ดิสเคาต์สโตร์สาดสงครามรอบใหม่
"บิ๊กซี" ชูเรือธง "ถูกชัวร์" ไฮไลต์
พร้อมกระหน่ำด้วยแคมเปญราคา โปรโมชัน
ซีอาร์เอ็มผ่าน"บิ๊ก คาร์ด" มั่นใจสร้างฐานลูกค้าโกยยอดขายพุ่ง
ขณะที่ "โลตัส" เผย 5 กลยุทธ์รุกตลาดปีมังกร อัดแคมเปญนำร่องแจกโบนัสมูลค่ากว่า 90
ล้านบาทเอาใจสมาชิก ส่วนกรณีบิ๊กซีฟ้องโลตัส ผิดพ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า
ส่อเค้ายืดเยื้อ หลังเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีพาณิชย์
การแข่งขันในดิสเคาต์สโตร์
ที่เหลือผู้ประกอบการใหญ่เพียง 2 ราย คือ เทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์
ที่ฝ่ายหลังเข้าซื้อกิจการของห้างคาร์ฟูร์
จนผงาดขึ้นมาเป็นคู่แข่งในระนาบเดียวกันต้นปีที่แล้ว และต่างถูกจับตามองว่า จะงัดกลยุทธ์ใดมาฟาดฟัน
เพิ่มดีกรีความร้อนแรงในการช่วงชิงยอดขาย และกลุ่มลูกค้าคนไทย โดยเฉพาะในไตรมาส 4
ที่ผ่านมา แต่ทั้งหมดก็ต้องชะงักไป
เมื่อต่างฝ่ายต้องเผชิญกับวิกฤติอุทกภัยครั้งใหญ่
แผนการตลาดที่จัดเตรียมมาเต็มพิกัด จึงต้องชะลอไป
ก่อนที่จะกลับมาเริ่มปะทะกันอีกครั้งเพียงเริ่มต้นปีมังกรนี้
โดยเรื่องดังกล่าวนายกุฎาธาร นาควิโรจน์
ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)
ผู้บริหารห้างค้าปลีก บิ๊กซี เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า
ปีนี้การแข่งขันดุเดือดแน่ เพราะเราเป็นผู้นำด้านราคา และต้องรักษาความเป็นผู้นำต่อไป
กลยุทธ์การทำตลาดจึงต้องเต็มที่ และเน้นความครบครันทั้งเรื่องราคา โปรโมชัน
ซีอาร์เอ็ม ซึ่งทั้งหมดจะคำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก เช่น
แคมเปญล่าสุดที่ร่วมกับซิตี้ แบงก์ จัดทำบัตรเครดิตซิตี้ แบงก์-บิ๊กซี
แพลตตินั่มขึ้น เพื่อมอบสิทธิพิเศษให้กับผู้ถือบัตร และหากเป็นสมาชิกบัตรบิ๊ก
คาร์ด ก็จะได้สิทธิพิเศษที่เพิ่มขึ้นไปอีก
"นโยบายของบริษัท
ยังให้ความสำคัญเรื่องของราคา เป็นกลยุทธ์หลักในการกำหนดแผนทางการตลาดในปีนี้
เพราะบริษัทมุ่งสร้างและสื่อสารไปยังผู้บริโภคต่อเนื่องมายาวนาน ขณะเดียวกันก็จะเพิ่มแคมเปญ
เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านสินค้าราคาถูก
การจัดโปรโมชันเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า
การกระตุ้นบรรยากาศการจับจ่ายซื้อสินค้าภายในศูนย์
รวมทั้งการกระตุ้นการซื้อสินค้าของสมาชิก ที่ถือบัตรบิ๊ก คาร์ด ซึ่งมีอยู่กว่า 6
ล้านคน ให้มีการจับจ่ายที่เพิ่มขึ้น และมีผู้มาสมัครมากขึ้น"
ด้านนายรีจิส พรีจอง
รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)
กล่าวย้ำว่า การดำเนินธุรกิจในปีนี้
บริษัทยังคงใช้กลยุทธ์ในเรื่องของความคุ้มค่า คุ้มราคา และจำหน่ายสินค้าราคาถูก เนื่องจากบริษัทมีการติดตามราคาสินค้าในตลาด
เพื่อให้ถูกชัวร์อย่างต่อเนื่อง
จากกรณีที่มีกระแสข่าวออกมาว่า
