Pages

Wednesday, July 6, 2011

CRG "ปรับใหญ่มุ่งโตก้าวกระโดด สปีดเพิ่ม"แบรนด์-สาขา"หวังขึ้นแท่นผู้นำร้านอาหาร

"ซีอาร์จี" เดินหน้าเต็มพิกัดขยายแบรนด์-จำนวนสาขา มุ่งโตแบบก้าวกระโดด เตรียมเปิดตัวโครงสร้างใหม่ไตรมาส 3 พร้อมจัดทัพรับการขยายตัวในอนาคต แยกบริหารกลุ่มไลต์ฟู้ด-เฮฟวี่ฟู้ด พร้อมทดลอง เซ็กเมนต์ร้านอาหารใหม่ ศึกษาเทรนด์ในอนาคต คาดผนึกแบรนด์ร้านอาหารอื่น ๆ ในเครือเซ็นทรัลหวังบุกตลาดเต็มสูบ ประกาศเพิ่มสาขา ปีนี้ 100 แห่ง คาดโตไม่ต่ำกว่า 30%


การแข่งขันของธุรกิจร้านอาหารทุกวันนี้เปลี่ยนโฉมไปมาก ทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพ รวมถึงกระแสความนิยมอาหารญี่ปุ่น ทำให้ค่ายอาหารใหญ่ต่างต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และที่มีความเคลื่อนไหวมากในช่วง 1-2 ปีนี้ "ซีอาร์จี" เครือเซ็นทรัลกับทิศทางที่เคลื่อนไปข้างหน้าเป็นสิ่งที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง

มุ่งเพิ่มแบรนด์-ขยายสาขา

นายสุชีพ ธรรมาชีพเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส-ปฏิบัติการ บริษัทเซ็นทรัล เรสเตอรองตส์ กรุ๊ป หรือซีอาร์จี เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากนโยบายของเซ็นทรัล กรุ๊ปที่ต้องการให้ทุกกลุ่มธุรกิจ (business unit) เติบโตอย่างรวดเร็วมากกว่าที่เป็นอยู่ ส่งผลให้ที่ผ่านมาซีอาร์จีมีการรุกตลาดอย่างมาก ทั้งการเพิ่มแบรนด์ใหม่และขยายสาขาแบบก้าวกระโดด

โดยช่วง 2 ปีบริษัทมีแบรนด์เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จากเดิมมีแบรนด์ร้านอาหาร 6 แบรนด์ เป็น 11 แบรนด์ในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงโยชิโนย่า (YOSHINOYA) ร้านข้าวหน้าเนื้อสไตล์ญี่ปุ่นที่กำลังจะเปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัล ลาดพร้าวในเดือนสิงหาคมนี้

ขณะที่สาขาปัจจุบันอยู่ที่ 530 สาขา เฉพาะปีนี้มีแผนเปิดถึง 100 สาขา จากปกติอยู่ที่ 30-50 สาขาจากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

ทำให้ซีอาร์จีเป็นค่ายที่มีแบรนด์ มากและหลากหลายที่สุดในบรรดาธุรกิจร้านอาหาร ไม่ว่าจะเป็น มิสเตอร์โดนัท, เคเอฟซี, อานตี้ แอนส์, เปปเปอร์ ลันช์, เบียร์ด ปาปาส์, ชาบูตง ราเมน, ไอศกรีม โคลด์สโตน, ริว ชาบู,เดอะ เทอเรส และคาเฟ่ อันโดนัน

จัดโครงสร้างใหม่-เล็งบุก ตปท.

นายสุชีพกล่าวต่อไปว่า จากจำนวนแบรนด์ที่มากขึ้นจึงมีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ โดยนายธีระเดช จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ มีแผนจัดงานแถลงข่าวด้วยตัวเองเร็วๆนี้ โดยคาดว่ารายละเอียดจะเป็นเรื่องการแยกการบริหารเป็น 2 กลุ่ม คือ ร้านอาหารประเภทไลต์ฟู้ด ซึ่งปัจจุบันตนเป็นผู้รับผิดชอบโดยเริ่มเข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา อีกกลุ่มคือ เฮฟวี่ฟู้ด ร้านอาหารประเภทมื้ออาหารจานหลัก ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดโครงสร้างใหม่ทั้งส่วนของผู้บริหาร ทีมงาน คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในช่วงไตรมาส 3 นี้

