Wednesday, June 13, 2012
Udon Charoensri plans mall
Thursday, October 6, 2011
โมเดิร์นเทรดค้าวัสดุ ′GLOBAL′ บุกเปิดสาขาใหม่โคราชโกยยอดขาย 100 ล./เดือน
Thursday, February 3, 2011
CENTRAL ปิดทางคู่แข่ง ยึดหัวหาด ประตูสู่ ปท.เพื่อนบ้าน
Friday, October 8, 2010
พรีเมี่ยมเอาท์เล็ทยึดหัวหาดอุดรฯ ปีหน้าลุยต่อสาขา 7...บางปะอิน
Thursday, June 3, 2010
Tesco Lotus opens new supermarket in Udon Thani

To underscore its commitment to the community, Tesco Lotus announced that 60 of the store's 65 staff (over 90 per cent) were hired locally. The company will also be paying property taxes and signage taxes into the local community of over Bt1.5 million per year. Tesco Lotus employs over 36,000 people nationwide
Tuesday, April 6, 2010
UD TOWN "ไม่จำเป็นต้องใหญ่...ก็สำเร็จได้"
ภาพการขับเคลื่อนของกลุ่มทุนค้าปลีกจากเมืองหลวงเข้าสู่พื้นที่ต่างจังหวัดเริ่มเห็นชัดมากขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะในจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่และรองของแต่ละภูมิภาคที่ต่างล้วนมีศักยภาพการเติบโตและช่องว่างอีกมหาศาลจากการขยายตัวเพิ่มขึ้นของกำลังซื้อและดีมานด์ รวมทั้งไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าที่เทียบเคียงแล้วก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าตลาดเมืองกรุง
"อุดรธานี" เป็นหนึ่งในจังหวัดของภาคอีสานที่มีการเติบโตทางธุรกิจสูง ไม่เพียงกลุ่มทุนในประเทศอย่างเซ็นทรัล แต่รวมถึงไฮเปอร์มาร์เก็ตทุกกลุ่มทุกค่ายย่อมไม่พลาดที่จะเข้าไปเป็นทางเลือกที่มีกำลังซื้อสูง จึงไม่แปลกที่กลุ่มทุนท้องถิ่นจะต้องหาจุดขายเพื่อสร้างความแตกต่างและโดดเด่นเข้ามาสู้
"ไม่จำเป็นต้องใหญ่...ก็สามารถประสบความสำเร็จได้"
คำตอบของ "วรพล วีรชาติยานุกูล" กรรมการผู้จัดการ บริษัท อุดรพลาซ่า จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้ายูดี ทาวน์ ไลฟ์สไตล์มอลล์ระดับพรีเมี่ยมเพื่อบอกเล่าแนวทางการต่อสู้เมื่อต้องต่อกรกับยักษ์ใหญ่อย่างกลุ่มเซ็นทรัลที่ทุ่มงบฯกว่า 5,400 ล้านบาทสำหรับปั้นเซ็นทรัล พลาซา อุดรธานีเป็นเกตเวย์ของอินโดจีนหลังจากเข้าเทกโอเวอร์กิจการจากกลุ่มท้องถิ่นเจริญศรี ได้เร่งรีโนเวตศูนย์และโรงแรมใหม่พร้อมแปลนการลงทุนขยับขยายในพื้นที่ที่ได้ซื้อเพิ่มเติม
หัวเรือใหญ่ยูดี ทาวน์ชี้ว่า โดยทำเลอยู่ห่างกันเพียง 700-800 เมตร เช่นเดียวกับกลุ่มลูกค้าที่ไม่ปฏิเสธว่าต้องคาบเกี่ยวกันอยู่แล้ว แต่บรรยากาศการตกแต่งและไลฟ์สไตล์ของยูดี ทาวน์จะเป็นตัวชี้วัดความแตกต่างกับเซ็นทรัล
"ร้านอาหารและสไตล์จะเป็นตัวตอบโจทย์ของลูกค้าว่าเขามาที่เราเพื่ออะไร แต่ถ้าต้องการบรรยากาศสบาย ๆ โอเพ่นแอร์ การตกแต่งมีเสน่ห์ ซึ่งเป็น สิ่งที่ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ไม่มี"
ปัจจุบัน "ยูดี ทาวน์" เปิดบริการแล้ว 60% มีลูกค้าเข้าใช้บริการเฉลี่ย 4,000-5,000 คน/วัน มีอัตราการใช้จ่ายเฉลี่ย 500 บาท/คน/ครั้ง ภายในเดือนมิถุนายนนี้ร้านค้าทั้งหมดจะพร้อมเปิดได้ครบเต็มพื้นที่ คาดว่าจะมีลูกค้าใช้บริการเฉลี่ย 1.5-2 หมื่นคน/วัน และใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 1,500 บาท/คน/ครั้ง
ล่าสุดเตรียมขยายพื้นที่เต็มโครงการเป็น 1.5 หมื่น ตร.ม. โดยเพิ่มพื้นที่ศูนย์เอ็กซิบิชั่นรองรับการจัดงานแสดงนิทรรศการ การประชุม คอนเสิร์ต งานแฟร์ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าประมาณ 200 คนในแต่ละงาน ที่ผ่านมาการจัดงานจะถูกจำกัดเฉพาะในพื้นที่ปิดตามศูนย์การค้าหรือโรงแรมเท่านั้น แต่ลานอีเวนต์นี้จะเป็นแบบเปิดสอดรับกับพฤติกรรมของกลุ่มคนรุ่นใหม่
อีกทั้งในปีหน้าเตรียมขยายการลงทุนบูติคโฮเต็ลเก๋ ๆ ขนาดไม่เกิน 50 ห้อง ซึ่งอยู่ระหว่างออกแบบ
ด้านฟากฝั่ง "เซ็นทรัล" ด้วยชื่อชั้นการันตีความเป็นศูนย์ขนาดใหญ่ที่ครบเครื่องได้เป็นอย่างดี เซ็นทรัลตั้งงบฯลงทุนถึง 5.3 พันล้านบาทสำหรับเข้าซื้อกิจการและปรับเปลี่ยนโฉมใหม่โดยครอบคลุมทั้งศูนย์การค้า โรงแรม และคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แผนขยายโครงการต่อในอนาคตเนื่องจากมีที่ดินเหลืออยู่จากทั้งหมด 53 ไร่ เป้าหมายขยายพื้นที่เป็น 2 แสน ตร.ม.
เป้าหมายจึงมิใช่แค่รองรับกลุ่มลูกค้าในประเทศเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงตลาดเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว และเวียดนาม ด้วยยุทธศาสตร์การขยายตัวออกสู่ภาคอีสานเซ็นทรัล พลาซาวางตำแหน่งให้ศูนย์อุดรธานีและขอนแก่นเป็น "เกตเวย์ และเทรนด์เซตเตอร์" มัดใจลูกค้าภูมิภาคนี้
Saturday, April 3, 2010
CENTRAL UDON
เซ็นทรัล อุดรธานี โครงการนี้ทางเซ็นทรัลไปเทคโอเวอร์มาจากกลุ่มทุนท้องถิ่น ในราคาเกือบ 3,000 ล้านบาท ได้ที่ดินมาเกือบ 40 ไร่ พร้อมสิ่งปลูกสร้าง จึงใส่งบไปอีก 2,000 ล้าน เป็นค่าปรับปรุงและตกแต่งเพิ่มอีกหน่อย เพื่อจะทำให้สาขานี้เป็นศูนย์กลางอีสานตอนบน โดยมีสิ่งน่าสนใจคือ จะมีส่วนที่เป็น open air ด้วย..มาแน่ ต้นปี 2555
Monday, August 24, 2009
CENTRAL เปิดแผนบุกศูนย์การค้าทั่วปท.เน้นกลยุทธ์ใหญ่-ครบเครื่อง
Image by newdavich via Flickr
เซ็นทรัลเปิดแผนบุกศูนย์การค้าทั่วปท.ลั่นงัดกลยุทธ์ใหญ่-ครบเครื่องบี้คู่แข่ง!
