เปิดพิมพ์เขียว
"เอ็มโพเรียม 2" กลุ่มเดอะมอลล์เทงบฯหมื่นล้านปั้นอาณาจักร "Emquatier"
4 แสน ตร.ม. เปิดย่านค้าปลีกแห่งใหม่ดึงแบรนด์ดังระดับโลกร่วมขบวน
ชูกลยุทธ์เชิญคู่ค้าแบบเอ็กซ์คลูซีฟจองพื้นที่
ชี้ตลาดแข่งขันแรงช่วงชิงความโดดเด่นทำเล-ดีไซน์-ลูกค้า ดีเดย์พร้อมอวดโฉม 2014
แม้ว่าจะไม่เปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการ
แต่การซุ่มก่อสร้างเอ็มโพเรียม 2
ของกลุ่มเดอะมอลล์กลับรุดหน้าและมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
ทั้งโครงสร้างอาคารและแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่จะเข้ามาเป็นแม่เหล็กสำคัญ
เพื่อเปิดให้ทันปี 2014 โดยเฉพาะการปั้นโปรเจ็กต์ยักษ์ 4 แสน
ตร.ม.ให้เป็นย่านค้าปลีกแห่งใหม่ภายใต้ชื่อ "เอ็มควอเทียร์" EMQUARTIER
หรือ EMPORIUM QUARTIER
เปิดแปลน
"เอ็กซ์คลูซีฟ"
นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า
ที่ผ่านมาโปรเจ็กต์เอ็มโพเรียม 2 นี่ไม่ได้บอกใคร ไม่มีใครรู้ว่าจะเป็นอย่างไร
เนื่องจากการแข่งขันในตลาดสูงมาก คู่แข่งเพิ่มมากขึ้น
ถ้าประกาศตัวไปเร็วและเปิดโครงการเร็วจะไม่ส่งผลดี
นอกจากนี้แต่ละโครงการที่กลุ่มเดอะมอลล์ทำล้วนเป็นเทรนด์เซตเตอร์และสร้างสิ่งใหม่
ๆ ในตลาดค้าปลีก เช่นเดียวกับการติดต่อคู่ค้าและแบรนด์สินค้าที่จะมาเปิดในศูนย์
จะเป็นลักษณะการเชิญแบบเอ็กซ์คลูซีฟเป็นราย ๆ ไป ส่วนเอ็มโพเรียม 1
จะปรับโพซิชันนิ่งร้านค้าใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เกิดการผสมผสานกันทั้ง 2 ฝั่ง
ซึ่งมีรถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นตัวเชื่อมโยงการเดินทาง
สิ่งที่ทำจะเป็นการสร้างกระแสมิติใหม่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
เป็น EPI
Center ของสุขุมวิท มีความโดดเด่น แตกต่าง และ unique (พิเศษ) ไม่เหมือนใครในโลก จะเป็นย่านการค้าแห่งใหม่ เป็นอะไรที่ระดับโลก
ด้วยทำเลที่ตั้ง 2 ฝั่งรวมกัน 30 ไร่ เงินลงทุนกว่าหมื่นล้าน เป็นเพชรเม็ดงาม
ตลอดชีวิตไม่มั่นใจว่าจะหาที่ดินผืนงามในย่านสุขุมวิทแบบนี้ได้อีก
"ตอนนี้บอกได้แค่ภาพกว้าง
ๆ เพราะไม่สามารถบอกได้จริง ๆ ว่าจะเป็นแบบไหน อย่างไร ต้องรอดู
แต่อย่างที่บอกโดยสไตล์เดอะมอลล์เราเลือกทำทุกอย่างไม่ได้
เราไม่เน้นปริมาณแต่เน้นคุณภาพ นั่นคือสิ่งที่เราจะเอาชนะคู่แข่งได้
เราอาจเปิดไม่ได้ในทุกหัวเมืองเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
