Pages

Friday, November 26, 2010

"บิ๊กโคล่า" เปิดเกมช่วงชุลมุน ลั่นขึ้นเบอร์ 1 น้ำดำ ใน 5 ปี

ยิ่งปัญหาระหว่าง "เป๊ปซี่ โค" กับ "เสริมสุข" ยังคาราคาซังอยู่แบบนี้ ถือเป็นโอกาสให้คู่แข่งฉวยจังหวะเร่งทำตลาดในยามที่เบอร์ 1 มีปัจจัยอื่นแทรกซ้อน

โดยเฉพาะดาวรุ่งเบอร์ 3 อย่าง "บิ๊กโคล่า" น้ำอัดลมสัญชาติเปรู ที่วันนี้โกยมาร์เก็ตแชร์ในเมืองไทยได้ 20% จากมูลค่าตลาด 36,000 ล้านบาท

พิธีเปิดโรงงานแห่งใหม่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ชลบุรี บิ๊กโคล่าได้เชิญตัวแทนคณะรัฐบาลจากเปรู และเอกอัครราชทูตเปรูประจำประเทศไทยมาร่วมรับฟังข้อมูลการลงทุน นอกจากนี้ยังถือเป็นครั้งแรกที่ผู้บริหารต่างชาติออกมาให้ข้อมูลการตลาดกับสื่อมวลชน หลังซุ่มทำตลาดในเมืองไทยนาน 5-6 ปี และเริ่มบุกกรุงเทพฯกับปริมณฑลอย่างจริงจังในปีนี้

"เฮอร์นัน คอโดวา" กรรมการผู้จัดการ "อาเจไทย" ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มบิ๊กโคล่า ประกาศว่า 5 ปีข้างหน้า ยอดขายของอาเจไทยจะเพิ่มเป็น 15,000 ล้านบาท จากปีนี้อยู่ที่ 5,000 ล้านบาท พร้อมผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลาง หรือฮับของภูมิภาคเอเชีย ซึ่งปัจจุบันเอเชียมีสัดส่วนยอดขาย 35% จากยอดทั้งหมด 18,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และจะเพิ่มเป็น 70% ในอีก 5 ปี



สาเหตุที่อาเจกรุ๊ปเลือกลงทุนในเมืองไทย เพราะจากผลวิจัยปี 2000-2005 พบว่า ตลาดน้ำอัดลมไทยมีการเติบโตเป็นอย่างมาก มีมูลค่าถึง 36,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโคล่า 70% อีกทั้งกลุ่มลูกค้าก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ คู่แข่งก็น้อย และประเทศไทยก็เปิดกว้างสำหรับนักลงทุนต่างชาติ

"เป้าหมายในไทยมี 2 อย่าง ประการแรกคือการขยายตลาดให้คนไทยดื่มโคล่าเพิ่มขึ้นเป็น 50-60 ลิตรต่อปี จากเดิม 40 ลิตรต่อปี ประการที่ 2 คือการทำให้สินค้าเข้ากับผู้บริโภคทุกกลุ่มตั้งแต่เอถึงดี"

Photo Source: ARIP
และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว อาเจไทยจะลงทุนเรื่องกำลังผลิตและสินค้าใหม่ต่อเนื่อง ล่าสุดได้เปิดไลน์ผลิตที่ 5 กำลังผลิตเร็วที่สุดในโลก ผลิตได้ 24 ขวดต่อวินาที หรือ 100 ล้านขวดต่อเดือน มีเพียง 3 ที่ในโลก ได้แก่ รัสเซีย จีน และไทย ปีหน้ายังจะใช้งบฯ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ สร้างโรงงานย่อย 2 แห่ง แห่งแรกคือขอนแก่น ส่วนอีกแห่งยังรอสรุปว่าจะเป็นที่ภาคเหนือหรือภาคใต้ เพื่อประหยัดต้นทุน โลจิสติกส์ และในอนาคตมีแผนสร้างโรงงานย่อยทั่วทุกภาค ตลอดจนการเพิ่มศูนย์กระจายสินค้าให้ได้ 40-50 แห่ง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 10 แห่ง