เซ็นทรัลรุกตลาดอีสาน เทงบฯหมื่นล้านปั้นขอนแก่นเป็นเทรนด์เซ็ตเตอร์ของภาคอีสาน พร้อมดันอุดรฯเป็นไลฟ์สไตล์ฮับเกตเวย์เจาะอินโดจีน บอสใหญ่กอบชัย จิราธิวัฒน์ลั่นใช้กลยุทธ์Dominate Strategyปักธงศูนย์การค้าแห่งใหม่ต้องใหญ่กว่า-ครบเครื่องกว่าคู่แข่งทุกด้าน เตรียมเปิดตัวพื้นที่ค้าปลีกโมเดลใหม่อีก
นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวภายหลังการนำนักลงทุนและคู่ค้าทางธุรกิจกว่า 70 รายเยี่ยมชมโครงการศูนย์การค้าของเซ็นทรัลในภาคอีสานทั้งจังหวัดขอนแก่นและอุดรธานี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและโอกาสสำหรับการลงทุนในภาคอีสาน โดยศูนย์การค้าทั้ง 2 แห่งนี้จะเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของเซ็นทรัลพัฒนาสำหรับการขยายตัวออกสู่ภูธร
โดยคอนเซ็ปต์ของเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น นายกอบชัยกล่าวว่า จะเป็นศูนย์การค้าที่เป็นเทรนด์เซตเตอร์ของอีสานที่มีขนาดใหญ่ที่สุด บนพื้นที่ 250,000 ตารางเมตร ด้วยงบฯลงทุน 4000 ล้านบาท เนื่องด้วยขอนแก่นเป็นศูนย์กลางทุกๆ ด้านของภาคอีสาน ทั้งเศรษฐกิจ คมนาคม การเป็นศูนย์ราชการและสถานศึกษา ภายในศูนย์จะมีร้านค้ามากกว่า 300 ร้าน และโรงภาพยนตร์ขนาด 1,800 ที่นั่ง เป็นการขยายธุรกิจสู่ภาคอีสานเป็นครั้งแรกของกลุ่มเอสเอฟ
เซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น จะใช้โมเดลของเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าวเป็นต้นแบบ แต่มีขนาดใหญ่มากกว่า เนื่องจากกลุ่มลูกค้ามีไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงกัน เป็นวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ ซึ่งแม่เหล็กของศูนย์นี้จะมีห้างสรรพสินค้าโรบินสันเป็นจุดขายหลัก และร้านค้าในกลุ่มเซ็นทรัลรีเทลที่จะเปิดสาขาควบคู่กัน สามารถขายพื้นที่ในโครงการแล้ว 90% โดยจะเปิดบริการในวันที่ 3 ธันวาคมนี้
สำหรับเซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี นายกอบชัยระบุว่า บริษัทใช้งบฯลงทุนรวม 5,300 ล้านบาท ในการซื้อกิจการศูนย์การค้า โรงแรม และคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์จากกลุ่มอุดรเจริญศรี ซึ่งบริษัทตั้งใจจะใช้งบฯก้อนดังกล่าวขยายพื้นที่เพิ่มเป็น 2 เท่า ภายใน 2 ปีนี้ เพิ่มพื้นที่เป็น 200,000 ตารางเมตร เพื่อให้เป็นศูนย์การค้าแบบครบวงจร รองรับกลุ่มลูกค้าในอุดรธานี จังหวัดใกล้เคียง และประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้สาขาอุดรธานีมีบทบาทเป็นไลฟ์สไตล์ฮับ-เกตเวย์เจาะอินโดจีน
การกำหนดคอนเซ็ปต์ดังกล่าว เนื่องจากอุดรฯเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูง เป็นศูนย์กลางธุรกิจที่เชื่อมโยงสู่ประเทศลาว มีประชากรกว่า 7 แสนคน ในแง่รายได้คนอุดรฯมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงติดอันดับต้นๆ ในภาคอีสาน โดยการรีโนเวตเฟสแรกจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ และจะขยายพื้นที่โครงการข้ามไปบริเวณฝั่งตรงข้ามกับตัวศูนย์ในขณะนี้ เพื่อรองรับกับการเติบโตของตลาดในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากการลงทุนในภาคอีสาน เมื่อเร็วๆ นี้เซ็นทรัลพัฒนาได้ประกาศสานต่อโครงการศูนย์การค้าแห่งที่ 2 ในจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนการลงทุนในจังหวัดเชียงรายกับพระราม 9 นายกอบชัยยืนยันว่ายังเดินหน้าต่อเนื่อง ไม่ได้มีการชะลอโครงการแต่อย่างใด
นายกอบชัยกล่าวอีกว่า กลยุทธ์การลงทุนของเซ็นทรัลพัฒนาต่อไปนี้จะใช้กลยุทธ์คลุมตลาด หรือ dominate strategy ยกตัวอย่างการลงทุนในขอนแก่นและอุดรธานี วางหมากเพื่อตีสาขาของคู่แข่งที่อยู่โคราชโดยเฉพาะ (หมายถึงเดอะมอลล์) เป็นกลยุทธ์กินรวบยอดขายในพื้นที่ละแวกนี้ โดยเฉพาะจังหวัดขอนแก่นได้ซื้อที่ดินไว้อีก 35 ไร่ บริเวณถนนมิตรภาพ เพื่อรองรับการลงทุนในอนาคตในอีกคอนเซ็ปต์หนึ่ง ใช้ความต่างของราคาเป็นตัวกำหนด โดยค้าปลีกรูปแบบใหม่นี้จะอยู่ระหว่างไฮเปอร์มาร์เก็ตและศูนย์การค้าเซ็นทรัล
นายกอบชัยกล่าวอีกว่า เซ็นทรัลพัฒนาจะไม่ลงทุนเล็กๆ แต่จะต้องใหญ่กว่าครบเครื่องกว่า ซึ่งมีกรณีศึกษาจากสาขาปิ่นเกล้าและบางนา ถึงแม้จะมีคู่แข่งรายใหม่ที่ใหญ่กว่าเข้ามาแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเซ็นทรัลจะมีครบเครื่องที่เหนือกว่า
"ตอนนี้มองไว้ทุกที่ ที่ไหนพร้อมจะไป แต่ถ้าไปที่ไหนจะต้องไปแบบเต็มรูปแบบ ต้องไปแบบผู้นำ แต่ถ้าเป็นรองจะไม่ไป
ปัจจุบันเซ็นทรัลพัฒนามีศูนย์การค้าเปิดบริการแล้ว 10 แห่ง ประกอบด้วยเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว, รามอินทรา, ปิ่นเกล้า, บางนา, พระราม 2, พระราม 3, รัตนาธิเบศร์, เซ็นทรัลเวิลด์, แจ้งวัฒนะ, ชลบุรี และพัทยา เฟสติวัล มีพื้นที่รวมถึงสิ้นมากกว่า 6 แสนตารางเมตร
