Pages

Tuesday, February 8, 2011

CENTRAL อัดงบ2หมื่นล้าน ลุยโครงการใหม่ปีนี้อื้อ ลั่นโกยยอดขาย 1.3แสนล้าน

Photo Source: http://www.positioningmag.com

กลุ่มเซ็นทรัลเตรียมอัดฉีดงบกว่า 20,000 ล้าน เดินหน้าโปรเจ็กต์ใหม่ ตั้งเป้าโต 12% ยอดขายไม่ต่ำกว่า 133,500 ล้าน กางยุทธศาสตร์ธุรกิจระยะสั้น-ยาว สู้ Challenge 2011 ทั้งการฟื้นฟูปรับปรุง แสวงหาพันธมิตรควบกิจการ ขยายสาขา พัฒนาช่องทางใหม่ ก้าวไปสู่อินเตอร์ และรับผิดชอบต่อสังคม โชว์ผลงานเด่นปี 53 ยอดขายทะลุเป้ากว่า 119,000 ล้าน

วันนี้ (8 ก.พ.2554) บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด นำโดยนายสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหาร CMB (CEO Management Board) ประกาศอัดฉีดเม็ดเงินลงทุนในโครงการต่างๆ ของธุรกิจในเครือปีนี้ไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าโต 12 % โดยประมาณการณ์ยอดขายปี 2554 ที่ 133,500 ล้านบาท พร้อมเผยยุทธศาสตร์ธุรกิจระยะสั้น-ระยะยาว เพื่อรับมือกับ Challenge ปี 2011 ของกลุ่มฯ ด้วยยุทธศาสตร์ "ดำเนินการฟื้นฟูปรับปรุง แสวงหาพันธมิตรควบกิจการ เพิ่มมูลค่า ขยายสาขา  พัฒนาช่องทางใหม่  ก้าวไปสู่อินเตอร์ และรับผิดชอบต่อสังคม" พร้อมแถลงผลงานเด่นปี 2553 ยอดขายรวมทั้งกลุ่มฯ กว่า 119,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 8% จากปีที่ผ่านมา แม้จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก และปัญหาการเมืองในประเทศ ที่ทำให้ต้องปิดเซ็นทรัลเวิลด์กว่า 9 เดือน และปิดห้างเซนเพื่อปรับปรุงใหม่ก็ตาม



นายสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า  ปี 2553 มีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้น โดยเฉพาะวิกฤตครั้งประวัติศาสตร์ที่ทำให้เกิดอาฟเตอร์ช็อคส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ทว่าด้วยประสบการณ์และความเข้มแข็งของกลุ่มฯ รวมถึงความสามัคคีของผู้บริหารและพนักงาน ตลอดจนลูกค้าที่ยังคงให้การสนับสนุนธุรกิจของกลุ่มฯ ด้วยดี เป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เรายังคงดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ภายใต้นโยบายและกลยุทธ์หลักที่พร้อมจะนำบทเรียนครั้งสำคัญนี้มาปรับใช้ และนำมาเป็นแนวทางในการวางกลยุทธ์สำหรับการก้าวต่อไปในปี 2554 และในอนาคต นี่คือจุดท้าทายครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งในการดำเนินธุรกิจของเรา เป็น "Our Challenge 2011" ที่เราพร้อมจะปรับวิกฤตให้เป็นโอกาสและก้าวไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็งและมั่นคงยิ่งขึ้น"

"ภาพรวมของสถานการณ์เศรษฐกิจในปีนี้ มีแนวโน้มว่ากำลังฟื้นตัว น่าจะส่งผลดีต่อการลงทุน แม้ว่าภาวะทางการเมืองและสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศจะยังคงดำเนินอยู่ แต่เราหวังว่านโยบายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะมีส่วนช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน และช่วยให้เกิดการขยายตัวของภาคการบริโภค ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วน ในการจัดกิจกรรมและโครงการ เพื่อส่งเสริมและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและคู่ค้าของเรา และเพื่อให้กลุ่มเซ็นทรัล มีการเติบโตตามเป้าหมาย เราได้ยึดหลักมุ่งมั่นอุทิศตนทำงานเพื่อส่วนรวม ยึดหลักคุณธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์ ความยุติธรรมและการมีจรรยาบรรณในการประกอบธุรกิจ เพื่อความมั่นคงอย่างยั่งยืน" นายสุทธิธรรมกล่าว