ส่วนหนึ่งที่จะนำมาพิจารณาในโครงสร้างใหม่ คือ การรวบรวมแบรนด์ร้านอาหารในเครือเซ็นทรัลให้มาอยู่ ภายใต้ซีอาร์จี อาทิ ซากุระ, ร้านกาแฟเซกาเฟรโด ฯลฯ เพื่อให้แนวทางการดำเนินธุรกิจเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ซีอาร์จีได้รวมกับ "เดอะ เทอเรส" ร้านอาหารไทยที่บริหารโดยห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลมาอยู่ภายใต้กลุ่มเดียวกัน

"การรวมร้านอาหารในเครือมาอยู่ร่วมกันเป็นแนวคิดของผู้บริหารที่อยู่ระหว่างการพูดคุยกันอยู่ และมีความเป็นไปได้สูงเพราะเป็นธุรกิจประเภทเดียวกันที่ควรจะอยู่ภายใต้กลุ่มเดียวกัน"

ลุยสร้างตลาดใหม่นำเทรนด์

นายสุชีพกล่าวว่า ส่วนแนวทางเพิ่มแบรนด์ใหม่ ๆ ของซีอาร์จีจะเดินหน้าสร้างตลาดใหม่ ๆ ด้วยการศึกษาเทรนด์ของร้านอาหารในอนาคต โดยหาตลาดใหม่ ๆ (blue ocean) ซึ่งปัจจุบันตลาดในไทยยังเป็นกระแสของร้านอาหารญี่ปุ่นซึ่งเชื่อว่ายังต่อเนื่องไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า ขณะนี้บริษัทกำลังมองหาเซ็กเมนต์ร้านอาหารใหม่ ๆ เพื่อทดลองตลาด ยกตัวอย่างการเปิดแบรนด์คาเฟ่ อันโดนัน (Cafe Andonand) ร้านคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นเมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้ว ปัจจุบันเปิดในญี่ปุ่น 7 สาขา ทั้งนี้มองเห็นโอกาสของแบรนด์ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีร้านคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นเปิดให้บริการในไทย

สำหรับคาเฟ่ อันโดนันถือเป็นคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยม ซึ่งได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น จำหน่ายโดนัทที่ทำจากแป้งพิเศษจากญี่ปุ่น รวมถึงกลุ่มอาหารว่าง แซนด์วิช และกาแฟสไตล์ญี่ปุ่น มุ่งเจาะกลุ่มคนทำงาน ปัจจุบันเปิดที่เซ็นทรัลเวิลด์ และอาจเปิดอีก 1 สาขาภายในปีนี้ โดยบริษัทยังไม่เน้นขยายสาขาแต่เน้นทดลองตลาด คาดว่าใช้เวลาประมาณ 3 ปีเพื่อศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทย

ชูหลากหลายตอบทุกไลฟ์สไตล์

นายสุชีพกล่าวว่า แบรนด์อย่างคาเฟ่ อันโดนันนั้นนอกจากสร้างตลาดใหม่ยังช่วยให้ซีอาร์จีมีอิมเมจที่ดีและพรีเมี่ยมมากขึ้น โดยช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาภาพของซีอาร์จีแตกต่างจากสมัยก่อนอย่างมากจากที่เน้นเพียงอาหารจานด่วน ก็มีการเพิ่มแบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นเข้าไป มากขึ้น ขณะนี้ซีอาร์จีเป็นกลุ่มบริษัทที่มีแบรนด์หลากหลายและครบเกือบทุก เซ็กเมนต์โดยเฉพาะกลุ่มไลต์ฟู้ด และอนาคตยังสามารถเพิ่มแบรนด์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ลูกค้า

"เราพยายามที่จะไม่ยึดกับความเป็นฟาสต์ฟู้ด แต่ปรับภาพเป็นเรสเตอรองต์มากขึ้น เฟสของซีอาร์จีในขณะนี้คือการเดินหน้าหาแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง"

ปัจจุบันเคเอฟซียังเป็นสัดส่วนอันดับ 1 ของซีอาร์จี คิดเป็นรายได้ 50% ตามด้วยมิสเตอร์โดนัท 27-28% และมีอานตี้ แอนส์เป็นอันดับ 3 ส่วนแบรนด์ใหม่ ๆ ที่เพิ่งเปิดให้บริการในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 20% ปีนี้ใช้งบฯลงทุนประมาณ 500-700 ล้านบาท เป็นงบฯขยายสาขา 500 ล้านบาท ที่เหลือเป็นงบฯรีโนเวตสาขาเดิม ทั้งนี้จากนโยบายใหม่ทำให้ซีอาร์จีโตเกือบ 30% ปีที่แล้ว และคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 30% ในปีนี้

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts with Thumbnails