Pages

Friday, January 27, 2012

ศึกซีอาร์เอ็ม "Lotus VS Big C" หมัดต่อหมัดจัดหนักดัมป์ราคา

บัตรคลับการ์ดของเทสโก้ โลตัสจัดแคมเปญเดือนแห่งโบนัสถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2555
วงการค้าปลีกในเซ็กเมนต์ไฮเปอร์มาร์เก็ต ร้อนระอุอีกระลอกตั้งแต่ต้นปี ! เมื่อบิ๊กแบรนด์"โลตัส กับ บิ๊กซี "โหมทำสงครามราคา (Price War) อย่างหนัก ผ่านบัตรสมาชิก คลับการ์ด ของโลตัสและ บัตรบิ๊กซีโดยให้ส่วนลดสูงสุดชนิดดัมพ์แข่งกันแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน โดยบิ๊กแบรนด์อย่าง "เทสโก้ โลตัส"อัด 90 ล้านจับคลับการ์ดแจกโบนัสลากยาว พร้อมแคมเปญ โรลแบ็ค และช็อกไพรส์ ให้ผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าราคาถูกลง คุ้มค่าคุ้มราคามากยิ่งขึ้นภายใต้แนวคิด สร้างประสบการณ์การใช้จ่ายรูปแบบใหม่
      
ขณะที่แบรนด์ "บิ๊กซี" ยึดแนวทางคุ้มค่าคุ้มราคาผนึกซิตี้แบงก์ ส่งบัตรเครดิตใหม่ลงตลาดเน้นราคา โปรโมชั่น และการบริการ พร้อมเน้นกลยุทธ์คุ้มค่าคุ้มราคา สินค้าราคาถูกมากขึ้น ตอกย้ำ "เช็กไพรส์ ถูกชัวร์"

ศึกรอบใหม่ซีอาร์เอ็มเข้มข้น
บัตรเครดิต"ซิตี้แบงก์-บิ๊กซีวีซ่าแพลตตินั่ม" ในวันเปิดตัว ซึ่งตั้งเป้ายอดสมัครปีแรกไม่ต่ำกว่า 1 แสนราย และครบ 5 แสนรายภายใน 5 ปี
      
ประเดิมรับศักราชใหม่ รับปีมังกรทอง ศึกการแข่งขันของ 2 บิ๊กแบรนด์ กลับมาเร็วกว่าหลายคนคาดคิด เมื่อบิ๊กซีผนึกซิตี้แบงก์ เปิดตัวบัตรเครดิต"ซิตี้แบงก์-บิ๊กซีวีซ่าแพลตตินั่ม" เน้นโปรโมชั่นคุ้มราคา และมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าบิ๊กซีที่ใช้จ่ายผ่านบัตรดังกล่าวในห้างบิ๊กซีและร้านค้าในบิ๊กซีรับส่วนลดเพิ่มทันที 5% เมื่อใช้จ่ายตั้งแต่ 6,000 บาทขึ้นไป คาดปีแรกจะมียอดการสมัครไม่ต่ำกว่า 1 แสนรายและครบ 5 แสนรายภายในระยะ 5 ปี
      
 สำหรับแผนเชิงรุกของบิ๊กซี ยังคงมุ่งเน้นความคุ้มค่าคุ้มราคาและจำหน่ายสินค้าราคาถูกมากยิ่งขึ้น เนื่องจากบริษัทมีการตรวจสอบราคา หรือ "เช็กไพรส์ถูกชัวร์" อย่างต่อเนื่อง โดยบิ๊กซีจำหน่ายสินค้าในราคาที่ถูกที่สุดในท้องตลาดเมื่อเทียบกับคู่แข่งด้วยกัน โดยยังคงเน้นความคุ้มค่าคุ้มราคาคำนึงถึงประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับมากที่สุดรองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) รีจิส พรีจอง กล่าว
ด้านแบรนด์ "เทสโก้ โลตัส" มุ่งการสร้างประสบการณ์ในการใช้จ่ายที่ดีทั้งด้านราคาโปรโมชั่นและการบริการพร้อมเน้นพัฒนาแคมเปญใหม่ออกสู่ตลาดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในห้วงเวลานั้นๆเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว อาทิ ในภาวะที่มีปัญหาราคาน้ำมันขยับตัวสูงขึ้นนั้นจะมีการทำแคมเปญโรลแบ็คและช็อกไพรส์เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า ภายใต้แนวคิด การสร้างประสบการณ์ใช้จ่ายใหม่
      
