HOMEPRO รุกหวังกวาดยอด2.8หมื่นล้าน บุก8สาขาตจว.-ขายวัสดุผ่านเว็บ

"โฮมโปร" เฟื่อง ตั้งเป้าโต 18% กวาดยอดขาย 28,000 ล้าน โตแซง "แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์" บริษัทแม่ หลังน้ำลด ยอดขายพุ่ง 30% เร่งขยายสินค้านำเข้าเสริมจุดแกร่งโฮมโปร เซอร์วิสบริการ เรื่องบ้านครบวงจรตอบโจทย์ลูกค้าตรงจุด หลังน้ำลดยอดจองคิวล่วงหน้าเต็ม 2 เดือน เปิดเกมใหม่ขายสินค้าผ่านเว็บไซต์ เตรียมแตกไลน์ขายสินค้าคอนซูเมอร์ ลงทุน 4,500 ล้านบาท เปิด 8 สาขาใหม่ บุกต่างจังหวัดตลาดหัวเมือง ปีหน้ารุกเปิดสาขาประเทศมาเลเซียอีก

นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ศูนย์จำหน่ายวัสดุและตกแต่งบ้านครบวงจร "โฮมโปร" เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปีนี้โฮมโปรจะรุกการพัฒนาทุกทิศทาง ทั้งสินค้า บริการ บุคลากร และเพิ่มช่องทางการขายผ่านระบบอีคอมเมิร์ซ โดยเพิ่มสัดส่วนสินค้าซอร์สซิ่ง ลดสินค้าคงคลัง เพิ่มบริการโฮมโปรเซอร์วิส และพัฒนาบุคลากรให้ได้มาตรฐานสากล

ปีนี้โฮมโปรย่างเข้าสู่ปีที่ 16 หลังครบรอบ 15 ปีเมื่อปีที่แล้ว และเปิดให้บริการมากถึง 45 สาขา หรือเปิดเฉลี่ยปีละ 3 สาขา ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 18% คิดเป็นเป้ายอดขาย 28,000 ล้านบาท

"สินค้าที่หลากหลาย มีดีไซน์ และราคาไม่แพงมากจะเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้ามาก ยิ่งเราให้บริการช่างและให้ คำปรึกษาแบบครบวงจร จึงช่วยตอบโจทย์ตรงจุด ถือเป็นคีย์ซักเซสที่ทำให้โฮมโปรโตต่อเนื่องและแข็งแกร่งในฐานะแบรนด์คนไทย"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันโฮมโปร มียอดขายโตกว่าบริษัทแม่คือ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่มียอดขายอยู่ในระดับ 1.6-2 หมื่นล้านบาทต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และปีนี้แลนด์ฯตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 22,000 ล้านบาท สูงกว่าปีที่แล้วที่มีรายได้ 19,185 ล้านบาท ขณะที่โฮมโปรตั้งเป้าไว้ถึง 28,000 ล้านบาท

เพิ่มสินค้าซอร์สซิ่ง 25%

จุดแข็งของสินค้าปีนี้โฮมโปรตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนยอดขายสินค้าซอร์สซิ่งจาก 18% เป็น 20% ของยอดขาย และภายใน 2 ปีจะเพิ่มเป็น 25% จากนั้นจะทบทวนว่ายังมีสินค้าหมวดใดที่เพิ่มการซอร์สซิ่งได้อีก และจะขยับเพิ่มเป็น 30% หรือไม่

โฮมโปรเริ่มนำเข้าสินค้าครั้งแรกเมื่อ 5 ปีก่อน ถือเป็นเคล็ดลับทำให้มียอดขายและกำไรดีขึ้น โดยเฉพาะสินค้าผ้าม่าน พรม กระเบื้อง สุขภัณฑ์ ก๊อกน้ำ ฯลฯ เพราะแต่ละปีโรงงานผลิตสินค้าที่เป็น แบรนด์ไทยมีความถี่ผลิตสินค้าใหม่ ๆ ออกมาน้อยมาก ไม่สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ หรือบางรายการเป็นสินค้าที่โรงงานในไทยไม่มีผลิต เช่น กระเบื้องแกรนิโต้แผ่นใหญ่ 60 x 60 เซนติเมตร และขนาด 1 x 1 เมตร บริษัทจึงต้องหาสินค้าจากแหล่งอื่นหรือนำเข้า จากต่างประเทศมาขายแทน

