BIG C ผุดโมเดลค้าส่งประกบ MAKRO

เปิดศึกชิงลูกค้ากลุ่มโฮเรก้า   "บิ๊กซี" แจ้งเกิดโมเดลขายส่ง 2 รูปแบบรวด ประเดิม "บิ๊กซี จัมโบ้ สเตชั่น" พัทยาใต้ส.ค. นี้ ตามติดด้วยบิ๊กซี จัมโบ้ สำโรงในปลายปี

ขณะที่ "แม็คโคร"  ชูซีอาร์เอ็ม สร้างลอยัลตี มั่นใจรักษาฐานลูกค้าเหนียวแน่น เผยเตรียมผุดอีก 3 สาขารับตลาดโต

ดร. สรินทิพย์ สถิตย์เสถียร  รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)  ผู้บริหารบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า  จากแนวคิดที่ต้องการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหารและจัดเลี้ยง หรือโฮเรก้า (Hotel ,Restaurant ,Catering : HORECA) ทำให้บริษัทพัฒนาค้าปลีกรูปแบบใหม่ที่เน้นการขายส่งขึ้น ใน 2 รูปแบบ ได้แก่ "บิ๊กซี จัมโบ้ สเตชั่น"  และ "บิ๊กซี จัมโบ้"   เพื่อนำเสนอสินค้าในราคาขายส่งให้กับผู้ประกอบการ โดยบิ๊กซี จัมโบ้ สเตชั่น สาขาแรกจะเกิดขึ้นที่พัทยาใต้  ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว และมีผู้ประกอบการกลุ่มโฮเรก้า จำนวนมาก

โดยบิ๊กซี จัมโบ้ สเตชั่น พัทยาใต้ มีพื้นที่กว่า 1,000 ตร.ม. นำเสนอสินค้าใหม่ๆ กระจายอยู่ตามส่วนต่างๆ ของสาขา ทำให้มีเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีอยู่กว่า 2,000 รายการ ทั้งอาหารสด  อาหารแห้ง และของใช้ต่างๆ อาทิ  เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผัก ผลไม้ เนย ชีส เบเกอรี่  ข้าวสาร ซอสปรุงรส เครื่องปรุงอาหาร เครื่องดื่ม ของใช้ในครัว อุปกรณ์ทำอาหาร เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีบริการส่งสินค้าฟรี บริการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและเครดิตไลน์ บริการสั่งจองสินค้าและตรวจสอบราคาผ่านศูนย์บริการ call center การสะสมยอดเพื่อรับคูปองส่วนลด ฯลฯ ด้วย

 อย่างไรก็ดีนอกจากบิ๊กซี จัมโบ้ สเตชั่นแล้ว บิ๊กซีเตรียมเปิดตัวบิ๊กซี จัมโบ้ สาขาแรกสำโรง ซึ่งเป็นการรีโนเวตและปรับเปลี่ยนจากเดิมที่เป็นคาร์ฟูร์ สาขาสำโรง และจะเปิดให้บริการในปลายปีนี้  รวมทั้งบิ๊กซียังมีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ในโมเดลค้าส่งนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยว เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าโฮเรก้า  

ด้านนางสุชาดา  อิทธิจารุกุล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  การที่คู่แข่งในธุรกิจไฮเปอร์มาร์เก็ตสนใจขยายธุรกิจในรูปแบบค้าส่งนั้น ในขณะนี้เร็วเกินไปที่จะประเมินถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบเพราะแม็คโครเองเปิดให้บริการมานานกว่า 20 ปี และมีประสบการณ์รอบด้าน โดยเฉพาะด้านการบริหารจัดการ  อย่างไรก็ดีที่ผ่านมาพบว่ากลุ่มลูกค้า HORECA เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับลูกค้าร้านค้าทั่วไป เพราะมีฐานที่เล็ก

 ปัจจุบันแม็คโครมีลูกค้ากลุ่มโฮเรก้ามากกว่า 3 แสนราย และเป็นกลุ่มลูกค้าที่เหนียวแน่น มีการเติบโตสูงถึง 25% และเพื่อเป็นการรักษาฐานลูกค้า แม็คโครได้เพิ่มการให้บริการโดยมีทีมการตลาด คอยติดตาม สอบถาม เพื่อนำมาพัฒนาให้ตรงกับความต้องการสินค้าและบริการ เพื่อเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ซึ่งล่าสุดบริษัทมีแผนที่จะทดลองเปิดให้บริการสั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ ภายในงานตลาดนัดโชวห่วย ครั้งที่ 4  ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมของโครงการแม็คโคร มิตรแท้โชวห่วย  ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 15-18 ก.ย. นี้ที่ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพ็ค เมืองทองธานี  ซึ่งเป็นการช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าหรือซีอาร์เอ็มด้วย

สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้บริษัทเตรียมเงินลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนเปิดสาขาใหม่ 2,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นการปรับปรุงสาขาเดิม โดยในปีนี้แม็คโครเปิดสาขาใหม่แล้ว 2 แห่ง ได้แก่ที่ราชบุรี และ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่มอีก 3 แห่ง ได้แก่ อยุธยา  ลำปาง และหัวหิน ซึ่งเน้นจำหน่ายสินค้าเพื่อลูกค้ากลุ่มโฮเรก้าด้วย สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อนที่มียอดขาย 89,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมียอดขายมากกว่า 100,000 ล้านบาทในปีหน้า จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีและการเติบโตของบริษัทที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง