นอกจากเจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือซีพีเอฟ จะให้ความสำคัญในเรื่องของการผลิต "อาหาร" เพื่อป้อนตลาดทั้งในและต่างประเทศแล้ว ซีพีเอฟยังให้ น้ำหนักกับการเพิ่มช่องทางและโอกาสทางธุรกิจด้วยการใช้ระบบแฟรนไชส์ในการขับเคลื่อนธุรกิจในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจและสร้างรายได้ให้กับบริษัทเพิ่มอีกทางหนึ่ง และขณะนี้แม้ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโดยรวมอาจจะไม่เอื้อนัก แต่ธุรกิจในเครือยักษ์ค่ายนี้ก็ยังเดินหน้าขยายสาขาแฟรนไชส์เพิ่มอย่างต่อเนื่อง
เชสเตอร์ กริลล์ โหมบุก ตจว.
นายกัณฑพัชร์ เชิดเพ็ชรัตน์ ผู้จัดการสำนักพัฒนาธุรกิจ บริษัท เชสเตอร์ฟู้ด จำกัด บริษัทในเครือซีพี ผู้บริหารร้านเชสเตอร์กริลล์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปัจจุบันบริษัทมีร้าน 163 สาขา เป็นร้านของแฟรนไชส์ 100 สาขา หรือ 60% และอีก 40% บริษัทลงทุนเอง จากนี้จะมุ่งเปิดสาขาผ่านรูปแบบแฟรนไชส์มากขึ้น โดยเฉพาะในต่างจังหวัด คาดว่าปีนี้สัดส่วนแฟรนไชส์ จะเพิ่มเป็น 70% ปีนี้มีแผนจะเปิดสาขาใหม่ทั้งลงทุนเองและแฟรนไชส์ไม่ต่ำกว่า 25 สาขา และรีโนเวตสาขาเดิมอีก 8 สาขา ด้วยงบฯ 120 ล้านบาท และใช้งบฯการตลาด 70 ล้านบาท และตั้งเป้าโต 15-20% จากปีที่ผ่านมาโต 15%
ที่ผ่านมามีผู้สนใจติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์ต่อเนื่อง และบริษัทวางแผนเปิดสาขาแฟรนไชส์ไม่ต่ำกว่าปีละ 20 สาขา ปัจจุบันมีโลเกชั่นที่พร้อมเปิดแฟรนไชส์ถึง 40 สาขา
จุดเด่นแฟรนไชส์ของเชสเตอร์กริลล์ คือ ลงทุนน้อยเมื่อเทียบกับแฟรนไชส์ร้านอาหาร โดยใช้งบฯ 4-5 ล้านบาทต่อสาขา ขนาด 100-150 ตร.ม. ใช้เวลาคืนทุนประมาณ 4 ปี สัญญาแฟรนไชส์ 10 ปี มีค่าแรกเข้า 6 แสนบาท ค่ารอยัลตี้ฟี 4% และมาร์เก็ตติ้งฟี 3%
สิ่งที่บริษัทจะทำอย่างเข้มข้นในปีนี้ คือ การวิเคราะห์โลเกชั่นที่จะเปิดร้าน ของแฟรนไชส์ให้ละเอียดขึ้น โดย ต่างจังหวัดที่จะเปิดสาขาจะกระจายไปทุกภาค ไม่เพียงหัวเมืองหลัก แต่จะเข้าไปยังหัวเมืองรอง โอกาสปีนี้มาจากค่ายค้าปลีกรายใหญ่ ทั้งเซ็นทรัล, บิ๊กซี, โลตัส ฯลฯ ที่จะเปิดสาขาในต่างจังหวัดมากขึ้น
ปัจจุบันเชสเตอร์กริลล์เปิดสาขาอยู่มากกว่า 20 จังหวัด และปีนี้จะเปิดเพิ่มที่เชียงใหม่ ภูเก็ต พิษณุโลก สุราษฎร์ธานี อุดรธานี ขอนแก่น เชียงราย ฯลฯ และปลายไตรมาสที่ 3 จะมีการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ เพื่อให้แบรนด์มีความทันสมัยและดึงดูดคนรุ่นใหม่มากขึ้น ทั้งดีไซน์ การตกแต่งในร้าน การเพิ่มมุมโซฟา หรือไว-ไฟ ของทรู เครื่องแต่งกายพนักงาน
"เพื่อให้แบรนด์มีความเป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น นอกจากเข้ามาเพื่อทานอาหาร แต่ยังเป็นแหล่งนัดพบ นั่งดื่มกาแฟ ด้วยบรรยากาศที่สบาย ๆ เป็นกันเอง รวมทั้งการเพิ่มเมนูอาหารทานเล่น หรือสแน็กมากขึ้น จากเดิมที่เน้นอาหารจานหลัก เพื่อดึงคนรุ่นใหม่เข้าร้านมากขึ้น ปีนี้จะเปิดเมนูใหม่ 12 เมนู เป็นอาหารจานหลัก 6 เมนู และสแน็ก 6 เมนู"
"ห้าดาว" ปูพรมผุดพันจุด
ด้านแบรนด์ห้าดาวที่ปัจจุบันมีธุรกิจแฟรนไชส์ในความดูแลถึง 6 ธุรกิจ และมีจุดขายมากกว่า 3,600 แห่งทั่วประเทศ ทั้งไก่ย่าง ไก่ทอด บะหมี่เกี๊ยว ข้าวมันไก่ เรดดี้มีล และล่าสุดที่เพิ่งเริ่มทดลองเปิดให้บริการ คือ ไส้กรอกโรลเลอร์กริลล์ เบื้องต้นจะเปิดจุดขายประมาณ 10 แห่ง ในกรุงเทพฯ และตั้งเป้าจะเปิดครบ 100 สาขา ภายในสิ้นปี และเน้นขายราคาเริ่มต้นที่ 10-15 บาท
