Monday, November 2, 2009
ร้านอิ่มสะดวก 7 ELEVEN...ย้ำ "เราไม่เป็นศัตรูกับโชห่วย"
เมื่อเอ่ยถึง "เซเว่นอีเลฟเว่น" ชื่อนี้ได้รับการการันตีในแง่ของความสะดวกสบายและมีร้านให้จับจ่ายสินค้าที่จำเป็นได้ทุกซอกทุกมุม ทุกหนแห่ง และนับวันธุรกิจก็ยิ่งจะเติบใหญ่และยากที่คู่แข่งจะตามทัน "ประชาชาติธุรกิจ" ได้สนทนากับ "ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ที่ตอนหลังได้เปลี่ยนภาพลักษณ์มาเป็น "ร้านอิ่มสะดวก"
เริ่มจากการอัพเดตมูลค่าเบื้องต้นของ เซเว่นฯ "ก่อศักดิ์" ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้ เซเว่นฯมีสาขาประมาณ 5,100 แห่ง และคาดว่า ในแง่ยอดขายปีนี้น่าจะทำได้กว่า 9 หมื่นล้านบาท อาจจะถึงแสนล้านได้ มีลูกค้าเข้าใช้บริการในร้านประมาณ 6 ล้านราย/วัน จากเมื่อช่วงต้นปีที่มีประมาณ 5 ล้านราย/วัน
ตอนที่ผมมาทำงานเมื่อประมาณปี 2532 หรือประมาณ 20 ปีก่อน ตอนเริ่มต้นตอนนั้นมีประมาณสาขา 27 แห่ง และลูกค้าไม่ถึง 1,000 คน/สาขา
อย่างไรก็ตาม วันนี้เซเว่นฯอาจจะยังถูกเพ่งเล็งว่าเป็นตัวที่ทำให้ร้านโชห่วยลำบาก แต่จริง ๆ สาขาของเซเว่นฯเมื่อไปเปิดที่ไหนแล้ว ทำให้บริเวณนั้นสว่างขึ้น ร้านค้าต่าง ๆ ขายได้ยาวขึ้น ลูกค้ามาเยอะกว่าเพราะร้านเซเว่นฯเปิดโต้รุ่ง ร้านค้า ร้านขายประเภทรถเข็นต่าง ๆ ที่เปิดใกล้ ๆ กับเซเว่นฯก็ขายดีขึ้น
พร้อมกันนี้ประธาน ซีพี ออลล์ยังย้ำด้วยว่า ร้านเซเว่นฯไม่ได้แข่งกับโชห่วย และสินค้าในร้านเราขายแพงที่สุดในประเทศ ขายแพงกว่าร้านโชห่วยทั่วไป สินค้าที่มีขายในร้านเราก็ไม่เหมือนกับ โชห่วย หรืออย่างเครื่องสำอางเราขายแต่โชห่วยไม่ได้ขาย เซเว่นฯเน้นขายอาหาร-เครื่องดื่ม แต่โชห่วยไม่มี เซเว่นฯ ไม่เป็นศัตรูกับโชห่วย
"เซเว่นฯขายความสะดวก ขายอาหาร หิวขึ้นมาจะไปไหนก็มาที่เซเว่นฯ เราเปลี่ยนมาเป็นร้านอิ่มสะดวก ไม่ใช่ร้านสะดวกซื้อ ซึ่งคำว่า สะดวกซื้อเราก็ไม่ได้ตั้งเอง มีคนอื่นตั้งให้"
วกมาถามถึงยอดขายและผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น "ก่อศักดิ์" แจงว่า ตัวเลขยอดขายยังเติบโตดี ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้าน นอกจากมาซื้ออาหาร ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นของใช้ สบู่ รวมทั้งเข้ามาซื้อของจำเป็นที่ขาดเฉพาะหน้า ฯลฯ เขายังเข้ามาจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ
อย่างที่บอกตอนนี้สินค้าในร้านจะเน้นหนักที่กลุ่มอาหาร ดังนั้นจึงมีสัดส่วนของกินถึง 70% และส่วนที่เหลือประมาณ 30% เป็นของใช้
ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ สาขาแต่ละแห่งก็จะขายสินค้าที่มีความแตกต่างกันไปตามความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นชุมชน โรงเรียน โรงพยาบาล
โดยในร้านจะมีสินค้าให้ลูกค้าเลือกอย่างมากมายประมาณ 5,000-10,000 รายการ และจะมีสินค้าใหม่ตลอดเวลา เพราะนอกจากซัพพลายเออร์ หรือผู้ผลิตจะมีสินค้าใหม่ ๆ ออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่องแล้ว ผู้ผลิตเขาจะมาคุยกับเราตลอดเพื่อหารือกันว่าสินค้าแบบนี้ควรโฆษณาแบบไหน ตั้งราคาอย่างไร
นอกจากนี้ ก็ยังมีซัพพลายเออร์จำนวนไม่น้อยที่ต้องการใช้เซเว่นฯเป็นเวทีแข่งขัน หรือบางรายก็จะใช้เซเว่นฯที่มีสาขามากและครอบคลุมเป็นตัววิจัย ถ้าเซเว่นฯขายได้ก็ย่อมขายได้หมด มีการมาเทสต์ตลาดกับเรา อีกอย่างหนึ่งก็คือ สินค้าในเซเว่นฯเป็นของเครือซีพีไม่ถึง 10%
นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับสินค้าโอท็อปด้วย อย่างอาหารที่เป็นของทานเล่นก็มีวางขายในร้านเซเว่นฯจังหวัด นั้น ๆ เช่น กล้วยตากอบน้ำผึ้ง หรือขนมเค้กฝอยทอง จังหวัดเพชรบุรี สินค้าที่อร่อย ๆ จริง ๆ ขายน้อยแห่งก็เยอะแล้ว หรือมะม่วงดองวราพร ตัวนี้ก็พัฒนาจากกลุ่มแม่บ้าน ตอนนี้ขยับไปสู่การส่งออกซึ่งบริษัทเข้าไปช่วยเขาพัฒนาสินค้า
หรือผลไม้อบแห้ง หรือเถ้าแก่น้อย ส่วนไข่เค็มพันธศักดิ์ ไข่เค็มไชยา ตัวนี้ขายดีทั่วประเทศ เขารวบรวมจากหลายโรงงานทั้งจังหวัด เติบโตดี ขายไม่ทัน
เมื่อถามถึงแคมเปญโปรโมชั่นเกี่ยวกับอาหารที่มีออกมาอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ แม่ทัพใหญ่เซเว่นฯยกเป็นความดีความชอบให้กับทีมงาน พร้อมกับให้ข้อคิดถึงแนวทางการบริหารงานว่า
"...ลูกน้องทำทั้งหมด ที่นี่ฉลาดที่จะให้ลูกน้องทำงาน เรามีลูกน้องเก่ง ๆ ส่วน คนแก่ก็คอยเตือนว่า อย่าไปยุ่งกับลูกน้อง เราคอยให้กำลังใจ เราต้องไม่รวบอำนาจ ถ้ารวบอำนาจเราเป็นเต่าล้านปี ไม่งั้นทำงานไม่ทัน ความทันสมัยเราสู้เด็กไม่ได้ เราจะต้องคอยเปิดหูเปิดตาตลอด ไปต่างประเทศเห็นไอเดียอะไรดี ๆ ก็นำมาทดลองทำ"
นี่เป็นเพียงความเคลื่อนไหวและแนวคิดการบริหารงานของก่อศักดิ์และเซเว่นอีเลฟเว่น
Labels:
7 Eleven,
Convenience store,
PR
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment