Image by Honou via Flickr
ด้วยสัดส่วนยอดขายที่มีมากกว่า 40% ในไตรมาสสุดท้ายของปี กลายเป็นฉนวนจุดประกายให้ผู้ประกอบการแต่ละค่าย เทกลเม็ดต่างๆ เพื่อฉุดกำลังซื้อให้หันเหมายังฝ่ายของตนเอง แต่ไฮไลต์สำคัญของห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้ายังคงอยู่ที่การจัดอีเวนต์ มาร์เก็ตติ้ง ที่จะมาสร้างสีสัน เป็นไม้เด็ดกระตุ้นกำลังซื้อของลูกค้าในแต่ละพื้นที่
Central "Gift wonderland" สีสันปั้นยอดขาย
ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล กล่าวว่า ซีพีเอ็นให้ความสำคัญกับการจัดอีเวนต์อย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงสิ้นปี ซึ่งเป็นไฮซีซันของธุรกิจค้าปลีก โดยในโค้งท้ายของปีนี้บริษัทใช้งบประมาณกว่า 150 ล้านบาทในการจัดอีเวนต์ปลุกกระแสความสนุกสนาน สร้างสีสันให้กับศูนย์การค้าทุกศูนย์ ซึ่งมีการจัดอีเวนต์ต่างๆ รวมกว่า 200 อีเวนต์ ภายใต้แคมเปญ CentralPlaza Gift Wonderland 2010 ซึ่งกิจกรรมต่างๆ ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรจำนวนมาก อาทิ MAZDA , ธนาคารกสิกรไทย , CITIBANK , ไทยเบฟเวอเรจ เป็นต้น
"การจัดอีเวนต์ในโค้งท้ายนี้ จะช่วยให้ลูกค้ามีความเพลิดเพลิน และใช้จ่ายมากขึ้น แต่ต้องมีกิจกรรมส่งเสริมการขายที่น่าจูงใจ และสร้างกระแสได้ ซึ่งนอกจากอีเวนต์ต่างๆที่จัดขึ้นแล้ว ยังเน้นการตกแต่งภายในให้มีสีสัน เป็นจุดถ่ายภาพ เพื่อสร้างมู้ดในการจับจ่ายให้กับลูกค้าด้วย"
โดยเฉพาะที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ยังคงเป็นไฮไลต์ของช่วงเทศกาลฉลองส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ซึ่งที่นี่นอกจากจะเป็นจุดนัดพบในการร่วมนับถอยหลังเข้าสู่ปี 2010 ที่นี่ยังมีการจัดแคมเปญ The World of Happiness @ CentralWorld โดยมีกิจกรรมมากกว่า 100 กิจกรรมในช่วง 2 เดือน เพื่อสร้างสีสันและดึงดูดให้ลูกค้าทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศให้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นด้วย
The Mall -- Mix & Match แบบโดนใจ
นอกจากอีเวนต์ มาร์เก็ตติ้งจะดึงให้ลูกค้าหันมาสนใจ ยังช่วยสร้างมู้ดในการจับจ่ายให้และกลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ Integrated Marketing Power ที่เดอะ มอลล์ กรุ๊ป นำมาเป็นสูตรสร้างยอดขายในโค้งท้ายของปีนี้ด้วย
"การใช้กลยุทธ์ Integrated Marketing Power เป็นการผสมผสานแนวคิดทางการตลาดต่างๆ มาใช้เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการจับจ่าย ไม่ว่าจะเป็นอีโมชันนัล มาร์เก็ตติ้ง , โปรโมชัน มาร์เก็ตติ้ง , เซอร์วิส มาร์เก็ตติ้ง และอีเวนต์ มาร์เก็ตติ้ง" นายชำนาญ เมธปรีชากุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายการตลาด เดอะ มอลล์ กรุ๊ป กล่าว
