Pages

Showing posts with label G store. Show all posts
Showing posts with label G store. Show all posts

Thursday, June 7, 2012

"บางจาก"ลุยโกยรายได้ครึ่งปีหลัง รุกส่งออกน้ำมันเตาญี่ปุ่น-ดึงบิ๊กซีค้าปลีก200ปั๊ม


ดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วางกลยุทธ์ขยายรายได้จากการส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันเตาชนิดพิเศษซึ่งมีส่วนผสมของกำมะถันเพียง 0.3% เข้าไปยังประเทศญี่ปุ่น ภายหลังเกิดเหตุการณ์สึนามิมีความต้องการใช้น้ำมันเตาปริมาณมากและนิยมซื้อเกรดพิเศษ สามารถขายได้ราคาดีถึง 16 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ผลิตได้เท่าไหร่ทางญี่ปุ่นสั่งซื้อทั้งหมด ขณะนี้บางจากผลิตได้วันละประมาณ 10% ของน้ำมันทั้งหมด ซึ่งผลิตเฉลี่ย 110,000 บาร์เรลต่อวัน พร้อมทั้งเดินหน้าแผนร่วมทุนเปิดร้านสะดวกซื้อภายในสถานีบริการบางจาก เตรียมร่วมกับห้างสรรพสินค้าเครือบิ๊กซี ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่ เริ่มทดลองบ้างแล้วประมาณ 5 สถานี แห่งแรกตรงสถานีบางจาก สุขุมวิท 64 ตั้งเป้าโดยภาพรวมจะขยายให้ได้กว่า 200 แห่ง รวมถึงทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนกับภายในห้างบิ๊กซีจะจำหน่ายสินค้าชุมชนพ่วงเข้าไปด้วย ส่วนร้านใบจากทางบริษัทจะยกเลิกเร็ว ๆ นี้ ขณะที่ร้านเลมอนฟาร์มยังอยู่เพราะเป็นของมูลนิธิที่จะมาเช่าสถานีบางจากขายสินค้าเพื่อสุขภาพ

Monday, April 2, 2012

Big C TO RAISE B4BN FOR SMALL STORE GROWTH


Braibant: Private placement is quicker

Big C Supercenter Plc (BIGC), the hypermarket operator, plans to raise 4 billion baht for business expansion this year, with a particular focus on small-format stores.

The company's board yesterday approved a private placement of up to 23.6 million authorised but unissued shares, representing 2.9% of Big C's existing share capital.

Based on current share price, the amount raised will be about 4 billion baht.

Another 1.5 billion baht of cash flow will be spent on business expansion in 2012.

Friday, March 30, 2012

BIG C ระดมทุนผุด300สาขาย่อยในปั๊มบางจาก - เดินแผนขาย23.6ล้านหุ้นแบบเฉพาะฯ

"ห้างบิ๊กซี" เตรียมชงผู้ถือหุ้นอนุมัติแผนขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง 23.6 ล้านหุ้น ในวันที่30เม.ย.นี้ คาดดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส2 หวังนำเงินที่ได้ไปใช้เปิดสาขาย่อยในปั๊มน้ำมันบางจาก ให้ได้ 300 สาขาใน 5 ปี ตามแผนขึ้นสู่ผู้ค้าปลีกอันดับ1ของบประเทศ
      
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2555 คณะกรรมการบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือBIGC ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ อนุมัติให้ดำเนินการจัดสรรหุ้นสามัญจดทะเบียนที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 23.6 ล้านหุ้นให้แก่นักลงทุนเฉพาะรายและ/หรือผู้ลงทุนสถาบัน โดยวิธีเสนอขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง (private placement) โดยหุ้นดังกล่าว คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 2.9 ของจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วของบิ๊กซี การระดมทุนครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ขยายธุรกิจของบิ๊กซี ตามที่ประกาศไว้ในเดือนตุลาคม 2554 ที่จะเป็นผู้ค้าปลีกสมัยใหม่อันดับ 1 ของประเทศไทย และเป็นผู้ประกอบการที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาค

Thursday, March 31, 2011

ปตท. จับมือ ซีพี ออลล์ ต่อสัญญาร้าน 7-Eleven ในปั๊มอีก 10 ปี

นายปรัชญา ภิญญาวัธน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)  และนายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหาร 7-Eleven  เปิดเผยว่า บริษัทได้ ร่วมลงนามสัญญาหลักความร่วมมือการดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อในสถานีบริการ ปตท. ทั่วประเทศ ต่อเนื่องไปอีก 10 ปี เพื่อร่วมกันพัฒนาสถานีบริการน้ำมันให้เป็น "สถานีเติมความสุข" ของคนไทยทั่วประเทศ
             

Thursday, October 28, 2010

PTTRM ส่ง JIFFY ลุยตลาดนอกปั้ม เพิ่มรายได้เสริม50%ทดแทนมาร์จิ้นน้ำมันต่ำติดดิน

ดร. กฤษณะพล โกมลบุณย์
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก

ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก หลังแห้วซื้อคาร์ฟูร์ ปรับแผนเพิ่มรายได้เสริมค้าปลีกน้ำมัน 50% จากเดิม 25% ส่งแบรนด์ "จิฟฟี่" ร้านสะดวกซื้อลุยตลาดนอกปั๊ม นำร่องตึกเอนเนอร์ยี่ เล็งขยายเพิ่มอีก 5 แห่ง พร้อมเตรียมลงทุนอีก 300 ล้านบาท เปิดปั๊ม ปตท.-จิฟฟี่ ใหม่ 4 แห่ง