Monday, August 3, 2009
ยูดี เดอะ นิว เอ็กพรีเรียนซ์ "โอเพ่นมอลล์" พร้อมเสิร์ฟ
กลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญทำให้การค้าและการลงทุนในพื้นที่อีสานตอนบนคึกคักและมีสีสันผิดหูผิดตา ขณะที่อุดรธานี เมืองหน้าด่านที่เป็นประตูไปสู่การค้า
การลงทุนในตลาดอินโดจีนก็ได้รับอานิสงส์จากเส้นทางคมนาคมสายนี้เช่นเดียวกัน เพราะแค่ไม่กี่ปีก็มีเม็ดเงินหลั่งไหลเข้ามาลงทุนไม่ขาดสาย ทั้งจากกลุ่มทุนบิ๊กแบรนด์และเจ้าถิ่น
ไม่แปลกที่ยักษ์ค้าปลีกอย่าง "เซ็นทรัลพัฒนา" ยอมทุ่มเงินหลายพันล้านบาท เทกโอเวอร์โครงการเจริญศรีคอมเพล็กซ์จากกลุ่ม "อุดรเจริญศรี"
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็น "บิ๊กดีล" ที่สร้างความฮือฮามากที่สุด
ล่าสุดกลุ่มทุนเจ้าถิ่น "วรพล วีรชาติยานุกูล" "กลุ่มอุดรพลาซ่า" นักธุรกิจพันล้านและแลนด์ลอร์ดเมืองอุดรฯ มองเห็นโอกาสทางธุรกิจ ทุ่มทุนกว่า 600 ล้านบาท
เช่าที่ดินแปลงงาม ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เนื้อที่กว่า 25 ไร่ ผุด "ยูดี ทาวน์ เดอะ นิว เอ็กพรีเรียนซ์" โอเพ่นมอลล์ใหญ่สุด ในประเทศ
รับกระแสบูม เจาะกำลังซื้อ ทั้งในพื้นที่ พื้นที่ใกล้เคียง และที่ทะลักมาจากนครเวียงจันทน์
"วรพล" บอกว่า ได้สิทธิเช่าที่ดินแปลงนี้ 30 ปี ต่อสัญญาได้อีก 30 ปี จึงนำมาพัฒนาเป็นโอเพ่นมอลล์พื้นที่ใหญ่สุดในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด กรีนคอนเซ็ปต์
เพื่อให้เป็นไลฟ์สไตล์มอลล์ระดับพรีเมี่ยมแห่งใหม่ของอินโดจีน ตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ ครบวงจร ทั้งแหล่งช็อปปิ้ง แหล่งพบปะสังสรรค์ ซูเปอร์มาร์เก็ต
ศูนย์เทคโนโลยีการสื่อสาร ติวเตอร์ ฯลฯ
ปัจจุบันงานก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว 85% มีผู้เช่าระดับอินเตอร์แบรนด์กว่า 80% คาดว่าทันทีที่เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ในเดือนพฤศจิกายนนี้จะมีลูกค้ามาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 2-3 หมื่นราย/วัน
โดยปีแรกที่ลอนช์โครงการได้ทุ่มงบฯ การตลาดกว่า 50 ล้านบาท จัดแคมเปญกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ อาทิ จับมือการท่องเที่ยวจังหวัดอุดรธานี จัดแคมเปญดึงลูกค้าเข้าโครงการ
ร่วมกับ ร.ฟ.ท.จัดรถไฟขบวนพิเศษจากสถานีท่านาแล้ง-อุดรฯ ขนทัพนักกีฬาและสตาฟเข้ามา ช็อปปิ้งในโครงการ พร้อมให้ส่วนลดมากถึง 50-70%
ในช่วงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2009 ที่นครเวียงจันทน์ ฯลฯ
"ในปีแรกน่าจะมีรายได้ 150 ล้านบาท ไม่รวมรายได้จากการจัดอีเวนต์อีกไม่ต่ำกว่า 4-5 ล้านบาท/เดือน เป้าหมายต่อไปคือ ปั้นยูดีฯให้แจ้งเกิดในวงการค้าปลีกให้ได้
โดยมีแพลนที่จะขยายธุรกิจในหลายจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นหนองบัวลำภู สกลนคร ฯลฯ"
นอกจากนี้ยังสนใจจะเข้าไปลงทุน ในประเทศลาวด้วย โดยได้รับการชักชวนจากนักธุรกิจอสังหาฯมาเลเซียที่เข้าไป ร่วมทุนทำธุรกิจกับนักธุรกิจลาว และทำสัญญาเช่าที่ดินเนื้อที่บริเวณท่านาแล้ง
ติดด่านตรวจคนเข้าเมืองลาว 50 เฮกตาร์ หรือราว 300 ไร่ จากรัฐบาลลาวระยะเวลา 50 ปี ตามแผนจะพัฒนา เป็นฟรีเทรดโซนมูลค่าลงทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
โดยจะแบ่งที่ดินบางส่วนประมาณ 50 ไร่ เพื่อพัฒนาธุรกิจรีเทล แต่อยู่ระหว่างศึกษาข้อกฎหมายและรูปแบบการลงทุน
Thursday, June 18, 2009
สมรภูมิศูนย์การค้าอุดรเดือด UD Town ปรับแผนสู่ประตูอินโดจีน โดย สุดารัตน์ ภูตาไสย
ความร้อนแรงของสนามธุรกิจการค้าใน จ.อุดรธานี นับวันยิ่งดุเดือด ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันของค้าปลีก-ค้าส่ง ทั้งทุนท้องถิ่นอย่างตั้งงี่สุนและเซฟมาร์ทที่ต้องสู้กับทุนต่างถิ่นที่เข้ามายึดหัวหาดกันครบทุกค่ายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแม็คโคร บิ๊กซี เทสโก้ โลตัส และคาร์ฟูร์ ซึ่งต่างพยายามแย่งส่วนแบ่งการตลาดกันอุตลุด
นอกจากนี้ โลตัส พลัส ก็กำลังก่อสร้างอีกฟากหนึ่งของเมืองในฝั่งทิศตะวันตก โดยมีแผนจะเปิดให้บริการในเดือน พ.ย.นี้ อีกทั้งยังมีการเข้ามายึดครองศูนย์การค้า ที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดของกลุ่มเซ็นทรัล แม้แต่ห้างสรรพสินค้าโรบินสันก็ต้องพยายามจัดงานอีเวนต์สู้ทุกเดือน เพื่อไม่ให้ตนเองตกอันดับ และยิ่งมี กระแสข่าวว่า The Mall เข้าเจรจาซื้อที่ดินหลายแปลงในจังหวัดแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่ "UD Town" ศูนย์การค้ารูปแบบโอเพ่นแอร์ ก็กำลังเดินหน้าก่อสร้างก้าวหน้าไปแล้วกว่า 70% ส่วนสินค้าแบรนด์ดังจากกรุงเทพฯและอินเตอร์แบรนด์ก็พาเหรดเข้าร่วมแล้วกว่า 80% แนวโน้ม การแข่งขันที่รุนแรง จึงต้องมีการปรับแผนสู้ทั้งการวางเป้าหมายและการวางคอนเซ็ปต์ให้แตกต่าง ซึ่งผู้บริหาร
