ซีพี ออลล์ฯ ทุ่มทุน 5 พันล.ปี
2555 ลุยขยายอีก 500 สาขาทั่วไทย เตรียมหาทำเลย่านตะวันออกชลบุรี-พัทยาสร้าง D.C.แห่งใหม่กระจายสินค้า รองรับยอดขายโต 15%
เผยปีที่ผานมายอดขาย"อีซี่โก"พุ่งกว่า 2 เท่าตัว
เตรียมลุยธุรกิจอาหาร-เบเกอรี่-กาแฟ-ผลไม้ปั่น พร้อมประเดิมอาหารเสริมสุขภาพวางจำหน่ายเร็ว
ๆ นี้
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2555
บริษัทมีแผนลงทุนเพิ่มประมาณ 5,000 ล้านบาท ใน 5 งานหลัก ได้แก่
1.ขยายศูนย์กระจายสินค้าเพิ่ม 1 แห่ง เพื่อกระจายสินค้าบริเวณพื้นที่ภาคตะวันออก
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจระหว่างชลบุรี และพัทยาลงทุนประมาณ 1,000
ล้านบาท
2.ขยายสาขาเซเว่นอีเลฟเว่นเพิ่มอีก 500 สาขา จากปัจจุบันมีอยู่ 6,300 สาขา
ลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท 3.ปรับปรุงระบบซอฟแวร์ ในส่วนของสำนักงาน
และศูนย์กระจายสินค้า(D.C.) ลงทุนประมาณ
1,000 ล้านบาท 4.ทำการปรับปรุงซ่อมแซม(renovate)ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเก่าที่เปิดดำเนินการมาแล้ว
6 ปี ลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในปี 2555
บริษัทตั้งเป้ามียอดรายได้เติบโตร้อยละ 15 จากปีก่อนที่ต่ำกว่าเป้าหมาย
โดยการเติบโตจะมาจากยอดขายสาขาเดิม รวมถึงการขยายสาขาใหม่
"สำหรับในส่วนสินค้าที่วางขายในเซเว่นอีเลฟเว่นนั้นในปีที่ผ่านมาในปี
2555 เรามีแผนจะเน้นสินค้าพวกน้ำ อาหาร และเครื่องดื่ม
เนื่องจากในปีที่ผ่านมาเรามียอดขายผลิตภัณฑ์อาหารกล่องตรา"อีซี่โก"ดีมากเพิ่มขึ้นเกือบ
2 เท่าตัว ดีกว่ายอดขายพวกอาหารแช่เข็ง ดังนั้น ในปี 2555
จึงมีแผนจะยอดขายอาหารพร้อมทาน(Ready to eat)เหล่านี้เพิ่มขึ้น รวมทั้งผลิตภัณฑ์พวกเบเกอรี่ กาแฟ และผลไม้ปั่น
รวมถึงแผนที่จะวางขายอาหารเสริมสุขภาพ ซึ่งที่ผ่านมาเราได้ทำการทดลองมาหลายปีแล้ว
ขณะนี้เราพร้อมที่จะวางขายเชิงพาณิชย์แล้ว
โดยจะวางขายในเขตกรุงเทพก่อน"นายปิยะวัฒน์กล่าวและว่า
นอกจากนี้
ในส่วนของสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาในกลุ่ม บริษัท ซีพี
ออลล์ฯ ได้วางยุทธศาสตร์การศึกษา ปี 2555 ไว้
โดยจะขยายโครงการความร่วมมือทางการศึกษากับสมาคมโรงเรียนอาชีว ศึกษาเอกชน
จากปัจจุบันที่มีอยู่ 37 แห่งทั่วประเทศ เพิ่มให้ครบ 100 แห่ง
แต่ยังไม่สามารถบอกตัวเลขการลงทุนในส่วนนี้ได้
รวมทั้งจะมีการยกระดับการศึกษาจากปัจจุบันจะเปิดสอนเฉพาะระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ
(ปวช.) 40 คนต่อห้องต่อโรงเรียน ปีนี้มีแผนจะเปิดเพิ่มหลักสูตรระดับปริญญาตรีอีก
40 คนต่อห้องต่อโรงเรียน ด้วยการสอนระบบทางไกลผ่านดาวเทียม
โดยระหว่างเรียนทุกคนจะได้ฝึกงานไปพร้อมกันจบมาแล้วมีงานรองรับ
และมีเงินเดือนที่สูงกว่าเพื่อนในสถาบันการศึกษาอื่นที่เข้ามาทำงาน
เพราะบุคลากรที่จบโดยตรงสามารถทำงานได้ทันที ขณะที่บุคลากรจากสถาบันการศึกษาอื่นต้องมาสอนและอบรมกันใหม่
รวมถึงมีการหลักสูตรที่จะส่งเสริมให้ผู้ที่เข้ามาเรียนทั้งระดับปวช.และปริญญาได้เป็นเจ้าของกิจการเองด้วย
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเราไม่เคยมีปัญหาเรื่องขาดแคลนแรงงาน
เพราะเรามีการเตรียมพร้อมไว้รองรับอยู่แล้ว ยกตัวอย่าง 500
สาขาที่เพิ่มขึ้นจะใช้บุคคลากรประมาณ 5,000 คน
"ปี 2555
การขยายการศึกษาทางสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ไม่ได้ขยายเฉพาะในประเทศไทย
แต่นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร
กลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์มีแผนทำ"โครงการทวิภาคี" เพื่อรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
(ASEAN
Economic Community: AEC) โดยทางซีพี
