดที่ผ่านมาสาขาเมืองท่องเที่ยวโตมากกว่า 30% ขณะที่สาขาในกรุงเทพฯโตเพียง 10% ส่วนหนึ่งเพราะนักท่องเที่ยวหนีจากกรุงเทพฯไปเที่ยวต่างจังหวัด




"ลูกค้าเราไม่ใช่กลุ่มโรงแรม 5-6 ดาว แต่ส่วนใหญ่กว่า 60% เป็นร้านโชห่วย เป็นรถเข็นริมถนน และอีก 17% เป็นกลุ่ม โฮเรก้าหรือรีสอร์ตต่างจังหวัด บูติคโฮเต็ล การตัดสินใจซื้อของลูกค้าขึ้นอยู่กับกำลังซื้อและอารมณ์ บางคนมีกำลังซื้อแต่ไม่มีอารมณ์ก็ไม่ซื้อ แต่ธุรกิจของแม็คโครขายสินค้าที่เขาจำเป็นต้องซื้อ"



นางสุชาดากล่าวว่า หากเหตุการณ์ลากยาวกระทบถึงการท่องเที่ยวก็อาจกระทบไปถึงกำลังซื้อ แผนเปิดสาขาใหม่ปีนี้มี 3 แห่ง ที่เปิดไปแล้วในเดือนกุมภาพันธ์ที่กำแพงเพชร และเมษายนนี้มีแผนจะเปิดที่กาญจนบุรี และช่วงกลางปีที่ลพบุรี



ปัจจุบันแม็คโครมีสาขาตามเมืองท่องเที่ยว 4 แห่งได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ สมุย และพัทยา โดยเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วได้ทุ่มงบฯ 50 ล้านบาทในการรีโนเวตสาขาภูเก็ตที่เปิดมา 4-5 ปี โดยติดเครื่องปรับอากาศ เพิ่มตู้แช่ ปรับเลย์เอาต์ ด้วยการนำกลุ่มอาหารสดมาไว้ข้างหน้าเพื่อให้สอดคล้องกับตลาดโฮเรก้า (โรงแรม ภัตตาคาร และธุรกิจจัดเลี้ยง) จากนี้ไปจะพิจารณารีโนเวตสาขาเมืองท่องเที่ยวต่อ ๆ ไป



และเพื่อกระตุ้นลูกค้าโฮเรก้าที่มีสมาชิกประมาณ 200,000 ราย แม็คโครได้ร่วมกับพันธมิตร 260 ราย จัดงานแม็คโคร โฮเรก้า 2010 ครั้งที่ 5 (18-21 มีนาคม) เปิดโอกาสให้ผู้ต้องการอาชีพเสริมหรือเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำไปต่อยอดธุรกิจ คาดว่าตลอด 4 วันจะมีผู้เข้าร่วมงาน 70,000 คน เพิ่มจากปีที่แล้วที่จัดงาน 3 วัน และมีผู้ร่วมงาน 50,000 คน ขณะที่ในต่างจังหวัดก็มีการจัดงานโฮเรก้าเดย์ในแต่ละสาขาด้วย



"ปีที่แล้วแม็คโครมีการเติบโต 6% ตลอดทั้งปีนี้คาดว่าบริษัทจะเติบโตมากกว่าจีดีพีของประเทศ ซึ่งคาดว่าจะเติบโต 4-5%" นางสุชาดากล่าว



Monday, February 15, 2010

Makro puts grocery stores on wheels




Siam Makro Plc, the operator of Makro cash-and-carry stores, has joined with DFM Mini Truck (Thailand) Co, to roll out mobile grocery stores to attract small retailers.

Under the scheme, DFM and Makro will co-design the mini trucks and approach grocery-store owners to buy them to transport their goods or use them as mobile grocery stores, restaurants, bakery and coffee shops, said Pitaya Tanadamrongsak, managing director of DFM, the importer of DFM multi-purpose trucks from China.


DFM will organise roadshows at all 45 Makro outlets to introduce the mini-trucks to prospective investors.
The trucks will be available in two formats. The counter format allows shoppers to buy products around the truck and the walk-in format allows customers to choose products inside.

DFM charges 400,000 baht for a truck and another 100,000 baht for product inventory. Makro will have seven product groups for shop owners to buy and sell at their mobile stores.

"We expect to sell 100 trucks to shop owners and investors after ending our truck roadshows," Mr Pitaya said.

Shop owners can pay DFM for the trucks in installment at an affordable minimum rate of 160 baht a day. Based on the projected sales, the shop owners can break even within one year.