นายกฤษณะพล โกมลบุณย์ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด หรือ PTTRM เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ภายหลังจากที่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ไม่ได้เข้าร่วมประมูลซื้อไฮเปอร์มาร์เก็ต (คาร์ฟูร์) เพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจค้าปลีกน้ำมันแล้ว จึงได้ปรับแผนใหม่โดยจะเน้นพัฒนาแบรนด์ "จิฟฟี่" ร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหารที่มีอยู่ซึ่งวาง เป้าหมายที่จะปรับโครงสร้างรายได้เดิมจากการขายน้ำมันผ่านสถานีบริการอยู่ที่ประมาณร้อยละ 80 จากธุรกิจเสริมอยู่ที่ร้อยละ 25 ให้มีสัดส่วนอยู่ที่ 50 : 50 แทน เนื่องจากปัจจุบันค่าการตลาดน้ำมัน (margin) ต่ำมากในช่วงที่ผ่านมาเฉลี่ยไม่เกิน 1.20 บาท/ลิตร ในบางสัปดาห์ค่าการตลาดต่ำถึง 90 สตางค์/ลิตร จึงต้องปรับในธุรกิจค้าปลีกน้ำมันต้องปรับแผนธุรกิจในรูปแบบนี้ ตามสถานการณ์ของตลาดที่เปลี่ยนไป

Friday, October 15, 2010

ปตท.ไม่สนเดินหน้าลุยค้าปลีก PTT RETAIL FULL AHEAD

ปตท.ปรับกระบวนยุทธ์ลุยธุรกิจค้าปลีกน้ำมันใหม่ หลังประกาศถอนตัวซื้อห้างคาร์ฟูร์ เตรียมชงแผนลงทุน 5 ปี มูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท เสนอบอร์ดสิ้นปีนี้ ยกระดับปั๊มน้ำมันให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้นใน 3 รูปแบบ หวังจะเพิ่มรายได้จากกิจการค้าปลีกขึ้นไประดับ 50% เทียบเท่าธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน แย้มลุยแก้สัญญากับเซเว่นอีเลฟเว่นใหม่ ซื้อแฟรนไชส์ทำเอง แทนการให้เช่าพื้นที่ในปั๊ม 

นายปรัชญา ภิญญาวัธน์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลายและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)(บมจ.) เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจค้าปลีกน้ำมันว่า ขณะนี้กลุ่มธุรกิจน้ำมันของบมจ.ปตท.อยู่ระหว่างการทบทวนงบประมาณสำหรับการลงทุนธุรกิจค้าปลีกน้ำมันในช่วง 5 ปี (2553-2557)ใหม่ หลังจากที่เคยแจ้งกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไว้จำนวน 9,966 ล้านบาท

-พัฒนาปั๊มใหม่ชูคอนเซ็ปต์"พีทีที พาร์ก"
เนื่องจากก่อนหน้านี้คาดการณ์ว่า หากชนะการประมูลซื้อห้างคาร์ฟูร์สำเร็จ จะเป็นการต่อยอดธุรกิจค้าปลีกน้ำมันและกิจการค้าปลีกอย่างก้าวกระโดด แต่เมื่อต้องถอนการประมูลออกมา ทำให้ต้องปรับแผนการลงทุนในธุรกิจค้าปลีกน้ำมันใหม่ ด้วยการยกระดับปั๊มให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้นใน 3 รูปแบบ โดยจะปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันเก่าให้ทันสมัย ขณะเดียวกันจะมีการลงทุนสถานีบริการน้ำมันใหม่เพิ่มขึ้นในแนวคิดพีทีทีพาร์ก แพลทินัม และสถานีบริการน้ำมันมาตรฐาน ที่มีธุรกิจครบวงจรมากขึ้น โดยงบประมาณลงทุนในธุรกิจน้ำมันนี้คาดว่าจะนำเสนอให้คณะกรรมการบริหาร บมจ.ปตท.เห็นชอบภายในสิ้นปีนี้

Tuesday, August 24, 2010

JIFFY ปูพรมโมเดลใหม่ ปั้นแบรนด์"SUPERMARKET-ร้านอาหาร"บุกค้าปลีก


ปตท.ขยับตัวครั้งใหญ่ เปิดตัวธุรกิจค้าปลีกโมเดลใหม่ ส่ง "จิฟฟี่ มาร์เก็ต" ลุยซูเปอร์มาร์เก็ต พร้อมเปิด "จิฟฟี่ บิสโตร" บริการอาหารจานร้อน เปิดร้านคอนเซ็ปต์สแตนด์อะโลน-ไม่ยึดติดปั๊ม ล่าสุดทดลอง เปิดคอนวีเนี่ยนสโตร์แบรนด์ใหม่ "จอย" ในปั๊มแก๊ส "พงษ์เพชร-เอกชัย" พร้อมเผยเตรียมประมูลเปิดคีออสก์ขายสินค้าบนสถานีแอร์พอร์ตลิงก์

