Monday, April 30, 2012
U Hollywood อินเทรนด์โรงหนังสีเขียว
Thursday, November 3, 2011
TESCO READY WITH MORE ESSENTIAL GOODS
![]() |
Tesco Lotus staff arrange pallets at the hypermarket chain’s temporary distribution centre at Bitec yesterday. KITJA APICHONROJAREK |
Thursday, October 13, 2011
A 'GREEN' MALL FOR CHIANGMAI
![]() |
An artist’s rendering of The Promenada mall in Chiang Mai, which will have a canal running through it. When complete, it will be the largest community mall in Thailand. |
Thursday, October 6, 2011
โมเดิร์นเทรดค้าวัสดุ ′GLOBAL′ บุกเปิดสาขาใหม่โคราชโกยยอดขาย 100 ล./เดือน
Thursday, September 1, 2011
CENTRAL ชิงประมูลที่ดินจุฬาฯ จ่อเพิ่ม"ค่าเช่า-เซ้ง"ศูนย์การค้า
Wednesday, August 24, 2011
BIG C ผุดโมเดลค้าส่งประกบ MAKRO
Tuesday, August 23, 2011
MAKRO AIMS B100bn SALES IN 2012
![]() |
CEO Suchada Ithijarukul displays some of the consumer products distributed by Siam Makro, which specialises in serving small retailers, hotels, restaurants and related businesses. |
Monday, January 10, 2011
ตรวจแนวรบค้าปลีกเชียงใหม่ ปูพรมขยายสาขารับกำลังซื้ออนาคต
![]() |
Central Chiangrai |
Monday, October 11, 2010
ลงทุน'คอมมิวนิตี้มอลล์'เชียงใหม่ เกษมกิจกรุ๊ปเปิด'เดอะแคนทารีเทอเรซ'ย่านนิมมานฯ
Saturday, April 3, 2010
CENTRAL FESTIVAL CHIANGMAI
เซ็นทรัล เฟสติวัล เชียงใหม่ บริเวณสี่แยกดอยสะเก็ด ออกแบบสไตล์รีสอร์ต เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ใช้งบ 3,000 ล้านบาท เพื่อสร้างความแตกต่างจาก เซ็นทรัล เชียงใหม่ เดิม...พบกัน ธันวาคม ปี 2555
Wednesday, December 2, 2009
New lifestyle mall poised for Chiang Mai revival

Renova Group, owned by a member of Sosothikul family that founded Seacon Square, recently opened its first lifestyle shopping mall in the northern tourist destination Chiang Mai. Patarin Sosothikul, the company's managing director, said Renova had spent 100 million baht to develop Viang Panna, located on a seven-rai plot in San Kamphaeng district.
Viang Panna houses 20 small shops in almost 1,000 square metres and also has a 1,500-square-metre souvenir centre with more than 100 suppliers. Another 3,000 square metres have been set aside for an outdoor peacock garden.
The company plans to spend another 20 million baht to expand its current souvenir centre by 2,000 square metres to cash in on the expected economic and tourism recovery. The second phase is scheduled to open by the end of next year. It expects to attract 10,000 to 20,000 visitors per day.
Renova hopes to make Viang Panna a hub for novel products and souvenir items in the province.
The company chose to develop a lifestyle mall in Chiang Mai because of the huge potential. According to the Tourism Authority of Thailand, about 5.3 million tourists visit the province each year. Tourism generates 38 billion baht in revenue to the province. Tourists spend 15-20% of their money on souvenir products.
As well, the government plans to promote Chiang Mai as a medical hub as well as a prime destination for the Mice (meeting, incentive, convention and exhibition) business.
"There are many lifestyle shops available in Chiang Mai but nobody offers the type of one-stop shopping service that Viang Panna does, with fashion, gift shops, souvenir shops and a peacock garden under one roof," said Ms Patarin.
The company believes Viang Panna will become one of the province's tourist destinations in the near future, she added.
Ms Patarin said market response in the mall's first month of operations had been better than expectations. The company expects to break even within five to seven years.