ซึ่งปี 2558 เมื่อเปิดเสรีการค้าอาเซียนจะยิ่งเป็นผลดีต่อโฮมโปรในการเสาะหาสินค้าจากทั่วโลก จากปัจจุบันที่นำเข้าจากประเทศจีน อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม เป็นหลัก

นายคุณวุฒิเปิดเผยว่า ยอดขายช่วง 1-2 เดือนหลังน้ำลดได้เพิ่มพรวดจากปีก่อน 30% และจำนวนการใช้บริการปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน เช่น ติดตั้งปั๊มน้ำ, ย้ายปลั๊กไฟ ฯลฯ ก็เพิ่มขึ้นจนปัจจุบันมีลูกค้าจองคิวล่วงหน้านานถึง 2 เดือน รายได้จากบริการโฮมโปรเซอร์วิสน่าจะเพิ่มขึ้นอีก 30 ล้านบาท โดยมีทีมช่าง 100 ทีมรับงานลูกค้าได้เดือนละ 500 ราย แม้โฮมโปรเซอร์วิสไม่ใช่ตัวสร้าง รายได้หลักและทำกำไร แต่เป็นตัวเสริมที่ทำให้โฮมโปรครบเครื่องและขายสินค้า ทำให้ลดคำติเพิ่มคำชมจากลูกค้าได้มาก

แตกกิ่งขายสินค้าผ่านเว็บ

ส่วนเรื่องใหม่ที่จะรุกในปีนี้คือ 1.การขายสินค้าผ่านเว็บไซต์หรือระบบอีคอมเมิร์ซ และ 2.ขยายสาขาอีก 8 แห่ง ทั่วประเทศ โดยนำร่องอีคอมเมิร์ซเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และจะเปิดขายผ่าน www.directtoshop.com ได้ในไตรมาสแรกนี้ ช่องทางนี้โฮมโปรจะช่วยให้ลูกค้าเปรียบเทียบราคาซื้อขายได้จากหน้าจอ มีส่วนลดพิเศษและรับคืนสินค้าได้ทุกสาขา สินค้าขายผ่านเว็บจะมีหมวดทีวี เครื่องใช้ไฟฟ้า ของตกแต่งบ้าน และกำลังพัฒนาเว็บในเฟสต่อไปเพื่อขายสินค้าคอนซูเมอร์ที่โฮมโปรไม่มีขาย อาทิ เครื่องสำอาง เครื่องประดับ เครื่องหนัง ฯลฯ ภายใต้แนวคิด "สโตร์ออนเว็บ" หรือห้างบนโลกออนไลน์

ปี"55 ผุดเพิ่ม 8 สาขารวด

โฮมโปรมีเป้าหมายขยายสาขาให้ครบ 60 แห่งในปี 2556-2557 โดยเปิดเพิ่ม 8 สาขารวด เน้นตลาดหัวเมือง ต่างจังหวัดคือ ตรัง นครสวรรค์ อุบลราชธานี หาดใหญ่ มหาชัย บุรีรัมย์ เมกะบางนา และอีก 1 สาขาอยู่ระหว่างพิจารณางบฯลงทุนเฉลี่ยต่อสาขา 500 ล้านบาท รวมลงทุนปีนี้ประมาณ 4,500 ล้านบาท สาขาแรกจะเปิดที่ตรังในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้

ส่วนต่างประเทศจะเปิดสาขาแรกที่เมืองกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ในต้นปี 2556 พื้นที่ 10,000 ตารางเมตร ลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท เหตุผลที่เลือกมาเลเซียเพราะอยู่ใกล้ ง่ายต่อการขนส่ง และมีกำลังซื้อสูง อีกทั้งไลฟ์สไตล์อยู่ในระนาบเดียวกับคนไทย