แบรนด์หรูแฟชั่นลักเซอรี่ดาหน้าบุกไทยเบียดชิงพื้นที่ทำเลฮอต
ศูนย์การค้าเขย่าพื้นที่รอบใหม่เพิ่ม แบรนด์ดัง-แบรนด์ใหม่เบียดพื้นที่รายเก่า
ลือหึ่งกลุ่ม "เซ็นทรัล"
ทุ่มซื้อเวอร์ซาเช่-ลาฟลอเรนซ์เสริมทัพต่อกุชชี่ "เอ็มโพเรียม" ปรับ
พื้นที่เพิ่มแบรนด์ใหม่รับคอนเซ็ปต์โปรเจ็กต์ใหม่ ด้าน "พารากอน"
ทำเลทองแบรนด์ดังหลายค่ายส่อหลุดหลังกลุ่มหลุยส์ วิตตอง ขนทัพจองพื้นที่
สมรภูมิตลาดสินค้าลักเซอรี่ในปีนี้น่าจะดุเดือดตั้งแต่ต้นปี
เนื่องจากมีศูนย์การค้าเปิดใหม่อีกหลายแห่ง
ขณะที่ศูนย์การค้าที่เป็นจุดหมายของแบรนด์เนมหรูได้มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ที่มีอยู่เดิม
เพื่อรองรับแบรนด์เนมใหม่ ๆ ที่จะดาหน้าเข้ามาอีกไม่น้อย เฉพาะอย่างยิ่ง แบรนด์เนมจากยุโรปที่เรียงแถวเข้ามาเปิดตลาดในภูมิภาคเอเชียและเมือง
ไทยอย่างต่อเนื่องหลังเศรษฐกิจในยุโรปและอเมริกาเริ่มมีปัญหาด้านกำลังซื้อ
ศูนย์การค้าเขย่าพื้นที่รอบใหม่
จากการลงพื้นที่สำรวจ
"ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า ความเคลื่อนไหวของบรรดาศูนย์การค้าได้เริ่มมีการปรับเปลี่ยนแบรนด์และเกลี่ยพื้นที่ภายในศูนย์ใหม่เพื่อรองรับการขยายตัวของ
แบรนด์แฟชั่นและดีมานด์ของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น ที่เห็นภาพชัด คือ สยามพารากอน
ศูนย์การค้าใหญ่ใจกลางเมืองที่ปีนี้เตรียมนำเข้าแบรนด์ใหม่ ๆ
เข้ามาและทำให้ศูนย์การค้าต้องมีการจัดสรรพื้นที่เดิมให้เพียงพอต่อแบรนด์เนมดัง ๆ
ที่จะพากันเข้าเปิดตัว
โดยพื้นที่ชั้นเอ็มและชั้น 1
ที่มีซูเปอร์แบรนด์อยู่เป็นจำนวนมากจะมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งใหม่ อาทิ
ช็อปเดิมของจิออร์ จิโอ อาร์มานี่ จะมีหลุยส์ วิตตอง เข้ามาแทนที่
และช็อปของท็อดส์ จะถูกเปลี่ยนเป็นแบรนด์เฟนดิ โดยท็อดส์จะย้ายไปอยู่อีกด้านหนึ่ง
ซึ่งจะได้เห็นภาพความเปลี่ยนแปลงของแบรนด์หรูใน เร็ว ๆ นี้
ส่งผลให้บางแบรนด์อาจต้องหายไป ขณะเดียวกันก็จะมีแบรนด์ใหม่อย่าง มิว มิว (MIU
MIU) ที่เตรียมเข้ามาเปิดเป็นแฟลกชิปสโตร์
เช่นเดียวกับศูนย์การค้าเอ็มโพเรียมซึ่งได้เริ่มทยอยปรับเปลี่ยนพื้นที่ร้านค้าเช่าไม่เพียงสำหรับรองรับแบรนด์เนมรายใหม่
ๆ แต่ยังเพื่อให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์เอ็มโพเรียมที่เตรียมจะขึ้นโครงการสองในอีก 2
ปีข้างหน้า โดยโครงการดังกล่าวจะรองรับแบรนด์เนมที่เน้นไปที่กลุ่มลูกค้าวัยรุ่น
