Pages

Wednesday, April 4, 2012

บู๊ทส์เปิดแผนสู่เบอร์หนึ่งความงาม ดึงพันธมิตรเปิดตลาดใหม่มั่นใจศก.ไทยลงทุนเพิ่ม


อลิอันซ์ บู๊ทส์ เปิดยุทธศาสตร์ผู้นำตลาดค้าปลีกสุขภาพความงาม เร่งผสานการเติบโตในองค์กร เฟ้นหาพันธมิตร เปิดตลาดใหม่ เข้าซื้อกิจการ มั่นใจเศรษฐกิจไทยยังแกร่ง หลังบู๊ทส์ไทยฝ่าวิกฤต มีอัตราการเติบโต 15% เดินหน้าลุยขยายการลงทุนต่อเนื่อง คาดอีก 2-3 ปี ครบ 300 สาขา



นายสเตฟาโน่ เพสซิน่า ประธานกรรมการบริหารสูงสุด อลิอันซ์ บู๊ทส์ กล่าวถึงยุทธศาสตร์นับจากนี้ในโอกาสมาเยือนเมืองไทยว่า จะเน้นไปที่การผสมผสานระหว่างการเติบโตภายในองค์กร การหาพันธมิตร การแสวงหาโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ การเปิดตัวแบรนด์ผลิตภัณฑ์ของบู๊ทส์ และการซื้อกิจการ เพื่อให้บู๊ทส์เป็นหนึ่งในผู้นำด้านสุขภาพและความงามของโลก ทั้งนี้เมื่อปีที่ผ่านมาได้เข้าไปซื้อกิจการ 2 แห่งคือ บริษัทขายส่งเภสัชภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดในตุรกีและเยอรมนี ส่งผลให้เป็นผู้นำในตลาดยุโรปอย่างชัดเจน

ปัจจุบันบู๊ทส์ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกด้านสุขภาพและความงามกว่า 3,280 แห่งใน 25 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีร้านค้าภายใต้แบรนด์บู๊ทส์อีก 50 แห่ง

อย่างไรก็ตาม สำหรับแผนการลงทุนในประเทศไทย อลิอันซ์ บู๊ทส์ ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยจะประสบปัญหาเรื่องของความไม่สงบทางการเมืองและอุทกภัย แต่ก็สามารถก้าวผ่านและฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่บู๊ทส์ประเทศไทยยังรักษาการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปีก่อนเติบโตถึง 15%

ขณะที่การขยายสาขาก็ยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยมีการขยายสาขาถึง 21 สาขา จากปัจจุบันนี้มี 200 สาขา

นายดีน ทอมสัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท บู๊ทส์ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จะเน้นกลยุทธ์ 3 แนวทางหลักให้ร้านบู๊ทส์เป็นผู้นำด้านสุขภาพ เพิ่มบริการที่ครอบคลุมและพัฒนาร้านขายยาในบู๊ทส์คาดว่าภายในเดือนพฤษภาคมนี้ร้านขายยาทั้ง 200 สาขา รวมถึงการขยายฐานบัตรสมาชิกที่เปิดตัวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีฐานสมาชิก 350,000 ราย คาดว่าปีนี้เพิ่มเป็น 1 ล้านราย

และการพัฒนาสินค้าเฮาส์แบรนด์ โดยเฉพาะกลุ่มสกินแคร์ ภายใต้แบรนด์ No.7 ที่ปีนี้จะเปิดตัวกว่า 20 รายการ ซึ่งจะเริ่มเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ "บิวตี้แคร์" ช่วงเดือนเมษายนนี้

ในส่วนของภาพรวมการแข่งขันธุรกิจค้าปลีกด้านสุขภาพและความงามในไทย ถือว่ามีการแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรง อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าด้วยกลยุทธ์ดังกล่าวจะส่งผลให้มีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 15%

นายดีนกล่าวต่อว่า ปีนี้ยังขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากต้องรอดูทำเลก่อนตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าจะเปิดเพิ่มอีก 100 แห่ง ภายใน 2-3 ปีนี้

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts with Thumbnails