ไอทีซิตี้ดีเดย์พ.ค.นี้ขาย"แอปเปิล"-ครึ่งปีหลังบุกหนัก"สมาร์ทโฟน-แท็บเลต"

"ไอที ซิตี้" เดินหน้าขยายไลน์สินค้าตอบโจทย์วันสต็อปช็อปปิ้ง ดีเดย์วางขายผลิตภัณฑ์แอปเปิล ทั้งแมคบุ๊ก ไอโฟน ไอแพด พ.ค.นี้ประเดิมสาขาแรกพันธุ์ทิพย์ฯ ประตูน้ำ หลังร่วมทุนกับ "เอสพีวีฯ" ไอสตูดิโอรายใหญ่ เผยครึ่งปีหลังรุกหนักตลาด "สมาร์ทโฟน-แท็บเลต" เตรียมขนแบรนด์ใหญ่วางแผงครบทั้งโนเกีย เอชทีซี โมโตโรล่า เดลล์ แอลจี หวังดันรายได้โต 10%

นายเอกชัย ศิริจิระพัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลยุทธ์ของไอที ซิติ้ ปีนี้จะเน้นการนำสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาเพื่อช่วยเสริมสร้างการเติบโตให้สูงขึ้น โดยเตรียมวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ แอปเปิล หลังจากเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ไอที ซิตี้ได้ประกาศร่วมลงทุนกับบริษัท เอสพีวี แอ๊ดวานซ์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล เพื่อให้ไอที ซิตี้สามารถจัดจำหน่ายสินค้า แบรนด์แอปเปิลภายในสาขาของไอที ซิตี้ได้ในทุกผลิตภัณฑ์ ทั้งคอมพิวเตอร์แมคบุ๊ก ไอพอด ไอโฟน ไอแพด โดยจะเริ่มวางจำหน่ายสาขาแรกในเดือน พ.ค. นี้ที่พันธุ์ทิพย์ พลาซา ประตูน้ำ และสิ้น มิ.ย.นี้จะวางจำหน่ายเพิ่มเป็น 3 สาขา และเพิ่มเป็น 10 สาขาภายในสิ้นปีนี้ โดยแอปเปิลจะให้การสนับสนุนความรู้ การตลาดและการทำธุรกิจแบบแอปเปิล เป็นต้น

โมเดลการขายสินค้าแอปเปิลของ ไอที ซิตี้ จะเหมือนในต่างประเทศซึ่งแอปเปิลเรียกว่าคอนซูเมอร์อิเล็ก ทรอนิกส์ช็อป จะเป็นการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลในไอที ซูเปอร์สโตร์ที่มีสินค้าหลากหลายแบรนด์ แตกต่างจากร้านไอสตูดิโอที่จะเป็นร้านที่จำหน่ายเฉพาะผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลเท่านั้น เนื่องจากแอปเปิลต้องการขยายเข้าสู่กลุ่มคอนซูเมอร์มากขึ้น โดยเฉพาะกระแสของไอโฟน ไอแพดในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ทำให้แอปเปิลเริ่มมีสินค้าวางจำหน่ายในเพาเวอร์บาย เพาเวอร์มอลล์ เป็นต้น

นายเอกชัยกล่าวว่า นอกจากนี้ช่วงปลายไตรมาส 2 บริษัทเตรียมจะขยายสินค้ากลุ่มโมบิลิตี้ประกอบด้วย สมาร์ทโฟน และแท็บเลต เนื่องจากไอที ซิตี้ต้องการหาสินค้าไอทีเข้ามาเต็มเติมอยู่เสมอ ซึ่งแท็บเลตและสมาร์ทโฟนมีความสัมพันธ์กับสินค้าไอทีเป็นอย่างมาก ทั้งระบบปฏิบัติการ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ขณะเดียวกันจากการคาดการณ์ของหลายสำนัก เชื่อว่าอนาคตการใช้งานสินค้าโมบิลิตี้จะเติบโตและมีสัดส่วนใกล้เคียงกับการใช้ พีซี ทุกคนจึงเห็นโอกาสเติบโตและลงมาเล่นในตลาดโมบิลิตี้มากขึ้น

