เปิดใจ 2 ผู้บริหารใหญ่ B QUIK มาตรฐานบริการต้องมาก่อน

ต้องบอกว่า วันนี้ ธุรกิจฟาสต์ฟิตที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดของบ้านเรา หนีไม่พ้น "บี-ควิก" น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก

เฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ มองไปทางไหนก็เห็นแต่ศูนย์บริการสีเหลืองเต็มไปหมด กลายเป็นเบอร์หนึ่งที่หลายคนตามไม่ทัน

อะไรคือสูตรความสำเร็จ "ประชาชาติธุรกิจ" จะพาไปหาคำตอบ จากปากของ 2 ผู้บริหาร "เฮงก์ เจ คิกส์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ "บุศรารัตน์ อัสสรัตนกุล" ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายปฏิบัติการ

- ภาพความสำเร็จในปี 2553 ที่ผ่านมา

ในปีที่ผ่านมา ในแง่ของรายได้และผลประกอบการแล้ว "บี-ควิก" ถือว่าเป็นปีที่ดีของเรา เนื่องจากมีอัตราการเติบโตสูงถึง 28% มีรายได้อยู่ที่ 2,500 ล้านบาท สาเหตุที่ทำให้เราโตนั้น เนื่องจากการเปิดสาขาใหม่ ๆ บวกกับสาขาเดิมของเราที่มีอยู่ ก็มีการเติบโตค่อนข้างสูงมาก

- แผนการเปิดสาขาใหม่

ที่เราตั้งใจเปิดอีก 10 สาขา จากปัจจุบันที่เรามีอยู่ 70 สาขาทั่วประเทศแล้ว โดยเราได้เตรียมเงินลงทุนสำหรับการเพิ่มสาขาไว้ที่ประมาณ 150 ล้าน หรือเฉลี่ยสาขาละ 15 ล้านบาท และการลงทุนสำหรับปรับปรุงสาขาเก่าอีก 40 ล้านบาท หรือเฉลี่ยสาขาละ 2.5 ล้านบาท หรืออาจจะมากกว่า ขึ้นอยู่กับว่าสาขานั้นๆ จะ ต้องมีการลงทุนเพิ่มในส่วนของเครื่องไม้เครื่องมือมากน้อยเพียงใด

- เป้าหมายของปีนี้

สำหรับปีนี้ เมื่อดูจากเป้าหมายของเราแล้ว เป้าของเราจะค่อนข้างต่ำ ซึ่งเรามองว่าควรจะตั้งต่ำไว้ก่อน คือ 7-7.5% ส่วนรายได้นั้นคาดว่ามีแนวโน้วจะทะลุ 3,000 ล้านได้อย่างแน่นอน โดยมีสัดส่วนรายได้แบ่งเป็นการจำหน่ายยาง 55% น้ำมันเครื่องและไส้กรอง 15% ช่วงล่าง 10% ระบบเบรก 10% และแอ็กเซสซอรี่อีก 10%

โดยบริษัทมีมาร์เก็ตแชร์ในกรุงเทพฯ 20% และในต่างจังหวัด 8-9% จาก ยอดขายที่เพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มสินค้า โดยเฉพาะการจำหน่ายยางที่เป็นยอดขายหลักของบริษัท ด้วยยอดขายกว่า 500,000 เส้น เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 15% สูงกว่าตลาดรวมที่มีการเติบโต 10% และคาดว่าตลาดรวมของยางน่าจะขยับขึ้นไป 7,000,000 เส้นต่อปี ซึ่งมีการปรับราคาสินค้าอย่างต่อเนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่เฝ้าระวังทั้งหลาย ทั้งเศรษฐกิจ การเมืองจะต้องไม่ส่งผลที่รุนแรงมาก เรายังเชื่อว่าลูกค้าจะต้องเดินเข้ามาใช้บริการที่ศูนย์บี-ควิกของเรา