แต่ทุกที่ที่เราไป เราต้องใหญ่และแข็งแรง ไม่จำเป็นต้องตีทุกที่
แต่ทุกที่ที่เราไปเราต้องชนะ" นางสาวศุภลักษณ์กล่าว
"โมเดล" organic
form
รายงานข่าวระบุว่า ศูนย์การค้า
"เอ็มควอเทียร์" หรือเอ็มโพเรียม 2 จะเป็นสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่ล้ำนำสมัยรวม
3 อาคาร หนึ่งในนั้นจะเป็นอาคารสูง โดยนำเส้นสายพลิ้วไหวมาประกอบการออกแบบ
ต่างจากศูนย์การค้ายุคเก่าที่เป็นบล็อก เชื่อมโยงพื้นที่ระหว่างเอ็มโพเรียม 1 และ
2 ด้วยลานลอยฟ้าขนาดใหญ่
วัสดุและรูปแบบถูกกำหนดว่าต้องไม่มีใครในเมืองไทยใช้มาก่อน รูปแบบต้องไม่มีที่ไหนเหมือนในโลก
คอนเซ็ปต์การออกแบบยึดแนวทาง organic
form เป็นมิตรกับสภาพแวดล้อมโดยรวม
ภายในมีพื้นที่สีเขียวกระจายทุกจุด รวมทั้งสวนแนวตั้งขนาดใหญ่
โดยใช้ดีไซเนอร์ระดับโลก
แสงและบรรยากาศต้องสร้างความแตกต่างระหว่างกลางวันและกลางคืน ขณะเดียวกันเอ็มโพเรียม
1 จะได้รับการรีโนเวตพร้อม ๆ กันด้วย
รวมถึงการแบ่งพื้นที่เป็นโซนตามความต้องการของแต่ละกลุ่มทาร์เก็ต อาทิ
กลุ่มครอบครัว, กลุ่มเทรนดี้ ยัง หรือแฟชั่นนิสต้า
กลุ่มคนทำงาน คนชอบจิวเวลรี่ ลักเซอรี่ มีหลายกลุ่มมาสังสรรค์ มาเรียนหนังสือ
มาเข้าออฟฟิศ เป็นความหลากหลายแต่จะครบทุกอย่างความต้องการของลูกค้า
ผู้เกี่ยวข้องกับการออกแบบระบุว่า
"เอ็มควอเทียร์" คือศูนย์การค้าที่สะท้อนตัวตนของสุขุมวิท
ซึ่งเป็นแหล่งรวมของผู้บริโภคหลากหลายกลุ่มอย่างแท้จริง ทั้งผู้อยู่อาศัย
พนักงานออฟฟิศ ต่างชาติที่เข้ามาทำงาน "ศูนย์การค้าแห่งใหม่นี้จะเป็นในลักษณะเหนือกาลเวลา
และมีคุณค่าทางสถาปัตยกรรม ทุกอย่างต้องอยู่ในความเหมาะสม
รูปแบบต้องไม่มีที่ไหนเหมือนในโลก กลายเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาในการคิดและออกแบบ
เนื่องจากสถานที่และความใหญ่ของพื้นที่"
สงคราม iconic
landmark
แหล่งข่าวในวงการพัฒนาพื้นที่ค้าปลีกกล่าวว่า
การลงทุนครั้งนี้มีมูลค่ามากกว่า 1 หมื่นล้านบาท ด้วยความใหญ่ของพื้นที่กว่า 4 แสน
ตร.ม. และทำเลที่เชื่อม 2 ศูนย์ติดกันโดยมีรถไฟฟ้าเชื่อมอยู่ตรงกลาง
รวมถึงการที่ศูนย์การค้าตั้งอยู่ติดกับสวนเบญจสิริซึ่งเอื้อต่อการทำกิจกรรมอีเวนต์ในรูปแบบต่าง
ๆ ทำให้ทำเลตรงนี้แตกต่างและโดดเด่น
ซึ่งการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกคราวนี้เป็นเหมือนสงครามที่แข่งขันกันสูง
เป็นการช่วงชิงความโดดเด่นในเรื่องการเป็นเวิลด์คลาสระดับโลก