UD Town เชื่อว่าจะเปิดบริการได้อย่างแน่นอนในเดือน พ.ย.นี้ เป้าหมายที่วางไว้คือกลุ่มครอบครัว กลุ่มคนทำงาน กลุ่มวัยรุ่นที่ชอบความทันสมัย นอกจากนี้ยังหมายมั่นปั้นมือว่า UD Town จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าฝั่ง สปป.ลาวด้วย รวมทั้งกลุ่มลูกค้าและนักท่องเที่ยวในแถบอินโดจีน ไม่ว่าจะเป็น สปป.ลาว หรือเวียดนาม รวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในแถบนี้อย่างสิงคโปร์และมาเลเซีย
วรพลย้ำว่า UD Town พร้อมเป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมี่ยมแห่งภูมิภาค อินโดจีนอย่างเต็มภาคภูมิ มีการออกแบบให้เข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคทั้งคนในพื้นที่ชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยว เน้นความร่มรื่นของธรรมชาติ ยกระดับคุณภาพชีวิตเทียบเท่าเมืองระดับโลก
UD Town ตั้งอยู่บนที่ดิน 14 ไร่ ใจกลางเมืองอุดร มีพื้นที่ทั้งหมดกว่า 28,000 ตารางเมตร ให้ความสำคัญกับพื้นที่ส่วนกลาง มีการจัดสรรพื้นที่ต้นไม้ สวน น้ำพุ และพื้นที่พักผ่อน เพื่อให้ UD Town เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ พักผ่อน ช็อปปิ้งที่ใกล้ชิดธรรมชาติชั้นนำของภูมิภาคอินโดจีน
Thursday, May 14, 2009
Carrefour Tesco Lotus อุดร กับตั้งงี่สุน
Image by sama sama - massa via Flickr
การเข้ายึดพื้นที่วงแหวนรอบเมืองอุดรธานี ฝั่งทิศตะวันออกของคาร์ฟูร์ และเทสโก้ โลตัส ทำให้หลายคนมองการเข้ามาของห้างต่างชาติทั้งสองแห่งว่า ตั้งใจมาสกัดดาวรุ่ง ทุนท้องถิ่น "ตั้งงี่สุน" ที่เลือกมาปักธงตั้งสาขา 2 ในที่แห่งนี้เป็นเจ้าแรก
เค้กก้อนใหญ่ชิ้นนี้ต้องถูกแบ่งอีกครั้ง ไม่เพียงแต่ทุนท้องถิ่น "เซฟมาร์ท" ถึงแม้จะอยู่ถนนคนละเส้น ก็ยังต้องปรับปรุงโดยการเปิดหน้าร้านของสาขา 2 เมื่อวันที่ 11 พ.ค.นี้เท่านั้น ในส่วนของ "ตั้งงี่สุน" ก็ต้องปรับตัวด้วย โดยเฉพาะสาขา 1 ถนน โพธิ์ศรี กำลังมีการปรับปรุงครั้งใหญ่
นางเสาวลักษณ์ วีระรัตนโรจน์ ผู้บริหารตั้งงี่สุน ซูเปอร์สโตร์ เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ห้างได้ทำป้ายหน้าร้านใหม่ แต่งให้ดูสวย เป็นการปรับปรุงพัฒนาขึ้นให้ดูเก๋ เท่ เพราะห้างต่างชาติมา ความสวยงามก็ต้องเกิดขึ้นไปพร้อมกับเขาด้วย ให้ลูกค้ามีความรู้สึกที่ดีว่าได้เข้าห้าง
ปัจจุบันกำลังปรับเคาน์เตอร์และพื้นด้านหน้าห้างด้วย ส่วนพื้นที่ด้านในจะทยอยปรับใหม่ โดยเฉพาะส่วนของแผนกเครื่องสำอาง ต้องปรับทั้ง 2 สาขา เฉพาะทำป้ายกับพื้นด้านหน้าของสาขา 1 ใช้งบฯ 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นทุนของห้างทั้งหมด ไม่มีซัพพลายเออร์มาช่วย
ในส่วนของ "ร้านเปี๊ยกมาร์ท" ซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อในเครือของเรา ตั้งแต่เปิดให้บริการมาขายดีมาก ยอดขายเป็นไปตามเป้า ขณะนี้กำลังมองหาทำเลทอง เพื่อเปิดสาขา 2 ในลักษณะของการให้เช่าร้าน และซื้อสินค้าจากห้างไปจำหน่าย
แม่ทัพใหญ่ตั้งงี่สุน มองสภาพการ แข่งขันในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคใน จ.อุดรธานีว่า การที่คาร์ฟูร์มาเปิดบริการที่อุดรธานี ส่วนเทสโก้ โลตัส เตรียมจะเปิดปลายปีนี้ ทั้งสองค่ายมาตั้งอยู่เคียงข้าง ตั้งงี่สุนนั้นยอมรับว่าดี เพราะจะเป็นส่วนเสริมจากเดิมที่เคยตั้งอยู่เดี่ยวๆ ทุกคนก็บอกว่าไกล แต่พอคาร์ฟูร์มาตั้งอยู่ใกล้ๆ เรา ทุกคนบอกว่าพื้นที่มันใกล้เข้ามาช่วยเสริมเรา ลูกค้าไปกินข้าวและซื้อของกับเขา แล้วก็มาซื้อของเราด้วย ก็เป็นการเกื้อกูลกัน ทำให้เราดีขึ้น ไม่ได้มองว่าต้องมาเป็นคู่แข่งกัน
"สิ่งแรกที่ต้องทำให้ดี คือ สร้างความรู้สึกของลูกค้าที่เข้าไปซื้อของกับเรา พอเริ่มมีสิ่งปลูกสร้างหนาแน่นเข้ามา ก็เริ่มทำให้รู้สึกว่าใกล้ขึ้น เป็นการเกื้อกูลกัน"
ส่วนของธุรกิจ "บูติคโฮเต็ล" ก็เตรียมจะเปิดบริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 2 กันยายน 2552 โดยมีการปรับปรุงและเพิ่มเติมในส่วนที่ขาดไป เช่น ระบบความปลอดภัย 100% สระว่ายน้ำ รวมถึงส่วนบริการและความบันเทิงด้วย
Friday, April 24, 2009
"เซฟมาร์ท" ดิ้นสู้ยักษ์ข้ามชาติ สร้างเครือข่าย-เปิดหน้าร้านสาขา 2
นับวันการค้าปลีกและค้าส่งสินค้าอุปโภคของทุนท้องถิ่นยิ่งลำบากมากขึ้น เพราะปัจจุบันจังหวัดอุดรธานีกลายเป็นยุทธภูมิของการค้าขนาดใหญ่เสียแล้ว โดยเฉพาะการเข้าปักธงของ "คาร์ฟูร์" เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ยิ่งตอกย้ำภาวการณ์แข่งขันที่รุนแรงและเข้มข้นมากขึ้น
