สตาร์บัคส์ปรับราคาเครื่องดื่มกาแฟเฉลี่ยแก้วละ 5 บาทตั้งแต่ 4 เม.ย. หลังต้นทุนพุ่งขึ้นทุกด้าน น้ำมัน ชา นม โดยเฉพาะเมล็ดกาแฟดิบทั่วโลก หลังไม่ขึ้นมา 3 ปี ล่าสุดจัดกิจกรรมเอิร์ทเดย์ รณรงค์ใช้แก้วส่วนตัว ลดพลาสติก แก้วกระดาษ ชี้ลูกค้าหันมาใช้แก้วส่วนตัวเพิ่มขึ้นกว่า 38%
นางสุมนพินทุ์ โชติกะพุกกณะ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสาร องค์กร และสตาร์บัคส์ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันซึ่งต้นทุนการผลิตต่าง ๆ ได้มีการปรับราคาสูงขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน ชา และนม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมล็ดกาแฟสีเขียว ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการทำ เครื่องดื่มกาแฟทุกชนิดของสตาร์บัคส์ ทำให้บริษัทมีความจำเป็นต้องปรับราคาเครื่องดื่มในไลน์ของกาแฟเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 5 บาท ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 4 เมษายนเป็นต้นมา
อย่างไรก็ตามบริษัทไม่ได้ปรับราคาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาแฟ อาทิ กรีนที แฟรบปูชิโน่ หรือเครื่องดื่มใน กลุ่มชาผลไม้ รวมถึงเครื่องดื่มคลาสสิก ช็อกโกแลต
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สตาร์บัคส์ได้พยายามอย่างหนักในการคงราคาเดิมไว้เพื่อที่จะไม่ให้ส่งผลกระทบต่อลูกค้าของเรา โดยครั้งสุดท้ายที่สตาร์บัคส์ได้มีการปรับขึ้นราคาสินค้านั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2551 นับเป็นระยะเวลา 3 ปี แต่ด้วยราคาต้นทุนต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายจากการดำเนินการและจัดการได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทจำเป็นต้องขึ้นราคาสินค้า เพื่อที่จะยังคงคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการบริการของสตาร์บัคส์ไว้
"เรามีความมุ่งมั่นที่จะสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าของเรา ด้วยเครื่องดื่มและบริการคุณภาพเยี่ยมที่ลูกค้าสามารถสัมผัสประสบการณ์สตาร์บัคส์นี้ได้ ที่ร้านสตาร์บัคส์ทุกสาขาทั่วประเทศ" นางสุมนพินทุ์กล่าวและว่า
ล่าสุดสตาร์บัคส์ได้จัดกิจกรรมสำหรับเอิร์ทเดย์หรือวันคุ้มครองโลกในปีนี้ โดยได้รณรงค์การหันมาใช้แก้วส่วนตัวในวันศุกร์ที่ 22 เมษายน 2554 ระหว่างเวลา 10.00-12.00 น. ลูกค้าที่นำแก้วส่วนตัวมาซื้อเครื่องดื่มที่ร้านสตาร์บัคส์ทุกสาขา จะได้รับเครื่องดื่มลาเต้ร้อนหรือเย็น ฟรี 1 แก้ว พิเศษจากเดิมที่ลูกค้าที่นำแก้วส่วนตัวมาใช้ในการซื้อเครื่องดื่มที่ร้านจะได้รับส่วนลดทันที 10 บาท ทั้งนี้จากสถิติในปี 2553 มีลูกค้าหันมาใช้แก้วส่วนตัวในการซื้อเครื่องดื่มที่ร้านสตาร์บัคส์กว่า 54,000 ครั้งต่อเดือน เพิ่มขึ้นจากปี 2552 กว่า 38%
นางสุมนพินทุ์กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา สตาร์บัคส์ได้รณรงค์การใช้แก้วส่วนตัว หรือ Personal Tumbler แทนการใช้แก้วกระดาษและพลาสติกอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งวิธีง่าย ๆ ในการช่วยลดภาวะโลกร้อน ทั้งนี้การมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมถือเป็นหนึ่งในแนวทางภายใต้ Starbucks Shared Planet ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจของสตาร์บัคส์ในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้แก่มนุษย์และโลก เริ่มจากวิธีการรับซื้อกาแฟ, การลดการใช้ทรัพยากร และการมีส่วนร่วมในชุมชน
No comments:
Post a Comment