พีน่ากรุ๊ปตั้งบริษัทธีม พลาซ่า
ลุยรีเทลรูปแบบใหม่ ยึดหัวเมืองท่องเที่ยว ทุ่มงบฯ 500 ล้านบาท ผุดซานโตรินี พาร์ค
ชะอำ ดึงเครื่องเล่นนานาชาติ-แบรนด์ชั้นนำ สร้างประสบการณ์
ช็อปปิ้ง-ท่องเที่ยวแบบใหม่ หวังเป็นแลนด์มาร์กหัวหิน
สิ้นปีมีผู้เข้าใช้บริการล้านคน
นางสาวนัสวีร์ ตันติจิรสกุล
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธีม พลาซ่า ดีวีลอปเม้นท์ จำกัด ในเครือบริษัทพีน่ากรุ๊ป
จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการซานโตรินี พาร์ค ชะอำ กล่าวว่า ธุรกิจค้าปลีกยังโตต่อเนื่อง
โดยเฉพาะโอกาส ขยายไปตามหัวเมืองท่องเที่ยวซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพ
และการแข่งขันไม่รุนแรง จากประสบการณ์ค้าปลีกมากว่า 30 ปี
กลุ่มพีน่ากรุ๊ปจึงตั้งบริษัทธีม พลาซ่า ดีวีลอปเม้นท์ พัฒนาค้าปลีกคอนเซ็ปต์ใหม่
ซึ่งมีธีมสอดคล้องไปกับโลเกชั่น เบื้องต้นเน้นขยายไปตามสาขาเอาต์เลต
โดยจะพิจารณาจากตัวเลขการขายและจำนวนนักท่องเที่ยว
โดยโครงการแรกก็คือ ซานโตรินี
พาร์ค ชะอำ ภายใต้แนวคิดประสบการณ์ช็อปปิ้งและท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ใช้งบฯลงทุน
500 ล้านบาท แบ่งเป็นงบฯโครงการ 350 ล้านบาท ตกแต่ง 50 ล้านบาท เครื่องเล่น 100
ล้านบาท ปัจจุบันคืบหน้าไป 90%
คาดว่าจะเปิดให้บริการได้สิ้นเดือนมีนาคมและแกรนด์โอเพนนิ่งในเดือนพฤษภาคม
เชื่อว่าจะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ
นางสาวนัสวีร์กล่าวถึงการเลือกขยายสาขาที่ชะอำว่า
บริษัทมองเห็นศักยภาพของเอาต์เลตสาขาชะอำ ทั้งในแง่ของทราฟฟิกและโลเกชั่น
ซึ่งมีอัตราการเติบโต 15-20% ต่อปี
ซึ่งจากการสำรวจพบว่าจำนวนรถที่ผ่านข้างหน้าโครงการในช่วงวันหยุดเฉลี่ยอยู่ที่
30,000-40,000 คันต่อวัน และสูงสุดถึง 1.2 แสนคัน
รวมทั้งความสะดวกในการเดินทางจากกรุงเทพฯใช้เวลา 2 ชั่วโมง และ 20 นาทีจากหัวหิน
บนพื้นที่ 60 ไร่
แบ่งเป็นพื้นที่ใช้สอย 15 ไร่ ประกอบด้วยโซนต่าง ๆ
ภายใต้บรรยากาศการตกแต่งและสถาปัตย
กรรมที่จะสร้างความรู้สึกเหมือนช็อปปิ้งอยู่บนเกาะซานโตรินี ประเทศกรีซ
โดยมีไฮไลต์อยู่ที่โซนวิลเลจและโซนพาร์ค โดยโซนวิลเลจจะเป็นแหล่ง
ช็อปปิ้งสุดฮิปแห่งใหม่ รวบรวมสินค้าแฟชั่นเครื่องประดับแบรนด์เนมและโลคอลแบรนด์
สินค้าไลฟ์สไตล์ เทรนดี้และออกแบบตกแต่งสินค้าแฮนด์เมดกว่า 140 ร้านค้า
โดยสินค้าเป็นสินค้าใหม่แตกต่างจากเอาต์เลต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าลดราคา
พร้อมทั้งตกแต่งร้านและเลือกสินค้าให้สอดคล้องกับตัวอาคารและบรรยากาศของศูนย์
ส่วนโซนพาร์คเป็นกลุ่มเครื่องเล่น
นำเข้าจากนิวซีแลนด์ เนเธอร์แลนด์ และแคนาดา อาทิ ชิงช้าสวรรค์สูง 40 เมตร
ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์กของศูนย์, G-Max Reverse Bungee แคปซูลดีดขึ้นฟ้า และ Wallholla เครื่อนเล่นปีนป่ายของเด็กตัวแรกของเอเชีย,
XD Dark Ride เครื่องเล่น 7D สุดไฮเทค เป็นต้น
นางสาวนัสวีร์กล่าวว่า
เพื่อประชาสัมพันธ์ ศูนย์ได้เตรียมงบฯ ตลาด 30 ล้านบาท อาทิ
สื่อออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และร่วมกับ
พันธมิตรมีเดียและเอเยนซีในการจัดอีเวนต์คอนเสิร์ต การประกวดต่าง ๆ หมุนเวียนตลอดปี
โดยจะมีโซนอีเวนต์บนพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตร รองรับผู้ชมได้ถึง 2,000 ที่นั่ง
และ 5,000 คนยืน และยังมีโซนวีกเอนด์ อาร์ต มาร์เก็ต ตลาดนัดงานศิลปะ
ตั้งเป้าสิ้นปีนี้จะมีผู้เข้ามาใช้บริการทั้งสิ้น 1 ล้านคน
"เราออกแบบบรรยากาศให้ถ่ายรูปได้ทุกมุม
รองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ชื่นชอบการถ่ายภาพและแชร์บนเฟซบุ๊ก
มีแผนปรับศูนย์ให้มีความสดใหม่อยู่ตลอด
มั่นใจว่าโครงการนี้จะช่วยปลุกกระแสการท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำให้คึกคัก
ถ้าได้รับการตอบรับดีก็จะขยายส่วน ต่อขยายในปีถัดไป และขยายไปเมืองท่องเที่ยวอื่น
ๆ อย่างเขาใหญ่ก็มีที่ดินอยู่"
สำหรับบริษัท ธีม พลาซ่า
ดีวีลอปเม้นท์ จำกัด เป็นบริษัทในเครือบริษัท พีน่า กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ขณะที่กลุ่มธุรกิจแฟชั่นยังมีการเติบโต แม้ว่าจะไม่ได้มุ่งทำการตลาดหวือหวา
แต่ยังมีการขยายช่องทางจำหน่ายใหม่ ๆ และขยายไลน์ธุรกิจ อาทิ ร้านจำหน่ายเครื่องประดับออล
อะเบาท์ แอ็กเซสซอรี่ และนำเข้าแบรนด์แฟชั่น
โดยทิมเบอร์แลนด์เป็นแบรนด์ล่าสุดที่นำเข้ามาปีที่แล้ว
No comments:
Post a Comment