Pages

Monday, January 11, 2010

Big C"กระหน่ำอีเวนต์สู้ศึกค้าปลีก เน้นเพิ่มความถี่-โปรโมชั่นราคาเอาใจลูกค้าแมส

{{flagicon|THA}} Big C Supercenter PLC.Image via Wikipedia


"Big C" ประกาศกระหน่ำอีเวนต์พ่วง โปรโมชั่นรับตลาดค้าปลีกเพิ่มดีกรีการแข่งขัน เผยทิศแต่ละค่ายเตรียมต่อยอดบัตรสมาชิก พร้อมเน้นกิจกรรมCSRสร้างความผูกพันกับลูกค้า ซุ่มวางแผนลุยแผนกอาหาร พร้อมเพิ่มความหลากหลายสินค้าเฮาส์แบรนด์ "แฮปปี้บาท-Big C แบรนด์"






นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท Big C ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากภาพการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ที่มีค่อนข้างสูง เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา สำหรับBig Cปีนี้หลัก ๆ จะเน้นการจัดอีเวนต์มากขึ้นเฉลี่ยเดือนละ 1-2 ครั้ง โดยจะเน้นอีเวนต์ที่มีความสนุกสนาน อนุรักษ์วัฒนธรรม ส่งเสริมสินค้าในชุมชน พร้อมโปรโมชั่นที่เป็นทีมเดียวกัน เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าที่ไม่ได้ต้อง การซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่อยากได้รับประสบการณ์จากการช็อปปิ้งควบคู่ไปด้วย




นางสาวจริยากล่าวว่า การจัดอีเวนต์ของBig Cมีความแตกต่างจากห้างอื่น ๆ เพราะเราให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของชุมชนและลูกค้า ล่าสุดช่วงวันเด็กที่ผ่านมาBig Cได้ร่วมมือกับกระทรวงวัฒนธรรมจัดกิจกรรมวันเด็กที่สอดแทรกวัฒนธรรมไทย รวมถึงการจัดซุ้ม แจกขนม ขบวนพาเหรด ฯลฯ มีการทำโปรโมชั่นกับสินค้าเด็ก ทั้งซื้อ 1 แถม 1 หรือลดราคา 50% นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ คือ เสื้อผ้าแฟชั่นเด็กลายการ์ตูนลิขสิทธิ์ของดิสนีย์



"ควบคู่กับแนวทางดังกล่าว Big Cจะให้ความสำคัญกับการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม หรือCSRมากขึ้น การทำซีเอสอาร์ของ Big Cเราหวังผลระยะยาวที่มุ่งให้ลูกค้าผูกพันกับแบรนด์ และรู้สึกว่าBig Cเป็นเหมือนเพื่อน"



นางสาวจริยากล่าวต่อไปว่า จากนี้ไปคาดว่าการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกจะยังมีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องการมอบสิทธิพิเศษผ่านบัตรสมาชิก ซึ่งทุกค่ายได้เริ่มเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว และการแข่งขันที่มากขึ้นผู้ที่จะได้รับประโยชน์ก็คือ ลูกค้าที่จะยิ่งได้รับประโยชน์มากขึ้น



นางสาวจริยากล่าวอีกว่า เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหลักของBig Cเป็นกลุ่มแมส ดังนั้นกลยุทธ์ราคาจึงยังคงเป็นสิ่งสำคัญ ปัจจุบันBig Cมีฐานสมาชิกบัตรบิ๊กการ์ดเกือบ 4,000,000 คน และตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาได้จับมือกับพาร์ตเนอร์ 600 ร้านทั่วประเทศ มอบส่วนลดพิเศษให้สมาชิก บิ๊กการ์ด เช่น เคเอฟซี มิสเตอร์โดนัท ฯลฯ ตั้งเป้าให้แต่ละสาขามีพาร์ตเนอร์ไม่ต่ำกว่า 50 ร้าน"



สำหรับสินค้าเฮาส์แบรนด์ที่Big Cมีอยู่ 2 แบรนด์ ได้แก่ แฮปปี้บาท และBig C แบรนด์ นางสาวจริยากล่าวว่า ปีนี้จะยังไม่เพิ่มแบรนด์ใหม่ แต่จะเพิ่มสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น ส่วนสินค้าที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มอาหาร ซึ่งลูกค้ามีความถี่ในการซื้อมากกว่าสินค้าทั่วไป บริษัทกำลังวางแผนการตลาดและจะให้ น้ำหนักกับสินค้ากลุ่มนี้มากขึ้น



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผลการดำเนินงานของBig Cในช่วงไตรมาส 3 ปี 2552 ที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่ายอดขายลดลงอัตรา 4.5% หรือคิดเป็น 16,184 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันปี 2551 จำนวน 759 ล้านบาท เป็นผลเนื่องมาจากปัจจัยลบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น การระบาดของไข้หวัด 2009 และอุทกภัยในหลายพื้นที่ ขณะที่มีรายได้จากค่าเช่า 1,045 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 8.2% และมีกำไร 478 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันในปี 2551 ที่มีกำไร 565 ล้านบาท



ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารBig C เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมงบประมาณการลงทุนภายใน 3 ปีนี้ จำนวน 6,000 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาให้ได้ 12 สาขา ตั้งเป้าขยายสาขาเฉลี่ย 4 สาขาต่อปี ขณะที่ในปี 2551 เป็นปีที่Big Cมีการขยายสาขามากสุดถึง 12 สาขา และคาดการว่าเศรษฐกิจในปีนี้เริ่มมีทิศทางดีขึ้น ดูจากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับราคาขึ้น ส่งผลให้ลูกค้าหลักของBig Cมีกำลังซื้อตามไปด้วย




Reblog this post [with Zemanta]

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts with Thumbnails