 โลตัสทุ่มงบประมาณ 90 ล้านบาท จับคลับการ์ดแจกโบนัส โดยชูกลยุทธ์มุ่งสร้างประสบการณ์การใช้จ่ายรูปแบบใหม่ ทำแคมเปญเดือนแห่งโบนัสของบัตรคลับการ์ดระหว่างวันที่ 24 ม.ค.-27 ก.พ. ยาวกว่า 1 เดือน เจาะกลุ่มลูกค้าที่ใช้บัตรคลับการ์ดจำนวน 8 ล้านคนทั่วประเทศ สามารถใช้คะแนนสะสมในรูปแบบต่างๆภายใต้สินค้าให้บริการกว่า 2 หมื่นรายการและพันธมิตรร้านค้ากว่า 5,000 ร้านในส่วนของพื้นที่เช่าหรือรับคะแนนเพิ่มเป็น 3 เท่าที่ศูนย์อาหาร เป็นต้นเคิร์ท แคมพ์ ประธานกรรมการบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เอก-ชัยดีสทริบิวชั่นซิสเทม จำกัด ผู้บริหารเครือข่ายร้านค้าปลีกเทสโก้ โลตัส
      
 การทำแคมเปญอย่างต่อเนื่องเป็นการสร้างการรับรู้ในกลุ่มลูกค้าใหม่ พร้อมตอกย้ำแบรนด์ทำให้ลูกค้าเก่าหันมาใช้บัตรคลับการ์ดมากขึ้น ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าหมายเพิ่มสมาชิกอย่างน้อย 1 ล้านใบ รวมฐานลูกค้า 9 ล้านรายในสิ้นปีนี้แคมพ์ กล่าวและว่า ปัจจุบันเทสโก้ โลตัสมีลูกค้าเข้าใช้บริการเฉลี่ย 35 ล้านคนต่อเดือน ลูกค้ากว่า 75% ใช้จ่ายผ่านบัตรคลับการ์ดจากการเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2552 พบว่ามีการส่งคืนให้ลูกค้าในรูปแบบเงินสดและคูปองสินค้า รวมเป็นมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท
      
ปัจจุบันสาขาของเทสโก้ โลตัส เปิดบริการกว่า 900 แห่งทั่วประเทศ ภายใต้รูปแบบหลัก 5 ประเภท คือ พลัส มอลล์, เอ็กซ์ตร้า, ไฮเปอร์มาร์เกต, ตลาดเทสโก้ และเอ็กซ์เพรส โดยเป็นร้านขนาดใหญ่รูปแบบไฮเปอร์มาร์เกตประมาณ 133 สาขา มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการจำนวนมากกว่า 35 ล้านคนในแต่ละเดือน ซึ่งตั้งเป้าจะขยายสาขาให้บริการมากกว่า 1,000 แห่ง
      
ส่วนสาขาของบิ๊กซีปัจจุบัน อยู่ที่ 170 สาขา ใน 6 รูปแบบ คือ บิ๊กซีเอ็กซ์ตร้า, บิ๊กซี ซูเปอร์มาร์เก็ต, บิ๊กซีมาร์เก็ต, มินิบิ๊กซี, บิ๊กซีจัมโบ้ และร้านเพียว ซึ่งปี 2555 มีแผนจะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่คลังสินค้ามี 4 แห่งคือ วังน้อย 2 แห่ง บางใหญ่ 1 แห่ง และบางปะอิน 1 แห่ง หลังจากที่ทุกแห่งได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมส่งผลให้ต้องปรับแผนหันมาตั้งคลังสินค้ากระจายตามจุดต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยง
      
เกมเปลี่ยน เมื่อบิ๊กซีซื้อคาร์ฟูร์
      
การแข่งขันด้านราคาในตลาดค้าปลีกไฮเปอร์มาร์เกต ระหว่างโลตัส กับบิ๊กซี เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายปีที่ผ่านมา ราคากลับเป็นตัวกำหนดทิศทางการแข่งขัน ที่พิสูจน์แล้วว่าผู้บริโภคนิยม ขั้นต่อมาการใช้กลยุทธ์ซีอาร์เอ็มผ่านบัตรสมาชิก ด้วยรูปแบบคลับการ์ดของโลตัส และบัตรบิ๊กซี ที่แล้วแต่ว่าค่ายใดจะวาดลวดลายให้สิทธิประโยชน์อย่างไรต่อผู้ถือบัตร หรือเป็นสมาชิก ภายใต้ราคาพิเศษ และส่วนลดพิเศษเพื่อสมาชิกของตัวเอง
      
