Pages

Thursday, June 7, 2012

"บางจาก"ลุยโกยรายได้ครึ่งปีหลัง รุกส่งออกน้ำมันเตาญี่ปุ่น-ดึงบิ๊กซีค้าปลีก200ปั๊ม


ดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วางกลยุทธ์ขยายรายได้จากการส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันเตาชนิดพิเศษซึ่งมีส่วนผสมของกำมะถันเพียง 0.3% เข้าไปยังประเทศญี่ปุ่น ภายหลังเกิดเหตุการณ์สึนามิมีความต้องการใช้น้ำมันเตาปริมาณมากและนิยมซื้อเกรดพิเศษ สามารถขายได้ราคาดีถึง 16 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ผลิตได้เท่าไหร่ทางญี่ปุ่นสั่งซื้อทั้งหมด ขณะนี้บางจากผลิตได้วันละประมาณ 10% ของน้ำมันทั้งหมด ซึ่งผลิตเฉลี่ย 110,000 บาร์เรลต่อวัน พร้อมทั้งเดินหน้าแผนร่วมทุนเปิดร้านสะดวกซื้อภายในสถานีบริการบางจาก เตรียมร่วมกับห้างสรรพสินค้าเครือบิ๊กซี ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่ เริ่มทดลองบ้างแล้วประมาณ 5 สถานี แห่งแรกตรงสถานีบางจาก สุขุมวิท 64 ตั้งเป้าโดยภาพรวมจะขยายให้ได้กว่า 200 แห่ง รวมถึงทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนกับภายในห้างบิ๊กซีจะจำหน่ายสินค้าชุมชนพ่วงเข้าไปด้วย ส่วนร้านใบจากทางบริษัทจะยกเลิกเร็ว ๆ นี้ ขณะที่ร้านเลมอนฟาร์มยังอยู่เพราะเป็นของมูลนิธิที่จะมาเช่าสถานีบางจากขายสินค้าเพื่อสุขภาพ



"ผมเชื่อว่าธุรกิจเชิงพาณิชย์ซึ่งเป็นรายได้จากส่วนอื่นที่ไม่ใช่น้ำมัน หรือ nonoil จะช่วยเพิ่มยอดขายน้ำมันมากขึ้น ช่วงที่สถานีบริการของ ปตท. ดึงร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเข้าร่วม ยอดขายน้ำมัน ปตท.เติบโตขึ้นทันที ธุรกิจ nonoil กับธุรกิจ oil ส่งเสริมซึ่งกันและกัน"

ดร.อนุสรณ์กล่าวว่า โครงการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจากปาล์มน้ำมันบริเวณทุ่งรังสิต พื้นที่ 1,200 ไร่ ล่าสุดตัดสินใจปรับแผนจัดทำเป็นเฉพาะศูนย์การเรียนรู้การปลูกปาล์มน้ำมัน ยกเลิกลงทุนผลิตไบโอดีเซล

ดังนั้นจึงต้องย้ายโรงกลั่นไปสถานที่อื่น เพราะตอนแรกเลือกทุ่งรังสิตโดยเห็นว่ามีไร่ส้มทิ้งร้างไว้นับแสนไร่ ประกอบกับบางจากมีที่ดิน 1,200 ไร่ เลยคิดโครงการผลิตไบโอดีเซลจากปาล์มน้ำมันควบคู่กับจัดทำโครงการส่งเสริมเกษตรกรปลูกปาล์มแล้วนำผลผลิตมาขายให้บางจาก (contract farming) แต่ปรากฏว่าที่ดินส่วนใหญ่ไม่ใช่ของชาวบ้าน เป็นของกลุ่มทุนซึ่งไม่ประสงค์จะให้บางจากเช่าต้องการปล่อยทิ้งร้าง ดังนั้นการตั้งโรงกลั่นจึงไม่คุ้มทุน จำเป็นต้องปรับเป็นศูนย์การเรียนรู้ฯเท่านั้น

ทั้งนี้ บางจากเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจทั้งระบบตั้งแต่ครึ่งปีหลัง 2555 เป็นต้นไป แบ่งเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนที่ 1 การลงทุน มุ่งเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันมุ่งสู่นวัตกรรมระดับสูงด้านการกลั่น (high innovation refinery) โดยการเพิ่มประสิทธิภาพโรงกลั่นน้ำมันโดยใช้งบประมาณ 8,000 ล้านบาท ปรับปรุงและพัฒนาโครงการ 3 E พลังงาน (energy) ประสิทธิภาพ (efficency) และสิ่งแวดล้อม (environment) จากโครงการหน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ให้ทันสมัยที่สุด หน่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเตา โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม และจัดระบบบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมเป็น 5 ดาว

ตลอดปี 2555 ธุรกิจโรงกลั่นจะยืนอยู่ได้ท่ามกลางความผันผวนของราคาน้ำมัน โดยรักษาค่าการกลั่นเฉลี่ยไว้ที่ 7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ด้วยกำลังการผลิต 96,000 บาร์เรล/วัน โดยได้หยุดซ่อมประจำปีเมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมา

ส่วนที่ 2 การตลาด ใช้เงินลงทุน 2,000 ล้านบาท ขยายภายในปี 2555 ครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่ 1.กรีน สเตชั่น สถานีบริการขายพลังงานทดแทน E20 เพิ่มเป็น 600 แห่ง E85 เป็น 50 แห่ง 2.เพิ่มสาขาร้านกาแฟอินทนิลให้ครบ 500 แห่ง 3.ร่วมทุนกับบริษัทค้าปลีก และโมเดิร์นเทรด ดึงสินค้าคอนซูเมอร์เพิ่มยอดขายน้ำมันแต่ละสถานี 4.ขยายฐานลูกค้าผ่านบัตรสมาชิกแก๊สโซฮอล์และบัตรดีเซลคลับ

ส่วนที่ 3 โครงการลงทุนพลังงานสะอาด ทำโรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Sunny Bangchak) อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เฟสแรก กำลังผลิตติดตั้ง 44 เมกะวัตต์ เริ่มขายไฟเข้าระบบเมื่อเมษายน และจำหน่ายครบทั้งหมดภายในมิถุนายนนี้ จะทำให้มีรายได้เพิ่มอีก 400 ล้านบาท เฟส 2 โรงไฟฟ้าอำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ และอำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กำลังผลิตติดตั้ง 50 เมกะวัตต์ จะแล้วเสร็จต้นปี 2556 เฟส 3 โรงไฟฟ้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก กำลังการผลิตติดตั้ง 157 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างจัดหาผู้รับเหมา จะก่อสร้างให้เสร็จภายในปี 2557

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts with Thumbnails