อมรพันธุ์ ผุด AMORINI COMMUNITY MALL

เจเนอเรชัน 2 "อมรพันธุ์ กรุ๊ป"  เบนเข็มรุกคอมมิวนิตี มอลล์  ทุ่ม 350 ล้านบาท ผุดโครงการ"อมอรินี่" บนพื้นที่กว่า 6 ไร่

ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Boutique Lifestyle Mall" ดักขาช็อปรุ่นใหม่ย่านรามอินทรา มั่นใจกำลังซื้อสูงจากหมู่บ้าน คอนโดฯ มหาวิทยาลัย  หลังคว้า 2 พันธมิตร"ท็อปส์ มาร์เก็ต - แมคโดนัลด์"  เป็นแม็กเนตหลัก  เล็งเปิดให้บริการก.พ. 54  พร้อมรีโนเวตตลาดอมรพันธุ์ สู่ภาพลักษณ์ใหม่ สไตล์โมเดิร์น  

นางสาวอารยา  โตวชิรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร่วมกับนางอภิญญา  วิศวพลานนท์  กรรมการผู้จัดการ  บริษัท เอ เอ็ม อาร์ ดีเวล

ลอปเมนท์ จำกัด  ในเครืออมรพันธุ์ กรุ๊ป ผู้บริหารโครงการอมอรินี่ (Amorini)  เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า หลังจากประสบความสำเร็จจากการบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ภายใต้ชื่อ สิริยา  สวนสยาม  และมีประสบการณ์ในการพัฒนาที่ดินและการบริหารโครงการ  อีกทั้งอมรพันธุ์ กรุ๊ป มีนโยบายที่จะขยายธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจค้าปลีกมากขึ้น  ทำให้บริษัทตัดสินใจหันมาลงทุนในธุรกิจค้าปลีกอย่างเต็มตัว โดยเลือกที่ดินย่านรามอินทรา กม. 12 ปากทางเข้าถนนสวนสยาม ซึ่งเป็นที่ดินของครอบครัว เป็นศูนย์การค้าขนาดย่อมหรือคอมมิวนิตี มอลล์ แห่งแรกของกลุ่มขึ้นภายใต้ชื่อ "อมอรินี่" 

โดยอมอรินี่ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 6 ไร่ ติดถนนใหญ่รามอินทราบริเวณสามแยก ปากทางเข้าถนนสวนสยาม รายล้อมไปด้วยหมู่บ้านจัดสรรทั้งขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก  มีหน้ากว้าง 220 เมตร มีเส้นทางจราจรเข้าออกได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนรามอินทรา  เสรีไทย นวมินทร์  วงแหวนรามอินทราตัดใหม่ ทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการสามารถสัญจรไปมาได้สะดวก  ขณะที่รูปแบบของอมอรินี่ เน้นการตกแต่งในสไตล์กรีซ ภายใต้คอนเซ็ปต์   "Boutique Lifestyle Mall" มีแลนด์มาร์กเป็นกังหันลมและหอระฆังขนาดใหญ่ มีรูปทรงที่ทันสมัย สดใสด้วยสีฟ้า - ขาว เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าหลัก ซึ่งได้แก่ กลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่ ระดับบีบวกขึ้นไป  มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง

"จากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในย่านดังกล่าว พบว่า ในปัจจุบันมีครอบครัวรุ่นใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก โดยเฉพาะในเขตคันนายาวอย่างเดียวมีครอบครัวอาศัยกว่า 7 หมื่นครัวเรือน  มีหมู่บ้าน คอนโดมิเนียมเกิดใหม่ และมหาวิทยาลัยชั้นนำ และหากนับรวมโดยรอบจะพบว่ามีผู้บริโภคที่มีรายได้มากกว่า 30,000 - 100,000 บาทจำนวนมาก ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้บริโภคในย่านนี้มีกำลังซื้อที่สูง"

สำหรับจุดเด่นของอมอรินี่ คือ มีร้านค้าขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับและดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้เป็นอย่างดี คือ ท็อปส์ มาร์เก็ต และแมคโดนัลด์ ซึ่งเปิดให้บริการไดร์ฟทรู 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีร้านค้าต่างๆ รวมกว่า 30 ร้านค้า อาทิ ร้านอาหารนานาชาติ  คอฟฟี่ช็อป  ร้านหนังสือนายอินทร์  แป้งร่ำ สปา  ร้านแว่นท็อปเจริญ  ธนาคาร และคลินิกรักษาฟัน ฯลฯ และอาคารจอดรถขนาดใหญ่  รวมมูลค่าโครงการกว่า 350 ล้านบาท  และคาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 8-9 ปี

"อมอรินี่ เริ่มเปิดขายพื้นที่และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยชั้นบนมีราคาเฉลี่ย 1,200 บาทต่อตารางเมตร และชั้นล่าง 1,500 บาทต่อตารางเมตร ปัจจุบันมียอดจองพื้นที่แล้วกว่า 70% คาดว่าจะขายได้หมดภายในเดือนธันวาคมนี้ ส่วนความคืบหน้าในการก่อสร้างแล้วเสร็จกว่า 70% เชื่อว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2554" 

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนจะปรับปรุงตลาดอมรพันธุ์ ย่านเกษตรฯ- พลหโยธินให้มีภาพลักษณ์ที่ทันสมัย โดยเน้นการตกแต่งพื้นที่ใหม่ และเพิ่มจำนวนร้านค้าให้มากขึ้น โดยคัดสรรร้านค้าที่ตรงกับกลุ่มนักศึกษา  แม่บ้าน และคนทำงานให้เพิ่มมากขึ้น อาทิ ท็อปส์ เดลี่ , ร้านแฟชั่นเสื้อผ้า  ไอที  ฟู้ด คอร์ท ฯลฯ โดยจะใช้งบประมาณ 5-6 ล้านบาทด้วย

สำหรับ นางสาวอารยา  โตวชิรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร่วมกับนางอภิญญา  วิศวพลานนท์  กรรมการผู้จัดการ  เป็นทายาทรุ่นที่ 2 ของอมรพันธุ์ กรุ๊ป เจ้าของและผู้บริหารสวนสยามและโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