Pages

Monday, January 23, 2012

CENTRAL ผ่าวิกฤตยูโรเปิดห้างอิตาลี


มั่นใจวิกฤติยูโร - กำลังซื้อนักท่องเที่ยวไม่กระทบ เซ็นทรัล รีเทล เดินหน้าทุ่ม 4,200 ล้านบาท ขยาย 2 สาขาพร้อมยกเครื่อง "ลา รีนาเซนเต" ใน 4 เมืองใหญ่หวังก้าวขึ้นท็อป 5 ห้างชั้นนำโลก เผยหลังเซ็นทรัลเทกโอเวอร์ ดันยอดขายสูงสุดในรอบ 150 ปี

นายวิตโตริโอ  ราดิเช  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านกลยุทธ์ บริษัท ลา รีนาเซนเต จำกัด ผู้บริหารห้างสรรพสินค้าลา รีนาเซนเต ประเทศอิตาลี ภายใต้การดูแลของบริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ซีอาร์ซี) ในเครือเซ็นทรัล กรุ๊ป  เปิดเผยว่า นโยบายของบริษัทมุ่งเน้นการขยายรุกธุรกิจค้าปลีกในอิตาลีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะใน 4 เมืองใหญ่ ได้แก่ โรม  มิลาน  เวนิซ  และฟลอเรนซ์  ทั้งนี้บริษัทเตรียมงบลงทุนกว่า 100 ล้านยูโร หรือประมาณ 4,200 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน 42 บาทต่อยูโร) ในการขยายสาขาเพิ่มอีก 2 แห่ง คือที่เวนิซ และมิลาน รวมทั้งปรับปรุงสาขาเดิมที่มีอยู่ทั้ง 10 แห่ง ภายในระยะเวลา 5 ปีนับจากนี้ และบริษัทตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นติดอันดับ 1 ใน 5 ห้างสรรพสินค้าชั้นนำของโลก



"วิกฤติในประเทศยุโรปที่เกิดขึ้นในขณะนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของชาวยุโรปมากนัก แม้ในเบื้องต้นจะทำให้ผู้บริโภคชาวอิตาเลียนและนักท่องเที่ยวตื่นตระหนก และทำให้ยอดขายลดลง แต่ก็เกิดขึ้นเพียง 1 เดือนเท่านั้น แต่ด้วยพฤติกรรมของคนอิตาเลียนที่คุ้นเคยกับชีวิตที่หรูหรา  สะดวกสบาย ทำให้ปรับตัวกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม อีกทั้งรัฐบาลเองมีมาตรการออกมาแก้ปัญหาได้ดี ทำให้เชื่อว่าเศรษฐกิจจะกลับมาแข็งแกร่งขึ้นและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง"

ทั้งนี้กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการ 5 อันดับแรก ได้แก่รัสเซีย  จีน  บราซิล  ตุรกี และญี่ปุ่น นอกจากนี้กลุ่มนักท่องเที่ยวจากจีน  ไต้หวัน และสิงคโปร์ ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ยอดใช้จ่ายในการซื้อสินค้า 3 อันดับแรก ได้แก่ นักท่องเที่ยวจากซาอุดีอาระเบีย มียอดใช้จ่าย 902 ยูโรต่อบิล รองลงมาได้แก่ ไต้หวัน 798 ยูโรต่อบิล และจีน 759 ยูโรต่อบิล

ด้านแผนการขยายสาขาใหม่ จะมีขึ้นแห่งแรกที่เมืองเวนิซ  ซึ่งบริษัทเตรียมใช้งบลงทุน 40 ล้านยูโร หรือประมาณ 1,680 ล้านบาท ในการปรับปรุงอาคารสำนักงานเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 900 ปี ให้เป็นห้างสรรพสินค้าลา รีนาเซนเต แห่งใหม่ด้วยสัญญาเช่า 22-24 ปี  แบ่งเป็นการลงทุนเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ 25 ล้านยูโรป และอีก 15 ล้านยูโร จะถูกนำไปปรับแต่งให้เป็นห้างสรรพสินค้า โดยจะเริ่มดำเนินการในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 และแล้วเสร็จในปี 2557

"กลุ่มลูกค้าของลา รีนาเซนเต กว่า 30% เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ การเลือกเมืองเวนิซ เป็นที่ตั้งของห้าง สาขาใหม่ เพราะเป็นเมืองที่มีศักยภาพและเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก และคาดว่าในปี 2563 จะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางเข้ามาไม่ต่ำกว่า 30 ล้านคน"
อย่างไรก็ดี หลังจากที่ซีอาร์ซี เข้าซื้อกิจการของห้างลา รีนาเซนเต เมื่อปีก่อนทำให้บริษัทมีความเข้มแข็งมากขึ้น และในอนาคตจะผนึกความร่วมมือมากขึ้นทั้งด้านโลจิสติกส์  ซัพพลายเออร์  เพื่อให้ได้มาตรฐานระดับโลกตามที่ซีอาร์ซีเป็นอยู่ โดยเฉพาะด้านการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ซึ่งซีอาร์ซีมีระบบการให้บริการและการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ที่โดดเด่น และหากลา รีนาเซนเต สามารถนำระบบดังกล่าวไปให้บริการ ก็จะช่วยเสริมทำให้ก้าวสู่ห้างท็อปไฟว์ ได้เร็วขึ้น

สำหรับผลประกอบการของห้างสรรพสินค้าลา รีนาเซนเต ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าที่จะมีอัตราการเติบโต 10%  จากปีก่อนที่มียอดขายราว 430 ล้านยูโร  สูงสุดตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจ และมีอัตราการเติบโต 6%

อนึ่ง "ลา รีนาเซนเต" เป็นห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ของอิตาลี มีอายุกว่า 150 ปี ปัจจุบันมีสาขารวม 11 แห่ง อาทิ มิลาน โรม ฟลอเรนซ์ ตูริน เจนัว กาลยารี ปาแลร์โม  ฯลฯ มีพนักงานกว่า 20,000 คน เป็นห้างสรรพสินค้าหรู จำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำระดับโลกอาทิ Louis Vuitton , Gucci , Prada ฯลฯ  มีลา รีนาเซนเต ดูโอโม มิลาน เป็นแฟล็กชิพ สโตร์ โดยเซ็นทรัลรีเทล เข้าซื้อกิจการด้วยเงินลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาทหรือราว 260 ล้านยูโร เมื่อเดือนพฤษภาคม 2554 และกลายเป็นห้างสรรพสินค้าอันดับที่ 4 ของเครือเซ็นทรัล ต่อจากเซ็นทรัล เซน และโรบินสัน

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts with Thumbnails