Pages

Thursday, September 30, 2010

7ELEVEN ปรับตัวรับตลาดเปลี่ยน เข้มอาหารสุขภาพ-ลดโลกร้อน


เดินทางมาครบครั้งที่ 9 แล้ว สำหรับงานสัมมนา "ทำโชห่วยให้รวยอย่างยั่งยืน" ที่จัดโดย "ซีพี ออลล์" ผู้บริหารร้านอิ่มสะดวก "เซเว่นอีเลฟเว่น" กับสมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจ ค้าปลีกทุนไทย ซึ่งมี "สุวิทย์ กิ่งแก้ว" นั่งควบตำแหน่งนายกสมาคมฯ และรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพี ออลล์

ภายในงานดังกล่าว นอกจากผู้ร่วมงานจะได้รับฟังคีย์ซักเซสของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ประสบความสำเร็จอย่าง "กรีนเดย์" ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพ และผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์มะขามอบบ๊วยตราจี๊ดจ๊าด ที่มาให้ความรู้บนเวทีแล้ว

หลังเวที "สุวิทย์" ยังได้ฉายภาพ ตลาดค้าปลีกหลังเปิดเขตการค้าเสรีไว้ในหลากหลายแง่มุม

"การเปิดเขตการค้าเสรีในแง่ร้านค้าปลีก ขณะนี้อาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่สำหรับซัพพลายเออร์ จากนี้ไปต้องมีการปรับตัวมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่สินค้าดั้งเดิมอย่างสินค้าเกษตร เพราะหากไม่ปรับปรุงก็จะถูกสินค้าราคาถูกจากประเทศจีนชิงตลาดได้"

ที่เห็นได้ชัดคือ ในซูเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆ ที่ตอนนี้มีผลไม้เมืองหนาวแห่เข้ามาขายมากขึ้น หรือแม้กระทั่งในเซเว่นฯเองก็มีกลุ่มสินค้าทานเล่นที่นำเข้าจากประเทศจีนเช่นกัน แต่ยังเป็นสัดส่วนไม่มาก

ด้วยแนวโน้มดังกล่าว เซเว่นฯจึงร่วมมือกับซัพพลายเออร์ให้มากขึ้น ทั้งการหาสินค้าใหม่ รสชาติใหม่ หรือสร้างสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ที่ผ่านมาเกิดสินค้า นวัตกรรมใหม่ ๆ ในท้องตลาด ทั้งปรากฏการณ์ชาเขียวฟีเวอร์ ขนมทานเล่นสาหร่ายเถ้าแก่น้อย หรือสินค้าแปรรูปจากพืชผลการเกษตร เช่น มะขามจี๊ดจ๊าด กล้วยเล็บมือนาง ฯลฯ รวมไปถึงสินค้ากลุ่มเบเกอรี่ อย่างเค้กฝอยทอง หรือทองม้วน ฯลฯ

แนวทางที่เซเว่นฯจะร่วมกับซัพพลายเออร์เพื่อให้ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน ที่สำคัญคือ การก้าวตามเทรนด์ใหม่ ๆ ให้ทันอยู่เสมอ



"สุวิทย์" อธิบายว่า ตอนนี้อาหารสุขภาพกำลังมาแรง ประเภทที่กินแล้วสวย กินแล้วสุขภาพดี เซเว่นฯก็พร้อมจะหนุนให้แจ้งเกิด อย่างในรายของเต้าฮวยนมสด หรือน้ำลูกพรุนสกัด

อย่างไรก็ตามการชูภาพความเป็นร้านเพื่อสุขภาพของเซเว่นฯจะยังไม่ชัดเจนนัก เนื่องจากช่วงนี้อยู่ระหว่างการสร้างภาพ "อิ่มสะดวก" ให้เข้มแข็ง

แต่การโปรโมตของซัพพลายเออร์รายใหญ่ ๆ ส่วนมากก็จะระบุอยู่แล้วว่ามีจำหน่ายที่เซเว่นฯ

ควบคู่กับการเดินทางสู่ร้านอิ่มสะดวกเพื่อสุขภาพ สิ่งที่เซเว่นฯกำลังเร่งดำเนินการคือ การใส่ใจต่อผลกระทบเรื่องโลกร้อน

หลัก ๆ เป็นสินค้า "กรีนโปรดักต์" ใช้วัตถุดิบที่ไม่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ตอนนี้มีทั้งหมด 10 รายการ และอีกโปรเจ็กต์ที่กำลังเร่งทำคือ "ถุงไบโอพลาสติก"

"ก่อนหน้านี้เราทดลองใช้ถุงย่อยสลายง่าย ในสาขาภาคใต้ 200 แห่ง แต่ติดปัญหาว่าถุงเหล่านั้นจะย่อยสลายง่ายเมื่อโดนแดด ขณะนี้จึงเร่งศึกษาเรื่องถุงไบโอพลาสติก ซึ่งมีความทนทานสูงกว่า เมื่อย่อยสลายแล้วจะกลายเป็นปุ๋ย แต่มีราคาแพงกว่าถุงปกติ 7 เท่า"

แต่อีกไม่นานโปรเจ็กต์นี้ก็น่าจะแจ้งเกิดได้สำเร็จ

สุดท้าย "สุวิทย์" วิเคราะห์ถึงภาพรวมกำลังซื้อ หลังเกิดเหตุการณ์ค่าเงินบาทแข็งว่า เป็นปัญหาที่น่ากังวลสำหรับภาพรวม เพราะจะส่งผลให้รายได้ของประเทศ ลดน้อยลง กำลังซื้อโดยรวมของผู้บริโภคก็จะลดลงตาม

"แต่สำหรับเซเว่นฯเรื่องนี้ถือเป็นผลทางบวก เพราะลูกค้าหลักเป็นกลุ่มที่ไม่มีรายได้สูง เมื่อกำลังซื้อลดลง เขาก็จะหันมาซื้อสินค้าที่ร้านใกล้บ้านมากขึ้น"

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts with Thumbnails