Pages

Showing posts with label Specialty Store. Show all posts
Showing posts with label Specialty Store. Show all posts

Thursday, December 10, 2009

Power Mall รับบอลโลกปรับ4สาขาชูพรีเมี่ยมเน้นโซลูชั่น



"Power Mall" เตรียมแผนบุกตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า ปรับโฉม 4 สาขา "งามวงศ์วาน-ดิ เอ็มโพเรียม-บางแค-บางกะปิ" ยกระดับสินค้าเจาะกลุ่มพรีเมี่ยมผ่านคอนเซ็ปต์โซลูชั่น คาดบอลโลกดันทีวีโต กระฉูด 30-50% มั่นใจสิ้นปีผ่านวิกฤตตลาดซบดันยอด 7.7 พันล้าน





นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่สายบริหารสินค้าเพาเวอร์มอลล์ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า การทำตลาดในปีหน้าจะเน้นในเรื่องของการรีโนเวตสาขาให้ทันสมัย เพื่อวางสินค้าและบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยทยอยนำร่องใน 4 สาขาหลัก คืองามวงศ์วาน ดิ เอ็มโพเรียม บางแค และบางกะปิ ซึ่งรูปแบบของร้าน หลังจากปรับโฉมใหม่ Power Mall ได้โฟกัสไปที่กลุ่มสินค้าระดับHi-End ด้วยการจัดดิสเพลย์ โชว์การใช้งานสินค้าที่เชื่อมโยงกัน และให้ลูกค้าได้เห็นภาพการทำงานจริง




รวมทั้งได้เพิ่มพื้นที่สำหรับสินค้ากลุ่มไอทีมากขึ้น เนื่องจากเป็นเทรนด์ของตลาดกระแสหมวดสินค้าไอที-ดิจิทัลได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง ควบคู่กับสินค้ากลุ่มจอภาพ ซึ่งได้ปรับพื้นที่วางสินค้าที่เป็นจอบางขนาดใหญ่ ทั้งLCD LED และPlasma TV ให้เป็นตัวหลักขับเคลื่อนยอดขาย ซึ่งนอกจากการจัดวางสินค้าแบบใหม่แล้ว การปรับโฉมสาขาใหม่ จะรองรับภาพการแข่งขันของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าของเพาเวอร์มอลล์ได้ดี



นอกจากนี้ ช่วงกลางปีหน้าจะมีการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพ ผู้บริหารสินค้าร้านเพาเวอร์มอลล์ มองว่าจะมีส่วนสำคัญเข้ามากระตุ้นตลาดให้คึกคักขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละค่ายต่างหวังอานิสงส์จากฟุตบอลโลกมาช่วยสร้างยอดขายและเพิ่ม Market Share โดยเฉพาะตลาดทีวีจอบางที่เป็นไฮไลต์หลัก โดยประเมินว่าจะสามารถขยายตัวได้กว่า 30-50% ตลอดช่วงก่อนเริ่มแข่งขัน



"ทุกครั้งที่มีการแข่งขันฟุตบอลโลก ตลาดจะขยายตัวจากปกติถึง 30-50% ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน แต่ที่เปลี่ยนไปคือตลาดกลุ่ม ทีวีจอบางจะขายดี ทั้งแอลซีดีและพลาสม่าทีวี แต่ละค่ายจะเร่งดีมานด์ลูกค้าให้เปลี่ยนจากจอแบนแฟลตทีวีเป็นจอบาง"



นายจักรกฤษณ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาแอลซีดีทีวีได้รับการเอดูเคตจากผู้ประกอบการแต่ละค่ายมานานแล้ว ขณะที่โครงสร้างราคาที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้การตอบรับของลูกค้ามีมากขึ้น ทั้งจากการซื้อ ทีวีใหม่เพิ่มขึ้นอีกตัวภายในบ้าน หรือเปลี่ยนจากซีอาร์ทีเป็นจอบาง นอกจากนี้ เพาเวอร์มอลล์ได้เตรียมกิจกรรมเพื่อตอบรับกระแสฟุตบอลโลกครั้งนี้ในหลากหลายรูปแบบ



อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลอดทั้งปีนี้ภาวะเศรษฐกิจยังอยู่ในช่วงขาลงและส่งผลกระทบตรงต่อการเติบโตของเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ผู้บริหารร้านเพาเวอร์มอลล์ ยังมั่นใจว่าจะสามารถทำรายได้ตามเป้าที่วางไว้ 7,700 ล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้น 3% จากปีที่แล้ว

Wednesday, December 2, 2009

Central Retail opens Page One

PageOne Book Store in Hong Kong Time SquareImage via Wikipedia

Central Retail Corporation is expanding further in the book business by investing 200 million baht to open new branches of a foreign bookstore chain over the next year.