Mr Pitaya said the company had 27 dealers to provide maintenance in 22 provinces with Makro operations. It plans to open another 13 dealers this year. In the longer term, the company also plans to form a joint venture with Dongfeng Motor Corporation in China to set up a commercial truck plant in Thailand in the near future.

Prantip Akarimachayanon, associate director for marketing at Siam Makro, said the co-operation with DFM is part of its Makro Retailers' Alliance (Mit Tae Chow Huay) project launched in 2007 to help small retailers survive intense competition and the downturn.

To date, more than 2,000 grocery owners have joined the MRA project. About 600 grocery stores have already modified their store planning and product displays. After the modifications, their sales increased by at least 35% and some even saw a 250% jump to 7,000 baht per day from 2,000 baht.

"Mobile grocery stores will be a new alternative for grocery store owners who want to extend their business in remote areas not served other retailers," Ms Prantip said, adding that the grocery store owners can buy DFM mini trucks without any conditions.

Currently, Makro has more than 500,000 retailer members. Thailand has 680,000 registered grocery shops, according to Commerce Ministry data. About 60% are grocery store operators, 16% are hotels and restaurants and 24% are institutional operators.

===========================================

should read about Ansoff Matrix

The Ansoff Matrix was first published in the Harvard Business Review in 1957, and has given generations of marketers and small business leaders a quick and simple way to develop a strategic approach to growth.

Sometimes called the Product/Market Expansion Grid, it shows four growth options for business formed by matching up existing and new products and services with existing and new markets.

Tuesday, December 22, 2009

Makro to open three stores



Siam Makro Plc, the operator of Makro cash-and-carry stores, will spend 2.6 billion baht to open new outlets and renovate its existing stores next year.


President Suchada Ithijarukul said the company planned to open three new outlets next year in Kamphaeng Phet, Kanchanaburi and Lop Buri, bringing the total to 47 next year.



"We believe there is still demand for food products. No matter how bad the economy is, people have to eat. The economy next year will not be worse than this year," she said.



All new developments of Makro next year will come under "Eco Plus", a new store concept that the company introduced in Pattaya this week. The 600-million-baht Pattaya branch has retail space of 7,000 square metres. More than 80% of the total area is dedicated to 10,000 items of fresh and dry foods, seasonings and beverages.



The displays of the Eco Plus-concept store will differ from those at other branches. Fresh and dry food and seasonings are put in the most accessible area to help shoppers save time as they regularly visit the store 3-4 times a month.



The Pattaya branch would serve the needs of hotels, restaurants, catering businesses and small retailers in Pattaya and nearby provinces in the Eastern Seaboard.



Currently, Makro has 40 stores under the original 10,000-square-metre format, three Eco-format stores with half the retail space in Phuket, Krabi and Koh Samui and one Eco-Plus format in Pattaya with 7,000 sq m.



Mrs Suchada said there was bright business potential for its Pattaya branch as the economy is recovering and large department stores and real estate projects are stepping up their investments. Moreover, the company has 30,000 registered members, mostly hotels, restaurants, catering businesses and small retailers.



Sales of Makro in the first nine months of this year grew by 3.5%, better than the industry's growth rate. The company expects sales this year to reach 75 billion baht, up from 70 million baht last year.



Shares of Makro closed yesterday on the Stock Exchange of Thailand at 84 baht, up 25 satang, in trade worth 47 million baht.



Reblog this post [with Zemanta]

Thursday, December 17, 2009

MAKRO TO INVEST 600 MB FOR NEW MODEL "ECO PLUS" AT PATTAYA



นางสุชาดา อิทธิจารุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม็คโคร ได้เปิดสาขาพัทยา ซึ่งเป็นสาขาที่ 44 เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการ โรงแรม ร้านอาหารและบริการจัดเลี้ยงหรือกลุ่มโฮเรก้า (Horeca) และผู้ประกอบการร้านค้าปลีกรายย่อยในเมืองพัทยาและจังหวัดใกล้เคียงในภาคตะวันออก




ซึ่งปัจจุบันเศรษฐกิจของเมืองพัทยามีการขยายตัวค่อนข้างมากดังจะเห็นได้จากการลงทุนของห้าง สรรพสินค้าขนาดใหญ่และอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้เรายังมีผู้ประกอบการสมัครเป็นสมาชิกกว่า 30,000 รายที่รอจะใช้บริการที่แม็คโคร สาขาพัทยา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกกลุ่ม HoReCa และ ร้านค้าปลีกรายย่อย หรือ โชห่วย





