Pages

Thursday, November 25, 2010

ปิดดีลคาร์ฟูร์ บิ๊กซี ฮุบทางยุทธศาสตร์

photo source : thannews.th.com

คอลัมน์: ขอดเกล็ดธุรกิจ โดย กัปตัน-เจ


เรียบร้อยห้าง บิ๊กซี ไปแล้วสำหรับ คาร์ฟูร์ ในไทย หลังเปิดโต๊ะเจรจาไม่ทัน 3 เดือน โดยบริษัทแม่ ของฝ่ายหลัง- คาร์ฟูร์ เอสเอ carefour SA ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า  ตกลงขาย กิจการในไทยซึ่งมีสาขาทั้งสิ้น 42 แห่งให้กับ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ แล้วในราคา 868 ล้านยูโร เคาะเป็นเงินไทยก็ราวๆ 3.5 หมื่นล้านบาท โดยทั้ง 2 ฝ่าย จะสรุปรายละเอียดทั้งหมดภายในไตรมาแรกปีหน้า 2554

ในแถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า เงินที่บิ๊กซีต้องจ่ายให้คาร์ฟูร์ เทียบเท่ากับ 120 % ของยอดขายสุทธิของคาร์ฟูร์ในไทยที่มีสาขา 42 แห่ง ซึ่งครองส่วนแบ่งการตลาด 6 % และมียอดขายสุทธิ 723 ล้านยูโร ในช่วง 12 เดือน นับถึงเดือน มิถุนายน 2553 โดยการซื้อ-ขายระดับบิ๊กดีลครั้งนี้มี  ดอยทช์แบงก์ สาขาประเทศไทย เป็นที่ปรึกษา

แม้มีเสียงกระแอมจากคนในวงการธุรกิจทำนองว่า บิ๊กซีจ่ายแพงไปหน่อย เพราะเดิมคาดว่าราคา คาร์ฟูร์ในไทย อยู่ระหว่าง 500-600 ล้านยูโรเท่านั้น 



แต่ กัปตัน-เจ มองต่างคิดว่า การตัดสินใจฮุบคาร์ฟูร์ของบิ๊กซีครั้งนี้ เป็นการรุกทางยุทธศาสตร์ที่เยี่ยมยอด เพราะทันทีที่ผนวกเอาคาร์ฟูร์มาอยู่ในอาณัติ อาณาจักรบิ๊กซึก็เพิ่มจาก 69 สาขาเป็น 111 สาขา จากหัวเมืองกลายเมืองหลวงขึ้นมาทันที และขนาดที่ใหญ่ขึ้นทำให้มีน้ำหนักมากพอที่จะซัดกับ  เทสโก โลตัส ที่มีสาขารวมทุกประเภท 704 สาขาได้สบายขึ้นจากเดิมที่เจอเป็นหลบกล้าปะทำแค่บางทำเลเท่านั้น

ที่สำคัญหาก บิ๊กซีไม่ผนวกเอาคาร์ฟูร์มาอยู่ในอาณัติ   อนาคต ไม่ตายก็แกรนเท่านั้น   แม้ที่ผ่านมา บิ๊กซีถือว่าเป็นเบอร์สองในตลาด  ดิสเคาท์สโตร์ของไทย  แต่ก็เป็นเบอร์สองที่ห่างจากเบอร์หนึ่ง-เทสโกโลตัสแบบไม่เห็นหลัง หนำซ้ำก็ไม่ทิ้งเบอร์สาม-คาร์ฟูร์ แบบขาดลอย จำนวนสาขาที่มีอยู่ คุมพื้นที่ได้ไม่ครบ  โวลุ่มในการจัดซื้อก็ไม่มาก พอจะบีบให้ซัพพลายเออร์ให้หน้าเขียว หน้าเหลือง จนยอมจัดส่งสินค้า ให้แบบ คิดส่วนต่างบางๆ เพื่อนำ-สินค้ามาจัดรายการ ถูกทุกวัน - ถูกสุดๆ เพื่อแข่งกับเทสโก โลตัสได้

การฮุบกิจการครั้งนี้จึงเป็นการฮุบทางยุทธศาสตร์เพื่อเพิ่มขนาดให้ไล่เลี่ยกับเบอร์หนึ่ง หรือโตทางลัดเพื่อซัดกับเทสโก โลตัสได้ง่ายขึ้น 


นอกจากนี้ ในมุมของผู้ถือหุ้น (บิ๊กซี) คาสิโนจากฝรั่งเศส -Casino Guichard Perrachon  ก็อุ่นใจว่า เครือข่ายในไทยแกร่งพอรับมือ เทสโก โลตัส (สัญชาติอังกฤษ) ส่วน จิราธิวัฒน์ ผู้ถือหุ้นฝ่ายไทย ก็อุ่นใจว่าสามารถตรึงพื้น ค้าปลีกโซนนี้-ดิสเคาท์สโตร์ ได้แน่นอน ฉะนั้นการควักเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท แม้จะแพงกว่าที่คิด แต่ในระยะยาว ต้องบอกว่าคุ้มค่ามากๆ 

สำหรับอนาคต ตลาดดิสเคาท์สโตร์ แม้มีปัจจัยที่ชี้ว่า เมื่อบิ๊กซีต่อตัวจนใหญ่ขึ้น การแข่งขันจะรุนแรงขึ้น แต่ กัปตัน-เจ มองใหม่แล้วคิดว่า ต่อไป เมื่อค้าปลีกในโซนนี้เหลือผู้เล่นแค่ 2  ราย คือ เทสโก้ โลตัส กับ บิ๊กซี ส่วน แม็คโคร เจ้าตำรับ cash and carry  นั้นยังไม่ใช่ตลาดเดียวกันนัก เมื่อเหลือผู้เล่นในตลาดแค่สอง ก็เข้าตำรา มีผู้แข่งขันน้อยราย ไม่ผูกขาดก็เหมือนกับผูกขาด  นักเศรษฐศาสตร์ท่านว่าที่ใดมีการผูกขาดผู้บริโภคจะได้ประโยชน์ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย 

ซึ่ง เป็นไปได้ว่าในอนาคตอันใกล้นี้   ผู้เล่นทั้งสองราย จะแบ่งตลาดกันกิน แบบโซนนั้นของคุณโซนนี้ของผม เหมือน พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ส่งคนลงสมัครเลือกตั้งซ่อมเขตอีสานปล่อยให้พันธมิตร - พรรคภูมิใจไทยว่าไป   ถ้ามาแนวนี้     การแข่งขันคงไม่เลือดพล่าน จนผู้บริโภคได้ซื้อของถูกยิ่งกว่าถูก อย่างที่หลายฝ่ายคาดคิดกัน.

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts with Thumbnails