เซเว่นอีเลฟเว่นย้ำคอนเซ็ปต์ร้านอิ่มสะดวก
ลุยธุรกิจอาหารเต็มสูบ
ดันกลุ่มอาหารแช่เย็นหรือชิลฟู้ดเป็นหัวหอกขยายตลาดต่างจังหวัด
นำร่องภาคตะวันออกเป็นครั้งแรก จากที่มีจำหน่ายเฉพาะเขตกรุงเทพฯ
ผุดฮับผลิตเบเกอรี่สดป้อนร้านยูริคัดสรร หวังเพิ่มความถี่ในการเข้าร้าน-ยอดซื้อต่อบิลสูงขึ้น
กำไรมากขึ้น
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่นอีเลฟเว่น
กล่าวว่า
ทิศทางจากนี้ต้องการเน้นย้ำการขยายอาหารในรูปแบบอาหารแช่เย็นหรือชิลฟู้ดมากขึ้น
เนื่องจากมองเห็นโอกาสจากเครือซีพีที่มุ่งสู่การเป็นครัวของโลก ขณะเดียวกันธุรกิจอาหารก็เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และเป็นสินค้าจำเป็นที่มีการบริโภคทุกวัน
วันละ 3 มื้อ รวมทั้งกำไรต่อหน่วยของกลุ่มอาหารมีมากกว่าสินค้าของใช้
ปัจจุบันสินค้าอาหารและของใช้มีสัดส่วน
70:30 เพิ่มขึ้นจาก 60:40 เชื่อว่าจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นได้ถึง 75:25 ซึ่งขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามคอนเซ็ปต์ที่ต้องการมุ่งไปสู่การเป็นร้านสะดวกซื้อในเรื่องอาหาร
โดยจะเพิ่มเมนูใหม่ทั้งในกลุ่มอาหาร เบเกอรี่ เครื่องดื่ม
สำหรับกลุ่มอาหารแช่แข็ง ภายใต้
แบรนด์อีซี่โกมีจำหน่ายทั่วประเทศ ขณะที่อาหารแช่เย็นมีจำหน่ายในเขตกรุงเทพฯเท่านั้น
จากนี้จึงมุ่งขยายไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเริ่มจากภาคตะวันออก
อยู่ระหว่างสร้างโรงงานผลิตอาหารแช่เย็นที่พัทยา ชลบุรี
และมีแผนสร้างฮับขนาดเล็กผลิตเบเกอรี่สดในเขตกรุงเทพฯอีก 2-3 แห่ง ซึ่ง 1
ฮับจะผลิตเบเกอรี่เข้าร้านยูริคัดสรรครอบคลุม 50 สาขา โดยได้ทดลองเปิด 1
แห่งที่สีตบุตร รองรับ 30 สาขา ตั้งเป้าขยาย 150-200 สาขาใน 5 ปี
ปัจจุบันยูริคัดสรรมี 100 แห่ง สิ้นปีนี้จะขยายเป็น 200 สาขา
จากแผนเชิงรุกดังกล่าว
เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มความถี่ของลูกค้าในการเข้ามาใช้บริการที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น
และเพิ่มยอดซื้อต่อบิลมากขึ้น โดยจะเห็นได้ว่า
จากการเพิ่มสัดส่วนสินค้าอาหารที่ผ่านมาได้ช่วยเพิ่มลูกค้าเข้ามาใช้บริการเป็น
1,200 คนต่อวันต่อสาขา จากเดิมเฉลี่ย 900 คนต่อวัน
ซึ่งเปลี่ยนพฤติกรรมการเข้ามาใช้บริการเป็น 2-3 ครั้งต่ออาทิตย์ จากเดิม 1
ครั้งต่ออาทิตย์ รวมทั้งยอดซื้อต่อบิลเพิ่มเป็น 50-53 บาท
เพิ่มจากที่มียอดซื้ออยู่ที่ 40 บาท
"เราปรับตัวจากร้านสะดวกซื้อมาเป็นร้านอิ่มสะดวก
อาหารต้องกินวันละ 3 มื้อ ความถี่ในการซื้อ กำไรมากกว่าของใช้
เป็นสินค้าที่มีราคาสูงกว่ากลุ่มของใช้ อาหาร 39 บาทต่อกล่อง ของใช้เฉลี่ยราคา 10
บาทต่อชิ้น เราเน้นความอร่อยและเมนูที่มีมาร์เก็ตไซต์ขนาดใหญ่ อย่างกะเพราหมู
แต่ก็ขึ้นอยู่กับการคัดเลือกสินค้าได้ตรงกับความต้องการและสร้างความพึงพอใจ"
นายปิยะวัฒน์กล่าวถึงแผนการลงทุนว่า
มีแผนขยายสาขาใหม่อีก 500 สาขา จากที่มีอยู่ 6,300 กว่าสาขา โดยเน้นไปที่การสร้างนักธุรกิจคนรุ่นใหม่เข้ามา
ร่วมธุรกิจมากขึ้น ส่วนการลงทุนต่างประเทศ สนใจขยายร้านเซเว่นฯในเวียดนามและจีน
ซึ่งบริษัทแม่ของเซเว่นฯที่สหรัฐอยู่ระหว่างสำรวจตลาดและกำลังซื้อของประชากร
คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
No comments:
Post a Comment