สาขาพัทยามีพื้นที่ทั้งหมด 44,000 ตารางเมตร เป็นพื้นที่จำหน่ายสินค้าประมาณ 7,000 ตารางเมตร โดยใช้งบลงทุนก่อสร้างประมาณ 600 ล้านบาท แบ่งเป็นพื้นที่จำหน่ายอาหารสด และอาหารแห้ง เครื่องปรุง เครื่องดื่มถึง 80% และเป็นสโตร์รูปแบบใหม่ เรียกว่า Eco plus คือเป็นสาขาขนาดเล็กที่มีพื้นที่จำหน่ายสินค้าประมาณ 7,000 ตารางเมตร และเนื่องจากเป็นสาขาที่เปิดขึ้นเพื่อรองรับผู้ประกอบการ HoReca และผู้ประกอบการร้านค้าปลีกรายย่อย ดังนั้นรูปแบบการจัดวางสินค้าสินค้าจะแตกต่างจากที่อื่น



Reblog this post [with Zemanta]

Monday, November 16, 2009

TESCO LOTUS ผุดอีกตำบลวังไผ่ชุมพร

Lotus Tesco in Udon Thani, ThailandImage by sama sama - massa via Flickr


ตำบลวังไผ่ ชุมพร เนื้อหอม "เทสโก้ โลตัส" ผุดสาขาเพิ่มเป็นรายที่ 3 หลังแม็คโครและคาร์ฟูร์ปักธงแล้ว ชมรมผู้ค้าปลีกชุมพรจี้เทศบาลตำบลวังไผ่เร่งแก้เทศบัญญัติขนาดอาคารค้าปลีกกลับไปเป็น ไม่เกิน 500 ตร.ม. แนะกระจายไปลงทุนพื้นที่อื่นบ้าง






นายไชยพลา สมบัติบริบูรณ์ ประธานชมรมผู้ค้าปลีกจังหวัดชุมพร กล่าวว่า ขณะนี้ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่งได้ติดต่อซื้อที่ดิน 30 ไร่ ริมถนนสายชุมพร-ระนอง เยื้องกับปั๊มเอสโซ่โชคอนันต์ ต.วังไผ่ อ.เมืองชุมพร ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลวังไผ่ เพื่อก่อสร้างอาคาร ทั้งที่ปัจจุบันพื้นที่ในเขตเทศบาลตำบลวังไผ่ มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แล้วถึง 2 ราย คือ แม็คโครและคาร์ฟูร์ หากมีการอนุญาตให้ก่อสร้างห้างขนาดใหญ่อีก ร้านค้าขนาดเล็กในเขตเทศบาลตำบลวังไผ่ และในเขตเทศบาลเมืองชุมพรที่มีพื้นที่ติดกันคงอยู่ไม่ได้




นายไชยพลากล่าวว่า ก่อนนี้ในการประชุมร่วมระหว่างนายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร นายมาโนช ธัญญาบัตร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลวังไผ่ และผู้แทนชมรมผู้ค้าปลีกจังหวัดชุมพร ได้ข้อสรุปว่า เทศบาลตำบล (ทต.) วังไผ่จะทำประชาพิจารณ์เพื่อแก้เทศบัญญัติ "อาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่ง" ที่มีขนาดไม่เกิน 9,000 ตร.ม.ให้กลับไปเป็นขนาดไม่เกิน 500 ตร.ม.เหมือนเดิม และขอให้ผู้ว่าฯชุมพรจัดประชาพิจารณ์ในท้องถิ่นและพื้นที่โดยรอบที่จะมีการก่อสร้างห้างค้าปลีกค้าส่ง



"ขณะนี้ ทต.วังไผ่ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ ซึ่งที่ปรึกษาด้านกฎหมายของชมรมยืนยันว่า ทต.วังไผ่สามารถแก้เทศบัญญัติกลับไปได้เลยเมื่อมีการประชุมสภาเทศบาลโดยไม่ต้องทำประชาพิจารณ์อีก ชมรมผู้ค้าปลีกชุมพรจึงขอให้นายสราวุธ อ่อนละมัย ส.ส.ชุมพร ช่วยเหลือ โดยขอยืนยันว่า ชมรมฯมิได้ต้องการขัดขวางความเจริญแต่ต้องการอยู่บนพื้นฐานเศรษฐกิจ พอเพียงเท่านั้น" นายไชยพลากล่าว