ดูเหมือนว่าเกมการแข่งขันยังคงเดินหน้าต่อไป แต่สมรภูมิร้อนก็ระอุขึ้นมาอีกครั้งเมื่อปีที่แล้ว ในประเด็นที่ บิ๊กซี เข้าซื้อกิจการคาร์ฟูร์ ประเทศไทย ซึ่งสาขาของคาร์ฟูร์ที่มีอยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมทั้งสิ้น 42 สาขา พร้อมเปลี่ยนชื่อคาร์ฟูร์เดิมเป็นบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า และเมื่อผนวกรวมกับบิ๊กซีแล้ว จะทำให้บิ๊กซีมีสาขาในกรุงเทพฯและปริมณฑลเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว หรือจะทำให้บิ๊กซีมีไฮเปอร์มาร์เกตมากถึง 170 สาขา ส่งผลให้บิ๊กซีในรูปแบบไฮเปอร์มาร์เกตจึงมีสาขาใกล้เคียงกับเทสโก้ โลตัส
      
นี่เองคือการส่งสัญญาณการแข่งขันให้สมรภูมิไฮเปอร์มาร์เกตดุเดือดขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ เมื่อยักษ์ใหญ่อย่างเทสโก้ โลตัสไม่ยอมพร้อมโดดเข้าใส่สมรภูมิเดือดนี้ทันทีโดยเปลี่ยนโฉมโลตัส สาขาพระราม 4 ใหม่ทั้งหมด พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น เทสโก้ โลตัส เอ็กซ์ตร้า
      
ทำให้บิ๊กซีเดือดจัดยื่นคำฟ้องต่อศาลแพ่งกรณี บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่นซิสเทม จำกัด (เทสโก้ โลตัส) ฐานกระทำการฝ่าฝืน พ.ร.บ. แข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 โดยนำสัญลักษณ์เครื่องมือและกลไกทางการตลาดของบิ๊กซีไปใช้จัดทำโฆษณาและแคมเปญส่งเสริมการขายโดยมิชอบ เพื่อสร้างรายได้และฐานลูกค้าให้กับตนเองอย่างโจ่งแจ้ง
      
จากนั้นความรุนแรงของการแข่งขันทั้ง 2 ค่ายจึงดุเดือดหนักขึ้นทุกฤดูกาล แต่ละค่ายต่างโหมอัดโปรโมชั่นราคาที่ร่วมกับหนังสือพิมพ์ โดยตัดคูปองเงินสดให้ส่วนลดสูงถึง 100 บาท นำไปใช้เป็นส่วนลดเมื่อซื้อสินค้าภายในห้างโลตัสครบ 600 บาท ขณะที่บิ๊กซี ออกมาแจกคูปองส่วนลด เมื่อซื้อสินค้าครบ 2,000 บาท รับส่วนลด 100 บาท ซื้อ 1,000 บาท รับส่วนลด 10 บาท ทันที โดยไม่ต้องตัดคูปองจากหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นข้อมูลอ้างอิงจากแคมเปญล่าสุดเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว
      
ภายในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน ปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของโลตัส ออกมาสะท้านวงการอีกครั้ง เมื่อโลตัส ออกมาแก้เกมดึงผู้บริโภคเป็นพวก โดยให้ผู้บริโภคเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ หรือเรียกว่าเป็นพวกพ้องนั่นเอง กล่าวคือ โลตัส ได้เปิดกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ด้วยทรัพย์สินรวมกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท ให้นักลงทุนรายย่อย และประชาชนเข้ามาถือหุ้น นำร่องศูนย์การค้า 15 แห่ง จากปัจจุบัน 900 สาขาทั่วประเทศ
      
การเสนอขายหน่วยลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ครั้งนี้ จะเปิดโอกาสให้ลูกค้า พนักงาน คู่ค้า และผู้ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ได้มีโอกาสเข้ามามีส่วนร่วม

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts with Thumbnails