ด้านสินค้าใหม่ ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนจะเริ่มเปิดตัวชาสำเร็จรูปพร้อมดื่ม แบรนด์ "คูลที" ภายใต้สโลแกนว่า "วิถีใหม่ของการดื่มชา" ในรูปแบบขวดแก้ว ขนาด 300 ม.ล. มี 2 รสชาติ ส่วนน้ำผลไม้และเกลือแร่จะตามมาในปีหน้า

ควบคู่กับการลงทุน แนวทางการตลาดก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน "ชนินทร์ เทียนเจริญ" ผู้จัดการฝ่ายการตลาด อาเจไทย ระบุว่า งบฯการตลาดของบิ๊กโคล่า หลัก ๆ เน้นการสร้างภาพลักษณ์เพื่อให้คนเมืองยอมรับ หลังจากก่อนหน้านี้ลุยตลาดต่างจังหวัดได้สำเร็จ และจากการใช้วิธีเข้าเป็นสปอนเซอร์ให้กับทีมชาติอังกฤษในช่วงฟุตบอลโลก ที่ผ่านมา จากผลวิจัยพบว่าบิ๊กโคล่ามีแบรนด์อะแวร์เนสเพิ่มเป็น 26% จาก 19% รั้งตำแหน่งอันดับ 3 ในตลาด

"งบฯสร้างแบรนด์เราใช้น้อยกว่าคู่แข่ง 10 เท่า ครึ่งปีแรกใช้เพียง 50 ล้านบาท คู่แข่งใช้ 500 ล้านบาท ขณะที่งบฯทั้งปี 200 ล้านบาท แต่คู่แข่งใช้ถึง 1,000 ล้านบาท และในอีก 2 ปีจากนี้ธีมการสร้างแบรนด์บิ๊กโคล่าในเอเชียจะเน้นไปที่ทีมชาติอังกฤษ เพื่อเตรียมสู้ศึกฟุตบอลยูโรที่จะเกิดขึ้นใน อีก 2 ปีข้างหน้า เริ่มจากการเปิดตัว แคมเปญบิ๊กโคล่าบีอิงแลนด์ใน ปีหน้า"

นอกเหนือจากการลงทุน สินค้าใหม่ และกลยุทธ์การตลาดต่าง ๆ วันนี้ปฏิเสธ ไม่ได้ว่าคีย์ซักเซสสำคัญที่ทำให้บิ๊กโคล่าสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับตลาดได้ขนาดนี้ คือเรื่องของ "ราคา" ที่กลายเป็นหมัดเด็ด ซึ่งเป๊ปซี่และโค้กจะประมาทไม่ได้

"ชนินทร์" ชี้ว่า เนื่องจากบริษัทแม่เป็น ผู้ลงทุนเองในทุกประเทศ ทำให้อาเจไทยไม่ต้องเสียค่าลอยัลตี้ฟรี จุดนี้เองทำให้บิ๊ก โคล่าสามารถทำราคาได้ต่ำกว่าคู่แข่งเฉลี่ยที่ 30% อาทิ ราคาขายในร้านสะดวกซื้อที่ 10 บาท ขณะที่คู่แข่งอยู่ที่ 12 บาท แนวทางอีกอย่างหนึ่งของบิ๊กโคล่า จากนี้คือการรุกตลาดโมเดิร์นเทรดให้หนักขึ้น โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาได้นำสินค้าขนาด 600 ม.ล. เข้าไปจำหน่ายในเซเว่นอีเลฟเว่น จากเดิมจำหน่ายเฉพาะขนาด 1.5 ลิตร

"ชนินทร์" ตั้งความหวังไว้ว่า ภายใน 5 ปีมาร์เก็ตแชร์ของบิ๊กโคล่าจะเพิ่มเป็นกว่า 30% หรือขึ้นเป็นอันดับ 1 ได้สำเร็จ

"เกือบทุกประเทศในละติน บิ๊กโคล่า สามารถแซงเป๊ปซี่โดยขึ้นเป็นอันดับ 1 ได้ 2 ปีแล้ว และตั้งเป้าขึ้นเป็นอันดับ 1 ในตลาดน้ำอัดลมทั่วโลกภายในปี 2020 หรืออีก 10 ปีข้างหน้า ทั้งภาพลักษณ์และยอดขาย"

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts with Thumbnails