![]() |
Black Canyon’s Cafe´interia fusion restaurant recently opened at the Festival Walk zone at Siam Future Development’s Kaset-Nawamin retail project. |
Wednesday, January 18, 2012
BLACK CANYON OPENS NEW FUSION OUTLET
Monday, January 9, 2012
CPALL ทุ่ม 5 พันล.ปี 55 ผุด 7ELEVEN อีก 500 สาขาทั่วไทย
Wednesday, January 4, 2012
WARY RETAILERS REJIG LOGISTICS SYSTEMS
Thursday, November 10, 2011
โอกาสทอง "แบรนด์รอง" ยี่ห้อท้องถิ่น-ค่ายเล็กยึดเชลฟ์
Thursday, November 3, 2011
TESCO READY WITH MORE ESSENTIAL GOODS
![]() |
Tesco Lotus staff arrange pallets at the hypermarket chain’s temporary distribution centre at Bitec yesterday. KITJA APICHONROJAREK |
Thursday, September 22, 2011
TESCO LOTUS ตั้งกองทุนอสังหาฯระดมเงิน
Monday, January 31, 2011
SUPPLIER SQUEEZED BY BIG C
![]() |
Photo Source: Bangkok Post |
The mightier Big C is said to be flexing its muscles, demanding that its suppliers pay higher rates.
Monday, January 24, 2011
Tesco 7Eleven ผุดดีซีรับตลาดอาหารโต
Sunday, November 21, 2010
"โจทย์หิน" ซีอีโอใหม่ TESCO LOTUS การเมือง-น้ำท่วม-ค่าบาท
![]() |
Chris Bush, CEO of Tesco Lotus Photo Source: nationmultimedia |
Monday, October 4, 2010
BIDDERS CIRCLE CARREFOUR'S SE ASIA ASSETS
Thursday, October 29, 2009
7 ELEVEN INVESTS 500 MB FRESH DC
"เซเว่นฯ" ยิ้ม อิ่มสะดวก ดันยอดลูกค้าเพิ่ม เตรียมควักอีก 500 ล้านสร้างศูนย์กระจายอาหารสดแถบตะวันออก หวังกระจายตระกูลอาหารกล่องย้ำภาพลักษณ์ใหม่ คาด 5 ปีโมเดลอิ่มสะดวกครอบคลุมทั่วประเทศ
คาดว่า 5 ปีข้างหน้าบริษัทจะมีศูนย์ที่สามารถกระจายอาหารสดได้ทั่วประเทศ เบื้องต้นเน้นกระจายอาหารกล่องพร้อม รับประทานไปที่หัวเมืองใหญ่ ๆ ที่มีศักยภาพก่อน ขณะที่กลุ่มเบเกอรี่จะเจาะกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด ทั้งนี้เพื่อให้ร้านเซเว่นฯทุกสาขาปรับภาพลักษณ์เป็นร้าน อิ่มสะดวกอย่างสมบูรณ์
นายสุวิทย์กล่าวต่อไปว่า สินค้าที่จำหน่ายในร้านอิ่มสะดวกไม่จำเป็นต้องมีสินค้าครบทุกไลน์ แต่ต้องดูที่ความต้องการของผู้บริโภคและความพร้อมของแต่ละพื้นที่เป็นหลัก
ปัจจุบันเซเว่นฯมีอาหารกล่อง 2 ชนิด ได้แก่ อาหารแช่แข็งอีซี่โก ซึ่งสามารถเก็บได้นาน วางจำหน่ายได้ทุกสาขากับอาหารแช่เย็นหรือชิลฟู้ด แบรนด์อีซี่ช้อยส์และ อีซี่เวย์ ซึ่งมีอายุ 3 วัน จำหน่ายในสาขากรุงเทพฯและจังหวัดใกล้เคียง 300 สาขา และสำหรับช่วงเทศกาลอาหารเจที่ผ่านมาก็ได้มีการเพิ่มเมนูเจราคา 35 บาท อีก 4 เมนู ได้แก่ ข้าวกะเพราทรงเครื่องเจ ผัดหมี่ฮ่องกงเจ ข้าวกล่องแกงเขียวหวาน และแกงเผ็ดเป็ดย่างเจ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ครอบครัวรุ่นใหม่ที่มีเวลาเข้าครัวน้อย
"หลังประกาศปรับภาพลักษณ์เป็นร้านอิ่มสะดวกเมื่อต้นปี ควบคู่การใช้หนังโฆษณาภายใต้คอนเซ็ปต์ หิวเมื่อไร ก็แวะมา จำนวน 5 ชุด ตลอดทั้งปีพบว่าลูกค้าเริ่มคุ้นเคยมากขึ้น ประกอบกับผลจากการที่ ลูกค้ากังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทาง จึงหันมาซื้อสินค้าที่ร้านใกล้บ้าน ส่งผลให้ เซเว่นฯมีจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น"
นายสุวิทย์ยังกล่าวอีกว่า ด้านการพัฒนาธุรกิจไปยังต่างประเทศ บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาตลาดที่เวียดนาม ซึ่งหากต้องไปทำตลาดจริง ๆ จะต้องขอไลเซนส์จากบริษัทแม่อีกครั้ง ส่วนตัวมองว่าหลังเริ่มเปิดเขตการค้าเสรีอาฟต้าน่าจะยิ่งส่งผลดีในแง่ภาษีที่ลดลง และทำให้สินค้าจากประเทศไทยที่จำหน่ายในเซเว่นฯมีโอกาสขยายตลาดมากขึ้น แต่แผนดังกล่าวไม่น่าจะเสร็จทันปีหน้า และต้องใช้เวลาศึกษา อีกสักระยะ อย่างไรก็ตามการเปิดร้าน เซเว่นฯในเวียดนามอาจไม่อยู่ในรูปแบบร้านอิ่มสะดวกเหมือนในเมืองไทยและญี่ปุ่น เพราะกว่าจะพัฒนาโมเดลนี้ต้องใช้ระยะเวลานานนับ 10 ปี
Monday, September 21, 2009
JIFFY PARTNERING WITH TOPS
เมื่อใหญ่มาเจอกับใหญ่ จึงไม่แปลกที่สูตรการตลาดใหม่ๆ ย่อมเกิดขึ้น กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา "ปตท." เซ็นสัญญากับ "เซ็นทรัลรีเทล" หรือซีอาร์ซี สำหรับการเข้ามาช่วยดูแลการจัดซื้อสินค้าให้ร้านจิฟฟี่ 146 สาขาทั่วประเทศ
เป็นการเซ็นสัญญา 3 ปี โดยเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล 1 ในหน่วยธุรกิจหลักของซีอาร์ซี ผู้บริหารร้านท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ตและเซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์ จะเป็นผู้รับผิดชอบดูแลสินค้าให้กับร้านจิฟฟี่
"ทศ จิราธิวัฒน์" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ระบุว่า รูปแบบการขยายธุรกิจในอนาคตของเซ็นทรัลรีเทลไม่จำเป็นที่จะต้องขยายด้วยตัวเองเท่านั้น การร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ในธุรกิจต่างๆ จะเห็นภาพที่ชัดและมากขึ้น กลยุทธ์ของบริษัทจะ open & flexible มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระดับธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ ซีอาร์ซีพร้อมคุยหมด
สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ระหว่างเซ็นทรัลรีเทล ผู้นำในธุรกิจค้าปลีก และ ปตท. บริษัทอันดับหนึ่งของประเทศ