หลังจาก ปตท. ซื้อร้านสะดวกซื้อ "จิฟฟี่" ที่มีอยู่ 146 สาขาทั่วประเทศ พร้อมทั้งได้ทยอยรีโนเวตสาขาต่าง ๆ พร้อมกับมีการปรับระบบการดำเนินงานและระบบไอที พร้อมมองหาร้านค้าปลีกโมเดลใหม่มาเสริม เพื่อสร้างให้ธุรกิจค้าปลีกเป็นอีกขาหนึ่ง ที่ช่วยทำรายได้ให้กับบริษัท ล่าสุด ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก บริษัทในเครือ ปตท. ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ เตรียมจะเปิดตัว 2 ธุรกิจใหม่ "จิฟฟี่ มาร์เก็ต-จิฟฟี่ บิสโตร" ในรูปแบบสะแตนด์อะโลนที่อาคารเอ็นเนอร์จี้ คอมเพล็กซ์ ตึกเอ ที่บริเวณชั้น 1 ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ ปตท. จากก่อนหน้านี้ที่มีกระแสข่าวว่า ปตท.กำลังศึกษาเพื่อจะซื้อกิจการของคาร์ฟูร์


ซุ่มเงียบเปิด 2 โมเดลใหม่


แหล่งข่าวจากบริษัท ปตท. บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด บริษัทในเครือ ปตท. เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สำหรับคอนเซ็ปต์ของจิฟฟี่ มาร์เก็ต และ จิฟฟี่ บิสโตร จะเป็นร้านค้าที่ไม่ยึดติดกับการเปิดในปั๊มน้ำมันของ ปตท.เสมอไป และมีความยืดหยุ่นที่จะสามารถเปิดได้ในหลากหลายพื้นที่ตามความเหมาะสม

โดยในส่วนของจิฟฟี่ มาร์เก็ต เบื้องต้นจะเป็นร้านค้าปลีกคล้าย ๆ กับร้านสะดวกซื้อทั่ว ๆ ไป แต่จะมีอาหารสด เช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ ฯลฯ เข้ามาจำหน่ายร่วมด้วย มีพื้นที่ประมาณ 400 ตารางเมตร ขณะที่จิฟฟี่ บิสโตร เป็นร้านอาหารที่เน้นการซื้อกลับ (take away) พร้อมบริการส่งในอาคาร ปตท. และมีที่นั่งให้รับประทาน14 ที่นั่ง ด้วยเมนูอาหารนานาชาติหลากสไตล์ทั้งสไตล์ตะวันออก เช่น อาหารไทย ผัดไทยกุ้งสด อาหารญี่ปุ่น ยากิโซบะหมู และสไตล์ตะวันตก เช่น ชุดอาหารเช้าสไตล์อเมริกัน ทูน่าสลัด ฯลฯ ที่ปรุงและเสิร์ฟตาม ออร์เดอร์

ส่งแบรนด์ "จอย" เจาะปั๊มก๊าซ

แหล่งข่าวรายนี้ยังกล่าวด้วยว่า นอกจากการเปิดร้านค้าปลีกและร้านอาหารโมเดลใหม่ดังกล่าว ที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก โดยใช้แบรนด์ใหม่คือ "จอย" (Joy) ในปั๊มแก๊สของ ปตท. ซึ่งเบื้องต้นเพิ่งเปิดไป 2 แห่ง โดยแห่งแรกอยู่ที่สี่แยกพงษ์เพชร ส่วนอีกแห่งเปิดที่ย่านเอกชัย

สินค้าที่จำหน่ายเน้นสินค้าที่เป็นเครื่องดื่ม กาแฟสด หนังสือพิมพ์ ขนมขบเคี้ยว อาหารว่าง ฯลฯ ที่เป็นการย่อส่วนมาจากร้านสะดวกซื้อ และเน้นจับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นกลุ่มคนขับแท็กซี่ หรือผู้ที่เข้ามาใช้บริการในปั๊มก๊าซ

"เหตุผลที่ต้องตั้งแบรนด์ใหม่ขึ้นมา เนื่องจากไม่ต้องการจะทำให้กระทบกับแบรนด์จิฟฟี่"

ขณะที่แหล่งข่าวจาก ปตท.ฯ อีก รายหนึ่งให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมาบริษัทยังได้ร่วมมือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย ด้วยการใช้แบรนด์จิฟฟี่ เปิดเป็นคีออสก์บนสถานีรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ เน้นขายเครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว ฯลฯ และได้รับการตอบรับที่น่าพอใจ แต่เนื่องจากคีออสก์ที่เปิดบนสถานีรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ (พญาไท) ซึ่งมีเพียงแห่งเดียว เป็นการเปิดให้บริการชั่วคราว หากมีการเปิดประมูลพื้นที่อย่างเป็นทางการ บริษัทก็สนใจจะเข้าร่วมประมูลด้วย

ขณะที่จิฟฟี่ภายใต้การบริหารของ ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก จะอยู่ระหว่างการปลุกปั้นร้านสะดวกซื้อ รวมทั้งการมีโมเดลใหม่มาเสริม ในส่วนของร้านเซเว่น อีเวฟเว่น ที่เวลานี้มีสาขาประมาณ 5,500 แห่งทั่วประเทศ หรือแฟมิลีมาร์ท ที่มีจำนวนสาขาประมาณ 500 แห่ง ได้มีการปรับเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ด้วยการให้ความสำคัญกับสินค้าในกลุ่มอาหารมากขึ้น