The move is expected to strengthen the company's market leadership in book retailing position and tap huge opportunities in the 2-billion-baht market for foreign books.

Central Page One (Thailand) Co has been set up as the joint venture between CRC, and Singapore-based Page One Holdings, Asia's leading book retailer and publisher, to operate Central Page One stores in Thailand.

The new venture will compete in a market currently dominated by the Asia Books and Kinokuniya chains.


Tos Chirathivat, the CEO of CRC, said the first Central Page One Corner was opened at the company's B2S bookstore on the seventh floor at Central Chidlom. Another 200-square-metre shop will open on the fifth floor of Zen Department Store this week and 11 more outlets will be added next year.

The target market for the chain will be white-collar workers, children, families and people fond of arts, fashion and architecture.

Mark Tan, CEO of Page One Holdings Pte, said the company invested in Thailand because it wanted to accelerate the growth of the foreign book business.

Central Page One stores are designed under a "hip & cool" concept, offering new experiences to readers. They carry titles in seven categories: children, humanities, literature and general fiction, lifestyle, professional, art and design. Each store will contain at least 25,000 books and shoppers can check the database for availability of other titles throughout the Page One network.

Page One was founded in 1983 in Singapore and also has branches in Beijing, Hong Kong and Taipei.

Mr Tan said most imported books by European and US publishers were now available in Asia. "But customers cannot afford them because the Asian market is developing. Page One is the alternative. We sell books at affordable prices, about 30% cheaper than western offerings. Our long-term vision is to see every family own at least one book from Page One or one book published by us," he said.

The executives declined to make sales and business projection.

For the overall retail business, Mr Tos said CRC had seen a dramatic improvement in customer purchasing power from September to November. Sales of CRC in the first eight months of this year grew only 5-6% but improved to 10% growth from September to November. Profit in the first 11 months of this year is up by 5-6% year-on-year compared with a 10% contraction earlier in the year. "But we are not confident about how long [the economic recovery] will last," he said.

"On the international stage, Thailand's politics is in the spotlight, not the economy. If politics is stable, the retail market next year will be better than this year, and we will consider extra investment."


Reblog this post [with Zemanta]

Friday, November 27, 2009

BOOTS REPOSITIONING

Alliance BootsImage via Wikipedia

ภายหลังจาก "สเตฟาโน เพซซินา" ผู้บริหารชาวอิตาเลียน ร่วมกับโคลห์เบิร์ก คราวิส โรเบิร์ตส์ แอนด์ โค (เคเคอาร์) เข้าซื้อกิจการของ "อัลไลแอนซ์ บู๊ทส์" เชนร้านขายยาที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในทวีปยุโรปเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา "เพซซินา" ในฐานะประธานของอัลไลแอนซ์ บู๊ทส์ ต้องการปรับเปลี่ยนบู๊ทส์จากธุรกิจร้านขายยาสัญชาติอังกฤษ ไปสู่การเป็นบริษัทด้านสุขภาพและความงามระดับโลก



โดยอาศัย 2 เครื่องมือหลักเพื่อบรรลุภารกิจดังกล่าว นั่นคือ การเดินหน้าซื้อกิจการทั้งขนาดเล็กและใหญ่ และการขยายธุรกิจ "ครีมลดริ้วรอย"



วอลล์สตรีต เจอร์นัล รายงานว่า ครีมบำรุงผิวภายใต้แบรนด์ "บู๊ทส์ แลบอราทอรีส์ เซรั่ม 7" คือส่วนหนึ่งของความพยายามที่บู๊ทส์จะสร้างความสำเร็จในทวีปยุโรป เหมือนกับ "บู๊ทส์ นัมเบอร์ 7" ที่สำเร็จในอังกฤษมาแล้ว โดย "บู๊ทส์ แลบอราทอรีส์ เซรั่ม 7" ถือเป็นไลน์สินค้าใหม่ ซึ่งรวมไปถึงครีมบำรุงผิวที่ปัจจุบันมีจำหน่ายในร้านขายยาในฝรั่งเศสและโปรตุเกสเท่านั้น




แต่ในไม่ช้าแบรนด์ดังกล่าวจะสามารถหาซื้อได้อย่างกว้างขวางในทวีปยุโรป ซึ่งนี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการของเพซซินาที่จะต้องการทำให้เป็นไลน์สินค้าที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนการเติบโตสำหรับ "อัลไลแอนซ์ บู๊ทส์" ในอนาคต



