Image via Wikipedia
ภายหลังจาก "สเตฟาโน เพซซินา" ผู้บริหารชาวอิตาเลียน ร่วมกับโคลห์เบิร์ก คราวิส โรเบิร์ตส์ แอนด์ โค (เคเคอาร์) เข้าซื้อกิจการของ "อัลไลแอนซ์ บู๊ทส์" เชนร้านขายยาที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในทวีปยุโรปเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา "เพซซินา" ในฐานะประธานของอัลไลแอนซ์ บู๊ทส์ ต้องการปรับเปลี่ยนบู๊ทส์จากธุรกิจร้านขายยาสัญชาติอังกฤษ ไปสู่การเป็นบริษัทด้านสุขภาพและความงามระดับโลกโดยอาศัย 2 เครื่องมือหลักเพื่อบรรลุภารกิจดังกล่าว นั่นคือ การเดินหน้าซื้อกิจการทั้งขนาดเล็กและใหญ่ และการขยายธุรกิจ "ครีมลดริ้วรอย"
วอลล์สตรีต เจอร์นัล รายงานว่า ครีมบำรุงผิวภายใต้แบรนด์ "บู๊ทส์ แลบอราทอรีส์ เซรั่ม 7" คือส่วนหนึ่งของความพยายามที่บู๊ทส์จะสร้างความสำเร็จในทวีปยุโรป เหมือนกับ "บู๊ทส์ นัมเบอร์ 7" ที่สำเร็จในอังกฤษมาแล้ว โดย "บู๊ทส์ แลบอราทอรีส์ เซรั่ม 7" ถือเป็นไลน์สินค้าใหม่ ซึ่งรวมไปถึงครีมบำรุงผิวที่ปัจจุบันมีจำหน่ายในร้านขายยาในฝรั่งเศสและโปรตุเกสเท่านั้น
แต่ในไม่ช้าแบรนด์ดังกล่าวจะสามารถหาซื้อได้อย่างกว้างขวางในทวีปยุโรป ซึ่งนี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการของเพซซินาที่จะต้องการทำให้เป็นไลน์สินค้าที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนการเติบโตสำหรับ "อัลไลแอนซ์ บู๊ทส์" ในอนาคต
เพซซินา ประธานบริหารของอัลไลแอนซ์ บู๊ทส์ กล่าวว่า หนึ่งในโครงการหลักสำหรับอนาคตคือสร้างบู๊ทส์ให้เป็นอินเตอร์แบรนด์ โดยขายสินค้าภายใต้แบรนด์บู๊ทส์ออกไปนอกประเทศอังกฤษ
หลังจากการซื้อขายหุ้นในปี 2550 บริษัทจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์บู๊ทส์ใน 15 ประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา รวมทั้งเปิดร้านขายยาในหลายประเทศ ตั้งแต่เนเธอร์แลนด์จนถึงประเทศไทย และจัดหายาให้กับแพทย์กว่า 140,000 คน รวมถึงร้านขายยาและโรงพยาบาลทั่วโลก
อานิสงส์จากธุรกิจดูแลผิวที่เติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงการแพร่ระบาดของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ ที่ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือมียอดเพิ่มขึ้น 12% อยู่ที่ 9 พันล้านปอนด์ หรือราว 15 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 6 เดือนนับถึงวันที่ 30 กันยายน
แต่สำหรับ "เพซซินา" มองว่ายังเป็นการเติบโตที่ไม่มากนัก โดยเขาเชื่อว่าในไม่ช้าบริษัทต้องเผชิญกับการเติบโตที่จำกัด ซึ่งต้องพยายามทุ่มเทเวลาเพื่อจะซื้อกิจการที่ส่งผลต่ออนาคตของบริษัท
"เพซซินา" กล่าวว่า ยังมีดีลควบรวมกิจการที่มีศักยภาพอีกมาก ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่ที่สอดคล้องกับเป้าหมายในการซื้อ กิจการของบู๊ทส์อยู่ในยุโรป
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ความพยายามเหล่านี้จะสำเร็จด้วยดีทั้งหมด อย่างเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว "อัลไลแอนซ์ บู๊ทส์" ล้มเหลวในการเจรจาซื้อกิจการบางส่วนของ "Apoteket" ร้านขายยาที่ดำเนินกิจการแบบผูกขาดในสวีเดน และรัฐบาลสวีเดนนำออกประมูล แต่ดีลนี้กลับสร้างความเสี่ยงต่อบู๊ทส์มากกว่าการเข้าซื้อกิจการร้านขายยาในนอร์เวย์เมื่อปี 2543 ดังนั้น เสนอซื้อกิจการใด ๆ จึงต้องทำด้วยความระมัดระวัง
"ถ้าเราพบร้านขายยาในราคาที่เหมาะสม ก็จะซื้อกิจการ แต่หากต้องจ่ายแพงเกินไป เหมือนกรณีที่สวีเดน เราก็คงไม่"
ขณะนี้คู่แข่งในธุรกิจค้าปลีกและกลุ่มธุรกิจสุขภาพกำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวของ "เพซซินา" หลังการเข้าซื้อ "อัลไลแอนซ์ บู๊ทส์" ร่วมกับเคเคอาร์ ซึ่งถือเป็นดีลที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งก็ยังไม่ชัดเจนว่าจุดประสงค์ของเขาเพื่อต้องการแยกสินทรัพย์ออกเป็นส่วน ๆ หรือมุ่งมั่น จะดำเนินธุรกิจสู่การเติบโตในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม "เพซซินา" ยืนยันว่า เป้าหมายของเขาคือต้องการให้บริษัทดำรงอยู่ได้ในระยะยาว โดยพยายามไล่ซื้อกิจการร้านขายยา เปิดตัวผลิตภัณฑ์และนำเสนอบริการ ซึ่งสะท้อนถึงแผนระยะยาว
"ลูก้า โซลก้า" นักวิเคราะห์ด้านรีเทลของอัลไลแอนซ์ เบิร์นสไตน์ในลอนดอน มองว่า บู๊ทส์มีโอกาสสูงในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพและความงาม ในยุโรป สิ่งที่เพซซินาเข้าใจคือ บรรดาเภสัชกรต้องการแบรนด์ร้านขายยาที่แข็งแกร่ง ที่สามารถจำหน่ายสินค้าที่เป็นเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อต่อกรกับบรรดาร้านขายยาในซูเปอร์มาร์เก็ต
No comments:
Post a Comment