ด้านนายสราวุธ อ่อนละมัย ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การอนุมัติให้ก่อสร้างอาคารเป็นอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ๆ ขณะนี้ในตำบลวังไผ่มีห้างขนาดใหญ่แล้ว 2 แห่ง หากมีรายใหญ่เข้ามาอีกคงทำให้ร้านค้าขนาดเล็กในตำบลวังไผ่และพื้นที่ใกล้เคียงได้รับผลกระทบแน่นอน ดังนั้นห้างขนาดใหญ่ที่จะมาเปิดสาขาที่ชุมพรอีกควรกระจายไปยังพื้นที่อื่นบ้าง ไม่ควรมากระจุกตัวอยู่ในที่ใกล้ ๆ กันแบบนี้" นายสราวุธกล่าว



แหล่งข่าวในเทศบาลตำบลวังไผ่เปิดเผยว่า การแก้เทศบัญญัติเกี่ยวกับพื้นที่ก่อสร้างอาคารพาณิชยกรรมค้าปลีกค้าส่งจาก ไม่เกิน 500 ตร.ม. เป็นไม่เกิน 9,000 ตร.ม.เกิดขึ้นก่อนการก่อสร้างห้างแม็คโครและคาร์ฟูร์ในพื้นที่ตำบลวังไผ่ แต่การที่ชมรมค้าปลีกชุมพรต้องการให้มีการแก้ไขเทศบัญญัติดังกล่าวกลับไปเป็นไม่เกิน 500 ตร.ม. คงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะก่อนการแก้ไขเป็นไม่เกิน 9,000 ตร.ม. ทางเทศบาลตำบลวังไผ่ได้ทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่แล้ว



ส่วนกรณีที่ชมรมผู้ค้าปลีกชุมพรระบุว่า มีการกว้านซื้อที่ดินประมาณ 30 ไร่ เยื้องปั๊มน้ำมันเอสโซ่โชคอนันต์ ต.วังไผ่ ริมถนนชุมพร-ระนองนั้นเป็นความจริง แต่ขณะนี้นายกเทศมนตรีตำบลวังไผ่ยังไม่มีการลงนามอนุมัติให้ก่อสร้างอาคารของห้างใด



รายงานข่าวแจ้งว่า ค้าปลีกขนาดใหญ่ที่จะเปิดสาขาเพิ่มอีกเป็นรายที่ 3 ในตำบลวังไผ่ ริมถนนชุมพร-ระนอง คือ เทสโก้ โลตัส ซึ่งปัจจุบันเทสโก้ โลตัส เปิดสาขาแรกอยู่ที่อำเภอหลังสวน ขณะที่คาร์ฟูร์จะเปิดบริการกลางเดือน ธ.ค.นี้



Reblog this post [with Zemanta]

Tuesday, October 20, 2009

HOUSEBRAND เขย่าบัลลังก์แบรนด์หลัก ทุบตลาดกระจาย...จากโนเนมสู่พรีเมี่ยม


tesco house brand



ถ้าพูดถึง "สินค้าเฮาส์แบรนด์" ในสายตาคนทั่ว ๆ ไปมักถูกมองว่าเป็นสินค้าราคาถูก ไม่ค่อยมีคุณภาพ และไม่ค่อยได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเท่าที่ควร แต่ค่ายค้าปลีกหลายรายที่ปลุกปั้นสินค้ากลุ่มนี้มานานนับ 10 ปี ก็ยังไม่ละความพยายาม ยังคงเดินหน้า ส่งสินค้าใหม่ ๆ ออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง


ทั้งเทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี, คาร์ฟูร์, ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต, แม็คโครรวมถึงร้านจำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามทั้งวัตสัน และบู๊ทส์ ต่างก็มีสินค้าเฮาส์แบรนด์ออกมารับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายด้วยเช่นกัน


จากสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ไม่กี่รายการ น้ำมันพืช น้ำตาล น้ำปลา ซอส ปลากระป๋อง บะหมี่สำเร็จรูป ฯลฯ ก็ค่อย ๆ ขยายไลน์สินค้าออกมายัง ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม เครื่องสำอาง สกินแคร์ เสื้อผ้า อุปกรณ์เครื่องครัว อุปกรณ์ประดับยนต์ อาหารพร้อมรับประทาน ฯลฯ


ถึงวันนี้ สินค้าเฮาส์แบรนด์ในมุมมองของ ผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนไป และเป็นการเปลี่ยนไปในทิศทางบวก และเริ่มกลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภค โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจฝืด กำลังซื้อตกเช่นในปัจจุบัน



"กวิน สัณฑกุล" กรรมการและประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้บริหารห้างเทสโก้ โลตัส ย้ำว่า ปีนี้ถือเป็นปีทองของเฮาส์แบรนด์ เพราะลูกค้าเริ่ม ปรับพฤติกรรมมาใช้เฮาส์แบรนด์มากขึ้น ที่น่าสนใจคือเป็นผู้บริโภคทุกระดับ ไม่ใช่เฉพาะคนที่มีกำลังซื้อน้อย ๆ เท่านั้น


