เซ็นทรัลเวิลด์พร้อมเปิดตัว 28 กันยายนนี้ ตื่นตากับความแปลกใหม่ ดีกว่าเดิม ย้ำตำแหน่งผู้นำศูนย์การค้าของประเทศ ด้วยรูปลักษณ์ใหม่จากเทรนด์รีเทลล่าสุดของโลก เปิดตัวครั้งแรกในไทย "ลานสเก็ตน้ำแข็ง" แบบ Open Air ในศูนย์การค้า
นายกอบชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ประกาศความพร้อมในการเปิดเซ็นทรัลเวิลด์ในวันที่ 28 กันยายนนี้ ตามกำหนด หลังจากได้ปิดปรับปรุงซ่อมแซมด้วยงบว่า 2,800 ล้านบาท ซึ่งในการเปิดให้บริการครั้งนี้ จะเปิดให้บริการ 80% ของพื้นที่ คือ เปิดทุกโซน ยกเว้นโซนเอเทรียม ชั้น 1-7 บริเวณที่ติดกับห้างสรรพสินค้าเซน
นายกอบชัย เปิดเผยว่า การกลับมาของเซ็นทรัลเวิลด์ในครั้งนี้ เราพร้อมมอบความสุขในบรรยากาศใหม่แบบ More Rewarding Experience มีความแปลกใหม่ และดีกว่าเดิม ทั้งด้านบรรยากาศ ร้านค้า บริการ กิจกรรมการตลาด และโปรโมชั่นมากมาย เพื่อมอบเป็นของขวัญให้ลูกค้าที่คิดถึงและให้กำลังใจให้เซ็นทรัลเวิลด์มาโดยตลอด
"เซ็นทรัลเวิลด์ได้รับรางวัล Best of The Best จาก International Council of Shopping Center เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา รางวัลนี้จึงเป็นกำลังใจให้เรามุ่งมั่นที่จะสร้างสรรบรรยากาศของเซ็นทรัลเวิลด์ให้สวยงามและดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อจะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับทุกคนที่มาที่เซ็นทรัลเวิลด์"
"เราได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับการออกแบบตกแต่งเซ็นทรัลเวิลด์ใหม่ โดยการนำนวัตกรรมการออกแบบศูนย์การค้าระดับโลกมาใช้ โดยเน้นความทันสมัย สวยงาม ปลอดภัย และรักษาสิ่งแวดล้อม ที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ผสานเข้ากับลักษณะเฉพาะตัวของเซ็นทรัลเวิลด์ ทั้งในแง่ของ ศิลปะ ความสุนทรีย์ สนุกสนาน เรียบง่าย ในสไตล์มินิมอลลิสต์ (Minimalist) ที่แสดงให้เห็นถึงพลังและความเคลื่อนไหว โดยนำเอา ดอกไม้ พืชพรรณธรรมชาติ ทั้ง หิน ไม้ มาประยุกต์ใช้ในการออกแบบ ทั้งภายในและภายนอก" นายกอบชัย กล่าว
"ตัวอย่างเช่น โซนบีคอน เราได้ติดตั้งประติมากรรมศิลปะอิงธรรมชาติ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากรูปทรงของอาร์ติโช๊ค (Artichoke) ที่เคลื่อนไหวหุบและบานได้ เพื่อให้รับกับแสงธรรมชาติตามแนว Skylight และมีกลุ่มไฟแอลอีดี ที่มีลักษณะเหมือนสายฝน (The Rain Light) ที่ไฟสามารถเปลี่ยนสีได้ให้อารมณ์พริ้วไหวตามธรรมชาติของสายฝน นอกจากนี้ เรายังได้นำความงามของกลีบดอกทานตะวัน มาประยุกต์ให้เป็นงานศิลปะบนฝ้าเพดาน ที่เรียกว่า The Sunflower บริเวณ โซนเซ็นทรัลคอร์ท ทำให้เกิดมุมมองใหม่ซึ่งดูแปลกตา มีมิติ สื่อถึงความรู้สึกและพลังไปสู่จุดศูนย์กลาง อีกทั้งยังมี The Mushroom ที่นั่งพักผ่อน ในโซนแดซเซิล ที่ออกแบบให้มีลูกเล่นของน้ำอยู่กลางที่นั่ง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเห็ดที่ผลิบานหลังฝนตก สำหรับเป็นจุดนัดพบแห่งใหม่"
"สำหรับ ชั้น 7 ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านอาหารขึ้นชื่อ และเป็นแหล่งแฮ็งค์เอาท์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ นั้น เราได้ออกแบบตกแต่งใหม่ทั้งหมด ในคอนเซ็ปต์ของสวน และตั้งชื่อใหม่ว่า Garden on 7 ด้วยแรงบันดาลใจของนักออกแบบที่ต้องการให้ดึงธรรมชาติมาสู่เมือง รังสรรค์ให้พื้นที่แห่งนี้เป็นสวนธรรมชาติที่ร่มรื่น ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสวนกลางแจ้ง และมีแสงไฟที่สามารถปรับเปลี่ยนแสง สีได้ เพื่อปรับอารมณ์ของพื้นที่ตามช่วงเวลาของวัน ที่จะได้อารมณ์ที่แตกต่างกันไปในช่วงกลางวันและกลางคืน มอบบรรยากาศแห่งความสุขอีกระดับให้กับผู้ที่มารับประทานอาหาร" นายกอบชัย กล่าวเสริม
