Pages

Monday, January 16, 2012

ศูนย์การค้าเขย่าพท.รับแบรนด์หรู กลุ่มหลุยส์วิตตองขนแบรนด์ในเครือยึดทำเลทอง


แบรนด์หรูแฟชั่นลักเซอรี่ดาหน้าบุกไทยเบียดชิงพื้นที่ทำเลฮอต ศูนย์การค้าเขย่าพื้นที่รอบใหม่เพิ่ม แบรนด์ดัง-แบรนด์ใหม่เบียดพื้นที่รายเก่า ลือหึ่งกลุ่ม "เซ็นทรัล" ทุ่มซื้อเวอร์ซาเช่-ลาฟลอเรนซ์เสริมทัพต่อกุชชี่ "เอ็มโพเรียม" ปรับ พื้นที่เพิ่มแบรนด์ใหม่รับคอนเซ็ปต์โปรเจ็กต์ใหม่ ด้าน "พารากอน" ทำเลทองแบรนด์ดังหลายค่ายส่อหลุดหลังกลุ่มหลุยส์ วิตตอง ขนทัพจองพื้นที่


สมรภูมิตลาดสินค้าลักเซอรี่ในปีนี้น่าจะดุเดือดตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากมีศูนย์การค้าเปิดใหม่อีกหลายแห่ง ขณะที่ศูนย์การค้าที่เป็นจุดหมายของแบรนด์เนมหรูได้มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ที่มีอยู่เดิม เพื่อรองรับแบรนด์เนมใหม่ ๆ ที่จะดาหน้าเข้ามาอีกไม่น้อย เฉพาะอย่างยิ่ง แบรนด์เนมจากยุโรปที่เรียงแถวเข้ามาเปิดตลาดในภูมิภาคเอเชียและเมือง ไทยอย่างต่อเนื่องหลังเศรษฐกิจในยุโรปและอเมริกาเริ่มมีปัญหาด้านกำลังซื้อ



ศูนย์การค้าเขย่าพื้นที่รอบใหม่

จากการลงพื้นที่สำรวจ "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า ความเคลื่อนไหวของบรรดาศูนย์การค้าได้เริ่มมีการปรับเปลี่ยนแบรนด์และเกลี่ยพื้นที่ภายในศูนย์ใหม่เพื่อรองรับการขยายตัวของ แบรนด์แฟชั่นและดีมานด์ของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น ที่เห็นภาพชัด คือ สยามพารากอน ศูนย์การค้าใหญ่ใจกลางเมืองที่ปีนี้เตรียมนำเข้าแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาและทำให้ศูนย์การค้าต้องมีการจัดสรรพื้นที่เดิมให้เพียงพอต่อแบรนด์เนมดัง ๆ ที่จะพากันเข้าเปิดตัว

โดยพื้นที่ชั้นเอ็มและชั้น 1 ที่มีซูเปอร์แบรนด์อยู่เป็นจำนวนมากจะมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งใหม่ อาทิ ช็อปเดิมของจิออร์ จิโอ อาร์มานี่ จะมีหลุยส์ วิตตอง เข้ามาแทนที่ และช็อปของท็อดส์ จะถูกเปลี่ยนเป็นแบรนด์เฟนดิ โดยท็อดส์จะย้ายไปอยู่อีกด้านหนึ่ง ซึ่งจะได้เห็นภาพความเปลี่ยนแปลงของแบรนด์หรูใน เร็ว ๆ นี้ ส่งผลให้บางแบรนด์อาจต้องหายไป ขณะเดียวกันก็จะมีแบรนด์ใหม่อย่าง มิว มิว (MIU MIU) ที่เตรียมเข้ามาเปิดเป็นแฟลกชิปสโตร์

