Monday, August 8, 2011
NIELSENชี้"คนไทย"เน้นจับจ่ายคุ้มค่า HYPERMARKET ฮิต-กรี๊ดโปรโมชั่น-คูปองส่วนลด
Saturday, November 28, 2009
TESCO LOTUS ส่งคูปองCLUB CARDขอบคุณลูกค้าทั่วไทยครั้งแรก รวมมูลค่ากว่า 230 ล้านบาท

Tesco Lotus จัดส่งจดหมายClub Cardพร้อมคูปองแก่ลูกค้าผู้สมัครและใช้Club Cardในรอบ 3 เดือนแรก รวมมูลค่ามากกว่า 230 ล้านบาท โดยลูกค้าที่ใช้Club Cardก่อนวันสรุปยอดสะสมแต้มครั้งแรกในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2552 จะได้รับสิทธิประโยชน์จากTesco Lotus ซึ่งประกอบด้วยคูปองแทนเงินสด และ/หรือคูปองส่วนลดสินค้าที่Tesco Lotusคัดสรรให้ตามพฤติกรรมการจับจ่ายของลูกค้า จดหมายClub Cardนี้เป็นการตอกย้ำความสำเร็จก้าวแรกของ “Club Card บัตรขอบคุณ” โปรแกรมขอบคุณลูกค้าที่Tesco Lotus ตั้งใจมอบแทนคำขอบคุณให้แก่ลูกค้าทั่วประเทศ
Club Card บัตรขอบคุณ นับเป็นโปรแกรมขอบคุณลูกค้าที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดโปรแกรมหนึ่งของโลก ด้วยการส่งเสริมให้เกิดการดำเนินธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก ลูกค้าที่สมัครและใช้Club Cardจะได้รับสิทธิประโยชน์ง่ายๆ ด้วยการรับแต้มสะสม 1 แต้มจากการจับจ่ายทุก 2 บาท โดยไม่มีการกำหนดมูลค่าการซื้อขั้นต่ำ และเมื่อสะสมแต้มตั้งแต่ 1,000 แต้มขึ้นไปก็จะได้รับคูปองเงินสดตามแต้มสะสม ซึ่งมีมูลค่าเริ่มตั้งแต่ 10 บาท และแต้มสะสมไม่มีวันหมดอายุ นอกจากนี้ “Club Card” ยังช่วยให้Tesco Lotusสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง และสามารถเข้าใจถึงความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าแต่ละคนอีกด้วย
นายสตีฟ แฮมเม็ทท์ ประธานกรรมการบริหาร Tesco Lotus กล่าวว่า “เราคาดการณ์ไว้ว่าหลังเปิดตัวClub Card จะมีลูกค้าร่วมเป็นสมาชิกจำนวน 4 ล้านรายในปีแรก โดยที่ผ่านมาลูกค้าตอบรับClub Cardดีเกินกว่าที่คาดไว้ โดยเวลาเพียง 3 เดือน มียอดผู้สมัครและใช้Club Cardทะลุเกินกว่า 3.2 ล้านคน (ณ วันสรุปยอดสะสมแต้ม 3 เดือนแรกวันที่ 9 พฤศจิกายน) ซึ่งเราได้มอบสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกค้ากลุ่มดังกล่าว เพื่อขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจในTesco Lotus ซึ่งจดหมายClub Cardพร้อมคูปองรอบแรกนี้ สามารถช่วยให้ลูกค้าประหยัดและร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ได้เป็นอย่างดี โดยลูกค้าสามารถนำคูปองแทนเงินสด และคูปองส่วนลดสินค้าต่างๆ ไปใช้จับจ่ายสินค้าและของขวัญสำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่นี้”