เพซซินา ประธานบริหารของอัลไลแอนซ์ บู๊ทส์ กล่าวว่า หนึ่งในโครงการหลักสำหรับอนาคตคือสร้างบู๊ทส์ให้เป็นอินเตอร์แบรนด์ โดยขายสินค้าภายใต้แบรนด์บู๊ทส์ออกไปนอกประเทศอังกฤษ



หลังจากการซื้อขายหุ้นในปี 2550 บริษัทจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์บู๊ทส์ใน 15 ประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา รวมทั้งเปิดร้านขายยาในหลายประเทศ ตั้งแต่เนเธอร์แลนด์จนถึงประเทศไทย และจัดหายาให้กับแพทย์กว่า 140,000 คน รวมถึงร้านขายยาและโรงพยาบาลทั่วโลก



อานิสงส์จากธุรกิจดูแลผิวที่เติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงการแพร่ระบาดของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ ที่ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือมียอดเพิ่มขึ้น 12% อยู่ที่ 9 พันล้านปอนด์ หรือราว 15 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 6 เดือนนับถึงวันที่ 30 กันยายน



แต่สำหรับ "เพซซินา" มองว่ายังเป็นการเติบโตที่ไม่มากนัก โดยเขาเชื่อว่าในไม่ช้าบริษัทต้องเผชิญกับการเติบโตที่จำกัด ซึ่งต้องพยายามทุ่มเทเวลาเพื่อจะซื้อกิจการที่ส่งผลต่ออนาคตของบริษัท



"เพซซินา" กล่าวว่า ยังมีดีลควบรวมกิจการที่มีศักยภาพอีกมาก ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่ที่สอดคล้องกับเป้าหมายในการซื้อ กิจการของบู๊ทส์อยู่ในยุโรป



อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ความพยายามเหล่านี้จะสำเร็จด้วยดีทั้งหมด อย่างเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว "อัลไลแอนซ์ บู๊ทส์" ล้มเหลวในการเจรจาซื้อกิจการบางส่วนของ "Apoteket" ร้านขายยาที่ดำเนินกิจการแบบผูกขาดในสวีเดน และรัฐบาลสวีเดนนำออกประมูล แต่ดีลนี้กลับสร้างความเสี่ยงต่อบู๊ทส์มากกว่าการเข้าซื้อกิจการร้านขายยาในนอร์เวย์เมื่อปี 2543 ดังนั้น เสนอซื้อกิจการใด ๆ จึงต้องทำด้วยความระมัดระวัง



"ถ้าเราพบร้านขายยาในราคาที่เหมาะสม ก็จะซื้อกิจการ แต่หากต้องจ่ายแพงเกินไป เหมือนกรณีที่สวีเดน เราก็คงไม่"



ขณะนี้คู่แข่งในธุรกิจค้าปลีกและกลุ่มธุรกิจสุขภาพกำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวของ "เพซซินา" หลังการเข้าซื้อ "อัลไลแอนซ์ บู๊ทส์" ร่วมกับเคเคอาร์ ซึ่งถือเป็นดีลที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งก็ยังไม่ชัดเจนว่าจุดประสงค์ของเขาเพื่อต้องการแยกสินทรัพย์ออกเป็นส่วน ๆ หรือมุ่งมั่น จะดำเนินธุรกิจสู่การเติบโตในระยะยาว



อย่างไรก็ตาม "เพซซินา" ยืนยันว่า เป้าหมายของเขาคือต้องการให้บริษัทดำรงอยู่ได้ในระยะยาว โดยพยายามไล่ซื้อกิจการร้านขายยา เปิดตัวผลิตภัณฑ์และนำเสนอบริการ ซึ่งสะท้อนถึงแผนระยะยาว



"ลูก้า โซลก้า" นักวิเคราะห์ด้านรีเทลของอัลไลแอนซ์ เบิร์นสไตน์ในลอนดอน มองว่า บู๊ทส์มีโอกาสสูงในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพและความงาม ในยุโรป สิ่งที่เพซซินาเข้าใจคือ บรรดาเภสัชกรต้องการแบรนด์ร้านขายยาที่แข็งแกร่ง ที่สามารถจำหน่ายสินค้าที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อต่อกรกับบรรดาร้านขายยาในซูเปอร์มาร์เก็ต





Reblog this post [with Zemanta]