คู่แข่งในตลาดจะเปิดตัวแคมเปญขายสินค้าราคาถูกกว่าบริษัท 1 บาทนั้น บริษัทไม่มีความกังวลในเรื่องดังกล่าว เพราะบริษัทขายสินค้าราคาถูกอยู่แล้ว
สำหรับภาพรวมกำลังซื้อในช่วงเดือนมกราคมนี้
เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น
ภายหลังจากช่วงหลังน้ำท่วมที่ผ่านมา
กำลังซื้อของผู้บริโภคปรับตัวลดลงไปส่วนหนึ่ง
โดยเฉพาะการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย
เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว
ผู้บริโภคจะเน้นการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเท่านั้น แต่ตอนนี้เริ่มเห็นผู้บริโภคออกมาจับจ่าย
ซื้อสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าอื่น ๆ มากขึ้น
ส่งผลให้ช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะมาถึงนี้มีความคึกคัก
อย่างไรก็ดี
หลังจากเข้าซื้อกิจการของคาร์ฟูร์ในเมืองไทย ทำให้บิ๊กซี มีจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นเป็น
170 สาขา ใน 6 รูปแบบ ประกอบด้วย บิ๊กซี
เอ็กซ์ตร้า ,บิ๊กซี ซูเปอร์มาร์เก็ต,บิ๊กซี มาร์เก็ต ,มินิ บิ๊กซี ,บิ๊กซี จัมโบ้ และร้านเพียว
กระจายอยู่ทั่วประเทศทำให้สามารถให้บริการลูกค้าได้ทั่วถึงมากขึ้น
และปีนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีจำนวนสาขาใกล้เคียงกับเทสโก้
โลตัส
ด้านนายเคิร์ท แคมพ์ ประธานกรรมการบริหารฝ่ายการตลาด เทสโก้
โลตัส กล่าวว่า กลยุทธ์การทำตลาดของเทสโก้
โลตัสในปีนี้ จะมุ่งเน้นไปที่ 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การพัฒนาสินค้าใหม่ การขยายสาขาใหม่ การจัดแคมเปญโรลแบ็ค ซีซั่นนอล มาร์เก็ตติ้ง และลอยัลตี
โปรแกรมผ่านคลับการ์ด โดยแต่ละกลยุทธ์จะมีเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน
คือ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่มาเลือกซื้อของ และสร้างความคุ้มค่าสูงสุด
หนึ่งในแคมเปญใหญ่ที่เกิดขึ้นในไตรมาสแรก
คือ แคมเปญเดือนแห่งโบนัส ของบัตรคลับการ์ด โดยเทสโก้
เพิ่มคะแนนสะสมของสมาชิกบัตรคลับการ์ด เพื่อรับสิทธิประโยชน์ที่มากขึ้น
ทั้งจากการเลือกซื้อสินค้าในสโตร์และร้านค้า
รวมทั้งศูนย์อาหารเช่นเดียวกับบิ๊กซี
นายแคมพ์ย้ำว่า
สิทธิประโยชน์ที่เทสโก้ มีให้กับสมาชิกคลับการ์ดเหนือกว่า
เพราะมีสินค้าที่เตรียมมาเพื่อเพิ่มคะแนนสะสมกว่า 2 หมื่นรายการ โปรโมชันพิเศษจากร้านค้าเช่ากว่า 5 พันร้าน
เมื่อแสดงบัตรคลับการ์ด และรับคะแนนเพิ่มเป็น 3 เท่าที่ศูนย์อาหาร
พร้อมโปรโมชันพิเศษ ที่จะหมุนเวียนเข้ามาในช่วงสุดสัปดาห์ด้วย
รวมมูลค่าคะแนนสะสมที่ให้กับสมาชิกมากกว่า 90 ล้านบาท
ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจและดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น
