Pages

Tuesday, August 18, 2009

BOOTS LAUNCHES PRIVATE LABEL



"บู๊ทส์" ปิ๊งไอเดียเพิ่มช่องทางใหม่-เพิ่มรายได้ ขนทัพสินค้า "เฮลท์แคร์-ไพรเวท แบรนด์" ขึ้นเชลฟ์คาร์ฟูร์ แก้ปมพื้นที่ เปิดร้านหายาก หลังซุ่มเงียบมาพักใหญ่พบเวิร์ก เพราะต้นทุนน้อย-ดำเนินการได้เร็ว-ทราฟฟิกมาก คุ้มแสนคุ้ม



ความเคลื่อนไหวของร้านสเปเชียลตี้สโตร์ ประเภทร้านเพื่อสุขภาพและความงามที่น่าจับตาในขณะนี้ นอกจากการจัดแคมเปญ หรือการมอบสิทธิพิเศษให้สมาชิกบัตร ยังมีกลยุทธ์การเพิ่มช่องทางจำหน่ายบนเชลฟ์ตามห้างในลักษณะช็อปอินช็อป เพื่อเพิ่มโอกาสขายมากขึ้น จากเดิมที่จะ เน้นเฉพาะการเปิดสาขาสแตนด์อะโลน ส่วนหนึ่งอาจมาจากการเปิดสาขาใหม่ๆ ของดิสเคานต์สโตร์ที่ชะลอตัวลง โดยร้านสเปเชียลตี้สโตร์ที่รุกคืบไปบนเชลฟ์ห้างอย่างชัดเจน ได้แก่ร้านบู๊ทส์






"บู๊ทส์" ยกสินค้าขึ้นเชลฟ์ดิสเคานต์สโตร์



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด บู๊ทส์ได้เตรียมนำสินค้าไปวางจำหน่ายบนเชลฟ์ที่ห้างคาร์ฟูร์ สาขาพระราม 2 ขณะนี้ได‰ปิดประกาศแจ้งลูกค้าที่เดินผ่านเชลฟ์ว่าจะมีสินค้าของบู๊ทส์มาวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้




แหล่งข่าวจากบริษัท บู๊ทส์ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านบู๊ทส์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บู๊ทส์ได้เริ่มทดลองเพิ่มช่องทางจำหน่ายในลักษณะดังกล่าวตามห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ซึ่งเรียกว่าช็อปอินช็อปมาตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2550 ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่ายและการให้บริการแก่ลูกค้าให้สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างครอบคลุม ขณะเดียวกันก็จะช่วย ให้สามารถขยายกลุ่มลูกค้าออกไปยังกลุ่มใหม่ๆ รวมทั้งการเพิ่มการเติบโตให้บริษัทด้วย



"การคัดเลือกสินค้าที่นำไปวางจำหน่ายในห้างบู๊ทส์ ได้นำสินค้าทั้งผลิตภัณฑ์เฮลท์แคร์และสินค้าภายใต้แบรนด์บู๊ทส์เพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่นั้นๆ"



นอกจากการนำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายในดิสเคานต์สโตร์ในลักษณะดังกล่าวแล้ว ที่ผ่านมา บู๊ทส์ยังเคยทดลองเปิดสาขา ขนาดเล็กที่มีพื้นที่ประมาณ 30 ตร.ม. จำนวน 15 สาขา เน้นลูกค้ากลุ่มคนเมือง ออฟฟิศ จำหน่ายสินค้ากลุ่มเฮลท์แคร์เป็นหลัก และวางขายสินค้าตามความต้องการของแต่ละพื้นที่ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคให้ง่ายขึ้น



ห้างใหม่เปิดน้อย-พื้นที่หายาก



ผู้บริหารดิสเคานต์สโตร์รายใหญ่ รายหนึ่งกล่าวในเรื่องนี้ว่า ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ร้านสเปเชียลตี้สโตร์หันมาเช่าพื้นที่บนเชลฟ์ของดิสเคานต์สโตร์ สาเหตุหลักมาจากการที่ค้าปลีกรายใหญ่เปิดสาขาใหม่น้อยลง การแย่งชิงพื้นที่เช่าสำหรับสแตนด์อะโลนช็อปจึงมีสูง ประกอบกับการรุกเพิ่มสาขาของวัตสัน คู่แข่งสำคัญของบู๊ทส์ ยิ่งเป็นตัวเร่งให้บู๊ทส์ต้องเพิ่มช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ ดังกล่าว



"การเช่าพื้นที่เชลฟ์เพื่อวางสินค้ามีต้นทุนน้อยกว่าสแตนด์อะโลน และใช้เวลาการดำเนินงานสั้นกว่า ที่สำคัญคือทราฟฟิกลูกค้ามีมาก และโอกาสที่ร้านสเปเชียลตี้สโตร์จะขยายสาขาให้ครอบคลุมเป็นเรื่องยาก สู้เอาสินค้าไปวางขายตามห้างที่เปิดอยู่แล้วน่าจะง่ายกว่า กลยุทธ์นี้ถือ เป็นหลักการเดียวกับการทำตลาดสินค้า คอนซูเมอร์ เป็น Survival Strategy ที่บู๊ทส์นำมาใช้"



จากการตรวจสอบพบว่า ปัจจุบัน บู๊ทส์มีช่องทางจำหน่ายที่เป็นในลักษณะช็อป อินช็อป ซึ่งมีเฉพาะในคาร์ฟูร์ มีรวมประมาณ 21 สาขา ขณะที่ร้านที่เป็นสแตนด์อะโลนมีประมาณ 150 สาขา ส่วนวัตสันมีจำนวนสาขาทั้งหมดประมาณ 150 สาขา และกำลังจะเปิดเพิ่มอีก 1 สาขา ที่ขอนแก่น และอยู่ระหว่างการพิจารณาเลือกทำเลอีก 1-2 แห่ง จากปีที่แล้วเปิดสาขาไป 8 แห่ง เน้นตามห้างและไฮเปอร์มาร์เก็ตที่เปิดใหม่



อัดโปรโมชั่นในร้านดุเดือด



นอกจากการเพิ่มช่องทางจำหน่ายใหม่ดังกล่าวแล้ว กลยุทธ์ทางการตลาดที่บู๊ทส์ให้ความสำคัญมากขึ้น คือการให้น้ำหนักกับบัตรสมาชิกบู๊ทส์ เฮลท์ คลับ โดยจับมือกับพันธมิตรด้านสุขภาพ เช่น ร.พ.กรุงเทพ ร.พ.บีเอ็นเอช ร.พ.สมิติเวช ฟิตเนสเฟิร์ส และอยุธยา อลิอันซ์ ซี.พี. มอบสิทธิพิเศษแก่สมาชิกบัตร รวมทั้งการเพิ่มโปรแกรมซีอาร์เอ็ม ผ่านการทำโปรโมชั่นพิเศษ เช่น การจับมือกับลอรีอัลจัดรายการลดราคาสินค้าลอรีอัลสูงสุดถึง 300 บาท เฉพาะที่ร้านบู๊ทส์ และลดเพิ่มอีก 5% สำหรับสมาชิกบู๊ทส์ เฮลท์ คลับ



รวมถึงโปรโมชั่นที่บู๊ทส์ใช้เรียกลูกค้าในปัจจุบัน คือโปรโมชั่นเบสต์ แวลู ราคาสุดคุ้ม แลกซื้อสินค้า ในราคา 69 บาท หรือซื้อสินค้า 2 ชิ้น ในราคา 96 บาท เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงปลายเดือนสิงหาคม



ด้านวัตสันก็เน้นกลยุทธ์ซีอาร์เอ็ม ด้วยการใช้บัตรสมาชิกวัตสัน เมมเบอร์ชิพ การ์ด เป็นตัวกระตุ้น ด้วยการมอบส่วนลดโปรแกรมสะสมแต้ม และส่วนลดค่าตรวจรักษาโรงพยาบาลพญาไท



BIG C-เซเว่นฯ ซุ่มเปิดสเปเชียลตี้สโตร์



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ร้านสเปเชียลตี้สโตร์กำลังปรับตัวด้วยการพยายามหาช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ เข้ามาเสริมเพื่อเป็นการเติบโตอีกทางหนึ่ง ทางฟากฝั่งผู้ประกอบการค้าปลีกก็อยู่ระหว่างการทดลองโมเดลร้านสเปเชียลตี้สโตร์ โดยเซเว่นอีเลฟเว่นที่ซุ่มทดลองโมเดลร้านขายยาและสินค้าเพื่อสุขภาพ ภายใต้ชื่อ "เอ็กซ์ตร้า" ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2550 ถึงปัจจุบันมี 4-6 สาขา ขณะที่บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ก็เปิดร้านสินค้าเพื่อสุขภาพและความงามในชื่อของ "เพรียว" ตอนนี้มี 7 สาขา โดยเปิดอยู่ในบิ๊กซี 6 สาขา และ เอสพละนาด 1 สาขา และขณะนี้อยู่ระหว่างการเปิดให้สมัครสมาชิกพนักงานเพื่อเตรียมขยายสาขา และมีการเปิดรับสมาชิกบัตรเพรียว แวลู การ์ด ผ่านทางเว็บไซต์




No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts with Thumbnails