เช่นเดียวกับศูนย์การค้าเอ็มโพเรียมซึ่งได้เริ่มทยอยปรับเปลี่ยนพื้นที่ร้านค้าเช่าไม่เพียงสำหรับรองรับแบรนด์เนมรายใหม่ ๆ แต่ยังเพื่อให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์เอ็มโพเรียมที่เตรียมจะขึ้นโครงการสองในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยโครงการดังกล่าวจะรองรับแบรนด์เนมที่เน้นไปที่กลุ่มลูกค้าวัยรุ่น ส่วนแบรนด์ เนมที่อยู่กับโครงการเดิมนั้นก็มีการปรับพื้นที่ค่อนข้างมาก อาทิ ช็อปดิออร์มีการขยายพื้นที่ร้านเพิ่มขึ้น, หลุยส์ วิตตองเตรียมจะปรับรูปแบบสองชั้น เช่นเดียวกับแบรนด์ใหม่ที่เริ่มทยอยเข้ามาเปิดในศูนย์ อาทิ COCCINEL/BLACK JACK/ เคเนทโคล/Camper/Club Collectable ส่วนแบรนด์ที่ปรับออกไป ได้แก่ KENZO/ZEGNA/LA PERLA เป็นต้น ซึ่งในปีนี้นับเป็นปีที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง เพราะแบรนด์เนมใหม่ ๆ จะทยอยเข้ามาเปิดตัวในเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง

แบรนด์ดังชิงทำเลฮอต

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของแบรนด์ระดับลักเซอรี่หรือซูเปอร์ แบรนด์ในพื้นที่ศูนย์การค้ากลางเมืองที่สินค้ากลุ่มนี้ปักหลักอยู่นั้น พบว่านอกเหนือจากกลุ่ม LVMH ที่มีแบรนด์ใหญ่อย่างหลุยส์ วิตตอง, คริสเตียน ดิออร์, เฟนดิ, พราดา, บลูการี เตรียมแผนการรุกตลาดเมืองไทยเต็มรูปแบบในปีนี้ด้วยการเปิดหลุยส์ วิตตอง สาขาที่ 3 ในพารากอนแล้วนั้น ยังเตรียมส่งคริสเตียน ดิออร์ แบรนด์ในเครือซึ่งจะมีการขยายร้านให้ใหญ่ขึ้นในเอ็มโพเรียม เช่นเดียวกับเตรียมเปิดแบรนด์เฟนดิเพิ่มอีก 1 สาขาในพารากอน รวมทั้งเพิ่มไลน์สินค้ากลุ่มเสื้อผ้ากลับมาทำตลาดอีกครั้ง จากเดิมที่ขายแต่เครื่องหนังและแอ็กเซสซอรี่

นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวในวงการสินค้าแบรนด์หรูว่า กลุ่มเซ็นทรัลเตรียมซื้อซูเปอร์แบรนด์อย่างเวอร์ซาเช่และลาฟลอเรนส์เข้ามาเสริมทัพแบรนด์กุชชี่ โดยแหล่งข่าวในวงการชี้ว่า ตอนนี้กลุ่มเซ็นทรัลอยู่ระหว่างการเจรจากับแบรนด์ดังกล่าวผ่านกลุ่มเซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้ง ทำให้นับจากนี้เซ็นทรัลจะเป็นค่ายที่เก็บแบรนด์ระดับพรีเมี่ยมแมสจนถึงซูเปอร์แบรนด์เอาไว้หลายแบรนด์ ล่าสุดนอกจากแอคเนส บี ที่เพิ่งเปิดตัวแล้ว ยังเตรียมเปิดช็อปใหญ่อีกหลายสาขาให้กับน้องใหม่อย่าง FURLA, MNG Touch, MNG Hee

ส่วนบริษัท เอเวอร์เรส เวิลด์ จำกัด แม้จะมีแบรนด์อยู่ไม่กี่แบรนด์ คือ ชาร์ลลิออล, ลองฌองป์, แอคเนอร์, เวอร์ทู, เวอร์ซาเช่ แต่ก็มีแผนนำเข้าแบรนด์เนมดังจากยุโรปเข้ามาทำตลาดทั้งระดับแมสและซูเปอร์แบรนด์ ส่วนแบรนด์ลองฌองป์ก็มีการเปิดแฟลกชิปสโตร์เป็นช็อปแรกในไทยที่สยามพารากอน โดยจะมีการจัดงานแกรนด์โอเพ่นนิ่งในเดือนหน้านี้แล้ว