กลุ่มเซ็นทรัลได้กำหนดนโยบายในการทำธุรกิจปี 2554 โดยเน้น "ดำเนินการฟื้นฟูปรับปรุง แสวงหาพันธมิตรควบกิจการ เพิ่มมูลค่า ขยายสาขา พัฒนาช่องทางใหม่ ก้าวไปสู่อินเตอร์ และรับผิดชอบต่อสังคม" ซึ่งยุทธศาสตร์ทางธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัล ในปีนี้แบ่งเป็น ยุทธศาสตร์ระยะสั้น และยุทธศาสตร์ระยะยาว


สำหรับยุทธศาสตร์ทางธุรกิจระยะสั้น หรือการจัดการกับธุรกิจที่ได้รับกระทบจากเหตุการณ์อาฟเตอร์ช็อค ซึ่งกลุ่มฯ พร้อมที่จะสร้างความเชื่อมั่นแก่พันธมิตรทางการค้าและลูกค้า โดยมุ่งสร้างความเข้มแข็งตลอดจนนำปัญหาหรือวิกฤตที่เกิดขึ้นมาปรับเป็นโอกาสที่ จะเรียนรู้ทบทวนและป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตด้วยความไม่ประมาท รวมไปถึงการยืนหยัดที่จะให้บริการคู่ค้าลูกค้าในระดับสากล    และยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล เพื่อสร้างความภาคภูมิใจและความมั่นคงอย่างยั่งยืนให้กับสังคมไทยและประเทศชาติ โดยมีแนวทางการดำเนินงานโดยปรับเพิ่มหน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการเฉพาะกิจซึ่งทำหน้าที่ดูแลเรื่องกิจการวิกฤต (Crisis Management Board) โดยมุ่งแก้ปัญหาหรือลดปัญหาผลกระทบจากเหตุการณ์


ในส่วนของยุทธศาสตร์ทางธุรกิจระยะยาว กลุ่มฯ ยังคงยึดแนวทางในการเติบโตทางด้านธุรกิจอย่างต่อเนื่องด้วย
1.การควบรวมกิจการ หรือ M&A (Mergers & Acquisitions) ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ส่งผลให้กลุ่มฯ ประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อธุรกิจและกลุ่มฯ ได้แก่ Synergy การผสานประโยชน์ร่วมกัน ด้วยการใช้ทรัพยากรต่างๆ ที่มีอยู่อย่างคุ้มค่ามากที่สุด ทำให้สามารถลดภาระต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆ ลงได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล

2.มุ่งสร้างคุณค่าทางธุรกิจ Value Added ด้วยการระดมความรู้ความสามารถและใช้ประสบการณ์ต่างๆ ที่มีอยู่มาพัฒนาปรับปรุงโครงการให้เกิดมูลค่าเพิ่ม อาทิ การขยายช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ ให้ทันสมัยเข้ากับไลฟสไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น อาทิ การเปิดช้อปปิ้งออนไลน์ (www.central.co.th) และการขายตรง (Direct Sale)

3.การพัฒนาด้วยการขยายธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ ตามภารกิจของ CMB ประการหนึ่งในการทำธุรกิจของกลุ่มได้กำหนดว่าจะสร้างองค์กรให้เป็นสถาบันที่ยอมรับทั้งภายในประเทศและในระดับสากล ดังนั้นกลุ่มธุรกิจค้าปลีกจึงมีแผนขยายการลงทุนต่อเนื่องในปี 2554 และไปลงทุนทำธุรกิจในประเทศจีนเพื่อเป็นการบุกเบิกธุรกิจค้าปลีกไทยในต่างประเทศเนื่องจากเห็นว่าประเทศจีนเป็นประเทศใหญ่มีพลเมืองจำนวนมาก เศรษฐกิจมีความเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีวัฒนธรรมประเพณีคล้ายๆกับประเทศไทย  ซึ่งข้อนี้ก็ดังที่ท่านได้ทราบกันบ้างแล้วว่าเราไปเปิดห้างเซ็นทรัลเมื่อเดือนพฤษภาคมในปีที่ผ่านมา


