Pages

Tuesday, January 24, 2012

BIG C TESCO เปิดศึกรอบใหม่


ดิสเคาต์สโตร์สาดสงครามรอบใหม่ "บิ๊กซี" ชูเรือธง "ถูกชัวร์" ไฮไลต์ พร้อมกระหน่ำด้วยแคมเปญราคา โปรโมชัน  ซีอาร์เอ็มผ่าน"บิ๊ก คาร์ด" มั่นใจสร้างฐานลูกค้าโกยยอดขายพุ่ง ขณะที่ "โลตัส" เผย 5 กลยุทธ์รุกตลาดปีมังกร  อัดแคมเปญนำร่องแจกโบนัสมูลค่ากว่า 90 ล้านบาทเอาใจสมาชิก ส่วนกรณีบิ๊กซีฟ้องโลตัส ผิดพ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า ส่อเค้ายืดเยื้อ หลังเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีพาณิชย์ 

การแข่งขันในดิสเคาต์สโตร์ ที่เหลือผู้ประกอบการใหญ่เพียง 2 ราย คือ เทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ที่ฝ่ายหลังเข้าซื้อกิจการของห้างคาร์ฟูร์ จนผงาดขึ้นมาเป็นคู่แข่งในระนาบเดียวกันต้นปีที่แล้ว  และต่างถูกจับตามองว่า จะงัดกลยุทธ์ใดมาฟาดฟัน เพิ่มดีกรีความร้อนแรงในการช่วงชิงยอดขาย และกลุ่มลูกค้าคนไทย โดยเฉพาะในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา แต่ทั้งหมดก็ต้องชะงักไป เมื่อต่างฝ่ายต้องเผชิญกับวิกฤติอุทกภัยครั้งใหญ่ แผนการตลาดที่จัดเตรียมมาเต็มพิกัด จึงต้องชะลอไป ก่อนที่จะกลับมาเริ่มปะทะกันอีกครั้งเพียงเริ่มต้นปีมังกรนี้



โดยเรื่องดังกล่าวนายกุฎาธาร นาควิโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารห้างค้าปลีก บิ๊กซี เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ปีนี้การแข่งขันดุเดือดแน่ เพราะเราเป็นผู้นำด้านราคา และต้องรักษาความเป็นผู้นำต่อไป กลยุทธ์การทำตลาดจึงต้องเต็มที่ และเน้นความครบครันทั้งเรื่องราคา โปรโมชัน ซีอาร์เอ็ม ซึ่งทั้งหมดจะคำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก เช่น แคมเปญล่าสุดที่ร่วมกับซิตี้ แบงก์ จัดทำบัตรเครดิตซิตี้ แบงก์-บิ๊กซี แพลตตินั่มขึ้น เพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับผู้ถือบัตร และหากเป็นสมาชิกบัตรบิ๊ก คาร์ด ก็จะได้สิทธิพิเศษที่เพิ่มขึ้นไปอีก

"นโยบายของบริษัท ยังให้ความสำคัญเรื่องของราคา เป็นกลยุทธ์หลักในการกำหนดแผนทางการตลาดในปีนี้ เพราะบริษัทมุ่งสร้างและสื่อสารไปยังผู้บริโภคต่อเนื่องมายาวนาน  ขณะเดียวกันก็จะเพิ่มแคมเปญ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านสินค้าราคาถูก  การจัดโปรโมชันเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า การกระตุ้นบรรยากาศการจับจ่ายซื้อสินค้าภายในศูนย์ รวมทั้งการกระตุ้นการซื้อสินค้าของสมาชิก ที่ถือบัตรบิ๊ก คาร์ด ซึ่งมีอยู่กว่า 6 ล้านคน ให้มีการจับจ่ายที่เพิ่มขึ้น และมีผู้มาสมัครมากขึ้น"

ด้านนายรีจิส พรีจอง รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวย้ำว่า  การดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทยังคงใช้กลยุทธ์ในเรื่องของความคุ้มค่า คุ้มราคา  และจำหน่ายสินค้าราคาถูก  เนื่องจากบริษัทมีการติดตามราคาสินค้าในตลาด เพื่อให้ถูกชัวร์อย่างต่อเนื่อง  จากกรณีที่มีกระแสข่าวออกมาว่า คู่แข่งในตลาดจะเปิดตัวแคมเปญขายสินค้าราคาถูกกว่าบริษัท 1 บาทนั้น  บริษัทไม่มีความกังวลในเรื่องดังกล่าว  เพราะบริษัทขายสินค้าราคาถูกอยู่แล้ว

สำหรับภาพรวมกำลังซื้อในช่วงเดือนมกราคมนี้ เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น  ภายหลังจากช่วงหลังน้ำท่วมที่ผ่านมา กำลังซื้อของผู้บริโภคปรับตัวลดลงไปส่วนหนึ่ง  โดยเฉพาะการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย  เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว ผู้บริโภคจะเน้นการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเท่านั้น  แต่ตอนนี้เริ่มเห็นผู้บริโภคออกมาจับจ่าย ซื้อสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าอื่น ๆ มากขึ้น   ส่งผลให้ช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะมาถึงนี้มีความคึกคัก

อย่างไรก็ดี หลังจากเข้าซื้อกิจการของคาร์ฟูร์ในเมืองไทย ทำให้บิ๊กซี มีจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 170  สาขา ใน 6 รูปแบบ ประกอบด้วย บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า ,บิ๊กซี ซูเปอร์มาร์เก็ต,บิ๊กซี มาร์เก็ต ,มินิ บิ๊กซี ,บิ๊กซี จัมโบ้ และร้านเพียว กระจายอยู่ทั่วประเทศทำให้สามารถให้บริการลูกค้าได้ทั่วถึงมากขึ้น  และปีนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีจำนวนสาขาใกล้เคียงกับเทสโก้ โลตัส