Monday, March 30, 2009
คาร์ฟูร์ปักธงสาขา 2 หางดง
Image via Wikipedia
ค้าปลีกเชียงใหม่เดือดปลายปีคาร์ฟูร์ยึดพื้นที่อำเภอหางดงปักธงสาขาที่ 2 ชูโมเดลคอมมิวนิตี้มอลล์ เน้นการเติบโตร่วมกับเศรษฐกิจท้องถิ่น เป็นสาขาที่เน้นอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อมและพลังงาน เปิดตัวเป็นทางการ 19 ธ.ค.นี้
เชียงใหม่นับเป็นสมรภูมิการตลาดของยักษ์ค้าปลีกสมัยใหม่ (modern trade) ที่ได้เข้ามาปักธงครบทุกค่ายก่อนจังหวัดใดๆ และมีการขยายตัวมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ทุกค่ายลงทุนเปิด 2 สาขาเท่ากัน ทั้ง Tesco Lotus, Carrefour, Big C และ Makro
นายเสกสรร ไตรอุโฆษ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท เซ็นคาร์ จำกัด ผู้บริหารคาร์ฟูร์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ในวันที่ 19 ธ.ค.2551 คาร์ฟูร์จะเปิดตัวสาขาหางดง ซึ่งเป็นสาขาที่ 2 ของ จ.เชียงใหม่ บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ พื้นที่โครงการ 6,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ห่างจากตัว อ.หางดงไปทางทิศใต้ 3 กิโลเมตร ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าสาขาแรก ใช้งบฯลงทุนประมาณ 150 ล้านบาท
การออกแบบสาขานี้มุ่งเน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม-พลังงาน มีที่จอดรถที่อยู่ใต้ร่มไม้ การก่อสร้างจะรักษาภูมิทัศน์เดิมให้มากที่สุดตามข้อเสนอแนะของทางจังหวัดและอำเภอหางดง คาดว่าต้นเดือน ธ.ค.นี้การก่อสร้างจะเสร็จสมบูรณ์
นอกจากนี้ ยังได้วางรูปแบบสาขาหางดงให้เป็นลักษณะคอมมิวนิตี้มอลล์ เน้นการเติบโตร่วมกับเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยจะนำสินค้ามาจากซัพพลายเออร์ท้องถิ่นประมาณ 95% ทั้งงานหัตถกรรม สินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงการจ้างงานกว่า 150 คนก็จะใช้คนในท้องถิ่นเป็นหลัก
ซึ่งการขยายสาขาเพิ่มของคาร์ฟูร์ครั้งนี้มองว่าเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจที่เติบโตสูงและมีแนวโน้มที่ดี แม้จะมีคู่แข่งมากในหลายระดับทั้งโมเดิร์นเทรด ห้างสรรพสินค้า รวมถึงคอมมิวนิตี้มอลล์ของท้องถิ่น เช่น ริมปิง ซึ่งเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูง และสะท้อนว่าเชียงใหม่มีผู้บริโภคที่มีรสนิยมที่ดี
สำหรับยอดขายโดยรวมของห้างคาร์ฟูร์ในปี 2551 มียอดขายเพิ่มขึ้น 12-15%
หากประเมินสถานการณ์ในปี 2552 คาดว่าจะมีความลำบากอันเนื่องมาจากสถานการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐและของโลก ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยทั้งทางตรง และทางอ้อมในด้านการท่องเที่ยวและการส่งออก ส่วนธุรกิจค้าปลีกค้าส่งนั้นกำลังซื้อในกลุ่มสินค้าเสื้อผ้าและเครื่องไฟฟ้าก็คงจะลดลงแน่นอน สำหรับยอดขายของ จ.เชียงใหม่ในภาพรวมก็สอดคล้องกับการเติบโตระดับประเทศ
"ทางคาร์ฟูร์มีนโยบายชัดเจนที่ต้องการให้ชุมชน-ท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจของท้องถิ่นเป็นหลัก ซึ่งจะต้องเข้าใจถึงเป้าหมายว่าเราจะต้องให้เกิดการแข่งขันในตลาดให้สูงสุด เพราะมิเช่นนั้นก็จะเกิดการผูกขาดหรือ monopoly ในตลาด ซึ่งผลสุดท้ายก็จะทำให้รายเล็กอยู่รอดไม่ได้เพราะทำให้กลไกการแข่งขันไม่เกิดขึ้น และกรณีของการออก พ.ร.บ. ค้าปลีกค้าส่งก็เช่นกันที่ทางคาร์ฟูร์ก็ให้การสนับสนุนเพื่อสร้างกลไกไม่ให้เกิดการผูกขาด รวมถึงต้องสร้างดุลกับซัพพลายเออร์ด้วย" นายเสกสรรกล่าว
ด้านนายสุรพล สัตยารักษ์ นายอำเภอหางดง เปิดเผยว่า ประชาชนในพื้นที่ อ.หางดง ไม่มีการคัดค้านโครงการลงทุน ดังกล่าว คาร์ฟูร์ได้มีการทำประชาพิจารณ์ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ก็ยอมรับและเห็นว่าจะส่งผลดีในเชิงเศรษฐกิจ ขณะที่ผู้ลงทุนก็พยายามเข้าถึงชุมชนในหลายๆ รูปแบบ โดยเฉพาะการส่งเสริมสินค้าหัตถกรรมในท้องถิ่นจากผู้ผลิต รวมถึงการส่งเสริมการจ้างงานในพื้นที่