คุณยุพดี ศรีศิลป ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการตลาด – Club Card ประเทศไทย กล่าวว่า “จากข้อมูลการสรุปยอดสะสมครั้งแรกนี้ ลูกค้าผู้ถือClub Card บัตรขอบคุณ มากกว่า 2 ใน 3 มีแต้มสะสมเกินกว่า 1,000 แต้ม ซึ่งจะเป็นผู้ที่ได้รับคูปองแทนเงินสด และคูปองส่วนลดในสินค้าที่เขาจับจ่ายเป็นประจำ ส่วนลูกค้าที่มีแต้มสะสมน้อยกว่า 1,000 แต้ม เราก็ยังขอบคุณลูกค้าด้วยการมอบคูปองส่วนลดสินค้าที่เขาจับจ่ายเป็นประจำให้ด้วย ทั้งนี้ Tesco Lotusได้จัดส่งคูปองทั้ง 2 ประเภทรวมมูลค่าทั้งสิ้นมากกว่า 230 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นคูปองแทนเงินสดมูลค่ารวมกว่า 80 ล้านบาท และเป็นคูปองส่วนลดสินค้ามีมูลค่ารวมกว่า 150 ล้านบาทให้แก่ลูกค้าClub Cardในรอบการสะสมแต้ม 3 เดือนแรก”
ลูกค้าทุกท่านสามารถนำคูปองที่ได้รับไม่ว่าจะเป็นคูปองแทนเงินสด และคูปองส่วนลดสินค้าไปใช้ร่วมกับClub Card บัตรขอบคุณ ได้ที่Tesco Lotusทุกสาขาทั่วประเทศ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อศูนย์บริการลูกค้าClub Card โทร. 0-2626-8800
เกี่ยวกับClub Card บัตรขอบคุณ จากTesco Lotus:
Club Card บัตรขอบคุณ เปิดตัวครั้งแรกในเมืองไทย เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2552 หลังจากเปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศอังกฤษเมื่อ 14 ปีที่ผ่านมา Club Cardมาพร้อมบัตรใบเล็กในรูปแบบพวงกุญแจที่จะช่วยทำให้การสะสมแต้มเป็นเรื่องง่าย และเพิ่มความสะดวกในการพกพา โดยลูกค้าสามารถสมัครClub Cardได้ฟรี ที่จุดบริการลูกค้า Tesco Lotus ทุกสาขา เพื่อนำไปใช้สะสมแต้มได้ทันทีโดยมีรายละเอียด ดังนี้
- ใช้จ่ายครบทุก 2 บาท รับแต้มสะสม 1 แต้ม
- แต้มสะสมตั้งแต่ 1,000 แต้มขึ้นไป จะถูกเปลี่ยนเป็นคูปองแทนเงินสดตามจำนวนแต้มที่สะสม โดยมีมูลค่าเริ่มต้นที่ 10 บาท
- แต้มสะสมจะถูกเปลี่ยนเป็นคูปองแทนเงินสดและจัดส่งให้แก่สมาชิกพร้อมไปกับคูปองส่วนลดสินค้า โดยส่งให้ถึงบ้านทางไปรษณีย์ทุก 3 เดือน
- แต้มสะสมไม่มีวันหมดอายุ เพราะแต้มสะสมคงเหลือ จะถูกโอนไปสะสมในรอบการสะสมถัดไปโดยอัตโนมัติ
- ลูกค้าสามารถใช้คูปองClub Cardได้ที่Tesco Lotus ไฮเปอร์มาร์เก็ต ตลาดโลตัส Tesco Lotus คุ้มค่า และTesco Lotus เอ็กซ์เพรส ทุกสาขาทั่วประเทศ
- ปัจจุบันมีลูกค้าสมัครและใช้Club Cardแล้วจำนวน 3.2 ล้านคน (ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2552)
Wednesday, October 28, 2009
ROBINSON shifts focus to suburban stores
Robinson Department Store Plc's Rarm Intra outlet has become a new strategic centre for the company's Bangkok operations due to the area's growing number of upscale housing developments, a senior executive says.