สอดคล้องความเห็นของค่ายบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ โดย "จริยา จิราธิวัฒน์" รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เห็นพ้องว่า ปัจจุบันสินค้าเฮาส์แบรนด์ได้รับความนิยม จากผู้บริโภคมากขึ้นจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคหันมาหาทางเลือกที่ประหยัดกว่า


ที่น่าสนใจคือวันนี้ สินค้าเฮาส์แบรนด์เริ่มทำรายได้ให้แต่ละค่ายอย่างเป็นกอบเป็นกำ และมีแนวโน้มว่าจะเติบโตมากขึ้น อย่างกรณีของเทสโก้ โลตัส ที่มีสินค้ามากกว่า 9,000 รายการ สามารถทำยอดขายได้คิดเป็น 10% จากยอดขายรวม


หรือคาร์ฟูร์ ที่ปัจจุบันมีสินค้าเฮาส์แบรนด์อยู่ราว ๆ 5,000 รายการ คาดว่าปีนี้จะเพิ่มเป็นเกือบ 6,000 รายการ จากปีที่แล้ว 3,000 รายการ ก็ทำรายได้เป็นสัดส่วนถึง 12% จากยอดขายรวม จากปีก่อนหน้านี้ที่ทำยอดขายได้เป็นสัดส่วน ประมาณ 10%



house brand



ส่วนของค่ายท็อปส์ ก่อนหน้านี้ผู้บริหารก็ระบุว่า สินค้าเฮาส์แบรนด์ สามารถทำรายได้เป็นสัดส่วน 30% และคาดว่าสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 40%



ชูคุณภาพ-ราคาเดินหน้าบูมตลาด


เมื่อผู้บริโภคยอมรับกับสินค้าเหล่านี้มากขึ้น หลาย ๆ ค่ายจึงไม่รอช้าที่จะเปิดเกมรุก เพื่อต่อยอดให้สินค้าเฮาส์แบรนด์สามารถครองใจผู้บริโภคและขยายตัวออกไปในวงกว้าง ที่น่าจับตามากก็เห็นจะเป็นค่ายยักษ์ เทสโก้ โลตัส ที่ให้ความสำคัญกับสินค้ากลุ่มนี้มากเป็นพิเศษ ถึงขนาดว่าตั้ง"ศูนย์สาธิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์" ขึ้นมาเพื่อดูแลสินค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ และช่วงหลังเปลี่ยนชื่อเป็น เทสโก้ศูนย์วิจัยผลิตภัณฑ์ (Tesco Research Centre) ทำหน้าที่ในการประเมินการยอมรับคุณภาพของเฮาส์แบรนด์วิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์และทดสอบความพึงพอใจของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์ และคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่


แต่ที่มากไปกว่านั้นก็คือในแง่ของการแข่งขันที่มีดีกรีความรุนแรงขึ้นแต่ หลาย ๆ ค่ายเริ่มใส่งบฯการตลาดและการทำกิจกรรมทางการตลาดกับสินค้ากลุ่มนี้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมการเปิดตัวสินค้าการเปิดบูทชงชิมสำหรับสินค้ากลุ่มอาหาร การใช้พรีเซ็นเตอร์มาเป็นตัวดึงดูด


"กวิน" แห่งค่ายเทสโก้ โลตัส ย้ำว่าจะเกาะติดเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคใหม่ ๆ มากขึ้น ผ่านการเก็บฐานข้อมูลจากบัตรคลับการ์ดที่เพิ่งเปิดตัวไป โดยเฉพาะสินค้าเฮาส์แบรนด์ที่ได้รับการยอมรับมากขึ้นในปัจจุบัน และบริษัทยังมีศักยภาพที่จะพัฒนาสินค้ากลุ่มนี้ได้อีกมาก



"เทสโก้ในอังกฤษมีเฮาส์แบรนด์ถึง 40% ส่วนเมืองไทยยังมีสัดส่วนน้อยมาก โดยมีเพียง 2 แบรนด์หลัก คือ เทสโก้ และคุ้มค่า ในอนาคตจะนำเฮาส์แบรนด์ระดับพรีเมี่ยม "ไฟน์เนสส์" เข้ามาทำตลาดเพิ่มอีก"