"เซฟมาร์ท" ห้างค้าปลีก-ส่งซึ่งเป็นทุนท้องถิ่นที่ขยับตนเองมาเปิดสาขา 2 นอกเมือง และประกาศสู้กับห้างค้าปลีกข้ามชาติภายใต้การนำของ "สุรศักดิ์ สุระวรรณวิจิตร" กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อึ้งเซ้งเฮง (1994) จำกัด ผู้บริหารห้างค้าปลีก-ส่ง "เซฟมาร์ท" ยอมรับกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ณ วันนี้ถ้าไม่ปรับตัวอยู่ไม่ได้
แม่ทัพเซฟมาร์ทบอกว่า ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ทางห้างจะจัดงานแกรนด์โอเพนนิ่งอาคารด้านหน้าและเปิดขายเต็มตัว ภายหลังจากขยายสาขา 2 และเปิดเป็นสโตร์ด้านหลังมาประมาณ 2 ปีแล้ว ซึ่งสาเหตุที่เปิดหน้าร้านครั้งนี้เพราะมองเป็นช่องทางและโอกาส เนื่องจากถนนเลี่ยงเมืองซึ่งอยู่ระหว่างทางออกจังหวัดหนองคาย และทางออกจังหวัดสกลนคร เซฟมาร์ทเป็นห้างเพียงแห่งเดียว นอกเหนือจากห้างขนาดใหญ่เทสโก้ โลตัส ที่ยึดพื้นที่หัวมุมถนนอุดร-หนองคาย และบิ๊กซีที่ยึดหัวมุมถนนอุดร-สกลนครไว้แล้ว
อีกทั้งถนนเส้นนี้ยังเป็นแหล่งชุมชนที่มีทั้งการค้าขนาดใหญ่ หมู่บ้านการเคหะ และหมู่บ้านจัดสรรเรียงรายอยู่จำนวนมาก จึงเป็นจุดที่น่าลงทุนเปิดหน้าร้านเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า จากเดิมที่ต้องเข้าไปซื้อสินค้าที่อาคารด้านหลัง
โดยอาคารด้านหน้ามีทั้งหมด 4 ชั้น ได้ปรับปรุงพื้นที่โดยใช้งบฯลงทุนประมาณ 5-6 ล้านบาท ชั้น 1 มีขนาดพื้นที่ประมาณ 500 ตารางเมตร จัดให้เป็น Save Mart ลักษณะซูเปอร์มาร์เก็ต ภายในจะเน้นจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค และอาหารแห้ง ส่วนชั้น 2 จัดเป็นโซนจำหน่ายกาแฟ บริการอินเทอร์เน็ต และกำลังเจรจากับสินค้าประเภทเสื้อผ้า และเครื่องกีฬาแบรนด์เนมยี่ห้อหนึ่งด้วย โดยจะเปิดบริการ ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น.
ซึ่งในวันเปิดมีซัพพลายเออร์ 40-50 ราย ตอบรับมาร่วมงาน และนำสินค้ามาจัดโปรโมชั่นแรงๆ มากมาย และยังได้นำของแจก ของแถมมาร่วมกิจกรรมด้วย นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมตรวจมวลกระดูก และดารา นักร้อง มาร่วมงานอีกด้วย
สุรศักดิ์กล่าวว่า ในช่วง 2 ปีกว่าที่ผ่านมาทางร้านได้จัดกิจกรรมสร้างเครือข่าย ร้านค้าย่อยตามต่างอำเภอเพื่อกระตุ้น ยอดขาย และออกพบปะกับคู่ค้าในพื้นที่ต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับร้านค้าต่างๆ ให้คำแนะนำและปรึกษาด้านการค้า ขณะที่ในส่วนของการค้าปลีกได้เดินหน้า จัดกิจกรรมการตลาดกับสมาชิก ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 5,000 ราย ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้สามารถซื้อสินค้าต่างๆ ภายในร้านและรับสิทธิซื้อสินค้าที่จัดโปรโมชั่น เพื่อสะสมคะแนนแลกรับของรางวัลต่างๆ ช่วงปลายปี ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
โดยสิทธิพิเศษที่ลูกค้ากลุ่มนี้จะได้รับอีกคือ การนำบัตรสมาชิกไปเป็นส่วนลดกับร้านค้าต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ร้านอาหาร, สตูดิโอถ่ายภาพ, ร้านขายรถสกายแลป, ร้านขายรถจักรยานยนต์, ร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า, ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างและของตกแต่ง, ร้านจำหน่ายคอมพิวเตอร์, เคเบิลทีวี, ร้านทอง, ร้านประดับยนต์, ร้านจำหน่ายของที่ระลึก, ร้านเสื้อผ้า-รองเท้าแฟชั่น, ร้านเบเกอรี่, ร้านแว่นตา, ร้านหนังสือ, โรงเรียนสอนดนตรี, โรงแรม และโรงพยาบาล ซึ่งล้วนแต่มีชื่อเสียงในจังหวัดอุดรธานี โดยให้ส่วนลดตั้งแต่ 5-50%
"เราต้องพยายามสร้างเครือข่ายใน ท้องถิ่น ถ้าอยู่เดี่ยวๆ การแข่งขันลำบาก เพราะห้างต่างชาติมาแล้วหนักจริงๆ ลำพังเราสู้คนเดียวลำบาก ซึ่งยอมรับว่าปีนี้มองอะไรไม่ชัดเจน เราคิดว่าไปได้ ก็มีตัวมาฉุดมาดึง ภาวะการเมือง"
สุรศักดิ์มองภาพรวมการค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจ.อุดรธานีว่า ลูกค้าได้เรียนรู้การซื้อสินค้าในห้างต่างๆ โดยแต่ละห้างจะมีกลุ่มลูกค้าแยกกันไป ของใครของมัน ซึ่งเวลาเดินในห้างจะพบว่ามีสินค้าไม่แตกต่างกัน สินค้าตัวเดียวกัน ขึ้นอยู่กับความพอใจของลูกค้าว่าจะซื้อที่ไหน
"ผมว่าไม่ยุ่งยากในการซื้อขายกัน ปีนี้ไม่มีกิจกรรมการตลาดหนักๆ ผมมองภาพแล้วเรียกว่าต้องดูเป็นชอตๆ ไป ถ้าจัด กิจกรรมแรงๆ ไปแล้วเจอหนักๆ ก็ไม่มีประโยชน์"
Monday, April 20, 2009
Central Udonthani ปิดตำนานศูนย์การค้า-โรงแรม "กลุ่มเจริญศรี อุดรธานี"