เปิดสาขามี พท.เช่า สร้างรายได้

แหล่งข่าวจาก ปตท.ฯกล่าวว่า ควบคู่กับแนวทางดังกล่าว ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีกยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาสาขาที่มีพื้นที่ใหญ่ให้เป็นพื้นที่เช่า สำหรับสาขาที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ด้วยการเปิดสาขาในรูปแบบที่เรียกว่า Platinum Gas Station ที่มีลักษณะเป็นวันสต็อปเซอร์วิส ที่นอกจากจะมีปั๊มน้ำมันและร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่แล้ว ภายในพื้นที่สาขาดังกล่าวยังมีร้านค้าที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งร้านอาหารและบริการทางการเงินเปิดให้บริการด้วย

ตอนนี้เปิดไปแล้ว 6-7 แห่ง สาขาล่าสุดคือ สมุทรสาคร-พระราม 2 ก.ม.35 จากก่อนหน้านี้ที่ทยอยเปิดไปแล้วตั้งแต่ปี 2552 เช่น รามอินทรา 1 รามอินทรา 2 นครปฐม ก.ม.26 สุพรรณบุรี ก.ม.28 สระบุรี-แก่งคอย 1อยุธยา-วังน้อย และขณะนี้บริษัทยังมองที่จะหาพื้นที่เพื่อเปิดสาขาในลักษณะนี้เพิ่มอย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตว่า การเปิดสาขาในรูปแบบนี้น่าจะเป็นยุทธศาสตร์ที่ ปตท.ให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นรูปแบบที่สามารถทำรายได้และมีมาร์จิ้นที่ดี โดยเฉพาะการเปิดพื้นที่ให้พันธมิตรหรือผู้สนใจเข้ามาเช่า



Friday, August 20, 2010

บิ๊ก ปตท.สนใจซื้อ CARREFOUR ในไทย จับตาธุรกิจค้าปลีกในปั๊มน้ำมัน


ปตท. ยอมรับสนใจเข้าซื้อกิจการคาร์ฟูร์ในไทย "บิ๊กไฝ" สั่งศึกษาแนวทางการเข้าซื้อกิจการ และการร่วมทุน เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองทางธุรกิจค้าปลีกในปั๊มน้ำมัน ซึ่งมีร้านค้า เซเว่นฯ และจิฟฟี่ เป็นตัวหลัก แต่ไม่สบายใจการต่อรองส่วนแบ่งผลประโยชน์ ทำให้ต้องมีธุรกิจค้าปลีกที่เป็นของตัวเอง

นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน กล่าวถึงกระแสข่าวการเข้าซื้อกิจการห้างคาร์ฟูร์ โดยยอมรับว่า นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) สั่งให้ศึกษาการเข้าซื้อกิจการห้างคาร์ฟูร์ในประเทศไทยจริง หลังจากมีหลายบริษัทติดต่อเข้ามาเพื่อชักชวนให้เข้าร่วมประมูลซื้อกิจการดังกล่าว โดยจะมีการศึกษาทั้งแนวทางการเข้าซื้อกิจการด้วยตนเองและร่วมทุน รวมถึงการเข้าซื้อโรงกลั่นของเอสโซ่ (ESSO) เพื่อต่อยอดทางธุรกิจ
ทั้งนี้ การสนใจซื้อกิจการ คาร์ฟูร์ในไทย ถือเป็นโอกาสที่เกิดขึ้นกับ ปตท. โดยเบื้องต้นยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก ขณะที่ ปตท. ก็มีพันธมิตรที่ทำธุรกิจค้าปลีกในปั๊มของ ปตท. อยู่แล้ว ได้แก่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งทำร้านค้าสะดวกซื้อ "เซเว่น อีเลฟเว่น "

นอกจากนี้ ปตท. ยังมีร้าน "Jiffy" เป็นของตัวเอง ซึ่งการที่ ปตท.ได้เข้าซื้อกิจการร้าน jiffy ของปั๊ม Jet ในช่วงที่ผ่านมา สามารถช่วยธุรกิจค้าปลีกในปั๊มน้ำมันได้แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น ซึ่งในระยะหลังพบว่า คู่ค้าพยายามขอเจรจาเพิ่มส่วนแบ่งผลประโยชน์มากขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนประเด็นการสนใจเข้าซื้อคาร์ฟูร์ เพราะเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ อันดับ 2 ของโลก สัญชาติฝรั่งเศส มีแผนที่จะขยายกิจการในไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ในข้อตกลงที่อาจระดมเงินทุนได้ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ โดยผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจค้าปลีกของไทยหลายราย ให้ความสนใจ ที่จะเข้าซื้อกิจการดังกล่าว ซึ่งรวมถึง บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) และกลุ่มสหพัฒน์

"ปตท.มีความคิดว่า ตอนนี้ธุรกิจรีเทลไม่ใช่แค่ขายน้ำมัน แต่ร้านค้าในปั๊มก็เป็นเรื่องสำคัญด้วย อย่างไรก็ตาม ปตท.ยังยืนยันว่าธุรกิจหลักยังเป็น oil&gas ที่ผ่านมาการเข้าไปลงทุนในธุรกิจอื่น นอกเหนือจากธุรกิจหลัก เช่น ธุรกิจไฟฟ้า หรือซื้อโคโนโค ถือเป็นการลงทุนเท่านั้น ไม่ได้ต้องการให้กลายเป็นธุรกิจหลัก ปตท.ก็ไม่ได้เข้าไปทำธุรกิจอื่นที่หลุดจากไลน์เดิมของ ปตท.มากนัก"