ส่วนแบรนด์ เนมที่อยู่กับโครงการเดิมนั้นก็มีการปรับพื้นที่ค่อนข้างมาก อาทิ
ช็อปดิออร์มีการขยายพื้นที่ร้านเพิ่มขึ้น, หลุยส์ วิตตองเตรียมจะปรับรูปแบบสองชั้น
เช่นเดียวกับแบรนด์ใหม่ที่เริ่มทยอยเข้ามาเปิดในศูนย์ อาทิ COCCINEL/BLACK
JACK/ เคเนทโคล/Camper/Club Collectable ส่วนแบรนด์ที่ปรับออกไป
ได้แก่ KENZO/ZEGNA/LA PERLA เป็นต้น
ซึ่งในปีนี้นับเป็นปีที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง เพราะแบรนด์เนมใหม่ ๆ
จะทยอยเข้ามาเปิดตัวในเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง
แบรนด์ดังชิงทำเลฮอต
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของแบรนด์ระดับลักเซอรี่หรือซูเปอร์
แบรนด์ในพื้นที่ศูนย์การค้ากลางเมืองที่สินค้ากลุ่มนี้ปักหลักอยู่นั้น
พบว่านอกเหนือจากกลุ่ม LVMH ที่มีแบรนด์ใหญ่อย่างหลุยส์
วิตตอง, คริสเตียน ดิออร์, เฟนดิ,
พราดา, บลูการี
เตรียมแผนการรุกตลาดเมืองไทยเต็มรูปแบบในปีนี้ด้วยการเปิดหลุยส์ วิตตอง สาขาที่ 3
ในพารากอนแล้วนั้น ยังเตรียมส่งคริสเตียน ดิออร์
แบรนด์ในเครือซึ่งจะมีการขยายร้านให้ใหญ่ขึ้นในเอ็มโพเรียม
เช่นเดียวกับเตรียมเปิดแบรนด์เฟนดิเพิ่มอีก 1 สาขาในพารากอน
รวมทั้งเพิ่มไลน์สินค้ากลุ่มเสื้อผ้ากลับมาทำตลาดอีกครั้ง
จากเดิมที่ขายแต่เครื่องหนังและแอ็กเซสซอรี่
นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวในวงการสินค้าแบรนด์หรูว่า
กลุ่มเซ็นทรัลเตรียมซื้อซูเปอร์แบรนด์อย่างเวอร์ซาเช่และลาฟลอเรนส์เข้ามาเสริมทัพแบรนด์กุชชี่
โดยแหล่งข่าวในวงการชี้ว่า
ตอนนี้กลุ่มเซ็นทรัลอยู่ระหว่างการเจรจากับแบรนด์ดังกล่าวผ่านกลุ่มเซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้ง
ทำให้นับจากนี้เซ็นทรัลจะเป็นค่ายที่เก็บแบรนด์ระดับพรีเมี่ยมแมสจนถึงซูเปอร์แบรนด์เอาไว้หลายแบรนด์
ล่าสุดนอกจากแอคเนส บี ที่เพิ่งเปิดตัวแล้ว
ยังเตรียมเปิดช็อปใหญ่อีกหลายสาขาให้กับน้องใหม่อย่าง FURLA,
MNG Touch, MNG Hee
ส่วนบริษัท เอเวอร์เรส เวิลด์
จำกัด แม้จะมีแบรนด์อยู่ไม่กี่แบรนด์ คือ ชาร์ลลิออล,
ลองฌองป์, แอคเนอร์, เวอร์ทู,
เวอร์ซาเช่
แต่ก็มีแผนนำเข้าแบรนด์เนมดังจากยุโรปเข้ามาทำตลาดทั้งระดับแมสและซูเปอร์แบรนด์
ส่วนแบรนด์ลองฌองป์ก็มีการเปิดแฟลกชิปสโตร์เป็นช็อปแรกในไทยที่สยามพารากอน
โดยจะมีการจัดงานแกรนด์โอเพ่นนิ่งในเดือนหน้านี้แล้ว
"แบรนด์หรู"
ปรับทิศลงทุนไทย
สอดคล้องกับมุมมอง นางชฎาทิพ
จูตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด
ผู้บริหารศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ สยามพารากอนและพาราไดซ์ พาร์ค
ที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ช่วงที่ผ่านมาแม้ว่าเมืองไทยจะมีปัญหารบเร้าต่อเนื่องทั้งทางการเมืองและภัยธรรมชาติ
ส่งผลต่อกำลังซื้อและมู้ดจับจ่ายที่หยุดชะงักในแต่ละช่วง
แต่ในแง่ธุรกิจไม่สามารถหยุดตามได้
ไปในทิศทางเดียวกับไลฟ์สไตล์และดีมานด์ของกลุ่มลูกค้าที่เป็นเทรนด์เดียวกันทั่วโลกล้วนผลักดันให้ศูนย์การค้าและธุรกิจต้องเพิ่มแม็กเนตและสีสันใหม่
ๆ เข้ามาตอบสนองความต้องการ
โดยจะมีแบรนด์ใหม่มากกว่า 100
แบรนด์ที่เข้ามาเปิดใน 3 ศูนย์การค้า
ซึ่งภาพการเข้ามาของกลุ่มทุนหน้าใหม่ในเมืองไทยเป็นตามเทรนด์ของโลกซึ่งตลาดในยุโรปและอเมริกาต่างประสบปัญหาเศรษฐกิจในประเทศส่งผลช่วงตลอด
3
ปีที่ผ่านมาเห็นภาพการลงทุนของแบรนด์ยักษ์ใหญ่ในวงการค้าปลีกต่างย้ายมาลงทุนในตลาดเอเชียและเมืองไทยเป็น
1 ในตลาด ส่งผลให้ภาพการแข่งขันของค้าปลีกรวมถึงแฟชั่น
ลักเซอรี่ต่อจากนี้จะคึกคักและมีสีสัน
ซึ่งภาพการเติบโตของตลาดรีเทลเมืองไทยจะแปรสภาพไปในทิศทางเดียวกับตลาดสิงคโปร์ทั้งในแง่แบรนด์สินค้า
ดีมานด์ของตลาดและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน
เช่นเดียวกับที่นางสาวอนิลิณ
บุรณศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด บริษัท แปซิฟิกา เอเลเม้นท์
ผู้นำเข้าแบรนด์ โค้ช, แคมเปอร์,
เคนเน็ธโคล นิวยอร์ค, ค็อคชิแนลล์ ได้กล่าวว่า
กลุ่มยังลักเซอรี่มีการเติบโตขึ้นมาก
ซึ่งสินค้าแต่ละแบรนด์มีไลน์สินค้าให้คนกลุ่มนี้ได้เลือก
เพราะพฤติกรรมของลูกค้าในปัจจุบันหันมาให้ความสนใจกับแฟชั่น การแต่งตัว
ไม่ยึดติดกับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง จึงทำให้ตลาดตรงนี้มีการเติบโตไปได้เรื่อย ๆ
ขณะที่แหล่งข่าวจากบริษัทเอเวอร์เรส
กล่าวเสริมว่า ภาพรวมของลักเซอรี่ แบรนด์ในเมืองไทยในปีนี้น่าจะไปได้ดี
เนื่องจากเศรษฐกิจของไทยน่าจะอยู่ในช่วงขาขึ้น คนเริ่มหันมาซื้อสินค้าแบรนด์ เนม
ไม่ว่าจะเป็นระดับกลางหรือระดับสูงมากขึ้น
ขณะที่แบรนด์เนมเองก็มีเข้ามาให้เลือกมากตามพื้นที่ของศูนย์การค้าใหม่ที่มีมากขึ้น
หรือแม้แต่ศูนย์การค้าเดิมเองก็มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่เพื่อรองรับแบรนด์เนมใหม่ ๆ
ที่ทยอยกันเข้ามาเปิดตลาดในเอเชีย
No comments:
Post a Comment