Pages

Thursday, November 10, 2011

โอกาสทอง "แบรนด์รอง" ยี่ห้อท้องถิ่น-ค่ายเล็กยึดเชลฟ์

ปัญหาน้ำท่วมส่งผลกระทบในแง่การค้าการขายทั้งวงจรตั้งแต่ผู้ผลิตสินค้าต่าง ๆ ที่มีปัญหาทั้งโรงงานผลิตจมน้ำ การขนส่งที่ถูกตัดขาดหรือมีความยากลำบากมากขึ้น ตลอดจนถึงห้างค้าปลีกซึ่งเป็น ที่วางสินค้า ทั้งศูนย์กระจายที่จมน้ำตัวห้างเองที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจนต้องปิดให้บริการ ตลอดถึงการกระจายสินค้าเข้าสาขาต่าง ๆ ก็ทำอย่างยากลำบากมากขึ้น
เช่นเดียวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการปรับเปลี่ยนเช่นเดียวกัน วันนี้ด้วยปัญหาการขาดแคลนสินค้าจากกระแสกักตุนอาหารที่เกิดขึ้นตั้งแต่เกือบ 1 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ทางรัฐบาลก็พยายามแก้ปัญหาด้วยการนำเข้าสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่ด้วยความต้องการที่ล้นทะลักก็สามารถประทังปัญหาไปได้แค่ระยะหนึ่งเท่านั้น
เมื่อกลับมามองในประเทศ ในแง่การตลาดวันนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นโอกาสสำคัญของทั้งเฮาส์แบรนด์, สินค้า แบรนด์เล็ก ๆ ตามท้องถิ่นต่าง ๆ หรือกระทั่งแบรนด์อันดับรอง ๆ ที่ไม่ติดอันดับท็อปเทน ที่ในภาวะปกติแล้วมักไม่ค่อยได้รับโอกาสจากค้าปลีกให้เข้ามาวางจำหน่ายในห้าง หรืออยู่ในพื้นที่เชลฟ์ที่ลับหูลับตาคนก็กลายมาเป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภคยุคนี้
แน่นอนว่าพฤติกรรมผู้บริโภคขณะนี้ไม่ได้คำนึงว่าแบรนด์อะไร มากกว่ามีสินค้าให้เพียงพอต่อการใช้ชีวิตเพื่อความอุ่นใจ โดยเฉพาะสินค้าจำเป็นอย่างน้ำดื่ม ไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารกระป๋อง นมข้นหวาน ฯลฯ
สอบถามไปยัง "สมชาย พรรัตนเจริญ" นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้สินค้าหลายอย่างขาดตลาดเพราะโรงงานผลิตโดนน้ำท่วม ส่วนโรงงานที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมก็พยายามจะปรับเรื่องโลจิสติกส์ เพื่อสามารถขนส่งสินค้าได้อย่างทั่วถึง
สิ่งที่เห็นชัดคือ ขณะนี้ยังมีผู้ประกอบการรายเล็กที่มีโรงงานขนาดเล็กตามห้องแถว หรือเป็นแบรนด์ในท้องถิ่นพยายามหาจุดขายสินค้าซึ่งรัฐบาลน่าจะสนับสนุนในจุดนี้
สำหรับร้านค้าเทรดิชั่นนอลเทรดในส่วนของยี่ปั๊วซาปั๊ว ปัจจุบันยังมีสินค้าในสต๊อกส่วนหนึ่ง แต่จะเป็นแบรนด์ขนาดเล็ก เป็นแบรนด์ที่เหลืออยู่ซึ่งโรงงานไม่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะซัพพลายเออร์จากระยอง ชลบุรีเป็นโรงงานขนาดเล็ก จากเดิมแบรนด์พวกนี้ยากที่จะหาช่องทางวางสินค้า
"เป็นโอกาสของแบรนด์รอง ๆ โรงงานขนาดเล็กที่ไม่ได้รับผลกระทบที่ยังสามารถทดแทนได้บ้าง ในภาวะเช่นนี้ผู้บริโภคต้องปรับตัว ไม่ติดแบรนด์"
จากการสำรวจในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้ กรณีของน้ำดื่มแบรนด์หลักอย่างสิงห์ ช้าง และเนสท์เล่หายไปจากตู้แช่ แต่พบแบรนด์ที่ไม่คุ้นตาอย่าง "เซียโล่" ซึ่งผลิต โดย "อาเจไทย" เจ้าของแบรนด์"บิ๊ก โคล่า" หรือ "เนปจูน" จากโรงงานที่ระยอง
เช่นเดียวกับกลุ่มนมข้นหวาน, นมข้นจืด, ครีมเทียม ผลกระทบจากโรงงานเนสท์เล่ และเอฟแอนด์เอ็น ซึ่งตั้งอยู่ในอุตสาหกรรมนวนครได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทำให้แบรนด์ที่เหลืออยู่ถูกนำเข้ามาทดแทน อาทิ นกเหยี่ยว ของโฟร์โมสต์ ซึ่งไม่ใช่แบรนด์ในอันดับต้น ๆ ในตลาดนี้
หรือกลุ่มขนมปัง และเบเกอรี่ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก จากการกระจายสินค้าที่ค่อนข้างลำบาก ทำให้ทางเซเว่นฯได้มีการนำแบรนด์ "ศรีฟ้า" แบรนด์ท้องถิ่นจากกาญจนบุรีเข้ามาเป็นทางเลือกเพิ่มขึ้น
"สมศักดิ์ สบเสถียร" ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท อิออน (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้บริหารซูเปอร์มาร์เก็ตแม็กซ์แวลู และทันใจ ให้ข้อมูล "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้บริษัทไม่ได้คำนึงถึงเรื่องแบรนด์สินค้าที่จะนำมาจำหน่ายมากนัก แต่จะให้ความสำคัญกับการเสาะหาสินค้าเข้ามาจำหน่ายให้ได้ครบถ้วนมากที่สุด โดยพิจารณาจากคุณภาพเป็นหลัก
"จะเห็นได้ว่าขณะนี้ในห้างแม็กซ์แวลูมีแบรนด์สินค้าใหม่ ๆ มาจำหน่ายเป็นระยะ ๆ โดยเฉพาะน้ำดื่ม ซึ่งนำมาจากแหล่งผลิตตามท้องถิ่นต่างจังหวัดหรือชานเมือง แต่ไม่ว่าจะนำแบรนด์ใดมาลงเชลฟ์ลูกค้าก็รีบซื้อจนหมด ภายในเวลาไม่ถึงเที่ยงวัน หรือไข่ไก่ซึ่งเรานำรถวิ่งไปรับซื้อถึงที่ และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วย ที่ได้แบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาช่วยทดแทน เนื่องจากแบรนด์สินค้าหลัก ๆ ยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาส่งสินค้าได้ตามปกติ"
ประธานสมาคมค้าปลีกไทย "บุษบา จิราธิวัฒน์" ระบุว่า ขณะนี้ทางค้าปลีกมีนโยบายไม่เก็บค่าธรรมเนียมในการวางสินค้าสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย กรณีผู้ผลิตสินค้าประเภทน้ำดื่มหรือไข่ไก่

"กลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีก เราพร้อมให้นำสินค้าเข้ามาส่งได้ฟรีเพื่อบรรเทาสินค้าขาดในช่วงนี้"
อีกทางเลือกที่น่าสนใจยังเป็นโอกาสของบรรดาสินค้า "ไพรเวตแบรนด์" หรือเฮาส์แบรนด์ของไฮเปอร์มาร์เก็ต ต่าง ๆ ทั้งเทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี และท็อปส์
เห็นชัดว่าขณะนี้ทั้ง 3 ค่ายมีการเพิ่มโปรโมชั่นในส่วนของเฮ้าส์แบรนด์มากขึ้น
สำหรับเทสโก้ตั้งแต่วันที่ 3-13 พ.ย.มีการจัดโปรโมชั่นมอบคูปองส่วนลดเงินสดมูลค่า 60 บาท สำหรับลูกค้าที่ซื้อครบ 600 บาท ควบคู่กับการลดราคาสินค้า อาทิ ข้าวหอมมะลิพนมรุ้ง ข้าวตราดอกบัว น้ำมันปาล์มทับทิม ฯลฯ รวมถึงอาหารสุนัขแบรนด์เทสโก้
ด้านบิ๊กซี ได้ขนสินค้ากาสิโนแบรนด์และแบรนด์นำเข้าอื่น ๆ มาจำหน่ายในราคาต่ำกว่า 100 บาท จนถึงวันที่ 17 พ.ย. เช่น น้ำมันมะกอก ซอส น้ำส้มสายชู ฯลฯ
ขณะที่ "ท็อปส์" ซึ่งมีเฮ้าส์แบรนด์ 3 แบรนด์ คือ ท็อปส์, มายช้อยส์ และคุกกิ้ง ฟอร์ ฟัน ก็เป็นโอกาสทอง เช่นเดียวกัน เพราะแบรนด์เหล่านี้ไม่มีปัญหาในการผลิตและจัดส่งแต่อย่างใด
ในวิกฤตครั้งนี้ จึงนับเป็นโอกาสดีสำหรับแบรนด์รายเล็ก ๆ ได้มีเวทีแสดงศักยภาพ และสร้างแบรนด์ของตนเองให้เป็นที่รู้จักบ้าง

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts with Thumbnails