ผู้บริหาร ปตท. ยังได้ยืนยันว่า ปตท.ไม่ได้คิดที่จะร่วมกับทางกับเซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งเป็นพันธมิตรที่เปิดร้านค้าปลีกในสถานีบริการน้ำมันของ ปตท.อยู่แล้ว เนื่องจาก ปตท.ต้องการเสริมความแข็งแกร่งด้านธุรกิจค้าปลีก (Retail Marketing) เพิ่มขึ้น เพื่อเติบโตด้วยขาของตัวเอง ซึ่งจะช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองกับทั้งพันธมิตรและคู่ค้า

Thursday, March 25, 2010

ปตท.ขายแฟรนไชส์ Cafe Amazon ตั้งเป้า120สาขาให้ดีลเลอร์/ผู้สนใจทั่วประเทศ

ปตท.เตรียมขายแฟรนไชส์ร้านกาแฟ "คาเฟ่ อเมซอน" ให้กับดีลเลอร์ปั๊มน้ำมัน ปตท.และผู้สนใจทั่วไป หลังทำรายได้ปีที่แล้วกว่า 100 ล้านบาท ตั้งเป้าปี 2553 จะขยายได้ 120 สาขา


นายพิชิต แก้วไพจิตร ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจค้าปลีกในสถานีบริการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" หลังจากที่กาแฟภายใต้แบรนด์ "คาเฟ่ อเมซอน" ของ ปตท.ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าจนขยายสาขาไปแล้วกว่า 391 สาขาทั่วประเทศ ทั้งในสถานีบริการน้ำมันของบริษัท ปตท.และขยายไปยังอาคารสำนักงานต่าง ๆ ว่า ในปีนี้บริษัท ปตท.มีแผนที่จะขยายร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอน ของการขายแฟรนไชส์ 2 รูปแบบ คือ 1) ขยายให้กับผู้แทนจำหน่ายสถานีบริการน้ำมัน ปตท.ภายในช่วงกลางปี 2553 นี้ กับ 2) ขายให้กับบุคคลภายนอกที่สนใจ ภายนอกสถานีบริการน้ำมันภายในปลาย ปี 2553 จะใช้เงินลงทุนอยู่ที่ 2.3 ล้านบาท/แห่ง คาดว่าภายในปีนี้จะขยายร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอนได้อีก 120 แห่ง



Tuesday, December 22, 2009

108 SHOP ปรับตัวพร้อมรบ เฟ้นทำเลทอง-เพิ่มสัดส่วนกลุ่มอาหาร



การแข่งขันของตลาดค้าปลีกใกล้บ้านหรือร้านค้าชุมชนในปีหน้าจะดุเดือดขึ้น เมื่อมีหลายค่ายกระโดดเข้ามามากขึ้น และ "108 ช็อป" ถือเป็นผู้เล่นที่ต้องจับตามอง นอกจากเป็นธุรกิจในเครือสหพัฒน์ซึ่งมีความพร้อมในเรื่องเงินลงทุนแล้ว ยังมีพันธมิตรที่เป็นโชห่วยทั่วประเทศซึ่งเป็นจุดยืนของแบรนด์นี้ ก็ยิ่งทำให้ร้านสะดวกซื้อ 108 ช็อป แตกต่างจากคู่แข่งอื่น ๆ ในตลาดทั้งปวง




"เวทิต โชควัฒนา" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซันร้อยแปด จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้าน 108 ช็อป กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับ แบรนด์ในปีหน้าว่า หลังจากปีนี้บริษัทได้รีวิวสาขาที่ไม่สร้างยอดขาย โดยปิดไปเกือบ 100 สาขา ทั้งที่ลงทุนเองและเป็นแฟรนไชส์ ซึ่งขณะนี้นับว่าลงตัวแล้วและทำให้ตั้งแต่ปีหน้าสาขาของ 108 ช็อป จะไปในทิศทางขาขึ้นแบบก้าวกระโดด



"ปีนี้เราปิดเป็น 100 สาขา และก็เปิดกว่า 200 สาขา ซึ่งจะทำให้ตั้งแต่ปีหน้า 108 ช็อปสามารถเปิดสาขาใหม่ ๆ ได้อย่างเต็มที่ ปัจจุบันการเลือกทำเลเราแม่นขึ้นเยอะ เดือนแรกก็ทำกำไรได้เลย"



ปัจจุบัน 108 ช็อปมี 700 สาขา เป็นร้านที่บริษัทลงทุนเองเกือบ 500 สาขา ปีหน้าตั้งเป้าไว้ไม่ต่ำกว่า 400 สาขา เป็นลงทุนเอง 200 สาขา และแฟรนไชส์อีก 200 สาขา ปีหน้าจะมีสาขาทะลุ 1,000 สาขาแน่นอน เป้าหมายดังกล่าวยังไม่รวมกรณีการเข้าไปเปิดให้บริการแทนร้านสะดวกซื้อ "สตาร์มาร์ท" ในปั๊มคาลเท็กซ์ ซึ่งบริษัทแม่เชฟรอนที่จะเลิกธุรกิจดังกล่าว



"ที่ผ่านมาเราส่งสินค้าบางรายการให้ร้านสตาร์มาร์ทอยู่แล้ว เมื่อเขาเลิกทำ และแนวโน้มขณะนี้ส่วนใหญ่ก็จะเปลี่ยนมาเป็น 108 ช็อป ดังนั้นปีหน้าเราจะสามารถเพิ่มสาขาได้อีกกว่า 200 สาขา"



