ถึงเวลานี้ดูเหมือนว่าการเปิด สาขาไซซ์เล็กขนาด 2-3 คูหา ของค้าปลีกรายใหญ่จะมีความเข้มข้นและร้อนระอุมากขึ้นอีกระดับหนึ่ง
เป็นการเปิดเกมรุกควบคู่ไปกับการเร่งขยายสาขาด้วยโมเดลต่าง ๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อลดความเสี่ยงจากการมีผลบังคับใช้ของ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติผ่านร่าง พ.ร.บ.ไปแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบร่างของคณะกรรมการกฤษฎีกา
นอกจากการเปิดสาขาปีละ 450-500 สาขาของเจ้าตลาดคอนวีเนี่ยนสโตร์ ′เซเว่นอีเลฟเว่น′ ที่เห็นกันเป็นประจำทุก ๆ ปีแล้ว
ล่าสุดความเคลื่อนไหวจากการเปิดแนวรบของเทสโก้ โลตัส ด้วยโมเดล ′โลตัส เอ็กซ์เพรส′ ที่ขยายออกนอกปั๊มไปยังห้องแถวตามย่านชุมชนต่าง ๆ พร้อมกับการปรับรูปแบบการดิสเพลย์ สีสัน เพื่อจูงใจ และกล้าที่จะเปิดประกบเซเว่นฯตามย่านชุมชนต่าง ๆ ก็เริ่มมีภาพให้เห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ
จากการสำรวจหน้าปากซอยคุณหญิงพหลฯ ที่ ′โลตัส เอ็กซ์เพรส′ เพิ่งเปิดให้บริการ จากเดิมที่มีเซเว่นฯเปิดบริเวณ ปากซอย ได้มีการจัดร้านให้ดูโปร่ง ขาวสะอาด และมีสินค้าหลากหลายไม่แพ้ เซเว่นฯ สิ่งที่โลตัส เอ็กซ์เพรสให้ความสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ตู้แช่อาหารพร้อมรับประทาน เครื่องดื่ม อาหารสด ผักผลไม้ ฯลฯ ตลอดจนแผงหนังสือ ซีดีเพลงและภาพยนตร์ ที่ขาดไม่ได้คือ สินค้าเฮาส์แบรนด์หลายรายการ เช่น น้ำปลา ข้าวสาร ผักกาดกระป๋อง เครื่องสำอาง ฯลฯ
ด้านความเคลื่อนไหวของร้านค้าปลีกในเครือเซ็นทรัล ในนามของเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น หรือซีอาร์ซี แหล่งข่าวจากเซ็นทรัล ฟู้ดรีเทล จำกัด ระบุว่า ปีนี้บริษัทมีนโยบายจะเน้นการขยายสาขาในโมเดล ′ท็อปส์ เดลี่′ ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา และตั้งเป้าจะเปิดให้ครบ 100 สาขา จากปีที่ผ่านมาที่เปิดไปประมาณ 40 สาขา
เมื่อเร็ว ๆ นี้ท็อปส์เพิ่งเปิด ′ท็อปส์ เดลี่ มินิซูเปอร์′ ขนาด 2 คูหาที่ตลาดอมรพันธ์ (สี่แยกเกษตร) จากเดิมที่มีท็อปส์ ซูเปอร์ฯเปิดให้บริการในย่านนี้ 2 สาขา คือ พหลโยธิน 37 และหน้า ม.เกษตรศาสตร์ โดยสาขาใหม่นี้เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยคอนเซ็ปต์ ′สะดวก สดใหม่ ใกล้บ้าน′ เน้นขายสินค้าอุปโภคบริโภค อาทิ ข้าวสาร น้ำปลา น้ำมัน ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม ฯลฯ