Central Rama 9
ในปี 2554 กลุ่มเซ็นทรัล ยังคงมีแผนการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง อาทิ การเปิดตัวโครงการใหม่ เซ็นทรัลแอมบาสซี่ บนที่ดินของสถานทูตอังกฤษ  การขยายศูนย์การค้า เชียงราย พิษณุโลก พระราม 9 สุราษฎร์ธานี และเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ รวมถึงการปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ห้างเซน เซน ทาวเวอร์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว และ เซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี การลงทุนในโครงการใหม่ในทำเลที่มีศักยภาพ อาทิ เชียงราย พิษณุโลก พระราม 9 บางแค และ Tops Daily รวมถึงการใช้งบลงทุนในการปรับภาพลักษณ์สาขาต่างๆ ของทุกแบรนด์ เพื่อให้ดูทันสมัยอยู่เสมอ       รวมไปถึงการขยายสาขาในต่างประเทศ มีการเปิดห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล  และห้างฯเซนที่เมืองเสิ่นหยาง ประเทศจีน รวมทั้งยังมีแผนการศึกษาลู่ทางการลงทุนในประเทศจีนเพิ่มเติม นอกจากนี้มีแผนรับบริหารจัดการโรงแรมในประเทศอีก 8-10 แห่ง โดยจะเลือกเฉพาะโรงแรมที่ดีมีคุณภาพในขนาดที่เหมาะสมก่อน และมีการลงทุนในโครงการต่อเนื่องของ Centara Grand Beach Resort Phuket

นอกจากนี้ยังมีการลงทุนใน แบรนด์ใหม่ๆ ซึ่งได้แก่ The Terrace, Cold Stone and Chabuton และการเพิ่มสาขา KFC, Mister Donut และ Auntie Anne′s


ด้านความรับผิดชอบของธุรกิจต่อสังคม หรือ CSR ในปีนี้ กลุ่มยังคงดำเนินตามแผนแม่บท 4 ด้าน คือ ด้านศิลปวัฒนธรรม ด้านความเท่าเทียมทางสังคม ด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ด้านความพอเพียงทางเศรษฐกิจโดย จะผลักดันการทำงาน CSR เพื่อช่วยเหลือสังคมด้านการศึกษา สาธารณกุศล และสิ่งแวดล้อมให้เกิดผลและเป็นรูปธรรมมากขึ้น และในโอกาสที่ปีนี้ปีเป็นมหามงคลของไทยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงมีพระชนมายุครบ 84 พรรษา ซึ่งทางกลุ่มเซ็นทรัลจะร่วมมือกันจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวาระพิเศษนี้ร่วมกับรัฐบาลและประชาชนชาวไทย


สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2553 กลุ่มธุรกิจเซ็นทรัลทั้ง 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มธุรกิจค้าปลีก (CRC)  กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (CPN) กลุ่มธุรกิจค้าส่ง (CMG) กลุ่มธุรกิจโรงแรม(CHR) และกลุ่มธุรกิจเซ็นทรัลเรสตอรองส์กรุ๊ป (CRG) ใช้งบลงทุนไปประมาณ 12,700 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ไปในการลงทุนด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีทั้งการเปิดโครงการใหม่และปรับปรุง สำหรับการลงทุนในโครงการใหม่ อาทิ โรงแรมฮิลตัน พัทยา ซึ่งเป็นส่วนเพิ่มเติมจาก ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช ซึ่งเปิดไปเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2553 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนมีนาคม 2554 และศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 9 ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2554 มีการปรับปรุงครั้งใหญ่ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว ส่วนออฟฟิศให้เช่า ลงทุนในโรงแรม Centara Grand Beach Resort Phuket  ซึ่งเป็นโรงแรมใหม่


ขณะที่ผลประกอบการในปี 2553 กลุ่มธุรกิจทั้ง 5 กลุ่ม มียอดขายรวมกันทั้งสิ้น 119,000 ล้านบาท สำหรับยอดขายที่ได้คิดเป็นอัตราเติบโต 8% จากปีที่ผ่านมา ในปี 2553 กลุ่มธุรกิจเซ็นทรัล ได้รับรางวัลเกียรติยศ อาทิ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ได้รับรางวัล "Best of the Best" (ศูนย์การค้าสุดยอดแห่งความเป็นเลิศ) ประจำปี 2010 จากสมาคมศูนย์การค้าระหว่างประเทศ (International Council of Shopping Centers: ICSC) ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลได้รับการเสนอชื่อติดอันดับ 1 ใน 5 ของห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วโลก "Department Store of the Year" ในงานประชุมสุดยอดห้างสรรพสินค้าโลกประจำปี  2010 (Global Department Store Summit 2010) ณ นครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา TRIS Rating ได้คงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ที่ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของ CPN ที่ระดับ "A+" พร้อมแนวโน้ม "คงที่" สะท้อนความแข็งแกร่งของบริษัทในฐานะผู้นำในธุรกิจพัฒนาศูนย์การค้าในประเทศไทย นอกจากนี้ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ ได้รับรางวัลศูนย์การประชุมยอดเยี่ยม (Best Meeting and Conventions Hotel) จากงาน TTG Travel Awards 2010 

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts with Thumbnails