การกลับมาของเซ็นทรัลเวิลด์ครั้งนี้ จะมีร้านค้าใหม่เกือบ 40 ร้าน สำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบแฟชั่น เซ็นทรัลเวิลด์ได้นำร้านแฟชั่นแบรนด์ใหม่ๆ ซึ่งเป็นแบรนด์แฟชั่นชั้นนำที่ไม่เคยเปิดที่ใดในไทยมาก่อน อาทิ Fred Perry, Stardivarius, Footwork Noir, Glam Rock รวมถึงร้านแบรนด์ดีไซน์เนอร์ไทยชั้นนำ อาทิ Disaya, Boudoir, Kloset, Munchu′s, Senada
นายกอบชัย กล่าวว่า "เราตื่นเต้นอย่างมากที่จะได้เปิดตัว The Rink ลานสเก็ตน้ำแข็งแบบ Open Air ในศูนย์การค้า ครั้งแรกของเมืองไทย บริเวณโซนฟอรั่ม หน้า B2S ตอบรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ ด้วยเงินลงทุน 100 ล้านบาท ถือเป็นการเปิดปรากฎการณ์ใหม่ของลานสเก็ตน้ำแข็งแบบ Open Air ให้ชาวกรุงเทพฯ สามารถมาเล่นสเก็ตน้ำแข็งกลางแจ้งได้เหมือนที่ต่างประเทศ"
และอีกหนึ่งนวัตกรรมด้านบริการของเซ็นทรัลเวิลด์ พิเศษสำหรับสุภาพสตรี คือ Lady Parking Zone พื้นที่จอดรถเฉพาะลูกค้าสตรีกว่า 200 คัน
สำหรับมาตรฐานความปลอดภัย นายกอบชัย เปิดเผยว่า "โครงสร้างของเซ็นทรัลเวิลด์ได้รับการอนุมัติจากสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร และได้รับการรับรองจากสมาคมวิศวกรรมสถานถึงความปลอดภัย นอกจากนี้ เรายังได้ลงทุนเพิ่มในเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย ซึ่งเป็นระบบใหม่และทันสมัยที่สุด มีการนำนวัตกรรมด้านความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกมาใช้ อาทิ อุปกรณ์ตรวจวัดควันเข้ามาติดตั้งในพื้นที่ร้านค้า ระบบบันไดเลื่อนทุกชุดได้มีการตรวจสอบและปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยให้ได้เป็นไปตามมาตรฐานและปลอดภัยสำหรับผู้มาใช้บริการ"
นอกจากนี้ สำหรับโซนที่ยังไม่เปิดให้บริการ และอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง เซ็นทรัลเวิลด์ได้ปิดกั้นพื้นที่แยกส่วนแบบชัดเจน เพื่อปลอดภัย และป้องกันฝุ่นและเสียงที่จะรบกวนผู้มาใช้บริการ และในส่วนของระบบอากาศภายใน มีการทำความสะอาดท่อลมแอร์ ทั้งภายในและภายนอก เพื่อกำจัดกลิ่น รวมทั้ง ฆ่าเชื้อในระบบเครื่องทำความเย็น อีกทั้งยัง ตรวจสอบคุณภาพอากาศ และทดสอบก่อนใช้งานจริง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะมาใช้บริการในศูนย์ฯ ได้อย่างสบาย
นอกจากนี้ "เราได้จัดทำ Countdown Heart ไปวางในจุดสำคัญต่างๆ ในกรุงเทพฯ เพื่อสร้างความตื่นเต้นให้ผู้ที่รอคอยการเปิดตัวของเซ็นทรัลเวิลด์ นับถอยหลังสู่วันเปิดเซ็นทรัลเวิลด์ในวันที่ 28 กันยายน ไปพร้อมๆ กัน"
นายกอบชัย กล่าวทิ้งทายว่า "เซ็นทรัลเวิลด์จะสามารถเปิดให้บริการได้เต็ม 100% ภายในสิ้นปีนี้ และในส่วนของห้างสรรพสินค้าเซนจะสามารถเปิดให้บริการได้อีกครั้งภายในเดือนสิงหาคม 2554
เซ็นทรัลเวิลด์เป็นไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งคอมเพล็กซ์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็น The Largest Lifestyle Destination in Bangkok มีพื้นที่ค้าปลีกทั้งสิ้น 550,000 ตร.ม. ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้า เซน อิเซตัน ซูปเปอร์สปอร์ต โรงภาพยนตร์เอสเอฟ เวิลด์ ซิเนมา พาวเวอร์บาย บีทูเอส และร้านค้าต่างๆ อีกกว่า 500 ร้านค้า และร้านอาหารกว่า 100 ร้าน เซ็นเตอร์พอยท์ และลานเซ็นทรัลเวิลด์สแควร์ขนาด 8,000 ตร.ม.
No comments:
Post a Comment