ปัจจุบันไอที ซิตี้เป็นตัวแทนจำหน่ายสมาร์ทโฟน 2 แบรนด์หลัก คือ ซัมซุง กับเอเซอร์ แต่ในครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีสมาร์ทโฟนเกือบทุกแบรนด์เข้ามาวางจำหน่าย เช่น โนเกีย เอชทีซี โมโตโรล่า เดลล์ แอลจี โดยไอที ซิตี้จะมีการปรับเลย์เอาต์ในแต่ละสาขาใหม่ เพื่อจัดหาพื้นที่สำหรับสินค้าในกลุ่มโมบิลิตี้ พร้อมกันนี้บริษัทได้ตั้งทีมงานเพื่อทำตลาดกลุ่มนี้โดยเฉพาะ รวมถึงแผนการจัด อีเวนต์ส่งเสริมการขายของกลุ่มสินค้าโมบิลิตี้และการโฆษณา เพื่อให้ลูกค้ารู้ว่าไอที ซิตี้มีสินค้าเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนด้วย

"ครึ่งปีหลังจะมีซัพพลายเออร์นำสินค้าเข้ามาเติมเต็มมากขึ้น จากนั้นคาดว่าปี 2555 เราจะมีความพร้อมในการทำตลาดสินค้ากลุ่มโมบิลิตี้อย่างเต็มที่ และคาดว่าปี 2556-2557 จะเป็นปีที่ตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเลตมีการเติบโตอย่างมาก อย่างไรก็ตามโน้ตบุ๊กก็จะยังมีการเติบโตและเป็นพระเอกด้านยอดขายหลักในตลาดอยู่"

ทั้งนี้ ปี 2554 ไอที ซิตี้เตรียมงบฯลงทุนทั้งหมด 120 ล้านบาทประกอบด้วยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับเอสพีวีฯวงเงิน 48 ล้านบาท และการลงทุนขยายสาขาใหม่จำนวน 5-8 แห่ง ซึ่งจะเน้นการขยายสาขาในต่างจังหวัดเป็นหลัก จากปัจจุบันมีจำนวน 43 สาขา ครอบคลุม 22 จังหวัด รวมถึงงบประมาณการปรับพื้นที่เพื่อเพิ่มพื้นที่หมวดสินค้ากลุ่มโมบิลิตี้

นายเอกชัยกล่าวอีกว่า สำหรับภาพรวมตลาดไอทีปี 2554 คาดว่าจะยังมีการเติบโตมากกว่าจีดีพี เพราะคอนซูเมอร์ยังมีความต้องการใช้สินค้าบวกกับเทคโนโลยีมีความเป็นส่วนบุคคลมากขึ้น จึงเป็นปัจจัยเร่งการเติบโต ขณะเดียวกันเมื่อตลาดคอนซูเมอร์มีการเติบโต ทำให้คนทำธุรกิจในวงการไอทีต่างก็เห็นโอกาส ส่งผลให้ช่องทางค้าปลีกไอทีต่างมีความเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นโมเดิร์นเทรด ไฮเปอร์มาร์เก็ต และเชนสโตร์ มีการแข่งขันมากขึ้นทั้งด้านการขยายสาขา การบริหารจัดการสินค้า ทำให้เข้าไปแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจากร้านค้ารายย่อย ส่งผลให้ร้านค้ารายย่อยต้องปรับตัวหันมาจำหน่ายสินค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้น หรือขายสินค้าที่ กำลังเป็นกระแสมากขึ้น เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเลต ขณะที่ไอที ซิตี้ยังคง คอนเซ็ปต์การเป็นวันสต็อปช็อปปิ้งของสินค้าไอที โดยเน้นการขยายสาขาพื้นที่มากกว่า 500 ตร.ม.เป็นหลัก

ปีนี้ไอที ซิตี้คาดว่าจะสามารถรักษาการเติบโตของรายได้มากกว่า 10% ด้วยยอดขายประมาณ 6,220 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้มาจากคอมพิวเตอร์ 44% แอ็กเซสซอรี่ 22% และอุปกรณ์ต่อพ่วง 12% เป็นต้น