ไม่หยุดเพียงเท่านี้ ปีหน้า เทสโก้ โลตัส มีแผนจะนำเข้าเสื้อผ้า เอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ "เอฟแอนด์เอฟ" เข้ามาทำตลาดเพิ่ม และเพื่อรองรับการรุกตลาดแฟชั่นดังกล่าว ยักษ์ใหญ่รายนี้ก็ได้เริ่มทยอยปรับภาพลักษณ์โซนเสื้อผ้าแฟชั่นบ้างแล้ว


ยิ่งไปกว่านั้น ภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้าจะเปิดตัวหนังโฆษณาของสินค้าเฮาส์แบรนด์โดยเฉพาะ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค



ก่อนหน้านี้ บิ๊กซี ก็เป็นอีกค่ายหนึ่งที่เพิ่มดีกรีการบุกสินค้าเฮาส์แบรนด์ มาอย่างต่อเนื่อง อย่างกรณีการเปิดตัวสินค้าแบรนด์ใหม่ที่ชื่อว่า "แฮปปี้บาท" สินค้าอุปโภค สินค้าบริโภค และสินค้าอาหารสด ซึ่งมีราคาถูกกว่าสินค้าทั่วไปโดยเฉลี่ยถึง 40% โดยบิ๊กซีจะทยอยเปิดตัวประเภทสินค้าให้ครอบคลุมทุกไลน์อย่างต่อเนื่อง และตั้งเป้าว่าภายในปีนี้จะมีสินค้าตรา "แฮปปี้บาท" ไม่ต่ำกว่า 200 รายการ นอกจากลูกค้าทั่ว ๆ ไปแล้ว "แฮปปี้บาท" ยังเน้นจับกลุ่มลูกค้าร้านอาหารและภัตตาคาร ลูกค้ากลุ่มเอสเอ็มอี



ส่วนบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหารท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ตได้วางทิศทางการดำเนินนโยบายสินค้าเฮาส์แบรนด์จากนี้ไปว่า จะมุ่งพัฒนาสินค้าให้กลายเป็นสินค้าที่ดีที่สุดในหมวดหมู่นั้น ๆ และโฟกัสที่อิมเมจของสินค้าเป็นหลัก โดยวางโพซิชันนิ่งของเฮาส์แบรนด์เป็นสินค้าที่มี ความหลากหลายและมีคุณภาพดี โดยให้ความสำคัญกับขั้นตอน การผลิตที่มีคุณภาพ ขนาดของผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบ และรสชาติ



เป้าหมายเพื่อทำให้สินค้าภายใต้แบรนด์ "ท็อปส์" กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพที่ดีที่สุดบนเชลฟ์ และวางแผนเพิ่มจำนวนสินค้าให้ได้ 700 รายการ ภายในสิ้นปี



ขณะที่คาร์ฟูร์ให้ความสำคัญกับสินค้าเฮาส์แบรนด์มาอย่างต่อเนื่อง "ประภาพรรณ พลอยแสงงาม" ผู้อำนวยการฝ่ายคัดเลือกสินค้า บริษัท เซ็นคาร์ จำกัด ผู้บริหารห้างคาร์ฟูร์ กล่าวในเรื่องนี้ว่า ที่ผ่านมาแม้ว่าสินค้าเฮาส์แบรนด์จะได้รับการยอมรับมากขึ้น และได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นที่น่าพอใจ แต่คาร์ฟูร์จะไม่เน้น การเพิ่มจำนวนสินค้าเฮาส์แบรนด์มากนัก แต่จะพยายามเพิ่มยอดขายของเฮาส์แบรนด์ที่มีอยู่ให้มากกว่าโดยเน้นพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ เทียบเท่ากับแบรนด์ชั้นนำในราคาถูกกว่า 20%



เขย่าบัลลังก์แบรนด์หลัก



การเติบใหญ่ของสินค้าเฮาส์แบรนด์ในวันนี้แม้ว่าอาจจะยังไม่หวือหวานัก หากเมื่อเทียบกับสินค้าที่เป็นสินค้าแบรนด์หลัก ๆ ที่วางจำหน่ายในตลาด แต่ด้วยปัจจัยในแง่ของกำลังซื้อที่ไม่ดีนักคุณภาพของเฮาส์แบรนด์ที่ได้มีการพัฒนาในแง่คุณภาพที่ผู้บริโภคยอมรับได้และราคาที่ต่ำกว่าสินค้าแบรนด์หลัก 20-40% ก็เป็นสิ่งจูงใจ ให้ผู้บริโภค รวมถึงร้านอาหาร ร้านก๋วยเตี๋ยวริมทางจำนวนไม่น้อยที่หันมาใช้สินค้าเหล่านี้ มากขึ้น เนื่องจากสินค้าเหล่านี้ช่วยลดรายจ่าย ลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี



โดยเฉพาะสินค้าที่ไม่จำเป็นต้องอาศัย เรื่องหน้าตาหรืออิมเมจ กะปิ น้ำปลา น้ำมันพืช น้ำตาล กระดาษทิสชู ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างจาน ฯลฯ



แม้แต่แหล่งข่าวจากวงการสินค้าอุปโภคบริโภคก็ยอมรับว่า สินค้าเฮาส์แบรนด์หลาย ๆ อย่าง ผู้บริโภคมีการซื้อหาจับจ่ายเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันพืช น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก ฯลฯ โดยเฉพาะในต่างจังหวัดที่พฤติกรรมการบริโภคไม่ได้ยึดติดกับแบรนด์ และมองในแง่ของราคาเป็นตัวตั้ง



หากมองอีกมุมหนึ่งจะเห็นว่า นี่คือเกมการแข่งขันที่ส่งผลกระทบกับแบรนด์สินค้าของซัพพลายเออร์ที่ผลิตสินค้าออกวางจำหน่ายอย่างเลี่ยงไม่ได้



นักการตลาดผู้คร่ำหวอดในวงการค้าปลีก กลยุทธ์การทำตลาดสินค้า เฮาส์แบรนด์เริ่มจากการทำให้ลูกค้าทดลองใช้สินค้า โดยอาศัยแพ็กเกจจิ้ง คุณภาพและราคา เป็นตัวดึงดูดใจ และสเต็ปต่อไปคือการทำให้ลูกค้าซื้อซ้ำ ดังนั้นยุทธศาสตร์แรกของสินค้าเฮาส์แบรนด์ก็คือ การใช้แพ็กเกจจิ้งและสีสัน ที่ละม้ายคล้ายคลึงกับแบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาด



นักการตลาดรายนี้ยกตัวอย่างถึงกรณีของผงซักฟอก "พลัส" เฮาส์แบรนด์ของเทสโก้ โลตัส ที่เริ่มส่งออกวางตลาดเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งหากสังเกต จะเห็นว่าสีสันของแพ็กเกจจิ้ง ตัวอักษร สีที่ใช้กับตัวอักษร จะมีความคล้ายคลึงกับผงซักฟอกแบรนด์หลักในตลาดมาก และหากไม่พิจารณา ในรายละเอียดก็จะไม่รู้ว่าเป็นผงซักฟอกเฮาส์แบรนด์


อย่างไรก็ตามกลยุทธ์ทางการตลาดที่ซัพพลายเออร์หลาย ๆ ค่าย นำออกมาใช้ในภาวะที่เศรษฐกิจไม่เอื้อในยามนี้ก็คือ การงัดโปรโมชั่น ลดแลกแจกแถม มาจูงใจผู้บริโภค โดยอาศัยความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่เป็นทุนเดิมเป็นตัวตั้ง


นี่อาจจะเป็นเพียงจุดเริ่ม ต้นของการแข่งขันระหว่างเฮาส์แบรนด์กับสินค้าแบรนด์หลัก และเกมนี้คงจะไม่จบลงง่าย ๆ และต้องดูกันไปอีกหลายยก



Reblog this post [with Zemanta]

Monday, August 10, 2009

MAKRO แก้ปมเปิดสาขาน้อย ผนึกคู่ค้าโหมแคมเปญเพิ่มยอด



"แม็คโคร" ไม่หวั่นเปิดสาขาใหม่น้อย พลิกเกมมุ่งเพิ่มรายได้ เดินหน้าจับมือซัพพลายเออร์ โหมจัดกิจกรรมตอกย้ำภาพศูนย์ค้าส่ง ล่าสุดร่วมกับหัวม้าลายฉลองเบิร์ธเดย์ 20 ปี หวังปั๊มยอดขายหม้อก๋วยเตี๋ยว-ขยายฐาน



เป็นการปรับตัวที่น่าสนใจไม่น้อย สำหรับธุรกิจค้าส่ง "สยามแม็คโคร" ที่นอกจากจะต้องเร่งปรับตัวตามสถานการณ์เศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคแล้ว ยังต้องพลิกกลยุทธ์เพื่อเพิ่มยอดขายในสาขาเดิมให้มากขึ้น เนื่องจากการเปิดสาขาใหม่ถูกจำกัดด้วยใบอนุญาตประกอบการ

ก่อนหน้านี้ผู้บริหารแม็คโครยอมรับว่า 5 เดือนแรก ตัวเลขการเติบโตโดยรวมมีเพียง 2-3% ตามภาวะเศรษฐกิจ และเมื่อเทียบเฉพาะสาขาเดิมที่เปิดให้บริการ พบว่ามีการเติบโตลดลงราว 1-2% ต่อสาขา