- เตรียมพร้อมกับตลาดที่กำลังเติบโตอย่างไร

สิ่งสำคัญ วันนี้ บี-ควิกเราถือว่าไม่มีคู่แข่ง เพราะคู่แข่งสำคัญของเราก็คือตัวเราเอง อย่างการที่เราเปิดศูนย์มากขึ้น เราก็จะต้องรับพนักงานเพิ่มอย่างน้อย 100-150 คน ดังนั้น ระบบปฏิบัติการทุกอย่างจะต้องได้คุณภาพมาตรฐาน โดยเฉพาะการเตรียมพัฒนาบุคลากรให้ได้ตามมาตรฐานของ "บี-ควิก"

- มองบริการใหม่ที่จะนำมาเสริมทัพ

ในเดือนนี้ หรือต้นเดือนพฤษภาคมนี้ เราจะมีการเปิดตัวบริการใหม่อีก 1 อย่าง โดยเตรียมเริ่มทดลองใน 10 ศูนย์บริการแรก ซึ่งคาดว่าน่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เพราะบริการนี้ยังไม่มีผู้เล่นรายใดได้เข้ามาทำตลาดอย่างจริงจัง

ซึ่งเราอยู่ระหว่างการอบรมบุคลากรให้มีความรู้ความชำนาญจากผู้เชี่ยวชาญในประเทศเบลเยียมจริงก่อนที่จะเปิดบริการ พร้อมทั้งนำเข้าเครื่องมือจากต่างประเทศ ซึ่งบริการใหม่นี้เราลงทุนไม่มาก เตรียมงบฯไว้ 5 ล้านบาท สำหรับ 70 ศูนย์

ก่อนหน้านี้ เราเปิดบริการเติมลมยางไนโตรเจน ก็ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี และเราได้ลงเครื่องครบทุกศูนย์แล้ว ปีนี้ก็อาจจะต้องซื้อเครื่องเพิ่ม ซึ่งบริษัทเตรียมงบฯสำหรับตรงนี้ไว้ถึง 40 ล้านบาทด้วย

- แนวคิดที่จะเปิดแบรนด์ลูกไม่มีความคืบหน้า

ความตั้งใจเดิมของเรา คือจะมีการเปิดอีกแบรนด์ขึ้นมา เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าในเขตพื้นที่ใกล้เคียง เนื่องจากเราพบว่ามีลูกค้าบางกลุ่มมองว่าการเข้ารับบริการที่ศูนย์ของเรามีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ซึ่งถ้าเรามีอีกแบรนด์ ก็น่าจะช่วยเติมเต็มตรงนี้ได้ ที่ผ่านมา เราเคยเปิดทดลองไปแล้ว 3 ศูนย์ แต่เราพบว่าลูกค้าก็ยังให้ความสนใจและเลือกรับบริการที่ศูนย์บี-ควิกอยู่ดี เราจึงต้องชะลอแผนงานดังกล่าวออกไปก่อน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะยกเลิกโครงการนี้ออกไป เพราะทุกอย่าง เราได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว ทั้งชื่อแบรนด์ที่ได้มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องแล้วด้วย

- ยังยืนยันแนวคิดลงทุนเอง 100%

แน่นอน เรายังยืนยันแนวคิดนี้มาโดยตลอด เพราะธุรกิจของบี-ควิก คือธุรกิจที่จะต้องให้ "บริการ" ดังนั้น เรื่องความใส่ใจ มาตรฐานการบริการนั้นต้องถือเป็นเรื่องสำคัญ จะปล่อยปละละเลยไม่ได้ และเราก็ไม่เชื่อในระบบ "แฟรนไชส์" เพราะควบคุมและดูแลได้ค่อนข้างลำบาก

- ปีนี้ใช้งบฯการตลาดมากน้อยแค่ไหน

สำหรับงบฯการตลาดที่เราใช้ในแต่ละปีนั้น เราได้เตรียมไว้ประมาณ 150 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้เพื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ฯลฯ ส่วนงบประมาณที่เราใช้สำหรับจัดแคมเปญส่งเสริมการขายนั้น เราไม่ได้ตั้งไว้ตายตัว แต่เราจะใช้วิธีหักจากกำไร อย่างเช่น แคมเปญผ่อนยาง 0% นาน 10 เดือน เราก็เตรียมงบฯไว้ 100 ล้านบาท