ROBINSON...เขย่าค้าปลีกเมืองตรังระอุ 'สิริบรรณฯ' ทุนท้องถิ่นปรับทัพสู้

จังหวัดตรัง แม้จะเป็นจังหวัดเล็ก ๆ จังหวัดหนึ่งในภาคใต้

ในปี 2552 มีประชากรประมาณ 615,000 คน มีรายได้ต่อคน ปีละ 97,000 บาท ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 8 จาก 14 จังหวัดภาคใต้ แต่ในด้านของกำลังซื้อถือว่าอยู่ในอันดับต้น ๆ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้กลุ่มทุนค้าปลีกข้ามชาติพาเหรดเข้ามาลงทุนในจังหวัดตรังอย่างรวดเร็ว

ทั้งเทสโก้ โลตัส และแม็คโคร ที่สร้าง ยอดขายถล่มทลาย

ผลจากการลงทุนของยักษ์ค้าปลีกดังกล่าวทำให้ธุรกิจค้าปลีกทั้งเล็กและใหญ่ในจังหวัดตรังได้รับผลกระทบไปตาม ๆ กัน ผู้ประกอบการใดสายป่านยาวก็อยู่ได้ หากสายป่านสั้นก็ต้องเลิกกิจการไป อาทิ ห้างสรรพสินค้าเดิมที่เปิดให้บริการด้วยทุนคนท้องถิ่นในจังหวัดตรัง 3 ราย คือ ห้างสรรพสินค้าไดมอนด์ดีพาร์ทเมนต์สโตร์ ห้างสรรพสินค้าสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ และห้างสรรพสินค้าตรังพลาซ่า

กลุ่มที่ต้องปิดกิจการไปในระยะเวลาอันรวดเร็ว 2 แห่ง นั่นคือไดมอนด์ฯและตรังพลาซ่า จะเหลือก็แต่สิริบรรณฯเท่านั้นที่ยังเปิดให้บริการจนถึงปัจจุบัน แต่กำลังจะเจอศึกหนักอีกระลอก เมื่อกลุ่มทุนค้าปลีกใหญ่ของประเทศ "โรบินสัน" ในเครือเซ็นทรัล เตรียมจะเปิดบริการภายในเดือนพฤศจิกายน 2553 นี้

นายจิรายุสถ์ พิตรปรีชา กรรมการ ผู้จัดการ ห้างสรรพสินค้าสิริบรรณช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า โรบินสันน่าจะเปิดให้บริการปลายปีนี้ ซึ่งยอมรับว่า จะส่งผลกระทบต่อปริมาณลูกค้าที่จะเข้ามาจับจ่ายภายในห้างสิริบรรณฯ โดยเฉพาะในระยะ 3-6 เดือนแรก ซึ่งอาจจะเหมือนกับช่วงที่โลตัสหรือแม็คโครเข้ามาเปิดใหม่ ๆ คนก็จะแห่ไปใช้บริการของใหม่ สิริบรรณฯมีประสบการณ์ในด้านนี้อยู่แล้ว และได้พัฒนาตัวเองมาโดยตลอดจึงสามารถดึงกลุ่มลูกค้าเดิมและสร้างลูกค้าใหม่ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว

"การปรับตัวของห้างนั้นได้พยายามสร้างภาพลักษณ์ของความเป็นห้างท้องถิ่น โดยท้องถิ่น และเพื่อคนท้องถิ่น ปลุกกระแสรักษ์ท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ คนท้องถิ่นไม่ทิ้งเรา มีการนำเสนอจุดขาย ใหม่ ๆ เพิ่มความหลากหลายของสินค้า เช่น นำสินค้าแบรนด์เนม มาให้บริการ การเพิ่มพื้นที่ขาย พื้นที่พักผ่อน พื้นที่ จอดรถ ปรับปรุงภายในห้างให้เป็นสัดส่วน เหมาะกับการเดินจับจ่ายใช้สอยของทั้งลูกค้าทั่วไปและกลุ่มครอบครัว"

นายจิรายุสถ์ย้ำว่า สิ่งที่เริ่มดำเนินการแล้วคือ การเพิ่มพื้นที่จอดรถ เนื่องจากที่ผ่านมาสถานที่จอดรถคับแคบ ไม่เพียงพอสำหรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ โดยเฉพาะในช่วงเสาร์-อาทิตย์ จากนั้นก็จะเพิ่มสีสันด้วยการเพิ่มจำนวนร้านอาหาร การเพิ่มจำนวนสินค้าแบรนด์ดังเพื่อสร้างทางเลือกและความหลากหลายให้ลูกค้า การปรับปรุงภายในและภายนอกอาคารให้มีสีสันมากขึ้น

นอกจากนี้ได้เตรียมที่จะลงทุนในส่วนของความบันเทิงเพิ่มขึ้น ได้แก่ โรงภาพยนตร์ ลานแสดงต่าง ๆ ลานจัดงานโชว์สินค้า ซิตี้วอล์ก รวมทั้งจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจมาอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ามากขึ้น ทั้งตู้เอทีอ็มของธนาคารเกือบทุกแห่งที่มีสาขาอยู่ในจังหวัดตรัง การเปิดสาขาย่อยของธนาคารต่าง ๆ ภายในห้าง ที่เปิดแล้วก็คือ ธนาคารกรุงไทย

"ที่ผ่านมาแม้จะมีคู่แข่งระดับโลก เราก็ยังสามารถอยู่ได้ โดยมีตัวเลขการขยายตัวของธุรกิจที่เพิ่มขึ้นทุกปีในระดับ 15-20% และผมก็เชื่อมั่นว่าการเปิดตัวของโรบินสันจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก โดยเฉพาะในระยะยาว แต่ทางห้างก็ไม่ได้ประมาทจะมีการประเมินสถานการณ์ด้านการตลาดอย่างต่อเนื่อง" นายจิรายุสถ์กล่าว

นับจากนี้ไปอุณหภูมิการค้าปลีกเมืองตรังจะเริ่มปะทุขึ้นมาอีกระลอก ต้องจับตาว่ายักษ์ใหญ่อย่างเทสโก้ โลตัส และแม็คโครจะปรับกลยุทธ์สู้อย่างไร และน่าจับตามองที่สุดก็ต้องโฟกัสไปที่ห้างท้องถิ่นอย่างสิริบรรณฯ ว่าจะสามารถเดินแผนการตลาด ดึงลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการได้เหมือนเดิมหรือไม่ และสิริบรรณฯยังจะเป็นห้างสรรพสินค้าของคนท้องถิ่น โดยคนท้องถิ่น และเพื่อคนท้องถิ่น ต่อไปได้หรือไม่