ออลล์อยากเชิญชวนให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทุกด้านมาพัฒนาโครงการร่วมกัน
เพื่อยกระดับแรงงานไทยให้สูงขึ้น
ส่วนงานที่หนักจะหัสไปใช้แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามา เช่น ที่ประเทศจีน
จะให้เด็กมาฝึกงานที่โลตัสที่เมืองจีน ประธานธนินท์มองว่า
เด็กเปรียบเหมือนลูกเจี๊ยบเล็ก ๆ
เราต้องปลูกฝังใน 4 เรื่องหลัก ได้แก่
1)ให้เข้าใจวัฒนธรรมของเครือซีพี 2)ปูพื้นฐานเรื่องคุณธรรมให้เป็นคนดีของสังคม
3)การเพิ่มองค์ความรู้ทางด้านการศึกษาให้ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ และ4)
การสอนเรื่อง
ธุรกิจค้าขาย
ระหว่างเรียนมีการฝึกปฏิบัติงาน ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการทวิภาคีนั้นทางซีพี
ออลล์อยากเชิญชวนให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทุกด้านมาพัฒนาโครงการร่วมกัน
เพื่อยกระดับแรงงานไทยให้สูงขึ้น"นายปิยะวัฒน์กล่าวและว่า
อนึ่ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
ในปี 2555 ทางบริษัท ซี.พี.ค้าปลีก และการตลาด
จำกัดมีแผนการขยายการลงทุนโรงงานแปรรูปอาหารใหม่อีก 5 แห่ง และขยายโรงงานเก่าอีก 2
แห่ง รวมมูลค่าการลงทุนประมาณ 3,500 ล้านบาท
เพื่อรองรับยอดขายของสินค้าที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น รวมถึงการตอบสนอง
ให้ตรงความต้องการของกลุ่มลูกค้าในแต่ละภูมิภาคสำหรับกลุ่มสินค้า 3 ประเภท ได้แก่
เบเกอรี่ มีแผนเพิ่ม ยอดขาย 8,000 ล้านบาท, อาหาร พร้อมทาน (Ready to eat) ประเภทข้าวกล่อง
มีแผนเพิ่มยอดขายให้ได้ถึง 750,000 กล่อง และเพิ่มการผลิตอาหาร
ว่างประเภทซาลาเปา-ขนมจีบ
จากปัจจุบันซาลาเปาผลิตอยู่ประมาณ 400,000 ลูก/วัน จะเพิ่มขึ้นเป็น 30 ตัน/วัน
ส่วนผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ เฉพาะปี
2555 จะก่อสร้างโรงงานใหม่ 2 แห่ง และขยายโรงงานเก่าเพิ่มอีก 2 แห่ง
รวมถึงมีแผนจะขยายเพิ่มในอนาคต อีก 1 แห่ง ได้แก่ 1) โรงงานผลิตเบเกอรี่ใหม่ที่ลาดกระบัง
อยู่ใกล้กับโรงงานเก่า มูลค่าการก่อสร้างประมาณ 1,000 ล้านบาท 2)
โรงงานผลิตเบเกอรี่ใหม่ที่ อุบลราชธานี 500 ล้านบาท3)
การขยายโรงงานเก่าเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต ที่เชียงใหม่ 500 ล้านบาท
ส่วนโรงงานที่พิษณุโลกยังไม่มีแผนงานขยายเพิ่ม 4)การขยายกำลังการผลิตโรงงานเก่าที่จ.ขอนแก่น
500 ล้านบาท
ส่งผลให้กำลังการผลิตเบเกอรี่ของบริษัทในปี
2555 จะเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัว
หากพิจารณาจากยอดขายเบเกอรี่ปัจจุบันของบริษัทประมาณ 3,500 ล้านบาท
หลังจากก่อสร้างโรงงานผลิต เบเกอรี่ทั้งหมดแล้วเสร็จจะทำให้ยอดขายเพิ่มเป็น 8,000
ล้านบาท ในอนาคตจะสร้างโรงงานเบเกอรี่แห่งใหม่เพิ่มที่ สุราษฎร์ธานี มูลค่า 500
ล้านบาท จากปัจจุบันในภาคใต้มีโรงงานเบเกอรี่ อยู่แห่งเดียวที่ อ.หาดใหญ่ สงขลา
นอกจากนี้ บริษัท
ยังมีแผนขยายการก่อสร้างโรงงานผลิตพวกซาลาเปา/ ขนมจีบ เพิ่มขึ้นอีก 1 แห่งที่
จ.ชลบุรี มูลค่า 700 ล้านบาท โรงงานนี้จะเน้นใช้เครื่องจักรแบบอัตโนมัติ
ใช้แรงงานคนน้อย เพื่อให้ผลิตได้ปริมาณมาก ๆ โดยมีกำลังการผลิตประมาณ 30 ตัน/วัน
ส่วนโรงงานผลิตอาหารพร้อมรับประทานจะก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่
อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี มูลค่าการก่อสร้าง 500 ล้านบาท ผลิตอาหารกล่องตรา
"เดลี่ไทย" กับ "อีซี่โก" จำหน่ายในเซเว่นอีเลฟเว่นโดยเฉพาะ
คาดว่าหลังโรงงานแห่งนี้แล้วเสร็จจะทำให้ยอดผลิตอาหารกล่องจากปัจจุบันผลิตได้
250,000 กล่อง ผลิตเพิ่มขึ้นอีก 500,000 กล่อง รวมเป็น 750,000 กล่อง
No comments:
Post a Comment