นอกจากนี้ ยังมีตู้แช่แบ่งสินค้าตามหมวดหมู่ เช่น ตู้แช่อาหารสดประเภทเนื้อหมู เนื้อไก่ ฯลฯ เครื่องดื่ม เช่น นม ฟังก์ชั่นนอลดริงก์ และน้ำเปล่า รวมถึง ตู้แช่อาหารพร้อมรับประทาน ที่สำคัญยังมีชั้นวางผักผลไม้ตามฤดูกาล
วันนี้ในแง่ของจำนวนสาขาของทั้งโลตัส เอ็กซ์เพรส และท็อปส์ เดลี่ อาจจะยังห่างและยากที่จะตามเซเว่นฯได้ทัน แต่ในแง่ของความแรงของกิจกรรม ส่งเสริมการขายของทั้ง 2 ค่ายนี้ ต่างเน้นโปรโมชั่นเช่นเดียวกับสาขาใหญ่ที่จัดขึ้น นอกจากราคาที่ถูกกว่าและแสนจะจูงใจแล้ว ก็ยังมีซื้อ 1 แถม 1 หรือซื้อ 2 ชิ้นถูกกว่า ฯลฯ มาจูงใจด้วย ขณะที่เซเว่นฯไม่เน้นการลดราคา
ส่วนภาพการเปิดสาขาไซซ์เล็กของบิ๊กซี ที่อยู่ระหว่างการทยอยปรับเปลี่ยนสาขาของคาร์ฟูร์อีกกว่า 42 แห่ง มาเป็นแบรนด์บิ๊กซี ก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวในการเปิดสาขาไซซ์เล็ก ′มินิบิ๊กซี′ อย่างน่าจับตา โดยได้เริ่มทยอยเปิดเพิ่มอีกอย่างน้อย ๆ 3 สาขา ได้แก่ รังสิตคลอง 2 หมู่บ้านสหการณ์ และศาลายา รวมเป็น 18 สาขา
ด้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่มักจะถูกโลตัส เอ็กซ์เพรสตามประกบ โดยเฉพาะในย่านที่เป็นชุมชนหนาแน่น เร่งสปีดหนีไปอีกขั้นด้วยการปรับร้านขนาด 2 คูหา เป็น 3 คูหา ด้วยการนำธุรกิจเบเกอรี่และกาแฟภายใต้แบรนด์ยูริ หรือแบรนด์คัดสรร เข้ามาเสริมเพื่อเติมเต็มและรองรับความต้องการของผู้บริโภค และเพิ่มยอดขายของสาขาให้สูงขึ้น
′สุวิทย์ กิ่งแก้ว′ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด(มหาชน) ผู้บริหารเซเว่นอีเลฟเว่น กล่าวกับ ′ประชาชาติธุรกิจ′ ว่า ที่ผ่านมา คู่แข่งทั้งโลตัส เอ็กซ์เพรส และท็อปส์ หันมาขยายสาขาขนาดเล็กมากขึ้น ซึ่งเป็นการปรับตัวจากข้อจำกัดทางเศรษฐกิจ และรองรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมานิยมจับจ่ายใกล้บ้านหรือที่พักอาศัย
นอกจากร้านค้าปลีกขนาดเล็กจะมีช่องว่างมากแล้ว การเปิดร้านขนาดเล็กยังมีข้อดีในแง่ของการลงทุนไม่สูง มีความเสี่ยงต่ำ หากไม่ประสบความสำเร็จก็ปิดได้ ต่างจากสาขาขนาดใหญ่ที่ต้องลงทุนสูง และพื้นที่ปัจจุบันหายาก
แม้ว่าขนาดของสาขาเหล่านี้จะไม่ต่างกันมาก แต่ในแง่ของคอนเซ็ปต์ของแต่ละค่ายจะมีความแตกต่างกัน และมั่นใจว่าด้วยคอนเซ็ปต์ที่เป็นคอนวีเนี่ยน ฟู้ดสโตร์จะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้
ขณะเดียวกัน เซเว่นฯก็ไม่ได้หยุดนิ่งที่จะนำธุรกิจร้านหนังสือ ร้านคัดสรร ที่มีทั้งกาแฟและเบเกอรี่เข้ามาบริการเพิ่ม
เพื่อรับความต้องการและไลฟ์สไตล์ ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
เริ่มคึกคัก-ดุเดือดขึ้นมาทุกขณะสำหรับร้านค้าปลีกขนาดเล็ก
No comments:
Post a Comment