หลังจากที่ศึกษาพฤติกรรมลูกค้าและพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับการสะสมคะแนนและนำไปใช้ทั้งแลกเปลี่ยนเป็นคูปองเงินสด คูปองส่วนลด ส่งผลให้คะแนนสะสมที่ถูกใช้ไปมีมูลค่ารวมแล้วกว่า
3,000 ล้านบาทในระยะเวลาเพียง 2 ปีที่คลับการ์ดเปิดให้บริการ
"ลอยัลตี โปรแกรม
(การสร้างความจงรักภักดีให้เกิดกับลูกค้า) ถือเป็นกลยุทธ์ที่บริษัทให้ความสำคัญมาก
เพราะปัจจุบันบริษัทมีสมาชิกคลับการ์ดกว่า 8 ล้านราย และจะเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
หลังจากที่มีการจัดระบบอำนวยความสะดวก ให้สามารถสมัครเป็นสมาชิกได้ในเวลาเพียง 2
นาที และการเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่สมาชิกจะได้รับ ซึ่งเป็นสิ่งจูงใจที่สำคัญ
อย่างไรก็ดี การแจกโบนัสเพิ่มให้กับสมาชิกครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้น และในอนาคตจะมีแคมเปญดี
ๆ ออกมาให้กับสมาชิกคลับการ์ดอย่างต่อเนื่องด้วย" นายแคมพ์กล่าวและว่า
แต่ละเดือนมีลูกค้าหมุนเวียนเข้ามาใช้บริการในเทสโก้
โลตัส เฉลี่ย 35 ล้านคน โดยเป็นสมาชิกผู้ถือบัตรคลับการ์ด 75%
แต่เป้าหมายของเราคือ ทำอย่างไรให้ลูกค้าอีก 25% ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกบัตรคลับการ์ด
หันมาเป็นสมาชิกของเรา
ส่วนการตั้งคณะอนุกรรมการเชี่ยวชาญเฉพาะเรื่อง
เพื่อพิจารณากรณีที่บิ๊กซี ร้องเรียนเทสโก้ โลตัส
กรณีออกโฆษณาให้ผู้บริโภคที่ถือบัตรสมาชิกคาร์ฟูร์ไอวิช
แล้วส่งข้อความผ่านทางโทรศัพท์มือถือ (เอสเอ็มเอส) ไปที่เทสโก้ โลตัส
เพื่อรับบัตรกำนัล และยังให้พนักงานไปยืนแจกแผ่นพับโฆษณา
ในบริเวณใกล้สถานประกอบการของบิ๊กซีหลายสาขา สร้างความเสียหายให้แก่บิ๊กซี
ในฐานะผู้เข้าซื้อกิจการของบริษัท เซ็นคาร์ จำกัด
เจ้าของกิจการห้างคาร์ฟูร์ในประเทศไทย ตามมติที่ประชุมของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าในวันที่
17 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมีนายกิตติรัตน์
ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (ตำแหน่งในขณะนั้น)
เป็นประธานคณะกรรมการ นั้น แหล่งข่าวระดับสูงในวงการค้าปลีกกล่าวว่า คาดว่าจะยืดเยื้อออกไปอีก
และมีการหยิบมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง หลังจากที่มีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งได้แต่งตั้งนายบุญทรง เตริยาภิรมย์
มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่
ต่อความคืบหน้าเรื่องนี้
นายกุฎาธารกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมกับทางบิ๊กซี
และบิ๊กซีเองก็เชื่อว่า ข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ
ที่จัดส่งให้กับคณะกรรมการครบถ้วนและเพียงพอแล้ว แต่หากคณะกรรมการต้องการข้อมูล
หรือเรียกสอบสวนเพิ่มเติม ก็พร้อมตลอดเวลา
No comments:
Post a Comment