ทุนซาฟารีเวิลด์รุกตลาดกาแฟ-ไอศกรีม

ทายาทซาฟารีเวิลด์  เดินหน้ารุกตลาดไลต์ ฟูด เปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่ "Aldy's Coffee Lite" และ "Sfree JR" เสริมอาณาจักรไอศกรีม มั่นใจเสิร์ฟเมนูครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย เผยพร้อมทุ่มงบ 20 ล้านบาทผุดสาขาในปีนี้ ก่อนขยายสาขาเพิ่มอีก 15 แห่งในปีหน้า เชื่อกำลังซื้อยังพุ่งต่อเนื่อง หลังผลประกอบการปีนี้โต 30%

นายฤทธิ์  คิ้วคชา  กรรมการผู้จัดการ บริษัท คชา บราเธอร์ส จำกัด และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ การตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า หลังจากที่บริษัทเปิดตัวธุรกิจไอศกรีมภายใต้ชื่อ สฟรี (Sfree) เมื่อ 3 ปีก่อนและ Parferio by Sfree ร้านไอศกรีมระดับพรีเมียม เมื่อต้นปี 2553 ที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดีจนปัจจุบันมีสาขารวมกัน 13 แห่ง ล่าสุดบริษัทเปิดตัว 2 แบรนด์ใหม่ ได้แก่ ร้านกาแฟเพื่อสุขภาพ ภายใต้ชื่อ Aldy's Coffee Lite กาแฟสูตรไขมันและน้ำตาล  0% ซึ่งบริษัทคิดค้นและพัฒนาสูตรขึ้นเอง เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟ แต่ขณะเดียวกันจะห่วงใยสุขภาพด้วยโดย Aldy's Coffee Lite จะเปิดในรูปแบบของ shop in shop ภายในพื้นที่ร้านของ Sfree และ Parferio by Sfree   ใช้พื้นที่ 15 ตร.ม. ใช้งบลงทุน 1 ล้านบาทต่อสาขา เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า โดยภายในสิ้นปีนี้จะเปิดให้บริการได้ 13 จุด และจะขยายในรูปแบบสแตนด์อะโลน ในปีหน้า

ส่วนอีกแบรนด์ได้แก่ สฟรี เจ.อาร์ (Sfree JR) ร้านไอศกรีมพาร์เฟต์ ซึ่งเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่น โดยจะเปิดให้บริการในคอนเซ็ปต์ Parfait  Express แบบคีออส เน้นขายพาร์เฟต์ย่อขนาด เหมาะกับการซื้อและเดินรับประทาน สะดวก รวดเร็ว  สำหรับคนทำงานและวัยรุ่น ด้วยรูปแบบแพ็กเกจจิ้งที่ทันสมัย โดยสฟรี เจ.อาร์ ใช้งบลงทุน 1-2 ล้านบาทต่อสาขา โดยเริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนกันยายน ภายในวิลล่า มาร์เก็ต ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค และจะเปิดให้บริการสาขาที่ 2 ที่เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และในศูนย์การค้าแฟชั่น ไอส์แลนด์ในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนนี้ และตั้งเป้าที่จะมีสาขาครบ 10 แห่งในปีหน้า

"เราใช้เวลาในการศึกษาและพัฒนาทั้ง 2 แบรนด์เป็นเวลากว่า 2 ปีเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด และตรงกับความต้องการของลูกค้า  ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีแบรนด์สินค้าในกลุ่มไลต์ ฟูด รวมทั้งสิ้น 4 แบรนด์ โดยในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาทั้ง 4 แบรนด์อย่างต่อเนื่อง โดยใน 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ บริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุน 10-20 ล้านบาทในการขยายสาขาทั้ง 4 แบรนด์เพิ่มขึ้นรวมถึงการปรับปรุงสาขาไปพร้อมกันด้วย โดยการลงทุนหลักจะอยู่ที่สฟรี ซึ่งใช้เงินลงทุนเฉลี่ย  8-10 ล้านบาทต่อสาขา ขณะที่ Parferio by Sfree ใช้งบลงทุนกว่า 10 ล้านบาทต่อสาขา  ส่วนในปีหน้าบริษัทมีแผนที่จะขยายสาขาทั้ง 4 แบรนด์ไม่ต่ำกว่า 15 สาขา ทั้งในรูปแบบของสแตนด์อะโลน คีออส และช้อป อิน ช้อป" นายฤทธิ์กล่าวต่อไปว่า

แต่ละแบรนด์มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไปและช่วยเสริมให้สฟรี เป็นผู้ให้บริการสินค้าเพื่อสุขภาพครบวงจร  แม้ในปีนี้บริษัทจะขยายสาขาเพิ่มขึ้น 8 แห่ง ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 10 แห่ง เนื่องจากสถานการณ์ด้านการเมือง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัท ขณะที่ผลประกอบการโดยรวมยังคงเติบโตกว่า 30% โดยเป็นการเติบโตจากสาขาเดิมเฉลี่ย 10%