"แม็คโคร"แก้ปมเปิดสาขาน้อย ผนึกคู่ค้าโหมแคมเปญเพิ่มยอด




ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตว่า ระยะหลังมานี้ กลยุทธ์หนึ่งที่แม็คโครให้ความสำคัญมากขึ้น ได้แก่การร่วมมือกับพันธมิตร จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือเปิดบริการเสริมให้ลูกค้า นอกเหนือจากการจัดโปรโมชั่นเพียงอย่างเดียว

อาทิ เดือนมิถุนายน แม็คโครจับมือ กับบริษัทประกันภัยเอซ อินชัวรันซ์ นำเสนอบริการและสิทธิพิเศษด้านการประกันภัยประกันอุบัติเหตุให้แก่สมาชิก ถัดมาเป็น การจัดโปรโมชั่นฉลองครบรอบ 20 ปี "แจกรถเป็นล้าน" (29 กรกฎาคม-25 สิงหาคม 2552)

ล่าสุดแม็คโครได้ร่วมกับเครื่องครัว สเตนเลสสตีล ตราหัวม้าลาย จัดงานเปิดตัวหม้อก๋วยเตี๋ยวสเตนเลสสตีลใหม่ และจัดโครงการมอบหม้อก๋วยเตี๋ยว 20 ใบให้แก่ศูนย์ฝึกอาชีพและสถานพยาบาล 20 แห่ง รวมถึงการจัดงานเปิดตัวแนะนำผลิตภัณฑ์กับกลุ่มผู้ประกอบการ

นางสุพรศรี นาคธนสุกาญจน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายจัดซื้อสินค้าอุปโภค บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ในลักษณะ ดังกล่าว เป็นการตอบสนองเรื่องกิจกรรมให้แก่ลูกค้าแม็คโคร เพื่อให้ลูกค้าได้สินค้าที่มีคุณภาพในราคาประหยัด การร่วมมือกับหัวม้าลาย จะช่วยตอบสนองลูกค้าในกลุ่ม โฮเรก้า ซึ่งเป็นกลุ่มที่แม็คโครมีความชำนาญ มีลูกค้าอยู่มากกว่า 300,000 ราย การร่วมมือเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ครั้งนี้จะช่วยสร้างยอดขายได้ถึง 20 ล้านบาท และช่วยขยายฐานลูกค้ากลุ่มเครื่องครัวที่ไม่ได้มีแค่กลุ่มร้านอาหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มครอบครัวขนาดใหญ่ที่นิยมทำอาหารรับประทานที่บ้านด้วย

ก่อนหน้านี้ นางสุชาดา อิทธิจารุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้แม็คโครมีสาขาใหม่ 2 แห่ง ได้แก่รามอินทราและชุมพร จากเดิมมี 41 สาขา ขณะที่ปี 2550 มีการเปิดสาขาใหม่ถึง 12 สาขา ส่วนปี 2551 ไม่มีการเปิดสาขาใหม่เลย เนื่องจากไม่มีใบอนุญาต ทั้งที่บริษัทมีความพร้อมทั้งเงินลงทุน หรือสถานะการกู้ รวมถึงความต้องการของผู้บริโภคในพื้นที่ต่างๆ

ด้านความเคลื่อนไหวของค้าปลีกรายใหญ่ค่ายอื่นๆ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้จะมีความระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่ก็ยังเดินหน้าเปิดสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเทสโก้ โลตัสที่ปีนี้มีแผนเปิดสาขาขนาดใหญ่ 5-6 สาขา, เอ็กซ์เพรส 40 สาขา

หรือบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ที่เปิดสาขาล่าสุดที่ศรีสะเกษ และจะเปิดเพิ่มอีก 1 สาขา ภายในต้นปีหน้า พร้อมทั้งมีแผนจะเปิดโมเดลร้านสะดวกซื้อมินิบิ๊กซีเพิ่มด้วย ขณะที่คาร์ฟูร์ครึ่งปีหลังมีแผนเปิดสาขาอีก 4 สาขา

เมื่อเทียบกับห้างอื่นๆ จะเห็นว่าแม็คโครเปิดสาขาใหม่ไม่มากนัก และแม้จะมีโพซิชันนิ่งชัดเจนในเรื่องการเป็นศูนย์ค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคระบบสมาชิกสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการจัดโปรโมชั่นค้าปลีกรายใหญ่มีผลต่อการตัดสินใจต่อผู้ค้าปลีกรายย่อยเช่นกัน

LinkWithin

Related Posts with Thumbnails