"แบรนด์หรู" ปรับทิศลงทุนไทย

สอดคล้องกับมุมมอง นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ สยามพารากอนและพาราไดซ์ พาร์ค ที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ช่วงที่ผ่านมาแม้ว่าเมืองไทยจะมีปัญหารบเร้าต่อเนื่องทั้งทางการเมืองและภัยธรรมชาติ ส่งผลต่อกำลังซื้อและมู้ดจับจ่ายที่หยุดชะงักในแต่ละช่วง แต่ในแง่ธุรกิจไม่สามารถหยุดตามได้ ไปในทิศทางเดียวกับไลฟ์สไตล์และดีมานด์ของกลุ่มลูกค้าที่เป็นเทรนด์เดียวกันทั่วโลกล้วนผลักดันให้ศูนย์การค้าและธุรกิจต้องเพิ่มแม็กเนตและสีสันใหม่ ๆ เข้ามาตอบสนองความต้องการ

โดยจะมีแบรนด์ใหม่มากกว่า 100 แบรนด์ที่เข้ามาเปิดใน 3 ศูนย์การค้า ซึ่งภาพการเข้ามาของกลุ่มทุนหน้าใหม่ในเมืองไทยเป็นตามเทรนด์ของโลกซึ่งตลาดในยุโรปและอเมริกาต่างประสบปัญหาเศรษฐกิจในประเทศส่งผลช่วงตลอด 3 ปีที่ผ่านมาเห็นภาพการลงทุนของแบรนด์ยักษ์ใหญ่ในวงการค้าปลีกต่างย้ายมาลงทุนในตลาดเอเชียและเมืองไทยเป็น 1 ในตลาด ส่งผลให้ภาพการแข่งขันของค้าปลีกรวมถึงแฟชั่น ลักเซอรี่ต่อจากนี้จะคึกคักและมีสีสัน ซึ่งภาพการเติบโตของตลาดรีเทลเมืองไทยจะแปรสภาพไปในทิศทางเดียวกับตลาดสิงคโปร์ทั้งในแง่แบรนด์สินค้า ดีมานด์ของตลาดและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน

เช่นเดียวกับที่นางสาวอนิลิณ บุรณศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด บริษัท แปซิฟิกา เอเลเม้นท์ ผู้นำเข้าแบรนด์ โค้ช, แคมเปอร์, เคนเน็ธโคล นิวยอร์ค, ค็อคชิแนลล์ ได้กล่าวว่า กลุ่มยังลักเซอรี่มีการเติบโตขึ้นมาก ซึ่งสินค้าแต่ละแบรนด์มีไลน์สินค้าให้คนกลุ่มนี้ได้เลือก เพราะพฤติกรรมของลูกค้าในปัจจุบันหันมาให้ความสนใจกับแฟชั่น การแต่งตัว ไม่ยึดติดกับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง จึงทำให้ตลาดตรงนี้มีการเติบโตไปได้เรื่อย ๆ

ขณะที่แหล่งข่าวจากบริษัทเอเวอร์เรส กล่าวเสริมว่า ภาพรวมของลักเซอรี่ แบรนด์ในเมืองไทยในปีนี้น่าจะไปได้ดี เนื่องจากเศรษฐกิจของไทยน่าจะอยู่ในช่วงขาขึ้น คนเริ่มหันมาซื้อสินค้าแบรนด์ เนม ไม่ว่าจะเป็นระดับกลางหรือระดับสูงมากขึ้น ขณะที่แบรนด์เนมเองก็มีเข้ามาให้เลือกมากตามพื้นที่ของศูนย์การค้าใหม่ที่มีมากขึ้น หรือแม้แต่ศูนย์การค้าเดิมเองก็มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่เพื่อรองรับแบรนด์เนมใหม่ ๆ ที่ทยอยกันเข้ามาเปิดตลาดในเอเชีย

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts with Thumbnails