Tuesday, August 18, 2009

BOOTS LAUNCHES PRIVATE LABEL



"บู๊ทส์" ปิ๊งไอเดียเพิ่มช่องทางใหม่-เพิ่มรายได้ ขนทัพสินค้า "เฮลท์แคร์-ไพรเวท แบรนด์" ขึ้นเชลฟ์คาร์ฟูร์ แก้ปมพื้นที่ เปิดร้านหายาก หลังซุ่มเงียบมาพักใหญ่พบเวิร์ก เพราะต้นทุนน้อย-ดำเนินการได้เร็ว-ทราฟฟิกมาก คุ้มแสนคุ้ม



ความเคลื่อนไหวของร้านสเปเชียลตี้สโตร์ ประเภทร้านเพื่อสุขภาพและความงามที่น่าจับตาในขณะนี้ นอกจากการจัดแคมเปญ หรือการมอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกบัตร ยังมีกลยุทธ์การเพิ่มช่องทางจำหน่ายบนเชลฟ์ตามห้างในลักษณะช็อปอินช็อป เพื่อเพิ่มโอกาสขายมากขึ้น จากเดิมที่จะ เน้นเฉพาะการเปิดสาขาสแตนด์อะโลน ส่วนหนึ่งอาจมาจากการเปิดสาขาใหม่ๆ ของดิสเคานต์สโตร์ที่ชะลอตัวลง โดยร้านสเปเชียลตี้สโตร์ที่รุกคืบไปบนเชลฟ์ห้างอย่างชัดเจน ได้แก่ร้านบู๊ทส์






"บู๊ทส์" ยกสินค้าขึ้นเชลฟ์ดิสเคานต์สโตร์



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด บู๊ทส์ได้เตรียมนำสินค้าไปวางจำหน่ายบนเชลฟ์ที่ห้างคาร์ฟูร์ สาขาพระราม 2 ขณะนี้ได‰ปิดประกาศแจ้งลูกค้าที่เดินผ่านเชลฟ์ว่าจะมีสินค้าของบู๊ทส์มาวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้




แหล่งข่าวจากบริษัท บู๊ทส์ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านบู๊ทส์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บู๊ทส์ได้เริ่มทดลองเพิ่มช่องทางจำหน่ายในลักษณะดังกล่าวตามห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ซึ่งเรียกว่าช็อปอินช็อปมาตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2550 ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่ายและการให้บริการแก่ลูกค้าให้สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างครอบคลุม ขณะเดียวกันก็จะช่วย ให้สามารถขยายกลุ่มลูกค้าออกไปยังกลุ่มใหม่ๆ รวมทั้งการเพิ่มการเติบโตให้บริษัทด้วย



"การคัดเลือกสินค้าที่นำไปวางจำหน่ายในห้างบู๊ทส์ ได้นำสินค้าทั้งผลิตภัณฑ์เฮลท์แคร์และสินค้าภายใต้แบรนด์บู๊ทส์เพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่นั้นๆ"



นอกจากการนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายในดิสเคานต์สโตร์ในลักษณะดังกล่าวแล้ว ที่ผ่านมา บู๊ทส์ยังเคยทดลองเปิดสาขา ขนาดเล็กที่มีพื้นที่ประมาณ 30 ตร.ม. จำนวน 15 สาขา เน้นลูกค้ากลุ่มคนเมือง ออฟฟิศ จำหน่ายสินค้ากลุ่มเฮลท์แคร์เป็นหลัก และวางขายสินค้าตามความต้องการของแต่ละพื้นที่ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคให้ง่ายขึ้น



ห้างใหม่เปิดน้อย-พื้นที่หายาก



ผู้บริหารดิสเคานต์สโตร์รายใหญ่ รายหนึ่งกล่าวในเรื่องนี้ว่า ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ร้านสเปเชียลตี้สโตร์หันมาเช่าพื้นที่บนเชลฟ์ของดิสเคานต์สโตร์ สาเหตุหลักมาจากการที่ค้าปลีกรายใหญ่เปิดสาขาใหม่น้อยลง การแย่งชิงพื้นที่เช่าสำหรับสแตนด์อะโลนช็อปจึงมีสูง ประกอบกับการรุกเพิ่มสาขาของวัตสัน คู่แข่งสำคัญของบู๊ทส์ ยิ่งเป็นตัวเร่งให้บู๊ทส์ต้องเพิ่มช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ ดังกล่าว