นอกจากความลงตัวเรื่องทิศทางขยายสาขาจากการลองผิดลองถูกกับไซซ์ต่าง ๆ มาพอสมควร "เวทิต" ชี้ว่า ตั้งแต่ปีหน้าขนาดที่จะมุ่งเปิดจะเน้นที่ 56 ตร.ม. ซึ่งเป็นขนาดที่พอเหมาะและลงตัวกับความเป็น 108 ช็อป จากเดิมจะเน้นขนาดน้อยกว่า 30 ตร.ม. ที่เล็กเกินไป เช่นเดียวกับทำเลที่ตั้งของร้านก็มาสรุปลงตัวว่า จะมุ่งไปที่ทำเลที่เป็นชุมชนขนาดใหญ่มากขึ้น



ปัจจุบันร้าน 108 ช็อปที่บริษัทลงทุนเองนั้นจะอยู่ในทำเล B- ถึง A แต่หากเป็นแฟรนไชส์จะเน้นเปิดในทำเล C ถึง C+ เมื่อมองในภาพรวม 108 ช็อปมีสาขาที่อยู่ในทำเล A เพียง 70 สาขาเท่านั้น



ดังนั้นตั้งแต่ปีหน้า "เวทิต" ตั้งเป้าว่า จะเน้นขยายสาขาไปที่ทำเลตั้งแต่ B ถึง A นอกจากการขยายตัวของชุมชนในแต่ละแห่งที่มากขึ้นแล้ว ยังเพื่อตอบโจทย์การรุกตลาดกลุ่มอาหารของร้าน 108 ช็อปอีกด้วย



"ทำเลหลัก ๆ เหล่านี้จะช่วยขยายสัดส่วนกลุ่มอาหารให้มากขึ้น โดยเฉพาะอาหารพร้อมทาน หรือเรดดี้ ทู อีต เพราะสินค้ามีอายุจำกัด และต้องมีการหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา"



ปัจจุบันสัดส่วนกลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม ของ 108 ช็อปคิดเป็น 65% ของยอดขาย แต่คิดเป็นกลุ่มเรดดี้ ทู อีตเพียง 5%



"สัดส่วนเรดดี้ ทู อีตเราน้อยมาก แต่ในที่สุดเราต้องเดินตามนั้น ตอนนี้ต้องบอกว่า กลุ่มอาหารอยู่ในขั้นกำลังพัฒนา ซึ่งต้องมีระบบ chilled logistic รองรับ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดลองในบางจังหวัด โจทย์ คือ ทำอย่างไรให้ครบทั้งประเทศ โดย ตั้งเป้าว่า สิ้นปี 2553 จะเห็นความแตกต่างในเรื่องนี้อย่างชัดเจน"



แม้จะมีเป้าหมายรุกตลาดอย่างเต็มที่ ตั้งแต่ปีหน้า แต่ "เวทิต" ยืนยันว่า ถึงวันนี้ร้าน 108 ช็อป ไม่ได้มีเป้าหมายแข่งกับบรรดาร้านไฮเปอร์มาร์ตที่ลงมาเล่นในตลาดนี้ หรือกับยักษ์ใหญ่ เซเว่นอีเลฟเว่น เพราะหากเทียบกันแล้วยอดขายของ 108 ช็อป น้อยกว่าถึง 3 เท่า



แต่เป้าหมายของร้านซึ่งเครือสหพัฒน์ยืนยันมาตั้งแต่ต้นที่เปิดให้บริการ คือ การเป็นทางออกของบรรดาโชห่วยเพื่อแข่งขันกับร้านค้าปลีกสมัยใหม่ โดย 108 ช็อปจะทำหน้าที่เป็นเหมือนตัวช่วย ที่ชัดเจน คือ การมีระบบ auto reorder ที่แตกต่างจากร้านสะดวกซื้อรายอื่น ๆ โดยเป็นระบบเติมเต็มสินค้าโดยอัตโนมัติ ที่เมื่อสินค้าหมดก็จะมีการส่งสินค้าในทันที ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคนทั่วไป หรืออากง อาม่าก็สามารถจะดำเนินธุรกิจนี้ได้เช่นกัน



"จุดยืน คือ ต้องการเป็นทางออกของโชห่วย จริง ๆ ธุรกิจซื้อมาขายไปควรจะเป็นอาชีพสำหรับคนในท้องถิ่นเป็นเบสิกที่ใคร ๆ ก็ทำได้ สามารถแข่งขันได้ ธุรกิจนี้สำหรับสหพัฒน์ไม่ใช่ธุรกิจทำกำไร แต่เราต้องการตอบแทนบรรดาร้านโชห่วยที่เคยช่วยเครือสหพัฒน์จนมีทุกวันนี้ เราต้องการปูทางให้พวกเขาสามารถเป็นมวยรุ่นเดียวกับร้านค้าปลีก สมัยใหม่นั่นเอง"



ปีนี้ในภาพรวมบริษัทโตถึง 64% เพราะมีการเปิดสาขาจำนวนมาก แต่หากเทียบยอดขายของร้านเดิมปีต่อปีโตขึ้นที่ 5% ซึ่งมาจากที่ความถี่ในการใช้บริการเพิ่มขึ้นจากที่ชุมชนขยายตัว ขณะที่การซื้อต่อบิลอยู่ในระดับเดิม