"ทศ" ชี้ว่า ย่อมแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการขยายธุรกิจทั้ง 2 ฝ่าย เป็นกลยุทธ์ที่วิน-วินทั้งคู่
โดยจิฟฟี่มีความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่สูงมาก เช่นเดียวกับท็อปส์ ที่มีภาพของซูเปอร์มาร์เก็ต
โดยที่ท็อปส์จะทำหน้าที่เป็นหลังบ้านให้จิฟฟี่ ด้วยการใช้ความเชี่ยวชาญในการบริหารและจัดซื้อสินค้าและโครงสร้างทั้งระบบขนส่งและคลังสินค้าผ่านท็อปส์ทั้ง 117 สาขา ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้กับจิฟฟี่ว่าสามารถวางสินค้าใหม่ได้เร็วและทันกับความต้องการของตลาด เป็น "first in market" การทำธุรกิจที่ดีและจะสำเร็จได้นั้นทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านต้องดีและไปด้วยกัน
จะว่าไปแล้วความร่วมมือครั้งนี้เป็นเหมือนการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกของ ปตท.และเซ็นทรัล เพราะก่อนหน้านี้เซ็นทรัลเคยเข้ามาบริหารจัดซื้อสินค้าให้กับจิฟฟี่ก่อนที่กลุ่มโคโนโค (ผู้ถือหุ้นเดิมปั๊มน้ำมันเจ็ท) ได้เปลี่ยนให้กลุ่มสตาร์มาร์ทมาบริหาร และเมื่อ ปตท.ซื้อกิจการปั๊มน้ำมันเจ็ท ปตท.ก็วางใจให้ซีอาร์ซีบริหารการจัดซื้อสินค้าให้อีกครั้ง
"ดร.กฤษณะพล โกมลบุณย์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด กล่าวว่า การร่วมมือในครั้งนี้เป็น เพียงจุดเริ่มต้นสำหรับการทำธุรกิจร่วมกันของทั้ง 2 ฝ่าย นอกจากให้ท็อปส์เข้ามา บริหารสินค้าร้านจิฟฟี่ในกลุ่มสินค้าทั่วไปสัดส่วน 60% ในอนาคตสัดส่วน 40% ที่เป็นกลุ่มอาหารสดอาจให้สิทธิ์กลุ่ม เซ็นทรัลด้วย จากปัจจุบันที่จิฟฟี่สั่งตรงจากซัพพลายเออร์
ส่วนโปรเจ็กต์ที่จะทำร่วมกับกลุ่มเซ็นทรัลต่อจากนี้คือการดึงสินค้าแฟชั่น แบรนด์เนมของกลุ่มซีเอ็มจีเข้ามาเปิดช็อปในปั๊ม ปตท. โดยจะเริ่มนำร่องในโมเดลใหม่ "แพลตินั่ม" ของ ปตท.สาขาแก่งคอย (ทาง ไปปากช่อง) ก่อนที่จะขยายในปั๊ม ปตท. อื่นๆ ตามหัวเมืองและจุดท่องเที่ยวร่วมกัน
การดึงคู่ค้ารายใหม่ๆ หรือการตลาดในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของกลุ่มค้าปลีก ปตท.ที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนรายได้ในกลุ่มน็อนออยล์มากขึ้น เพื่อเสริมจากรายได้น้ำมันที่ค่อนข้างทรงตัว
"ที่ผ่านมาเรากำลังสร้างทีมรีเทลให้แข็งแกร่ง ดึงคนที่มีศักยภาพจากค้าปลีกต่างๆ มาร่วมงานกัน เพื่อเตรียมรับมือกับการแข่งขัน ซึ่งทั้งสินค้า โปรโมชั่นส่งเสริมการขาย เราต้องเร็วและสู้คนอื่นให้ได้"