"การเช่าพื้นที่เชลฟ์เพื่อวางสินค้ามีต้นทุนน้อยกว่าสแตนด์อะโลน และใช้เวลาการดำเนินงานสั้นกว่า ที่สำคัญคือทราฟฟิกลูกค้ามีมาก และโอกาสที่ร้านสเปเชียลตี้สโตร์จะขยายสาขาให้ครอบคลุมเป็นเรื่องยาก สู้เอาสินค้าไปวางขายตามห้างที่เปิดอยู่แล้วน่าจะง่ายกว่า กลยุทธ์นี้ถือ เป็นหลักการเดียวกับการทำตลาดสินค้า คอนซูเมอร์ เป็น Survival Strategy ที่บู๊ทส์นำมาใช้"



จากการตรวจสอบพบว่า ปัจจุบัน บู๊ทส์มีช่องทางจำหน่ายที่เป็นในลักษณะช็อป อินช็อป ซึ่งมีเฉพาะในคาร์ฟูร์ มีรวมประมาณ 21 สาขา ขณะที่ร้านที่เป็นสแตนด์อะโลนมีประมาณ 150 สาขา ส่วนวัตสันมีจำนวนสาขาทั้งหมดประมาณ 150 สาขา และกำลังจะเปิดเพิ่มอีก 1 สาขา ที่ขอนแก่น และอยู่ระหว่างการพิจารณาเลือกทำเลอีก 1-2 แห่ง จากปีที่แล้วเปิดสาขาไป 8 แห่ง เน้นตามห้างและไฮเปอร์มาร์เก็ตที่เปิดใหม่



อัดโปรโมชั่นในร้านดุเดือด



นอกจากการเพิ่มช่องทางจำหน่ายใหม่ดังกล่าวแล้ว กลยุทธ์ทางการตลาดที่บู๊ทส์ให้ความสำคัญมากขึ้น คือการให้น้ำหนักกับบัตรสมาชิกบู๊ทส์ เฮลท์ คลับ โดยจับมือกับพันธมิตรด้านสุขภาพ เช่น ร.พ.กรุงเทพ ร.พ.บีเอ็นเอช ร.พ.สมิติเวช ฟิตเนสเฟิร์ส และอยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. มอบสิทธิพิเศษแก่สมาชิกบัตร รวมทั้งการเพิ่มโปรแกรมซีอาร์เอ็ม ผ่านการทำโปรโมชั่นพิเศษ เช่น การจับมือกับลอรีอัลจัดรายการลดราคาสินค้าลอรีอัลสูงสุดถึง 300 บาท เฉพาะที่ร้านบู๊ทส์ และลดเพิ่มอีก 5% สำหรับสมาชิกบู๊ทส์ เฮลท์ คลับ



รวมถึงโปรโมชั่นที่บู๊ทส์ใช้เรียกลูกค้าในปัจจุบัน คือโปรโมชั่นเบสต์ แวลู ราคาสุดคุ้ม แลกซื้อสินค้า ในราคา 69 บาท หรือซื้อสินค้า 2 ชิ้น ในราคา 96 บาท เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงปลายเดือนสิงหาคม



ด้านวัตสันก็เน้นกลยุทธ์ซีอาร์เอ็ม ด้วยการใช้บัตรสมาชิกวัตสัน เมมเบอร์ชิพ การ์ด เป็นตัวกระตุ้น ด้วยการมอบส่วนลดโปรแกรมสะสมแต้ม และส่วนลดค่าตรวจรักษาโรงพยาบาลพญาไท



BIG C-เซเว่นฯ ซุ่มเปิดสเปเชียลตี้สโตร์



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ร้านสเปเชียลตี้สโตร์กำลังปรับตัวด้วยการพยายามหาช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ เข้ามาเสริมเพื่อเป็นการเติบโตอีกทางหนึ่ง ทางฟากฝั่งผู้ประกอบการค้าปลีกก็อยู่ระหว่างการทดลองโมเดลร้านสเปเชียลตี้สโตร์ โดยเซเว่นอีเลฟเว่นที่ซุ่มทดลองโมเดลร้านขายยาและสินค้าเพื่อสุขภาพ ภายใต้ชื่อ "เอ็กซ์ตร้า" ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2550 ถึงปัจจุบันมี 4-6 สาขา ขณะที่บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ก็เปิดร้านสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามในชื่อของ "เพรียว" ตอนนี้มี 7 สาขา โดยเปิดอยู่ในบิ๊กซี 6 สาขา และ เอสพละนาด 1 สาขา และขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดให้สมัครสมาชิกพนักงานเพื่อเตรียมขยายสาขา และมีการเปิดรับสมาชิกบัตรเพรียว แวลู การ์ด ผ่านทางเว็บไซต์




LinkWithin

Related Posts with Thumbnails