Monday, September 21, 2009

JIFFY PARTNERING WITH TOPS


jiffy



เมื่อใหญ่มาเจอกับใหญ่ จึงไม่แปลกที่สูตรการตลาดใหม่ๆ ย่อมเกิดขึ้น กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา "ปตท." เซ็นสัญญากับ "เซ็นทรัลรีเทล" หรือซีอาร์ซี สำหรับการเข้ามาช่วยดูแลการจัดซื้อสินค้าให้ร้านจิฟฟี่ 146 สาขาทั่วประเทศ

เป็นการเซ็นสัญญา 3 ปี โดยเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล 1 ในหน่วยธุรกิจหลักของซีอาร์ซี ผู้บริหารร้านท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ตและเซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์ จะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลสินค้าให้กับร้านจิฟฟี่

"ทศ จิราธิวัฒน์" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ระบุว่า รูปแบบการขยายธุรกิจในอนาคตของเซ็นทรัลรีเทลไม่จำเป็นที่จะต้องขยายด้วยตัวเองเท่านั้น การร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ในธุรกิจต่างๆ จะเห็นภาพที่ชัดและมากขึ้น กลยุทธ์ของบริษัทจะ open & flexible มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระดับธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ ซีอาร์ซีพร้อมคุยหมด




สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ระหว่างเซ็นทรัลรีเทล ผู้นำในธุรกิจค้าปลีก และ ปตท. บริษัทอันดับหนึ่งของประเทศ

"ทศ" ชี้ว่า ย่อมแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการขยายธุรกิจทั้ง 2 ฝ่าย เป็นกลยุทธ์ที่วิน-วินทั้งคู่

โดยจิฟฟี่มีความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่สูงมาก เช่นเดียวกับท็อปส์ ที่มีภาพของซูเปอร์มาร์เก็ต



โดยที่ท็อปส์จะทำหน้าที่เป็นหลังบ้านให้จิฟฟี่ ด้วยการใช้ความเชี่ยวชาญในการบริหารและจัดซื้อสินค้าและโครงสร้างทั้งระบบขนส่งและคลังสินค้าผ่านท็อปส์ทั้ง 117 สาขา ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้กับจิฟฟี่ว่าสามารถวางสินค้าใหม่ได้เร็วและทันกับความต้องการของตลาด เป็น "first in market" การทำธุรกิจที่ดีและจะสำเร็จได้นั้นทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านต้องดีและไปด้วยกัน

จะว่าไปแล้วความร่วมมือครั้งนี้เป็นเหมือนการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกของ ปตท.และเซ็นทรัล เพราะก่อนหน้านี้เซ็นทรัลเคยเข้ามาบริหารจัดซื้อสินค้าให้กับจิฟฟี่ก่อนที่กลุ่มโคโนโค (ผู้ถือหุ้นเดิมปั๊มน้ำมันเจ็ท) ได้เปลี่ยนให้กลุ่มสตาร์มาร์ทมาบริหาร และเมื่อ ปตท.ซื้อกิจการปั๊มน้ำมันเจ็ท ปตท.ก็วางใจให้ซีอาร์ซีบริหารการจัดซื้อสินค้าให้อีกครั้ง

"ดร.กฤษณะพล โกมลบุณย์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด กล่าวว่า การร่วมมือในครั้งนี้เป็น เพียงจุดเริ่มต้นสำหรับการทำธุรกิจร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่าย นอกจากให้ท็อปส์เข้ามา บริหารสินค้าร้านจิฟฟี่ในกลุ่มสินค้าทั่วไปสัดส่วน 60% ในอนาคตสัดส่วน 40% ที่เป็นกลุ่มอาหารสดอาจให้สิทธิ์กลุ่ม เซ็นทรัลด้วย จากปัจจุบันที่จิฟฟี่สั่งตรงจากซัพพลายเออร์



ส่วนโปรเจ็กต์ที่จะทำร่วมกับกลุ่มเซ็นทรัลต่อจากนี้คือการดึงสินค้าแฟชั่น แบรนด์เนมของกลุ่มซีเอ็มจีเข้ามาเปิดช็อปในปั๊ม ปตท. โดยจะเริ่มนำร่องในโมเดลใหม่ "แพลตินั่ม" ของ ปตท.สาขาแก่งคอย (ทาง ไปปากช่อง) ก่อนที่จะขยายในปั๊ม ปตท. อื่นๆ ตามหัวเมืองและจุดท่องเที่ยวร่วมกัน

การดึงคู่ค้ารายใหม่ๆ หรือการตลาดในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของกลุ่มค้าปลีก ปตท.ที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนรายได้ในกลุ่มน็อนออยล์มากขึ้น เพื่อเสริมจากรายได้น้ำมันที่ค่อนข้างทรงตัว

"ที่ผ่านมาเรากำลังสร้างทีมรีเทลให้แข็งแกร่ง ดึงคนที่มีศักยภาพจากค้าปลีกต่างๆ มาร่วมงานกัน เพื่อเตรียมรับมือกับการแข่งขัน ซึ่งทั้งสินค้า โปรโมชั่นส่งเสริมการขาย เราต้องเร็วและสู้คนอื่นให้ได้"