Customer purchasing power in the Rarm Intra area has increased dramatically when compared to shopping behaviour in downtown Bangkok, said vice-president for marketing Sirinij Chokchairittikul.
Average spending per bill at Robinson Rarm Intra, which is located at Fashion Island, increased to about 2,500 baht from almost 1,000 five years ago.
Best-selling products were high-priced items such as watches, high-tech gadgets and fashion and lifestyle products, she said.
A company study found that half of Rarm Intra households earned between 50,000 and 60,000 baht per month. They also liked to shop locally.
"In my opinion, department stores in Bangkok's outskirts and upcountry areas got a modest impact from the economic downturn and political unrest when compared to downtown stores," said Ms Sirinij.
Due to better-than-expected performance of Robinson's Rarm Intra and Rangsit branches, the firm will increase the marketing budget for the two stores and develop specific strategies for each outlet's customers.
"We see tougher competition in Bangkok and what we want to do is to focus more on suburban stores and those locating upcountry. These stores have less competition and the business potential is tremendous," she said.
Yesterday, the company launched its 10-million-baht "Beauty World @ Robinson Fashion Island" which runs from Oct 22 to Nov 2. The event features about 50 cosmetic brands, more than 20 of which are high-end brands.
Prasert Sriuranpong, executive director of Siam Retail Development Co, which operates Fashion Island shopping complex, said the recession has only had a small impact on the mall's business.
"Despite economic and political difficulties, we have seen the number of shoppers grow 8.5% year-on-year so far this year," he said.
Mr Prasert said Rarm Intra was a prime residential area with high-end housing projects where units can range from 5 million to 30 million baht.
Cosmetics was one of the product categories least affected by the recession. Cosmetics sales at Robinson increased by 5% in the first nine months and are expected the rise by 7% to 8% for the whole year. The category contributes 15% to Robinson's overall sales.
Shares of Robinson closed on the Stock Exchange of Thailand at 10 baht, down 40 satang, in trade worth 12.98 million baht.
Friday, October 9, 2009
TESCO LOTUS CLUBCARD THE KEY OF LOYALTY STORE
การแข่งขันเรื่องลอยัลตี้โปรแกรมของห้างไฮเปอร์มาร์เก็ตในช่วงที่ผ่านมา ถือว่ามีความเข้มข้น ไม่น้อยหน้ากัน เมื่อ "เทสโก้ โลตัส" เปิดตัวบัตรขอบคุณ "คลับการ์ด" ไม่กี่สัปดาห์ ต่อมา ค่าย "บิ๊กซี" ก็ดัน "บิ๊กการ์ด" ออกมาใช้แทนบัตรช็อปโทร.ฟรี พร้อมเกทับด้วยการมอบคูปองเงินสดทันทีเมื่อซื้อครบตามเงื่อนไขที่กำหนด ใกล้เคียงกับเงื่อนไขของ "บัตรไอวิช" ของคาร์ฟูร์