ในที่สุด "กลุ่มเซ็นทรัล" บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ก็ประกาศตัวชัดเจนแล้วว่า ได้เข้าเทกโอเวอร์ศูนย์การค้าเจริญศรีคอมเพล็กซ์และโรงแรมเจริญศรีแกรนด์ รอยัล อุดรธานี ธุรกิจในเครือเจริญศรีกรุ๊ป ซึ่งเป็นตำนานการค้าท้องถิ่นแห่งอุดรธานีและภาคอีสานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2552 โดยเฉือนกลุ่มเบียร์ช้างเข้าวินในโค้งสุดท้าย
ก่อนหน้านี้มีสัญญาณที่หลายคนคาดกันว่า เซ็นทรัลจะเข้ามาสร้างฐานธุรกิจในจังหวัดอุดรธานีตั้งแต่โรบินสันเข้ามาปักฐานในจังหวัดอุดรธานีในชื่อบริษัทใหม่ว่า บริษัท ซีอาร์ อุดรธานี (ประเทศไทย) จำกัด โดยร่วมหุ้นกับนักธุรกิจท้องถิ่นซึ่งมีชื่อผู้ถือหุ้น 3 พี่น้องตระกูล "ฑีฆธนานนท์" อยู่ด้วย คือโกมินทร์, หาญชัย และธนชัย ฑีฆธนานนท์
ในที่สุดเซ็นทรัลก็ปักธงค้าปลีกในอุดรธานีสำเร็จ และพร้อมที่จะก้าวเป็นศูนย์การค้าทันสมัยในโซนอีสานเหนือและกินส่วนแบ่งตลาดไปถึงผู้มีกำลังซื้อจาก สปป.ลาวอีกด้วย
ขณะเดียวกันก็เป็นการ "ปิดตำนาน" อาณาจักรค้าปลีก ธุรกิจเก่าแก่ของกลุ่มเจริญศรีไปในตัว
ผู้สื่อข่าวได้สำรวจภายในห้างในช่วงวันที่ 8-9 เมษายน 2552 พบว่าพนักงานได้นำสติ๊กเกอร์มาติดที่ประตูกระจกทุกด้านทั้ง ชั้นใต้ดินและชั้น 1 ระบุชัดเจนว่า เป็นศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า อุดรธานี CPN ในขณะที่คูปองอาหารและเครื่องดื่มในศูนย์อาหารระบุชื่อบริษัท เซ็นทรัลเวิลด์ จำกัด
"กลุ่มเจริญศรี" ของตระกูลฑีฆธนานนท์มีธุรกิจหลายประเภทในจังหวัดอุดรธานี สกลนคร นครพนม และขอนแก่น ซึ่งก่อนหน้านี้นายโกมินทร์ ฑีฆธนานนท์ คีย์แมนสำคัญเคยยอมรับว่า ภายหลังขายกิจการแล้ว ธุรกิจในกลุ่มเจริญศรีในจังหวัดอุดรธานีจะเหลือกิจการตลาดสดอุดรธานีและขอนแก่น การเป็นดีลเลอร์รถยนต์ และโรงแรมเจริญศรีพาเลซ
จากการสำรวจของผู้สื่อข่าวพบว่ากิจการในจังหวัดอุดรธานี ประกอบด้วยตลาดเมืองทองเจริญศรีซึ่งเป็นตลาดค้าส่งผัก ผลไม้ ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมทั่วภาคอีสาน, การเป็นดีลเลอร์รถยนต์มาสด้าและรถยนต์มิตซูบิชิ (บริษัท อุดรเจริญศรี (2002) จำกัด) รวมถึงรถยนต์มือสองในนามบริษัท อุดรเจริญศรี (1968) จำกัด, โรงแรมเจริญศรีพาเลซ และโรงปุ๋ยซึ่งอยู่นอกเมืองบนถนนอุดร-หนองคาย
กลุ่มเจริญศรีเป็นตระกูลนักธุรกิจเก่าแก่ของเมืองอุดร ต้นกำเนิดคือนายเจริญและนางสลับศรี ฑีฆธนานนท์ บิดาและมารดา มีบุตรทั้งสิ้น 8 คน เป็นชาย 7 คน และหญิง 1 คน ได้แก่ โกมินทร์, โกมุท, โกเมศ, หาญชัย, ธนชัย, กิตติวรรณ, กิตติกร และโกเมนทร์ตามลำดับ
ที่ผ่านมาบรรดาพี่น้องในตระกูล "ฑีฆธนานนท์" ได้ทยอยเบนเข็มเข้าสู่เวทีการเมืองเกือบทุกคน วันนี้กลายเป็นตระกูลการเมืองเต็มตัว
นายโกมินทร์ ฑีฆธนานนท์ เคยลงสมัคร ส.ส.และต้องอกหักไปเมื่อไม่นานมานี้ นายโกมุท ฑีฆธนานนท์ ปัจจุบันเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสกลนคร และดูแลบริษัท มิตซูเจริญศรี (2002) จำกัด
นายโกเมศ ฑีฆธนานนท์ ปัจจุบันเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเมืองเก่า จ.ขอนแก่น และเป็นอดีต ส.ว.ขอนแก่น อดีต ส.ส.ขอนแก่น และอดีตนายก อบจ.ขอนแก่น
นายหาญชัย ฑีฆธนานนท์ อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุดรธานี ปัจจุบันเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี
นายธนชัย ฑีฆธนานนท์ เป็นผู้บริหาร หจก.เจริญศรีเซลล์ อิมพอร์ท เอ็กซ์พอร์ต จ.นครพนม และ นางกิตติวรรณ สุริยประภาดิลก ทำธุรกิจโรงงานปั่นด้าย อยู่ในกรุงเทพฯ
ขณะที่ นายกิตติกร ฑีฆธนานนท์ นั่งเก้าอี้รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุดรธานี โดยมี นายอิทธิพล ตรีวัฒน์สุวรรณ น้องภรรยาของนายหาญชัย รั้งตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุดรธานี
สำหรับ นายโกเมนทร์ ฑีฆธนานนท์ ดูแลบริษัท เจริญศรีการเกษตร จำกัด และเป็นผู้ช่วยนายโกเมศที่จังหวัดขอนแก่น โดยปัจจุบัน "เสี่ยปู" หรือนายโกเมนทร์ ถูกนายหาญชัยซึ่งมีอีกตำแหน่งคือนายกสมาคมกีฬาจังหวัดอุดรธานีดึงมาร่วมทีมบริหารในสมาคมในตำแหน่งประธานฝ่ายฟุตบอลผู้สูงอายุ
ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นายโกเมนทร์ได้ถูกจัดวางให้ดำเนินเส้นทางการเมืองตามรอยพี่ๆ อย่างแน่นอน
Tuesday, April 7, 2009
ค้าปลีกเมืองอุดร ปรอทแตก...! "เซ็นทรัล-คาร์ฟูร์" สยายปีกปักฐาน
Image by Mundo Desconcertante via Flickr
สกู๊ปประชาชาติธุรกิจ
การปักธงของค้าปลีกขนาดใหญ่รายล่าสุด "คาร์ฟูร์" ในจังหวัดอุดรธานี เป็นสาขาแรกในภาคอีสาน รวมถึงการเปลี่ยนมือของธุรกิจตระกูลเก่าแก่ "ฑีฆธนานนท์" ทั้งในส่วนของศูนย์การค้าเจริญศรี คอมเพล็กซ์ และโรงแรมเจริญศรีแกรนด์รอยัล อุดรธานี เป็นเครื่องการันตีศักยภาพของเมืองและเศรษฐกิจภายในจังหวัดอุดรธานีได้เป็น อย่างดี
