Pages

Friday, September 21, 2012

ฮอท พอท เร่งขยายสาขาลงทุนต่างประเทศ


ฮอท พอท เร่งศึกษาแผนลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน หลังประสบความสำเร็จจากการสร้างแบรนด์ในประเทศ คาดอีก 2-3 ปีรู้ผล พร้อมยืนยันยังไม่มีแผนปรับราคาสินค้า หลังต้นทุนวัตถุดิบทางการเกษตรมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดปีนี้ยอดขายโต 25-30%

นางสาวสกุณา บ่ายเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮอท พอท จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารบุฟเฟ่ต์แบรนด์ "ฮอท พอท" เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาแผนลงทุนขยายสาขาไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียน เพื่อศึกษาพฤติกรรมการบริโภคและรูปแบบวิถีชีวิต โดยเบื้องต้นคาดการณ์จะสามารถสรุปแนวทางการดำเนินแนวทางด้านการตลาดได้ใน 2-3 ปี ภายหลังจากประสบความสำเร็จในการขยายสาขาในประเทศและสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งขึ้น

ขณะเดียวกันด้านการแข่งขันภายหลังจากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีนั้น มองว่าการเปิดเออีซีเป็นผลดีต่อธุรกิจร้านอาหารในเรื่องความหลากหลายของวัตถุดิบ และทางเลือกสำหรับผู้บริโภคก็จริง แต่ในทางตรงกันข้ามในฐานะที่ ฮอท พอท ใช้วัตถุดิบในประเทศภายในร้าน 100% นั้นเชื่อสินค้าทางการเกษตรของไทยเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านนั้นยังมีคุณภาพดีกว่าแน่นอน เพราะหากถึงเวลานั้นจริง เชื่อว่าผู้ประกอบการในประเทศจะแข่งขันกันสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการชาวต่างชาติที่จะเข้ามาในประเทศต้องศึกษาตลาดเมืองไทย และศึกษาเรื่องโลเกชันพอสมควรก่อนที่จะสามารถเข้ามาทำตลาดได้

ทั้งนี้ฮอท พอท เตรียมกลยุทธ์ด้านการตลาดที่เน้นการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายหน้าร้าน หรือที่เรียกว่า Local Store Marketing ผ่านงบประมาณทั้งสิ้น 3% จากยอดขายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการจัดโปรโมชันพิเศษในช่วงวันพุธ การคืนกำไรให้แก่ลูกค้าในช่วงเทศกาล เป็นต้น โดยจะเริ่มดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าวทั่วประเทศในปี 2556

อย่างไรก็ดีในส่วนของการปรับราคาบริษัทยังไม่มีแผนการขึ้นราคาแต่อย่างใด โดยปีที่ผ่านมา ฮอท พอท ปรับราคาขึ้นที่ 7% และในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาปรับราคาเฉลี่ยที่ 5-7% ต่อปีอยู่แล้ว ส่วนปัจจัยที่มีผลต่อการปรับราคาขึ้นของฮอท พอท ไม่เพียงในเรื่องต้นทุนเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับสภาวะทางการตลาด คู่แข่ง และแนวโน้มในขณะนั้นด้วย

"ราคาสินค้าการเกษตรที่หลายคนกังวลในเรื่องการปรับตัวที่สูงขึ้น มองว่าเป็นเรื่องปกติของสินค้าทางการเกษตรที่ต้องมีช่วงโลว์ซีซันและไฮซีซันที่จะมีการปรับขึ้น-ลง ส่วนในเรื่องต้นทุนค่าแรงที่สูงขึ้นนั้นไม่มีผลกระทบต่อบริษัทแต่อย่างใด เนื่องจากกว่า 50% ของสาขาใน กทม.และปริมณฑล พนักงานได้รับรายได้เกิน 300 บาทต่อวันอยู่แล้ว ส่วนในต่างจังหวัดยืนยันว่าสามารถปรับค่าแรงได้ทันตามกำหนดเวลาแน่นอน"

ด้านผลประกอบการของบริษัท ในปีนี้ตั้งเป้าการเติบโตเพิ่มขึ้น 25-30% หรือราว 1.47 พันล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลจากการขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าการขยายสาขาอยู่ที่ 20 สาขาต่อปี โดยใช้งบลงทุน 6-8 ล้านบาทต่อสาขา โดยปัจจุบันแบรนด์ ฮอท พอท ครองส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 15-20% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,776  20-22  กันยายน พ.ศ. 2555

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts with Thumbnails