ถึงนาทีนี้ ผู้บริหารห้างค้าปลีกหลายค่ายต่างยอมรับว่า บัตรสมาชิกมีผลต่อพฤติกรรมลูกค้ามากขึ้น ที่เห็นได้ชัดคือลูกค้าในกรุงเทพฯและปริมณฑลที่มีลอยัลตี้ต่อห้างน้อยลง และพร้อมที่จะสวิตชิ่งไปหาสิ่งที่ให้ดีลพิเศษมากกว่า
"ประชาชาติธุรกิจ" ได้มีโอกาสพูดคุยกับ "กวิน สัณฑกุล" กรรมการและประธานบริหารฝ่ายการตลาด เทสโก้ โลตัส ถึงการแข่งขันอันร้อนแรงในสมรภูมิค้าปลีก ซึ่ง "กวิน" บอกว่า สุดท้ายลูกค้าที่มีหลายบัตรจะเลือกเบเนฟิตที่เหมาะกับเขาที่สุด และจะชินกับการใช้บัตรนั้น ดังนั้น โจทย์สำคัญก็คือ ต้องทำให้คลับการ์ดกลายเป็นพรีเฟอร์การ์ด หรือการ์ดใบโปรดให้ได้ ลูกเล่นแรกที่เทสโก้ฯนำมาใช้ คือการ สะสมพอยต์ และหลังจากนี้ 2-3 เดือนก็จะมีคูปองเงินสดและคูปองส่วนลดให้ลูกค้านำกลับมาใช้ต่อ
"คีย์หลักของคลับการ์ดเน้นที่การขอบคุณลูกค้า ยิ่งซื้อมาก ยิ่งได้รับการขอบคุณมาก เงื่อนไขไม่ยุ่งยาก และแต้มไม่มีวันหมดอายุ อีกทั้งรูปแบบสาขาที่หลากหลาย รองรับช็อปปิ้งมิสชั่นที่แตกต่างกันของลูกค้าได้ ลูกค้าจึงมีโอกาสได้แต้มง่าย"
สเต็ปแรกของคลับการ์ดเริ่มจากในสโตร์ ต่อมาจึงขยายผลไปยังร้านเช่า เช่น เอ็มเค สุกี้ ซีเอ็ด หรือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ในรูปของคูปองส่วนลด ซึ่งเป็นผลดีกับ กลุ่มเวนเดอร์ที่ต้องการโปรโมตสินค้า
"ฐานข้อมูลลูกค้าสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายขายหรือ ฝ่ายผลิต เพราะเมื่อเรารู้ว่าลูกค้าเป็นใคร ต้องการอะไร และมีพฤติกรรมอย่างไร ฝ่ายขายและฝ่ายผลิตก็สามารถทำราคา โปรโมชั่น ผลิตภัณฑ์ใหม่ ให้เหมาะสมกับลูกค้า ช่วยเพิ่มโปรดักทิวิตี้ ทำให้เขามีเงินเหลือ สามารถลงทุนให้ลูกค้าได้มากขึ้น เป็นข้อดีที่หมุนเวียนไปเป็นวัฏจักร"
สเต็ปต่อไปเป็นการมอบโปรโมชั่นที่เหมาะสมกับพฤติกรรมรายบุคคล จากนั้นก็จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของเทสโก้ฯชัดขึ้น เช่น การสร้างเบบี้คลับรองรับลูกค้าที่เพิ่งมีลูก หรือเฮลท์คลับ ไวน์คลับ ฯลฯ
ถือเป็นการดีไซน์สโตร์ให้เหมาะกับพฤติกรรม ช่วยเสริมในเรื่องช็อปปิ้งเอ็กซ์พีเรียนซ์และเพิ่มความถี่ในการจับจ่าย
"กวิน" กล่าวตบท้ายว่า ความสำคัญของการทำลอยัลตี้โปรแกรม ไม่ได้อยู่ที่ว่าใครมาก่อนมาหลัง หรือสิทธิประโยชน์ที่มอบให้ลูกค้า แต่อยู่ที่ว่าเราจะเอาข้อมูลที่ได้ไปทำอะไร ไปครีเอตแวลูอย่างไร
เกมนี้ใครขยับตัวตามลูกค้าไว้ที่สุด โอกาสชนะก็ยิ่งสูง
Friday, September 25, 2009
Carrefour Promotes iWish as Loyalty Pragram
CenCar Co, the local operator of Carrefour hypermarkets, is stepping up its customer loyalty and retention programmes to better compete with rivals Tesco Lotus and Big C.
CenCar merchandising director Prapaphan Ploysaengngam (centre), announces more promotions for ‘I Wish’ cardholders yesterday.
The launch of membership cards by major retail players has intensified in recent years.
Central Retail Corporation pioneered the innovation locally with the introduction of by Tops Supermarket's Spot Rewards in June 2004 followed by The 1 Card for the other CRC brands in 2006 ago.