ด้วยศักยภาพของทำเลที่ตั้งในลักษณะจตุรทิศ โดยทิศเหนือเป็นทางออกสู่ จ.หนองคายและต่อไปยัง สปป.ลาว ทิศตะวันออกเป็นทางออกสู่ จ.สกลนครและนครพนม ทิศตะวันตกเป็นทางออกสู่ จ.หนองบัวลำภู เลย และทิศใต้เป็นทางออกสู่ จ.ขอนแก่น นครราชสีมา และกรุงเทพฯ
อีกทั้งยังมีเม็ดเงินหมุนเวียนมาจากภาครัฐและเอกชน การค้าชายแดนอีกไม่น้อย และจุดแข็งสำคัญที่ได้เปรียบจังหวัดอื่นๆ ก็คือ เงินโอนต่างประเทศ ดังเช่นคำยืนยันจากนางสาวลักขณา ศรีไตรรักษ์ คลังจังหวัดอุดรธานี ว่าปัจจุบันเศรษฐกิจโดยรวมของอุดรธานียังไปได้ดีและมีเงินโอนจากต่างประเทศเข้ามาเดือนละกว่า 300 ล้านบาท ขณะที่งานประชุม สัมมนาก็มีอย่างต่อเนื่อง และมีรายได้ต่อหัวประชากรกว่า 5 หมื่นบาท/คน/ปี
โมเดิร์นเทรดยึดทำเลรอบวงแหวน
นั่นคือปัจจัยที่จูงใจนักลงทุนทั้งในท้องถิ่นและต่างถิ่น ปักธงธุรกิจขนาดใหญ่หลายราย โดยกระจายการลงทุนอยู่รอบวงแหวนของเมือง เช่น ภาคค้าปลีก เทสโก้ โลตัสเลือกปักธงบริเวณทิศเหนือ ทางออกไป จ.หนองคาย และ สปป.ลาว
บิ๊กซีปักธงฝั่งทิศตะวันออก ทางออกไป จ.สกลนคร และยังมีตลาดโลตัสสาขา อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ที่รอดักลูกค้า ที่จะเข้าเมืองมาช็อปปิ้งที่บิ๊กซี
ในบริเวณรอบวงแหวนซึ่งอยู่ระหว่าง เทสโก้ โลตัสและบิ๊กซี ก็ยังมีทุนท้องถิ่น "เซฟมาร์ท" ขยายสาขา 2 คั่นกลางอยู่ใกล้ห้างค้าวัสดุก่อสร้าง ได้แก่ ทูลส์โปรพลัส โกลบอลเฮ้าส์ และอุดรนำธงชัย โฮมมาร์ทแม็ก และยังมีโบ๊เบ๊อุดรฯ สุริยาเฟอร์นิเจอร์ ซูเปอร์เซ็นเตอร์ โชว์รูมมิตซูเจียง โชว์รูมคูโบต้า อินเด็กซ์ลิฟวิ่งมอลล์ อิมเพรสชั่น (ห้างค้าเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน) และหมู่บ้านจัดสรรอีกหลายแห่ง ล่าสุดทิศตะวันตกก็มีห้างตั้งงี่สุน, คาร์ฟูร์ และเทสโก้ โลตัสมายึดหัวหาด
คาร์ฟูร์ปักธงสาขาแรกภาคอีสาน
ล่าสุด (1 เม.ย.52) วงการค้าปลีกของเมืองอุดรร้อนแรงขึ้นอีกครั้งเมื่อยักษ์ค้าปลีก "คาร์ฟูร์" ทุ่มทุนกว่า 500 ล้านบาท ปักธงเปิดบริการเป็นสาขาแรกในภาคอีสาน บริเวณ ก.ม.ที่ 4 ถนนอุดร-เลย บนพื้นที่ 19 ไร่ มีพื้นที่ใช้สอย 20,000 ตารางเมตร มีร้านค้าในช็อปปิ้งมอลล์กว่า 40 ร้านค้า นับเป็นสาขาที่ 33 และเป็นสาขาที่ 9 ในต่างจังหวัด ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการช็อปปิ้งในภาคอีสานตอนบนและ สปป.ลาว
ถัดไปอีกไม่กี่เมตรเทสโก้ โลตัสกำลังปรับพื้นที่ก่อสร้างสาขาที่ 4 ในอุดรธานี คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือน พ.ย.นี้ และถัดไปอีกก็เป็นที่ตั้งของห้างค้าปลีก-ค้าส่งท้องถิ่น "ตั้งงี่สุน ซูเปอร์สโตร์" สาขา 2
ฟิลิปป์ โบรยานิโก ประธานคณะกรรมการบริหารห้างคาร์ฟูร์ ประเทศไทยกล่าวว่า การเปิดสาขาแห่งแรกในภาคอีสานที่ จ.อุดรธานี เป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคในภาคอีสาน พร้อมกับนำความเจริญมาสู่ท้องถิ่นทั้งในด้านการอบรมบุคลากร การช่วยเหลือท้องถิ่นให้มีรายได้ มีช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าชุมชนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังนำสินค้าราคาประหยัด สินค้า แบรนด์เนมกว่า 65,000 รายการมาบริการ
บิ๊กค้าปลีกรายเก่าขยับตัวสู้
สมรภูมิค้าปลีกฝั่งทิศตะวันตกแข่งขัน ดุเดือดขนาดนี้ ฝั่งตะวันออกซึ่งมีบิ๊กซี ปักหลักอยู่ก่อนแล้ว หรือเทสโก้ โลตัสซึ่งอยู่ฝั่งทิศเหนือก็ไม่ยอมแพ้มีการจัดรายการส่งเสริมการขายเพื่อดึงลูกค้าเช่นกัน โดยบิ๊กซีจัดรายการแจกสะใจที่บิ๊กซี อุดรฯ 3 วัน ช็อปทุก 500 บาท ฟรีคูปอง 25 บาท ค่ายเทสโก้ โลตัสจัดรายการประกวดวงดนตรีลูกทุ่งมัธยม ทุกวันศุกร์ไปจนถึงวันที่ 24 เม.ย.นี้และเปิดโอกาสให้ลูกค้านำบิลไปแลกคูปองเขียนชื่อทีมที่เชียร์ชิงโชคทุกวันศุกร์ และชิงรางวัลใหญ่ในวันชิงชนะเลิศ
ด้านห้างสรรพสินค้าโรบินสัน สาขาอุดรธานี ที่อยู่ใจกลางเมืองก็ขยับตัวจัดรายการส่งเสริมการขาย surprise sale และ big brand sale พร้อมกระหน่ำโปรโมชั่นหลากหลายรายการ
สำหรับทุนท้องถิ่น "ตั้งงี่สุน ซูเปอร์สโตร์" ห้างค้าปลีก-ค้าส่งรายใหญ่เมืองอุดรก็ไม่หยุดนิ่ง ปีนี้เริ่มเดินเครื่องขยายสาขามินิมาร์ต ภายใต้แบรนด์ "เซฟมาร์ท" ในเขตตัวเมืองอุดร
นายสุรศักดิ์ สุระวรรณวิจิตร กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อึ้งเซ้งเฮง (1994) จำกัด ผู้บริหารเซฟมาร์ท กล่าวยอมรับว่า ในช่วงนี้คาร์ฟูร์มาแรงแต่ทางห้างก็มีการปรับตัวสู้กับยักษ์ค้าปลีกข้ามชาติ โดยทุ่มทุน 5-6 ล้านบาทตกแต่งตึกด้านหน้าของสาขา 2 เพื่อเปิดหน้าร้านขายปลีกในรูปแบบมินิมาร์ต ชื่อ "เซฟมาร์ท" เน้นจำหน่ายสินค้าอาหารแห้งและคอนซูเมอร์ ซึ่งจะเปิดดำเนินการในวันที่ 11 พ.ค.นี้
เซ็นทรัลเทกโอเวอร์ห้างเจริญศรีฯ