นายสถิต สังขนฤบดี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพีเอฟ ผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด ในเครือซีพีเอฟ ผู้ดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ไก่ย่าง ไก่ทอด ฯลฯ "ห้าดาว" กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า จากปัจจัยในแง่ของกำลังซื้อและภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ดีขึ้น แต่บริษัทมองว่าเป?นโอกาสที่จะขยายธุรกิจภายใต้แบรนด์ห้าดาว ปีนี้ตั้งเป้าเปิดแฟรนไชส์เพิ่มทุกธุรกิจไม่ต่ำกว่า 850-900 จุด และจะทำให้ภายในสิ้นปีนี้ห้าดาวมีจุดขายทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 4,600 แห่งทั่วประเทศ
ด้วยงบฯการตลาดไม่ต่ำกว่า 130-150 ล้านบาท หรือเพิ่มประมาณ 10% จากปีที่ผ่านมา โดยจะเน้นการโฆษณาผ่านสื่อต่าง ๆ ในการสื่อถึงธุรกิจแฟรนไชส์ เพื่อกระตุ้นจำนวนแฟรนไชซีเข้าร่วมธุรกิจมากขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีแคมเปญกระตุ้นเป็นครั้งคราว เพื่อจูงใจเถ้าแก่ใหม่ อาทิ ส่วนลด 5,000 บาท
"หลังจากที่ได้เริ่มออนแอร์โฆษณาทางทีวีไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ พบว่าได้รับการตอบรับจากผู้ที่ต้องการจะเป็นเจ้าของธุรกิจหรือมีอาชีพส่วนตัวเป็นอย่างดี และแม้ว่าต้นทุนต่าง ๆ จะปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่การที่บริษัทมีวัตถุดิบมีโรงงาน จึงยังไม่มีแผนจะปรับราคา ขณะที่ผู้ประกอบการอื่น ๆ อาจจะต้องมีการปรับราคา หรือส่วนรายเล็กอาจจะไม่สามารถแบกรับต้นทุนได้และอาจต้องปิดกิจการไป จึงเป็นโอกาสที่เราจะเพิ่มแฟรนไชส์ซึ่งปีนี้แบรนด์ห้าดาวตั้งเป้ารายได้ไว้กว่า 4,400 ล้านบาท จาก 3,800 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา"
ซีพี เฟรชมาร์ท ดีเดย์ปลายปี
นายจักรชัย นุชประยูร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพีเอฟเทรดดิ้ง จำกัด บริษัทในเครือซีพีเอฟ ผู้บริหารร้าน "ซีพี เฟรชมาร์ท" กล่าวในเรื่องนี้ว่า หลังจากที่ได้ตั้งทีมแฟรนไชส์ขึ้นมารับผิดชอบการขยายสาขาในรูปแบบของแฟรนไชส์โดยเฉพาะเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งศึกษาในรายละเอียดโดยเฉพาะข้อกฎหมาย และคาดว่าจะเริ่มเห็นสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์แห่งแรกได้ภายในปลายปีนี้ ซึ่งการขยายสาขาด้วยระบบแฟรนไชส์จะช่วยให้การขยายธุรกิจสามารถทำได้เร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้บริษัทก็จะลงทุนเพื่อเปิดสาขาใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่องและหลากหลายรูปแบบและทำเล รวมถึงปั๊มน้ำมัน เพื่อให้ลูกค้าหาซื้อได้ง่ายและเป็นการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ ๆ ควบคู่กันนี้ บริษัทก็จะเร่งพัฒนาในเรื่องของบริการ การจัดส่ง สินค้าหรือโลจิสติกส์ให้มีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสินค้าในร้านหลัก ๆ เป็นโฟรเซ่นฟู้ด ซึ่งต้องมีการรักษาอุณหภูมิอย่างดี เพื่อรองรับการขยายแฟรนไชส์ในอนาคต
นายจักรชัยกล่าวว่า สำหรับร้านแฟรนไชส์ โดยหลักแล้วบริษัทจะนำสาขาที่มีผลประกอบการที่ดีที่สุดมาขายให้กับผู้ที่สนใจ เพื่อไม่ให้แฟรนไชซีมีความเสี่ยง ขณะเดียวกันก็จะมีการให้คำแนะนำคำปรึกษาต่าง ๆ กับผู้ที่ต้องการจะลงทุนด้วย ทั้งเรื่องไฟแนนซ์ การบริหารการจัดการ รวมทั้งการสนับสนุนหรือการส่งเสริมการขายจากบริษัทด้วย
"ปีนี้เราจะเปิดสาขาเพิ่มอีกประมาณ 400 แห่ง จากปีที่ผ่านมาที่มีอยู่ราว ๆ 600 แห่ง ซึ่งจะทำให้ปีนี้บริษัทมีรายได้รวมกว่า 5,000 ล้านบาท จาก 4,000 ล้านบาท เมื่อปีที่ผ่านมา"
No comments:
Post a Comment