Carrefour introduced its I Wish card in 2007. The Mall Group started its M Card loyalty programme earlier this year. A few months later Tesco Lotus and Big C Supercenter introduced the Club Card and Big Card, respectively.
CenCar initially planned to spend 140-150 million baht to promote sales in the fourth quarter, said merchandising director Prapaphan Ploysaengngam. But, almost one-third of the budget, or 50 million baht, will now be allocated to the Carrefour Month 2009 campaign which runs from tomorrow until Oct 29.
The promotion offers I Wish cardholders discounts between 3% to 100% on their next purchase at 37 stores nationwide.
Apart from giving discounts, all vendors at Carrefour shopping centres will for the first time join a campaign and offer giveaways and promotional items to shoppers. "It is difficult to draw new customers to shop at our stores and it is more difficult to retain our existing customers particularly when the economy is weak," Ms Prapaphan said.
With the new campaign, CenCar expects to boost the number of loyal customers to 70%, up from current 60%.
For its expansion plan, the company will officially open its 37th Carrefour branch in Lop Buri today. Two outlets will be opened in Lam Luk Ka, Pathum Thani next month and in Chumphon province in December, increasing the total store count to 39 by the year-end.
Combined, the three new stores will cost 1.5 billion baht and hire 600 new jobs. Each outlet has 6,000 square metres of retail space.
Monday, September 21, 2009
7Eleven Focus as Food Convenient
7/11ปูพรมสาขาแฟรนไชส์-ชูภาพ"ร้านอิ่มสะดวก"ดึงลูกค้า
"เซเว่นอีเลฟเว่น" ปรับยุทธศาสตร์เพิ่มน้ำหนักดึงเถ้าแก่หน้าใหม่เปิดแฟรนไชส์ ช่วยเพิ่มความคล่องตัว-ลดภาระการลงทุน มีเวลาทำหน้าที่สร้างประสิทธิภาพด้านยอดขายและกำไรมากขึ้น พร้อมโฟกัสภาพลักษณ์ "ร้านอิ่มสะดวก" แทนร้านสะดวกซื้อ เผยหลังทยอยปรับโพซิชันนิ่ง ตัวเลขวิ่งฉิว
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านเซเว่นอีเลฟเว่น กล่าวว่า จากนี้ไปบริษัทจะให้ความสำคัญกับการเพิ่มสาขาแฟรนไชส์มากขึ้น จากปัจจุบัน เซเว่นฯมีร้านแฟรนไชส์อยู่ 2,344 สาขา หรือ 45% และจะเพิ่มเป็น 46% ภายในสิ้นปี จากทั้งหมด 5,000 สาขา วางแผนภายใน 5 ปี สัดส่วนร้านแฟรนไชส์จะมีประมาณ 60% ส่วนอีก 40% ที่เหลือเป็นการลงทุนเองของบริษัท หรือเฉลี่ยมีแฟรนไชส์เพิ่มขึ้นปีละ 3%