และความโดดเด่นของโครงการ เนื่องจากไม่ใช่แค่ช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ทั่ว ๆ ไป
"คุณแอ๊วบอกว่าทำเอ็มโพเรียมกับพารากอนมาแล้ว
พอทำโครงการใหม่ก็ต้องไปข้างหน้า เพราะคนคาดหวัง ทำให้ต้องแข่งกับตัวเอง
ซึ่งที่ดิน 16 ไร่บวกกับของเก่าอีก 13 ไร่ รวมเป็น 30 ไร่
หาไม่ได้อีกแล้วในชีวิตนี้ ถ้าทำอะไรที่เป็นพิเศษระดับโลก เป็น iconic
landmark เป็น a must destination" แหล่งข่าวอ้างคำพูดนางสาวศุภลักษณ์
แหล่งข่าวยืนยันว่า โครงการ
"เอ็ม ควอเทียร์" ได้รับความสนใจจากแบรนด์เนมระดับโลกจำนวนมาก
ส่วนใหญ่ต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อเปิดเป็นแฟลกชิป
เห็นได้จากภาพการเข้ามายกตัวอย่างแบรนด์ซาร่า, H&M, ยูนิโคล่ หรือยัสปาล ต่างต้องการพื้นที่มากกว่า 2-3 พัน ตร.ม. สอดคล้องกับผู้สื่อข่าว
"ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า ภาพความเคลื่อนไหวของ 2
ค่ายค้าปลีกทั้งโครงการเอ็มบาสซี่ของกลุ่มเซ็นทรัล และเอ็มโพเรียม 2
ของกลุ่มเดอะมอลล์ ต่างเร่งเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อเปิดให้ทันตามแผนงานปี 2014
ไม่เพียงภาพการก่อสร้างของตัวอาคารที่รุดหน้าอย่างรวดเร็ว
แต่ยังหมายถึงการดึงแบรนด์สินค้าชั้นนำระดับโลกเข้ามาร่วมโครงการให้ได้
เกลี่ย พท.-ปรับโฉมเอ็มโพเรียม
1
แหล่งข่าวระบุว่า
เนื่องจากย่านค้าปลีกแห่งใหม่นี้จะมีความครบและสมบูรณ์แบบ ทันสมัย ยิ่งใหญ่
บนพื้นที่ 2 แสนกว่า ตร.ม.ของเอ็มโพเรียม 2 บวกกับอีก 2 แสน ตร.ม.ของศูนย์ปัจจุบัน
ทั้งนี้ การวางกลุ่มลูกค้าและโพซิชันนิ่งของทั้ง 2 ศูนย์จะมีความแตกต่างกัน
จัดเป็นโซนนิ่งตามความชอบของกลุ่มลูกค้า
กลายเป็นสิ่งที่ต้องจัดสรรและปรับร้านค้าใหม่
เพื่อให้แต่ละแห่งมีความแข็งแกร่งและแตกต่างกัน เนื่องจากจะมีร้านค้าแฟลกชิปและร้านค้าใหม่
ๆ เข้ามาจำนวนมาก
ดังนั้น รูปลักษณ์ของทั้ง 2
ศูนย์จะไปในทิศทางเดียวกัน และต้องทำให้ดูดีทั้งคู่
การปรับโฉมของศูนย์ปัจจุบันจะทยอยทำไปพร้อมกับการสร้างศูนย์ใหม่
เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าหลักซึ่งจะมีทั้งนักท่องเที่ยว กลุ่มเอ็กซ์แพ็ก
(ต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทย) และลูกค้าคนไทย
โดยเฉพาะกลุ่มเอ็กซ์แพ็กที่จะกลายเป็นลูกค้าหลักด้วยกำลังซื้อสูง
และมาบ่อยด้วยสัดส่วน 30-40% บวกกับนักท่องเที่ยวอีก 10%
No comments:
Post a Comment