นอกจากการแข่งขันดุเดือดในกลุ่มโมเดิร์นเทรดแล้ว ธุรกิจค้าปลีกในกลุ่มศูนย์การค้าก็ร้อนแรงอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกระแสข่าวค่ายเซ็นทรัลเข้าเทกโอเวอร์ ศูนย์การค้าเจริญศรีคอมเพล็กซ์ และโรงแรมเจริญศรีแกรนด์รอยัล อุดรธานี ของตระกูล "ฑีฆธนานนท์" นักธุรกิจเก่าแก่ของเมืองอุดร
แม้วันนี้ยังไม่มีคำยืนยันจากผู้บริหารของทั้ง 2 ฝ่าย แต่ล่าสุดนี้นางวรรษิดาทีฆธนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจริญศรีอาเขต จำกัด ซึ่งดูแลห้างเจริญศรีฯ ได้ส่งหนังสือถึงผู้เช่าพื้นที่ในห้าง แจ้งว่าบริษัทเตรียมดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ในอาคารและงานระบบในอาคารให้แก่บริษัท เซ็นทรัลเวิลด์ จำกัด ในเครือเซ็นทรัลต้นเดือนเมษายนนี้
ขณะที่ศูนย์การค้า UD TOWN ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลทองริมทางรถไฟก็เจรจาดึงคาร์ฟูร์เข้ามาเปิดสาขาเป็นแม็กเนตดึงลูกค้า
แหล่งข่าวระดับสูงของ UD TOWN เปิดเผยว่า มีการลงนามเอ็มโอยูกับผู้บริหารของห้างคาร์ฟูร์แล้ว เพื่อก่อสร้างคาร์ฟูร์ ไฮเปอร์มาร์เก็ตมินิในโครงการ UD TOWN คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปีนี้ ประจวบเหมาะกับเทสโก้ โลตัสในรูปแบบ Lotus Plus ที่จะเปิดในฝั่งตะวันออกของอุดรฯพอดี
สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของ นางสาวประภาพรรณ พลอยแสงงาม ผู้บริหารคาร์ฟูร์ว่า ที่ภาคอีสานภายในปีนี้ จะมีการเปิดอีก 1 สาขาอย่างแน่นอน โดยขนาดมินิต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 150 ล้านบาทต่อสาขา
สมรภูมิค้าปลีกเมืองอุดรวันนี้จึงร้อนแรงยิ่งนัก
Friday, April 3, 2009
Carrefour ทุ่ม 500 ล้าน เปิดสาขาที่อุดรฯ
Udonthani Map Wikipedia
เมื่อเวลา 09.25 น.วันที่ 1 เมษายน นายอำนาจ ผการัตน์ ผวจ.อุดรธานี ร่วมกับ นายฟิลิปป์ โปรยานิโก ประธานคณะกรรมการบริหาร ห้างคาร์ฟูร์ ประเทศไทย ร่วมกันเป็นประธานเปิดห้างคาร์ฟูร์ สาขาอุดรรธานี ซึ่งถือว่าเป็นห้างคาร์ฟูร์ สาขาแรกของภาคอีสาน และเป็นสาขาที่ 33 ในประเทศไทย
นางสุธาทิพย์ ศรีวรานนท์ ผู้จัดการห้างคาร์ฟูร์ สาขาอุดรธานี กล่าวว่า ทางห้างคาร์ฟูร์ ประเทศไทย มีวิสัยทัศน์หนึ่ง ในการดำเนินธุรกิจ คือ มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจ และมีความเจริญเติบโตไปพร้อมๆ กับชุมชนและสังคมไทยอย่างยั่งยืน ในทุกๆ พื้นที่และทุกแห่งที่ Carrefour เข้าไปดำเนินธุรกิจให้ถือว่า Carrefour เป็นสมาชิกหนึ่งของชุมชนนั้น และพร้อมที่จะเข้าไปมีส่วนร่วสมในการช่วยพัฒนาในด้านต่างๆ เช่น การเป็นช่องทางในการจำหน่ายสินค้าท้องถิ่น และกระจายสินค้าดังกล่าวนั้นไปยังห้างคาร์ฟูร์สาขาต่างๆ ทั่วประเทศ
ด้านนายอำนาจ กล่าวว่า การที่ห้างคาร์ฟูร์ มาเปิดสาขาที่ จ.อุดรธานีว่า ถือว่าเป็นความภูมิใจของชาวอุดรธานี ที่ห้างคาร์ฟูร์ ได้เลือกเอาพื้นที่ จ.อุดรธานี เป็นแห่งแรกในการตั้งสาขาแรกของห้างคาร์ฟูร์ในภาคอีสาน ซึ่งตนได้รับทราบจากผู้บริหารของห้างคาร์ฟูร์ว่า จะถือเอาสาขาในพื้นที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมในท้องถิ่น
จึงอยากที่จะเห็นความร่วมระหว่างห้างคาร์ฟูร์ที่ตั้งอยู่ในท้องถิ่นและสังคมของท้องถิ่นในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะความร่วมมือในด้านสินค้าโอท็อปของท้องถิ่นเข้าไปวางจำหน่ายอยู่ในห้าง ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้สินค้าโอท็อปคุณภาพดีสามารถเข้าไปอยู่ในห้างได้ เช่น ข้าว สินค้าปศุสัตว์ ซึ่งทางจังหวัดก็จะได้มีการประชุมปรึกษาหารือกันในเร็วๆ นี้
ขณะที่ นายฟิลิปป์ กล่าวว่า สำหรับห้างคาร์ฟูร์สาขาอุดรธานี เป็นห้างคาร์ฟูร์สาขาแรกในภาคอีสาน โดยมีงบการลงทุนรวมที่ดินประมาณ 500 ล้านบาท มีพื้นที่การใช้สอยกว่า 8,500 ตร.ม.ในพื้นที่รวม 20,000 ตร.ม.ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ตั้งอยู่บนริมถนนสาย อุดรธานี-หนองบัวลำภู มีบริเวณรองรับรถจอดได้ไม่น้อยกว่า 500 คัน มีสินค้าอุปโภค บริโภคเอาไว้บริการลูกค้ามากกว่า 65,000 รายการ อาทิ สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าแบรนด์เนมทั้งจากต่างประเทศ และในประเทศ สินค้าเครื่องแต่งกาย สินค้าอาหารสด สามารถรองรับแรงงานในท้องถิ่นได้ไม่น้อยกว่า 200 ตำแหน่ง และคาดว่าจะมีผู้มาใช้บริการประมาณ 4000 คนต่อวัน
“คาดหมายว่า ห้างคาร์ฟูร์สาขาอุดรธานีนี้ จะเป็นศูนย์กลางของการช้อปปิ้งของภาคอีสานตอนบน อีกส่วนหนึ่งก็จะเป็นลูกค้าจาก สปป.ลาว นอกจากนี้แล้วก็ยังจะเป็นการกระตุ้นการซื้อ ขาย และเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคในจังหวัดอุดรธานีและใกล้เคียง และเป็นการนำความเจริญเข้าในท้องถิ่น พร้อมด้วยความร่วมมือ ความช่วยเหลือในท้องถิ่น”