ที่ผ่านมา เซเว่นฯได้ปรับเงื่อนไขการเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ให้ง่ายขึ้น ทั้งการเพิ่ม รูปแบบการลงทุนที่มี 2 โมเดล คือลงทุน 500,000 บาท ระยะเวลาอนุญาตให้ดำเนินการร้าน 6 ปี กับลงทุน 1.7 ล้านบาท ระยะเวลาอนุญาต 10 ปี หรือแม้กระทั่งการการันตียอดขายด้วยการให้ผู้สนใจลงทุนเลือกซื้อแฟรนไชส์จากสาขาที่ประสบความสำเร็จแล้ว โดยไม่ต้องมีทำเลมาเสนอ
อย่างไรก็ตาม การเพิ่มจำนวนแฟรนไชส์ บริษัทจะเน้นนักธุรกิจรายใหม่มากกว่าแฟรนไชซีเดิม จึงมีกฎเข้มงวดสำหรับ แฟรนไชซีเดิมที่อยากซื้อแฟรนไชส์เพิ่ม ต้องทำมาตรฐานร้านเดิมให้เข้าเกณฑ์สูงถึง 90% ทั้งนี้ บริษัทต้องการสร้างนักธุรกิจ รุ่นใหม่ๆ มากกว่า
"ข้อดีของการมุ่งขยายแฟรนไชส์ หลักๆ ทำให้การทำงานของบริษัทคล่องตัวขึ้น เพราะแฟรนไชซีจะเป็นผู้บริหารจัดการร้านแทนบริษัท ขณะเดียวกัน บริษัทจะสามารถให้เวลากับการสร้างประสิทธิภาพด้าน ยอดขายและกำไรต่อสาขาได้อย่างเต็มที่"
นายปิยะวัฒน์กล่าวว่า พร้อมกันนี้ เซเว่นฯก็จะปรับภาพลักษณ์จากร้านสะดวกซื้อเป็นร้านอิ่มสะดวกควบคู่ไปด้วย เริ่มจากการถอดรายการสินค้าของใช้ทั่วไปออกจากร้านนับพันรายการ เพื่อนำเสนอสินค้าอาหารเพิ่มเข้ามา โดยเฉพาะชิลล์ฟู้ด เบเกอรี่ และเครื่องดื่ม จากที่ก่อนหน้านี้มีสัดส่วนอาหาร 70% ของใช้ทั่วไป 30% ก็ปรับเป็นอาหาร 80% ของใช้ทั่วไป 20% และภายใน 3 ปี จะปรับเป็น 85 : 15 รวมถึงการเพิ่มธุรกิจใหม่ๆ ในร้าน ปัจจุบันมีร้านอิ่มสะดวกเต็มรูปแบบ 200-300 สาขา ในกรุงเทพฯและปริมณฑล บางสาขาที่ไม่มีชิลล์ฟู้ด ก็จะมีเบเกอรี่นำร่องไปก่อน
การที่บริษัทปรับมาเป็นร้านอิ่มสะดวก เพราะการขายสินค้าทั่วไปจะไม่ฉีกจากร้านมินิมาร์ตและโชห่วย นอกจากนี้ บริษัทในเครือยังมีความชำนาญเรื่องอาหาร จึงสามารถซัพพอร์ตสินค้าในร้านได้เต็มที่ และที่สำคัญ สินค้ากลุ่มอาหารมีมาร์จิ้นสูงถึง 30% ขณะที่ของใช้ทั่วไปมีมาร์จิ้นเพียง 10%
"อาหารยังเป็นสินค้าที่ขายออกง่ายกว่า เพราะลูกค้าสามารถเข้ามาซื้อได้ 3 มื้อต่อวัน ไหนจะมื้อทานเล่นที่มีไม่จำกัด ตรงข้ามกับของใช้ทั่วไปที่ใช้เวลานานกว่าจะขายหมด บางสินค้าใช้เวลานานสุดถึง 7 เดือน"
นายปิยะวัฒน์กล่าวต่อไปว่า หลังจากเริ่มปรับภาพลักษณ์มาเป็นร้านสะดวกอิ่มตั้งแต่ต้นปี ทำให้ 8 เดือนที่ผ่านมา บริษัทสามารถเติบโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้คือ 5% และสินค้าอาหารก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า โดยเฉพาะแบรนด์อีซี่โก ซึ่งมียอดขายสาขาละ 15 แพ็กต่อวัน หรือมากกว่า 2 ล้านแพ็กต่อเดือน
Thursday, August 20, 2009
Tesco Lotus hastens expansion in Thailand
Image via Wikipedia
Tesco Lotus, the
Hammett: Loyalty card ‘the best’
Steve Hammett, CEO of the local Tesco Lotus operator Ek-Chai Distribution System Co, said the company had had robust investment in
It is expected that the number of new outlets to be added next year will be a bit more than in 2009.
