นายวิทูร ศิลาอ่อน รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธุรกิจอาหารในประเทศ บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) |
เอสแอนด์พีเดินหน้ารีแบรนดิ้งครั้งใหญ่ในรอบ 15 ปี เริ่มเฟสแรกปรับโลโก้ดีไซน์ สาขา-แพ็กเกจจิ้งสินค้า มุ่งสู่ความทันสมัย พร้อมรีโพซิชันนิ่งลบภาพอาหารไทย ปั้นอิมเมจ อินเตอร์เนชั่นนอลคาเฟ่ เผยแผนต้นปีหน้าเตรียมเปิดตัวร้านอาหารญี่ปุ่นหวังขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ พร้อมเล็งลุยอาหารจานด่วน มั่นใจสิ้นปีโตตามเป้า 13%
เอสแอนด์พีแบรนด์เก่าแก่ของไทยที่วันนี้มีทีมงานเจเนอเรชั่นใหม่ ๆ เข้ามาสานต่อธุรกิจ พร้อมกับภารกิจปรับภาพลักษณ์ แบรนด์ให้ทันสมัย ก้าวสู่ความเป็นอินเตอร์แบรนด์มากขึ้น รวมถึงพัฒนาคอนเซ็ปต์ร้านใหม่ ๆ แบรนด์ใหม่ เพื่อขยายฐานลูกค้าโดยไม่จำกัดอยู่แค่เพียง ′เอสแอนด์พี′ กับฐานลูกค้าที่เคยมีอยู่เท่านั้น
รีแบรนด์ใหญ่ในรอบ 15 ปี
นายวิทูร ศิลาอ่อน รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธุรกิจอาหารในประเทศ บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เปิดเผย ′ประชาชาติธุรกิจ′ว่า ปีนี้เป็นปีที่มีการลงทุนด้านการตลาดมากขึ้น เพื่อสร้างแบรนด์โดยใช้งบฯหลายสิบล้านบาทเพื่อ รีแบรนดิ้ง เปลี่ยนโลโก้ ดีไซน์ใหม่ เพื่อทำให้แบรนด์เอสแอนด์พีมีความทันสมัยและมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นในมุมมองของผู้บริโภค โดยเริ่มใช้โลโก้ดีไซน์ใหม่ในสื่อโฆษณาต่าง ๆ ไปตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ส่วนป้ายร้านตามสาขาต่าง ๆ จะทยอยปรับ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นใน 2 ปี
ทั้งนี้ ถือเป็นการปรับครั้งใหญ่ในรอบ 15 ปี ปัจจุบันเอสแอนด์พีมีอายุครบ 37 ปี เป็นการปรับ total experience ของผู้บริโภคที่มีต่อเอสแอนด์พี ทั้งบรรยากาศร้าน การจัดวางสินค้า ดีไซน์ แพ็กเกจจิ้ง ต้องไปในทิศทางเดียวกัน หลังจากนี้บริษัทจะมีไกด์หรือทิศทางบิวต์แบรนด์ชัดเจน รวมถึงการบริการที่จากนี้ไปจะเน้นลงทุนเรื่องเทรนนิ่งมากขึ้น
"ขณะนี้การปรับยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น เริ่มจากโลโก้ไปจนถึงแพ็กเกจจิ้ง ตอนนี้จะเห็นในควิกมีล อาหารพร้อมทานของเอสแอนด์พีที่เป็นแพ็กเกจจิ้งใหม่ หลังจากนี้ก็จะทยอยปรับไปทุกตัวสินค้าภายใต้แบรนด์เอสแอนด์พี โดยเฉพาะสินค้าที่วางจำหน่ายในค้าปลีกต่าง ๆ ซึ่งมีการแข่งขันสูงมาก ที่ผ่านมาการดีไซน์ค่อนข้างสะเปะสะปะ อาหารแบบหนึ่ง คุกกี้แบบหนึ่ง ไส้กรอกอีกแบบ ไม่กลมเกลียวกัน ทำให้ผู้บริโภคหาสินค้าเอสแอนด์พียาก แต่หลังจากนี้เห็นปุ๊บจะรู้เลย คาดว่ากลางปีหน้าจะสามารถเปลี่ยนได้ครบทุกสินค้า"
ปรับโพซิชันนิ่งสู่อินเตอร์ฯคาเฟ่
นายวิทูรยังกล่าวอีกว่า บริษัทจะปรับ แบรนด์โพซิชันนิ่งของเอสแอนด์ดีไปสู่ ′อินเตอร์เนชั่นนอลคาเฟ่′ มากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแค่ร้านอาหารไทยซึ่งเป็นภาพลักษณ์ของแบรนด์เพื่อสร้างความแตกต่าง เพราะอาหารไทยผู้บริโภคสามารถเลือกรับประทานที่ไหนก็ได้ ที่ผ่านมาจึงได้ปรับในส่วนของเมนู โดยลดเมนูอาหารไทยเหลือเฉพาะที่เป็นไฮไลต์ และเพิ่มที่เป็นอินเตอร์ฯเมนูเด็ด ๆ เข้ามาเสริม
"เราต้องการให้รับรู้ว่า เอสแอนด์พีมีเมนูที่หลากหลาย มีทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการ อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของการรีแบรนดิ้งให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เราต้องการกลับมาเน้นด้านอาหารมากขึ้น เพื่อเสริมภาพลักษณ์ด้านนี้ให้แข็งแกร่งไม่แพ้เบเกอรี่"
ลุยโปรเจ็กต์ใหม่ผุดร้านอาหารญี่ปุ่น