ส่วนประเด็นที่ว่าปั๊ม ปตท.ทั่วประเทศกว่า 1.2 พันแห่งที่มีร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นเปิดอยู่นั้น จะเปลี่ยนเป็น จิฟฟี่ทั้งหมดด้วยหรือไม่ "ดร.กฤษณะพล" ชี้ว่ายังบอกไม่ได้ เพราะบริษัท ปตท.บริหาร ธุรกิจค้าปลีก เป็นบริษัทลูกที่ทำหน้าที่เสมือนดีลเลอร์บริหารเฉพาะปั๊ม ปตท.ที่เป็นเจ็ทเดิม 146 สาขาเท่านั้น ส่วนปั๊ม ปตท.ที่เหลือบริหารโดย ปตท.บริษัทแม่ ซึ่งให้สิทธิ์เซเว่นอีเลฟเว่นเปิดร้านสะดวกซื้อ และยังเหลือเวลาอีก 4 ปีที่จะหมดสัญญา และกว่าจะถึงวันนั้นค่อยมาว่ากันอีกที

แต่ภาพที่จะได้เห็นมากขึ้นหลังจากนี้ของกลุ่มค้าปลีก ปตท. คือ ก้าวเข้าสู่การแข่งขันธุรกิจค้าปลีกอย่างเต็มตัว ด้วยการเตรียมขยายร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ออกนอกปั๊มน้ำมัน ปตท.เป็นครั้งแรก โดยจะยกระดับให้เป็น รูปแบบร้านพรีเมี่ยมและคัดเลือกสินค้าเฉพาะเท่านั้น

เป็นโมเดลร้านแบบใหม่ที่ไม่เหมือนกับจิฟฟี่ หรือจิฟฟี่เอ็กซ์เพรสทั้ง 146 สาขา และจะเห็นสาขาแรกที่ตึก "Energy Complex" บนพื้นที่ขนาด 125 ตร.ม.

ภาพความเคลื่อนไหวของกลุ่มธุรกิจ 2 รายใหญ่ที่ผนึกกำลังด้วยกลยุทธ์วิน-วิน ย่อมส่งสัญญาณให้กับกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ว่าต้องปรับตัวและรับมือสู้กับโลกการแข่งขันที่ดุเดือดต่อจากนี้ไป



Reblog this post [with Zemanta]

Monday, June 29, 2009

ตั้งปตท.บริการธุรกิจค้าปลีก บริหาร"คน"ทำงานปั๊ม-JIFFY


ตั้งปตท.บริการธุรกิจค้าปลีก บริหาร"คน"ทำงานปั๊ม-JIFFY

ปตท.-จิฟฟี่ ยอดขายพุ่ง PTTRM สั่งบริษัทลูก ปตท.บริการธุรกิจค้าปลีก (PTTRS) รับคนเพิ่ม



นายกฤษณะพล โกมลบุณย์ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด หรือ PTTRM กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ภายหลังจากที่ได้ซื้อร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ (Jiffy) จากบริษัท โคโนโค่ ฟิลิปส์อย่างเป็นทางการเมื่อเร็วๆ นี้ ขณะนี้จึงต้องเร่งรับพนักงานเข้ามาเสริมให้การบริการ กับลูกค้ามากขึ้นภายในร้านสะดวกซื้อ จิฟฟี่ โดยขณะนี้บริษัท ปตท.บริการธุรกิจค้าปลีก จำกัด หรือ PTTRS



ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท ปตท. บริหารธุรกิจค้าปลีก รับพนักงานเพิ่มกว่า 30 คน เพื่อกระจายไปยังสถานีบริการน้ำมัน ปตท.-จิฟฟี่ทั้ง 146 แห่ง ปัจจุบันมีพนักงานทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 4,000 คน การรับเข้ามาเพิ่มเติมครั้งนี้เพื่อไว้รองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากนี้การที่เปิดร้านจิฟฟี่ เอ็กซ์เพรส (Jiffy Express) ทดลองแห่งแรกที่สถานีบริการน้ำมันบางบัวทอง-สุพรรณบุรี ก.ม.28 ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจึงมีแผนที่จะขยายไปยังสถานีบริการสาขาอื่นเช่นกัน




"PTTRS เป็นบริษัทลูกของเราที่ PTTRM ถือหุ้น 100% ซึ่งเดิมก็คือ บริษัทเจ็ท จิฟฟี่ แอนด์ช็อป (JET & Jiffy Shop) จะเข้ามาช่วยในการบริหารเด็กปั๊มหน้าลาน พนักงานทั้งในร้าน Jiffy และ Jiffy Express การให้ PTTRS ดูแลจะมีความคล่องตัวมากกว่าที่เราจะทำเอง ในช่วงที่ผ่านมา พนักงานบางส่วนลาออกค่อนข้างเยอะ บางคนเมื่อได้เงินก้อนไปก็ลาออก จึงต้องมาหาคนเพิ่ม เพราะปั๊มเราใหญ่และการทำงานก็แบ่งเป็น 3 กะ จึงต้องรับคนมา รองรับการขยายตัวมากขึ้น"



นายกฤษณะพลกล่าวเพิ่มเติมว่า การที่ ปตท.ซื้อกิจการสถานีบริการน้ำมันเจ็ท (JET) จากบริษัทโคโนโค่ ฟิลิปส์ ด้วยมูลค่า 9,750 ล้านบาท เพื่อมาบริหารจัดการเองตั้งแต่ปี 2550 ทำให้ยอดจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการ ปตท.-จิฟฟี่ ทั้ง 146 แห่ง มียอดจำหน่ายเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 15-20 จากเดิมที่จำหน่ายอยู่ 560,000 ลิตร/เดือน/ แห่ง เป็น 680,000 ลิตร/เดือน/แห่ง




Reblog this post [with Zemanta]

LinkWithin

Related Posts with Thumbnails