Tesco is present in 13 countries and the
Ek-Chai Distribution System has tried to persuade Tesco to increase its investment in
"I don't see an economic recovery yet but it can't get any worse," said Mr Hammett.
The company will launch its Clubcard reward programme tomorrow. It tested the market with pilot programmes in Hat Yai and Ko Samui stores over the past few years and received good customer response.
Several retail operators such as Central Department Store, Tops Supermarket, Carrefour, Future Park Rangsit, M Card and recently The Mall Group also offer loyalty cards.
"It is more important to be the best, not the first," said Mr Hammett. "Compared to other competitors, nobody has a scheme like us: it is free to join, we offer cash coupons, there is no minimum requirement and you can redeem at all 62 stores nationwide."
Monday, April 13, 2009
เปิดมิติใหม่...ซีพีออลล์ รุก "ค้าปลีก" ควบคู่การศึกษา

แม้เมืองไทยจะมีเชนค้าปลีกรายใหญ่ในโลกตบเท้าเข้ามาเปิดบริการจนเกือบครบทุกแบรนด์ แต่เป็นที่ทราบกันดีของคนในแวดวงว่า ยังไม่มีสถาบันการศึกษาแห่งใดที่เปิดหลักสูตรเกี่ยวกับการบริการ การจัดการธุรกิจค้าปลีก อย่างจริงๆ จังๆ ทั้งๆ ที่นับวันธุรกิจนี้จะยิ่งเติบใหญ่มากขึ้นทุกวัน และมีหลายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง
"ซีพี ออลล์" ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น ร่วมกับ สถาบันเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ และสถาบันเพิ่มผลผลิต แห่งชาติ จัดหลักสูตรอบรมระยะสั้น "Advance Retail Management" (ARM) เพื่อแบ่งปันและแลกเปลี่ยนแนวทางบริหารจัดการองค์กรสำหรับนักธุรกิจที่สนใจ
"ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์" ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร ซีพี ออลล์ ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น เปิดใจในเรื่องนี้ว่า ปัจจุบัน ซีพี ออลล์ มีบริษัทในเครือหลายบริษัท และมีงานที่ต้องทำมากกว่า 10 โครงการ บริษัทจึงมองเป็นโอกาสดีที่จะถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับกระบวนการเหล่านี้ไปยังองค์กรต่างๆ โดยจัดเป็นหลักสูตรระยะสั้น 4 เดือน เพื่อให้ผู้สนใจนำความรู้ที่ได้จากประสบการณ์จริงไปปรับใช้ในองค์กรของตน
"เราอยากเห็นองค์กรเมืองไทยแข็งแรง ทั้งการขายและการบริหารจัดการที่ดี จึงอยากเผยแพร่ความรู้ให้องค์กรอื่นๆ นำไปศึกษาและปรับใช้ เพื่อให้มีอาวุธครบมือ"
กลุ่มเป้าหมายของหลักสูตรนี้ ได้แก่ เจ้าของกิจการหรือทายาท ธุรกิจคู่ค้าและพันธมิตร เน้นผู้บริหารระดับกลางถึงระดับสูง มีประสบการณ์การทำงานกว่า 10 ปี
