ปีนี้ตลาดโดนัทดูจะน่าติดตาม
ตั้งแต่ต้นปี เพราะทุกแบรนด์ต่างมีความเคลื่อนไหวที่ส่งผลต่อตลาดและการแข่งขัน
ทั้งสิ้น เริ่มจาก "ดังกิ้นโดนัท"
ที่มีการเปลี่ยนมือเจ้าของผู้บริหารแฟรนไชส์ดังกิ้นโดนัทในไทย
ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา หลังจากบริษัท ทรัพย์ศรีไทย จำกัด (มหาชน)
ผู้บริหารคลังสินค้าและโลจิสติกส์รายใหญ่ใช้งบฯ 1,320 ล้านบาท ซื้อหุ้นของบริษัท
มัดแมน จำกัด บริษัท เอบีพี คาเฟ (ประเทศไทย) และบริษัท โกลเด้น โดนัท (ประเทศไทย)
จากกองทุนจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
แม้ในแง่การบริหารจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทีม ผู้บริหารเดิมแต่อย่างใด
แต่การเข้ามาอยู่ภายใต้บริษัทยักษ์ใหญ่ ที่มีความพร้อมด้านกระแสเงินสดอย่างเต็มที่
ทั้งยังมีนโยบายรุกขยายตัวอย่างก้าวกระโดด
ทำให้ดังกิ้นโดนัทในปีนี้ทวีความน่ากลัวมากขึ้นกว่าเดิม
"อุษณีย์ มหากิจศิริ
ลีโอณีโอ" ประธานกรรมการ บริษัท เคดีเอ็น จำกัด ผู้นำเข้า
แบรนด์ขนมโดนัทชื่อดัง คริสปี้ครีม จากประเทศสหรัฐ อเมริกา ชี้ว่า
ภาพรวมของตลาดโดนัทในไทยยังเติบโตทุกปี ปีละ 10% จาก มูลค่าตลาด 2,000 ล้านบาท
ซึ่งคริสปี้ครีมก็หวังว่าจะโตอย่างน้อย 10% เท่ากับอัตราการเติบโตของตลาด
สำหรับคู่แข่งที่น่ากลัว
เธอมองว่าคงจะเป็นดังกิ้นโดนัท เพราะมีการเปลี่ยนผู้บริหาร ปรับภาพลักษณ์
ที่ทำให้การแข่งขันในปีนี้รุนแรงขึ้น
โดยคริสปี้ครีม
กลยุทธ์ในปีนี้ก็ยังเดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่อง เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
เพราะปัจจุบันในแง่ตัวสาขายังถือว่าน้อยอยู่
"ปีหนึ่ง ๆ
คริสปี้ครีมขยายไม่เยอะ เพราะต้องควบคุมคุณภาพ เราเปิดมา 2 ปี มีทั้งสิ้น 3 สาขา
ก็ถือว่าค่อนข้างน้อย เรียกว่าขยายตัวช้า จริง ๆ เดิมวาง
เป้าการขยายสาขาไว้มากกว่านี้ แต่เมื่อเจอเหตุการณ์ที่ไม่ปกติก็ทำให้ต้องเลื่อน"
เจ้าของแฟรนไชส์คริสปี้ครีมในไทยกล่าวเพิ่มเติมว่า
ปลายปีที่แล้วถือว่ากระทบมาก โดยเฉพาะเดือนพฤศจิกายนหนัก ค่าใช้จ่ายเท่าเดิม
แต่รายได้ลดลด สาขา 3 ที่โรบินสัน พระราม 9 ก็ต้องเลื่อนเปิดมาเดือนธันวาคม
จากเดิมต้องเปิดพฤศจิกายน ทำให้รายได้ลดลง หากไม่เกิดเหตุการณ์วิกฤตน้ำท่วม
ในแง่ของตัวเลข ปีที่แล้วน่าจะดีกว่านี้ แต่โดยภาพรวมผลประกอบการ
ก็ไม่ถือว่าแย่มากนัก"
สำหรับปีนี้
คริสปีครีมวางแผนเปิดสาขาที่ 4 ที่เดอะมอลล์ บางกะปิ เน้นกลุ่มไลฟ์สไตล์ ครอบครัว
นักศึกษา ซึ่งจะเปิดตัวในอีก 2 เดือนข้างหน้า อยู่ในช่วงไตรมาสแรก
ขณะที่ทั้งปีนี้รวมแล้ว คาดว่าเปิดสาขาใหม่ได้ 2-3 สาขา
นอกจากดังกิ้นโดนัทและคริสปี้ครีม
แบรนด์ยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกาทั้งคู่ ต้องอย่าลืมเบอร์ 1
ตลาดโดนัทตัวจริงเสียงจริงปัจจุบัน "มิสเตอร์โดนัท"
ผู้นำอย่างชัดเจนในแง่ของจำนวนสาขา อยู่ที่ประมาณ 270-280 สาขา
ด้วยกลยุทธ์ที่วางเป็น "แมสแบรนด์"
เพื่อขยายเข้าถึงผู้บริโภคให้ครอบคลุมมากที่สุด พร้อมชูจุดขายโดนัท สไตล์ญี่ปุ่น
เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งอย่างชัดเจน
และปีนี้มิสเตอร์โดนัท
ภายใต้การบริหารของกลุ่มซีอาร์จี ในเครือเซ็นทรัล ก็ยังเดินหน้าขยายสาขาอย่างเต็มที่
หากเทียบกันแล้ว
ดังกิ้นโดนัทยังมีจำนวนสาขาน้อยกว่ามิสเตอร์ฯอยู่พอสมควร ปัจจุบันที่ประมาณ 200
สาขา แต่หากดูจากตำแหน่งทางการตลาดแล้ว
ดังกิ้นโดนัทจะขยับขึ้นไปเล่นในตลาดกลาง-บนมากขึ้น พร้อมเพิ่มจุดขายในเรื่องของ
"กาแฟคั่วบด" ที่เริ่มรุกตลาดอย่างหนักตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
ส่วนแบรนด์ที่ประมาทไม่ได้เช่นกัน
คือ "แด็ดดี้โด" พรีเมี่ยมโดนัท ที่มาแรงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
งานนี้มาพร้อมจุดขายในเรื่องตัวแป้งโดนัทสูตร "ซีโร่แกรมส์ทรานส์แฟต"
ที่ดีต่อสุขภาพ รวมถึงพรีเมี่ยมโดนัทน้องใหม่อย่าง "Bapple
Donuts & Coffee" จากมาเลเซีย
ที่ออกมาในแนวโดนัทสไตล์อเมริกันอีกเช่นกัน
การเดินหน้าขยายสาขาและแข่งขันในการชูจุดแข็งของแบรนด์เพื่อมัดใจผู้บริโภค
เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง
จะเป็นกลยุทธ์ของเชนโดนัททุกค่ายในปีนี้
No comments:
Post a Comment