นายวิทูรกล่าวถึงแผนในปีหน้าว่า จะเปิดร้านอาหารแบรนด์ใหม่สาขาแรกในเดือนมกราคม จากเดิมวางแผนจะเปิดในช่วงปลายปีนี้ เป็นแบรนด์ใหม่ที่แยกออกไปจากเอสแอนด์พี และเป็นแบรนด์ที่พัฒนาขึ้นมาเอง เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ ใช้เชฟจากญี่ปุ่น แม้จะเป็นตลาดที่มีคู่แข่งสูงมาก แต่ก็ยังมีช่องว่างที่จะขยายได้อีกโดยจะเน้นเรื่องคุณภาพสินค้าและรสชาติที่อร่อย คาดว่าปีหน้าจะเปิด 2-3 สาขา
"ปัจจุบันเอสแอนด์พีมีร้านอาหารและ เบเกอรี่เป็นหลักอยู่แล้ว แต่เราก็พยายามดูว่าจุดไหนจะเติมเต็มพอร์ตโฟลิโอตัวเองให้แข็งแรงขึ้นได้ ตอนนี้เรามองแบบซีเรียสขึ้น อาหารญี่ปุ่นเป็นอะไรที่คนส่วนใหญ่ชอบอยู่แล้ว อย่างน้อยคนลองแน่ ๆ"
หลังจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าพัฒนาแบรนด์หรือคอนเซ็ปต์ใหม่ ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ ๆ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างคิดโมเดลร้านอาหารเอสแอนด์พีที่เน้นความรวดเร็ว เป็นโมเดลอาหารจานด่วน (quick service restaurant) ตามไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป มีความเร่งรีบมากขึ้น
ปรับแคเทอริ่งอีกรอบ-รีวิวแผน ตจว.
สำหรับแผนการขยายต่างจังหวัด ปีนี้เป็นปีแห่งการทบทวนแผน หลังจากเริ่มขยายมากขึ้นเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหลายจังหวัดไม่เป็นไปตามเป้าและได้ปิดบางสาขาลง จึงต้องกลับมาประเมินตลาดอีกครั้งหนึ่งทั้งเรื่องจำนวนสาขาที่ขยายแต่ละจังหวัด ทำเล และความพร้อมของผู้บริโภคในด้านกำลังซื้อ
จากนี้จึงเน้นขยายในรูปแบบเบเกอรี่ช็อปมากกว่า เพราะผู้บริโภคต่างจังหวัดสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่า ตลอดปีนี้คาดว่าจะเปิด 40 สาขา เป็นต่างจังหวัด 27 สาขา และกรุงเทพฯ 13 สาขา แต่ปีหน้าจะเพิ่มสัดส่วนกรุงเทพฯมากขึ้น
นายวิทูรกล่าวอีกว่า ขณะนี้เป็นช่วงวางแผนใหม่สำหรับรุกในปีต่อ ๆ ไป อยู่ระหว่างจัดกลุ่มธุรกิจของเอสแอนด์พี อาทิ ธุรกิจจัดเลี้ยง ภายใต้แบรนด์ "คาเทอร์แมน" ก็จะปรับให้เข้ามาอิงกับแบรนด์เอสแอนด์พีมากขึ้น เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับหน่วยธุรกิจนี้ จากแบรนด์โพซิชันนิ่งใหม่ของเอสแอนด์พีที่จะปรับไปสู่อินเตอร์ เนชั่นนอลคาเฟ่ จะทำให้คาเทอร์แมนสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้หลากหลาย
"เดิม 2-3 ปีก่อนเราพยายามแยกคาเทอร์แมนออกเป็นหน่วยจัดเลี้ยงสำหรับทุกแบรนด์ร้านอาหารในเครือเอสแอนด์พี อาทิ วานิลลา, พาทิโอ ฯลฯ แต่พอแยกคาเทอร์แมนออกไปต้องอาศัยแรงโปรโมตมากพอสมควร จึงตัดสินใจเอากลับมาลิงก์กับแบรนด์เอสแอนด์พีจะง่ายกว่า ปัจจุบันสัดส่วนตรงนี้ยังเล็กมาก โดยมีแผนเจาะ อีเวนต์พุ่งเป้าหมายกลุ่มมีเดียมถึงไฮเอนด์"
อานิสงส์คนทานข้าวนอกบ้านเพิ่ม
สำหรับพฤติกรรมผู้บริโภค ปีนี้เห็นชัดเจนว่ามีการรับประทานข้าวนอกบ้านมากขึ้น แตกต่างจากปีก่อนที่เน้นทำอาหารรับประทานเองในบ้าน และบริโภคกลุ่มฟาสต์ฟู้ดมากขึ้น จากเศรษฐกิจที่ไม่ดีทำให้ ผู้บริโภคประหยัดค่าใช้จ่าย สำหรับปีนี้เชื่อว่าเกิดจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับคืนมา ทำให้กล้าจับจ่ายมากยิ่งขึ้น ผลจากพฤติกรรมดังกล่าวทำให้ปีนี้เป็นปีแรกที่กลุ่มอาหารเอสแอนด์พีเติบโตเร็วกว่าเบเกอรี่
ส่วนผลประกอบการช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ มีรายได้เติบโต 13% ขณะที่กำไรเพิ่มขึ้นถึง 56% เทียบจากปีก่อน สาเหตุจากบริษัทดำเนินนโยบายการบริหารจัดการด้านคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการรวมศูนย์จัดซื้อซึ่งช่วยลดต้นทุนในส่วนต่าง ๆ ลง ขณะที่สิ้นปีนี้คาดว่าจะเติบโต 13% ตามเป้าที่วางไว้
No comments:
Post a Comment