ปัจจุบันมีนักเรียนจบหลักสูตรไปแล้ว 1 รุ่น รุ่นที่ 2 กำลังศึกษา และเดือนพฤษภาคมจะเปิดรับสมัครรุ่นที่ 3 โดย 2 รุ่นแรกได้รับความสนใจจากองค์กรต่างๆ มากมาย เช่น มาลี มาม่า ดีทแฮล์ม กูลิโกะ เถ้าแก่น้อย ธนาคารกสิกรไทย ทรู ฯลฯ
"ถามว่า ซีพี ออลล์ ได้อะไรจากโครงการนี้ ส่วนตัวคิดว่ามันเป็นการสร้างความสัมพันธ์ ไม่มีอะไรเสีย เราไม่มีความลับเพราะเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ โครงการนี้จัดเป็นการให้บริการด้านการศึกษาถือเป็นการช่วยเหลือสังคมและประเทศชาติ โดยเอาตัวเองเป็นตู้โชว์"
เขาอธิบายด้วยว่า ผู้เข้าร่วมหลักสูตรจะได้เห็นกระบวนการทำงานจริงของซีพี ออลล์ และได้สัมผัสดูงานจากสถานที่จริง เช่น คลังสินค้า โรงงานอาหาร ฯลฯ ซึ่งมั่นใจในคุณภาพของหลักบริหารจัดการได้ การันตีจากรางวัลคุณภาพแห่งชาติระดับคลาส (Thailand Quality Class : TQC) จากสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ 5 รางวัล
เป็นของ ซี.พี.ค้าปลีกและการตลาด (ซีพีแรม) 2 รางวัล ได้แก่ โรงงานอาหารสำเร็จรูป และโรงงานเบเกอรี่ ส่วนเซเว่น อีเลฟเว่นได้ 2 รางวัล ในเรื่องภาพรวม และอีก 1 รางวัลเป็นของเคาน์เตอร์เซอร์วิส
ส่วนรางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award : TQA) ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับโลก "ก่อศักดิ์" ยอมรับว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รางวัลคุณภาพแห่งชาติ แม้แต่ เซเว่นอีเลฟเว่นที่เคยเอาเข้าประกวด แต่พลาดมาแล้ว อย่างไรก็ตาม "ก่อศักดิ์" ยืนยันว่าจะ "บ้าเลือด" ส่งเซเว่นฯเข้าชิงรางวัลต่อไป ด้วยเหตุผลที่ว่า
"ยิ่งมีกรรมการเข้ามาตรวจงานในองค์กร ยิ่งทำให้พนักงานตื่นตัว ที่สำคัญหากองค์กรไม่ผ่านเกณฑ์ กรรมการจะบอกสิ่งที่ต้องแก้ไขต่อไป"
เมื่อถามถึงสิ่งที่เซเว่นอีเลฟเว่นต้องแก้ไข "ก่อศักดิ์" เฉลยให้ฟังอย่างอารมณ์ดีว่า "มีมากมายจนเจียระไนภายในวันเดียวไม่จบ เพราะเซเว่นฯเป็นองค์กรที่ต้องขยายตัวตลอดเวลา อย่างสาขาที่มากขึ้นก็ทำให้เราต้องดูแลลูกน้องมากขึ้นตามไปด้วย และเมื่อขยายมาถึง 4,900 สาขา ปัญหาจุกจิกก็เพิ่มมาก จนต้องตั้งอีกบริษัทเพื่อจัดการปัญหาจุกจิกโดยเฉพาะ"
"พนักงานในร้านก็สำคัญ ยิ่งคนเยอะ เราก็ต้องคุมเขาให้อยู่ อย่างปัญหาของหาย ตามหลักวิชาการบอกว่า 83% เป็นโจรใน 17% เป็นโจรนอก ถ้าลูกน้องไม่รักองค์กร เขาเห็นตำตาว่าเพื่อนขโมยของ เขาก็ไม่ห้าม ตรงข้าม ถ้าเขารักองค์กร เขาจะไม่ยอมให้ใครมาขโมยของ"
"ก่อศักดิ์" บอกเคล็ดลับให้ฟังว่า "ทุกวันนี้เราคุมโจรในอยู่ด้วยการทำให้เขามีการศึกษา ทำให้เขาเห็นอนาคต และสุดท้ายเขาจะรักองค์กร"
ถือเป็นมิติใหม่ของซีพี ออลล์ ที่เพิ่มขอบเขตการให้บริการไปยังการให้ "ความรู้"