ด้านนายเคิร์ท แคมพ์  ประธานกรรมการบริหารฝ่ายการตลาด เทสโก้ โลตัส  กล่าวว่า กลยุทธ์การทำตลาดของเทสโก้ โลตัสในปีนี้ จะมุ่งเน้นไปที่ 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การพัฒนาสินค้าใหม่  การขยายสาขาใหม่  การจัดแคมเปญโรลแบ็ค  ซีซั่นนอล มาร์เก็ตติ้ง และลอยัลตี โปรแกรมผ่านคลับการ์ด โดยแต่ละกลยุทธ์จะมีเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน คือ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่มาเลือกซื้อของ และสร้างความคุ้มค่าสูงสุด

หนึ่งในแคมเปญใหญ่ที่เกิดขึ้นในไตรมาสแรก คือ แคมเปญเดือนแห่งโบนัส ของบัตรคลับการ์ด โดยเทสโก้ เพิ่มคะแนนสะสมของสมาชิกบัตรคลับการ์ด เพื่อรับสิทธิประโยชน์ที่มากขึ้น ทั้งจากการเลือกซื้อสินค้าในสโตร์และร้านค้า รวมทั้งศูนย์อาหารเช่นเดียวกับบิ๊กซี 

นายแคมพ์ย้ำว่า สิทธิประโยชน์ที่เทสโก้ มีให้กับสมาชิกคลับการ์ดเหนือกว่า เพราะมีสินค้าที่เตรียมมาเพื่อเพิ่มคะแนนสะสมกว่า 2 หมื่นรายการ  โปรโมชันพิเศษจากร้านค้าเช่ากว่า 5 พันร้าน เมื่อแสดงบัตรคลับการ์ด และรับคะแนนเพิ่มเป็น 3 เท่าที่ศูนย์อาหาร พร้อมโปรโมชันพิเศษ ที่จะหมุนเวียนเข้ามาในช่วงสุดสัปดาห์ด้วย รวมมูลค่าคะแนนสะสมที่ให้กับสมาชิกมากกว่า 90 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจและดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น หลังจากที่ศึกษาพฤติกรรมลูกค้าและพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับการสะสมคะแนนและนำไปใช้ทั้งแลกเปลี่ยนเป็นคูปองเงินสด  คูปองส่วนลด ส่งผลให้คะแนนสะสมที่ถูกใช้ไปมีมูลค่ารวมแล้วกว่า 3,000 ล้านบาทในระยะเวลาเพียง 2 ปีที่คลับการ์ดเปิดให้บริการ
"ลอยัลตี โปรแกรม (การสร้างความจงรักภักดีให้เกิดกับลูกค้า) ถือเป็นกลยุทธ์ที่บริษัทให้ความสำคัญมาก เพราะปัจจุบันบริษัทมีสมาชิกคลับการ์ดกว่า 8 ล้านราย และจะเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่มีการจัดระบบอำนวยความสะดวก ให้สามารถสมัครเป็นสมาชิกได้ในเวลาเพียง 2 นาที และการเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่สมาชิกจะได้รับ ซึ่งเป็นสิ่งจูงใจที่สำคัญ อย่างไรก็ดี การแจกโบนัสเพิ่มให้กับสมาชิกครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้น และในอนาคตจะมีแคมเปญดี ๆ ออกมาให้กับสมาชิกคลับการ์ดอย่างต่อเนื่องด้วย" นายแคมพ์กล่าวและว่า

แต่ละเดือนมีลูกค้าหมุนเวียนเข้ามาใช้บริการในเทสโก้ โลตัส เฉลี่ย 35 ล้านคน โดยเป็นสมาชิกผู้ถือบัตรคลับการ์ด 75% แต่เป้าหมายของเราคือ ทำอย่างไรให้ลูกค้าอีก 25% ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกบัตรคลับการ์ด หันมาเป็นสมาชิกของเรา

ส่วนการตั้งคณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง เพื่อพิจารณากรณีที่บิ๊กซี ร้องเรียนเทสโก้ โลตัส กรณีออกโฆษณาให้ผู้บริโภคที่ถือบัตรสมาชิกคาร์ฟูร์ไอวิช แล้วส่งข้อความผ่านทางโทรศัพท์มือถือ (เอสเอ็มเอส) ไปที่เทสโก้ โลตัส เพื่อรับบัตรกำนัล และยังให้พนักงานไปยืนแจกแผ่นพับโฆษณา ในบริเวณใกล้สถานประกอบการของบิ๊กซีหลายสาขา สร้างความเสียหายให้แก่บิ๊กซี ในฐานะผู้เข้าซื้อกิจการของบริษัท เซ็นคาร์ จำกัด เจ้าของกิจการห้างคาร์ฟูร์ในประเทศไทย ตามมติที่ประชุมของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าในวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา   ซึ่งมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (ตำแหน่งในขณะนั้น) เป็นประธานคณะกรรมการ นั้น แหล่งข่าวระดับสูงในวงการค้าปลีกกล่าวว่า  คาดว่าจะยืดเยื้อออกไปอีก และมีการหยิบมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง หลังจากที่มีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งได้แต่งตั้งนายบุญทรง  เตริยาภิรมย์ มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่        
           
ต่อความคืบหน้าเรื่องนี้ นายกุฎาธารกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมกับทางบิ๊กซี และบิ๊กซีเองก็เชื่อว่า ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่จัดส่งให้กับคณะกรรมการครบถ้วนและเพียงพอแล้ว แต่หากคณะกรรมการต้องการข้อมูล หรือเรียกสอบสวนเพิ่มเติม ก็พร้อมตลอดเวลา

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts with Thumbnails