เชฟรอน (คาลเท็กซ์) ยอมรับ ปีนี้ค้าปลีกน้ำมัน "ขาดทุน" แม้ยอดขายยังวิ่ง แต่ค่าการตลาดต่ำมาก เฉลี่ยแค่ 1.30 บาท/ลิตร แต่บริษัทแม่ยังไม่ถอดใจ สั่งฮึดอีกรอบด้วยการลงทุนขยายปั๊มน้ำมันอีก 30 แห่งในปี 2554 พร้อมจับมือร้านสะดวกซื้อ 108 Shop หวังดันยอดขายให้เพิ่มขึ้น 3% มองนโยบายรัฐที่เข้าแทรกแซงราคาน้ำมันผ่านกองทุนน้ำมันฯ เป็นอุปสรรคใหญ่ต่อการทำธุรกิจ
นายเอเดรียน เอ เบนเด็ก ประธานกรรมการและผู้จัดการใหญ่ประเทศไทยและลาว บริษัทเชฟรอน (ไทย) ผู้ดำเนินธุรกิจสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงภาพรวมตลาดค้าปลีกน้ำมันผ่านสถานีบริการในปีนี้ว่า คาลเท็กซ์มียอดจำหน่ายน้ำมันเฉลี่ย 426 ล้านลิตร/เดือน ซึ่งเป็นยอดขายที่ค่อนข้างคงที่ไม่ต่างจากปีที่ผ่านมานัก แต่เนื่องจากในปีนี้ "ค่าการตลาดน้ำมัน" ค่อนข้างต่ำมาก เฉลี่ยประมาณ 1.20-1.30 บาท/ลิตรเท่านั้น ส่งผลให้ผลประกอบการรวมของเชฟรอนประสบภาวะขาดทุน จากปัจจุบันที่เชฟรอนมีสถานีบริการน้ำมันอยู่ทั่วประเทศรวม 460 แห่ง แบ่งเป็นสถานีบริการน้ำมันที่เชฟรอนเป็นเจ้าของเอง 260 แห่ง กับสถานีบริการน้ำมันของดีลเลอร์ 200 แห่ง
ภาพรวมของตลาดค้าปลีกน้ำมันในไทยปีนี้ นายเบนเด็กกล่าวว่า น่าจะลดลงประมาณร้อยละ 1 ซึ่งใกล้เคียงกับการค้าน้ำมันของเชฟรอนเช่นกัน เนื่องจากราคาน้ำมันที่อยู่ในช่วงที่มีความผันผวนสูง รวมถึงนโยบายรัฐยังส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานทางเลือกทั้งก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) กับก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เมื่อความต้องการใช้พลังงานทางเลือกประเภทนี้เพิ่มขึ้นจึงทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันตามปกติลดลงไป
"เรายอมรับว่าปีนี้มาร์จิ้นน้อยมาก ถ้าขอได้อยากได้มาร์จิ้นประมาณ 2.20 บาท/ลิตร ในระดับนี้จะช่วยให้เชฟรอนสามารถลงทุนขยายปั๊ม รวมถึงการพัฒนาทำการตลาดในโปรดักต์อื่น ๆ ได้ต่อไป อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตลาดค้าปลีกน้ำมันในเมืองไทยดูแล้วค่อนข้างลำบาก แต่บริษัทแม่ยังคงมีนโยบายที่จะทำธุรกิจพลังงานทั้ง upstream และ downstream ในประเทศไทยต่อไป เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชีย ตลาดค้าปลีกน้ำมันในไทยยังถือว่ามีทิศทางที่ดีกว่า"
สำหรับในปี 2554 บริษัทเชฟรอน (ไทย) ตั้งเป้าหมายที่จะขยายจำนวนสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์เพิ่มขึ้นอีก 30 แห่ง มีทั้งที่ลงทุนเองกับร่วมทุนกับดีลเลอร์ โดยวาง เป้าหมายว่าภายใน 2-3 ปี เชฟรอนจะมียอดขายน้ำมันเพิ่มขึ้นร้อยละ 2-3 และนอกจากนี้บริษัทยังให้ความสำคัญกับธุรกิจเสริม (nonoil) เพิ่มขึ้นด้วย โดยล่าสุดบริษัทได้จับมือกับร้านสะดวกซื้อ 108 Shop เข้ามาให้บริการให้สถานีบริการน้ำมันของเชฟรอน ซึ่งได้เปิดตัวนำร่องอย่างเป็นทางการไปแล้วที่สถานีบริการน้ำมัน คาลเท็กซ์ในสาขาถนนกัลปพฤกษ์ ส่วนเหตุผลที่เลือกร้านสะดวกซื้อ 108 Shop ก็เพราะเป็นร้านสะดวกซื้อที่ได้รับความนิยมในพื้นที่ต่างจังหวัดค่อนข้างมาก สอดคล้องกับนโยบายการขยายตัวของบริษัท
"ปั๊มน้ำมันที่เรามีอยู่ทั้ง 460 แห่งนั้น ในบางปั๊มที่ไม่ทำรายได้อาจจะมีการปิดตัวลงบ้าง โดยส่วนที่เราลงทุนขยายเพิ่มจะเข้ามาทดแทนในส่วนที่ปิดลงไป ส่วนร้าน 108 Shop ก็จะขยายไปพร้อมกัน แต่ร้านสะดวกซื้อ Mart เดิมของเชฟรอนยังคงมีอยู่ โดยการทำตลาดที่สำคัญของเชฟรอนยังคงเน้นที่การขายน้ำมันมากกว่า"
นายเอเดรียนกล่าวว่า สำหรับส่วนแบ่งทางการตลาดของเชฟรอนในปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 11 หรืออยู่ในอันดับที่ 4-5 และมองว่าการจะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดสำหรับธุรกิจค้าปลีกน้ำมันในเมืองไทยนั้นเป็นเรื่องที่ "ค่อนข้างยากมาก" เพราะมีการแข่งขันที่สูงมาก แต่ที่สำคัญก็คือนโยบายของภาครัฐที่ต้องการรักษาระดับราคาน้ำมันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน เช่น การลดเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในน้ำมันดีเซล (B3) ในแง่ของประชาชนจะได้รับผลประโยชน์ แต่ผู้ค้าน้ำมันกลับต้องขาดทุน เพราะน้ำมันที่ค้างในถังและได้ส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯไปแล้วไม่สามารถเคลมเงินดังกล่าวกลับคืนมาได้
สำหรับร้านสะดวกซื้อ 108Shop อยู่ในเครือสหพัฒนพิบูล ปัจจุบันมีมากกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ ทั้งที่บริษัทลงทุนเองและในรูปแบบของเฟรนส์ไชส์ ร้านสะดวกซื้อ 108 Shop ไม่เพียงแต่จำหน่ายสินค้าที่มีจำหน่ายในตลาดทั่วไปแต่ยังมีสินค้าเฮาส์ แบรนด์ด้วย ด้วยความพร้อมดังกล่าว เชฟรอน จึงมั่นใจที่จะทดลองเปิดร้าน 108 Shop ในสถานีบริการน้ำมัน
No comments:
Post a Comment