การจัดอีเวนต์ในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ ธีมหลักเป็นเรื่องของกิจกรรมที่จะมาสร้างสีสัน โดยทั้ง 3 ห้างจะมีรูปแบบการตกแต่งตามธีมที่แตกต่างกันไป แต่อยู่ภายใต้แนวคิดเดียวกันได้แก่ Let's make our small world smile ที่ย้อนความทรงจำที่มีแต่ความสุขในวัยเด็ก และนำมาตกแต่งเป็นดิสเพลย์ จุดถ่ายภาพ โดยมีตุ๊กตาเป็นสัญลักษณ์สื่อแทนความสุข โดยเดอะ มอลล์ เน้นธีมตุ๊กตานานาชาติในดินแดนแห่ง Small World ที่ดิสนีย์แลนด์ , ดิ เอ็มโพเรียม ตกแต่งด้วยต้นคริสต์มาสยักษ์ ตุ๊กตานางฟ้า เทวดา และพารากอน ตกแต่งด้วยตุ๊กตาพอซซาเลนในชุดนานาชาติ
สยาม ย้ำภาพแฟชั่นอีเวนต์
อีกหนึ่งอีเวนต์ มาร์เก็ตติ้งที่น่าสนใจ และน่าจะเป็นสีสันในช่วงโค้งท้ายของปีนี้ ได้แก่ งานมหกรรมแฟชั่นอีเวนต์จากดีไซเนอร์ชั้นแนวหน้า ที่ "สยามเซ็นเตอร์" นำมาเอาใจนักช็อปแฟชั่นนิสต้า และมาสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งในสไตล์ Real Experience Dynamic ที่มีเป้าหมายเพื่อโกยยอดขายเพิ่มโดยเฉพาะ
นางศิริเพ็ญ อินทุภูติ ผู้บริหารสายการตลาดและประชาสัมพันธ์ สยามเซ็นเตอร์ เล่าว่า ในช่วงท้ายปี ลูกค้าให้ความสำคัญและเลือกจับจ่ายมากขึ้นในทุกกลุ่มสินค้า ดังนั้นสยามเซ็นเตอร์ จึงมุ่งเน้นการทำกลยุทธ์เพื่อสร้างประสบการณ์และบรรยากาศการช็อปปิ้ง ภายใต้แนวคิด Real Experience Dynamic โดยเน้นที่กลุ่มแฟชั่นอีเวนต์เป็นหลัก เพื่อสร้างความแตกต่างไม่เหมือนใคร ผนวกกับโปรโมชันที่จัดทำขึ้นแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ที่เป็นความร่วมมือระหว่างสยามเซ็นเตอร์กับซัพพลายเออร์ที่เป็นพันธมิตรเท่านั้น
โดยมหกรรมอีเวนต์แฟชั่นที่จัดขึ้น จะต่อเนื่องตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงสิ้นปี 2552 เริ่มต้นจากแฟชั่นโชว์อินเตอร์แบรนด์ชั้นนำในคอนเซ็ปต์ Mystique ที่รวมแฟชั่นเสื้อผ้าแบรนด์เนมกว่า 10 แบรนด์ อาทิ Esprit , Karen Millen , LeSportsac เป็นต้น การเปิดตัวบูติกแบรนด์ชื่อดังจากฮ่องกง another F.C.K แฟล็กชิพสโตร์แห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้งบลงทุนกว่า 40 ล้านบาท , คอลเลกชันจากดีไซเนอร์ไทย 27 Friday และ 27 Nov. , เป็นต้น
"ปกติการจัดอีเวนต์แต่ละครั้งสามารถดึงดูดให้ลูกค้ามาใช้บริการเพิ่มได้เฉลี่ย 20% แต่ในช่วงไตรมาสสุดท้าย หากจัดอีเวนต์จะมีลูกค้าเข้ามาเพิ่ม 30% ทำให้ห้างแต่ละห้างต้องจัดอีเวนต์ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น แต่อีเวนต์ที่จัดก็ต้องลิงก์ถึงภาพลักษณ์ของศูนย์ด้วย"
No comments:
Post a Comment