ส่วนประเด็นที่ว่าปั๊ม ปตท.ทั่วประเทศกว่า 1.2 พันแห่งที่มีร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นเปิดอยู่นั้น จะเปลี่ยนเป็น จิฟฟี่ทั้งหมดด้วยหรือไม่ "ดร.กฤษณะพล" ชี้ว่ายังบอกไม่ได้ เพราะบริษัท ปตท.บริหาร ธุรกิจค้าปลีก เป็นบริษัทลูกที่ทำหน้าที่เสมือนดีลเลอร์บริหารเฉพาะปั๊ม ปตท.ที่เป็นเจ็ทเดิม 146 สาขาเท่านั้น ส่วนปั๊ม ปตท.ที่เหลือบริหารโดย ปตท.บริษัทแม่ ซึ่งให้สิทธิ์เซเว่นอีเลฟเว่นเปิดร้านสะดวกซื้อ และยังเหลือเวลาอีก 4 ปีที่จะหมดสัญญา และกว่าจะถึงวันนั้นค่อยมาว่ากันอีกที
แต่ภาพที่จะได้เห็นมากขึ้นหลังจากนี้ของกลุ่มค้าปลีก ปตท. คือ ก้าวเข้าสู่การแข่งขันธุรกิจค้าปลีกอย่างเต็มตัว ด้วยการเตรียมขยายร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ออกนอกปั๊มน้ำมัน ปตท.เป็นครั้งแรก โดยจะยกระดับให้เป็น รูปแบบร้านพรีเมี่ยมและคัดเลือกสินค้าเฉพาะเท่านั้น
เป็นโมเดลร้านแบบใหม่ที่ไม่เหมือนกับจิฟฟี่ หรือจิฟฟี่เอ็กซ์เพรสทั้ง 146 สาขา และจะเห็นสาขาแรกที่ตึก "Energy Complex" บนพื้นที่ขนาด 125 ตร.ม.
ภาพความเคลื่อนไหวของกลุ่มธุรกิจ 2 รายใหญ่ที่ผนึกกำลังด้วยกลยุทธ์วิน-วิน ย่อมส่งสัญญาณให้กับกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ว่าต้องปรับตัวและรับมือสู้กับโลกการแข่งขันที่ดุเดือดต่อจากนี้ไป
Sunday, July 19, 2009
เซเว่นอีเลฟเว่นทุ่มพันล้านผุด 2 ดีซีใหม่
Image by mexican 2000 via Flickr
เซเว่นอีเลฟเว่นทุ่มพันล้านผุด 2 ดีซีใหม่ เสริมทัพธุรกิจภาคใต้-ภาคอีสานขึ้นเหนือปี53
7-11 ทุ่มพันล้านสร้าง 2 ศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ เสริมทัพธุรกิจทั้งภาคใต้ ที่สุราษฎร์ธานี และภาคอีสานที่ขอนแก่น เล็งลงทุนเพิ่มที่ลำปาง หวังสร้างศูนย์ประจำภาคเหนือในปี 53 มั่นใจลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ เสริมประสิทธิภาพด้านขนส่ง พร้อมดันสินค้าเข้าถึงผู้บริโภคทั่วถึงยิ่งขึ้น
นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าภูมิภาค (Reginal Distribution Center : RDC) แห่งใหม่ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 90% โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตั้งอุปกรณ์และตกแต่งภายในอาคาร คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดใช้ได้ภายในเดือนกันยายนนี้ โดยดีซีดังกล่าวจะเป็นศูนย์กระจายสินค้าภูมิภาค ประจำภาคใต้ ครอบคลุมการให้บริการใน 14 จังหวัดภาคใต้
ส่วนการลงทุนศูนย์กระจายสินค้าภูมิภาค ประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะตั้งอยู่ที่จังหวัดขอนแก่นนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2553 ซึ่งจะให้บริการส่งสินค้าให้กับร้านเซเว่น อีเลฟเว่นในภาคอีสานทั้ง 19 จังหวัด ทดแทนคลังสินค้าในปัจจุบันซึ่งเป็นการเช่า โดยการลงทุนก่อสร้างอาร์ดีซีใช้เงินลงทุนประมาณ 500 ล้านบาทต่อศูนย์ นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะลงทุนสร้างดีซี แห่งใหม่เพื่อให้ครอบคลุมในทุกภูมิภาคของประเทศ ทดแทนการเช่าคลังสินค้า โดยจะลงทุนทั้งในภาคเหนือ คือที่จังหวัดลำปางอีกด้วย ซึ่งคาดว่าจะสามารถลงทุนได้ในปีหน้าเช่นกัน
สำหรับศูนย์กระจายสินค้าภูมิภาค จังหวัดสุราษฎร์ธานี จะสามารถกระจายสินค้าให้กับร้านเซเว่น ที่ตั้งอยู่ในภาคใต้ โดยเริ่มตั้งแต่ที่จังหวัดชุมพร รองรับการให้บริการกระจายสินค้าให้กับร้านเซเว่นทั้ง 600 สาขาในปัจจุบัน และมีประสิทธิภาพสามารถให้บริการขนส่งและกระจายสินค้าได้มากกว่า 1,000 สาขา อย่างไรก็ดี การจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าขึ้นในภูมิภาคต่างๆ จะช่วยทำให้ต้นทุนในด้านการบริหารจัดการโลจิสติกส์ลดลง อีกทั้งยังรักษาคุณภาพ ความสดใหม่ของอาหาร และทำให้มีสินค้าวางจำหน่ายได้ตรงตามที่ลูกค้าต้องการ ขณะที่ผู้ผลิตเองก็มีความสะดวกสบายในการจัดส่งสินค้าด้วย
ปัจจุบันเซเว่น ถือเป็นผู้ประกอบการค้าปลีกที่มีความชำนาญในด้านการบริหารจัดการในอันดับต้นของประเทศ โดยมีศูนย์กระจายสินค้าในรูปแบบต่างๆ ทั้ง ศูนย์กระจายสินค้าภูมิภาค (Regional Distribution Center : RDC) ทำหน้าที่กระจายสินค้าทั้งอาหารสด และอาหารแห้ง รวมถึงสินค้าในชีวิตประจำวัน ศูนย์กระจายสินค้าควบคุมอุณหภูมิ (Chilled Distribution Center : CDC) สำหรับกระจายสินค้าที่ต้องการอุณหภูมิ 18-25 องศา เช่น ช็อกโกแลต นม เนื้อสัตว์ สินค้าปรุงสำเร็จ ปัจจุบันมี 4 แห่ง คือ บางบัวทอง ขอนแก่น เชียงใหม่ และสุราษฎร์ธานี
ศูนย์กระจายสินค้าเบเกอรี่ (Bakery Distribution Center : BDC) สำหรับกระจายสินค้าเบเกอรี่ ซึ่งปัจจุบันผลิตอยู่ภายใต้แบรนด์ เลอแปง และยูริ และศูนย์กระจายสินค้าสิ่งพิมพ์ (Publication Distribution Center : PDC) สำหรับกระจายสินค้าประเภทสิ่งพิมพ์ ซึ่งมีทั้งหนังสือพิมพ์ นิตยสาร พ็อกเกตบุ๊ก โดยระบบการกระจายสินค้าแต่ละศูนย์จะแตกต่างกันไปตามประเภทของสินค้า เช่น ศูนย์กระจายสินค้าสิ่งพิมพ์ เบเกอรี่ และของสด จะมีการกระจายสินค้าที่อาศัยความรวดเร็ว เพราะเป็นสินค้าที่เชลฟ์ไลต์สั้น ต่างจากสินค้าประเภทอื่นๆ
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันศูนย์กระจายสินค้าที่มีอยู่สามารถให้บริการกระจายสินค้าให้กับร้านเซเว่น ได้ 5,200 สาขา ซึ่งใกล้เคียงกับจำนวนสาขาที่มีอยู่ขณะนี้ การลงทุนดีซีใหม่จึงต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้ทันกับการขยายสาขาที่จะมีมากขึ้นในอนาคต